สำหรับคนอายุ 25-30 ขึ้นไป หรือแฟนเพลงสตริงรุ่นเก่าคงคุ้นหูกันดีกับชื่อของ อดีตค่ายเพลงยักษ์ใหญ่อย่าง นิธิทัศน์โปรโมชั่น จำกัด (มหาชน) ซึ่งในช่วงทศวรรษที่ 80-90 ถือได้ว่าเป็นช่วงที่แสนรุ่งเรืองของค่ายเพลงค่ายนี้ ซึ่งมีบารมีในวงการเพลงไม่แพ้ค่ายอาร์เอสฯ หรือแกรมมี่ฯ ในปัจจุบัน โดยตลอดระยะเวลาเกือบ 2 ทศวรรษนั้นค่ายเพลงนี้ได้สร้างศิลปินระดับตำนานมาแล้วนับสิบชีวิต อาทิ ''แจ้'' ดนุพล แก้วกาญจน์, ดอน สอนระเบียบ, จรัล มโนเพ็ชร, อินโนเซนต์, ''กุ้ง'' กิตติคุณ เชียรสงค์ ฯลฯ รวมไปถึงศิลปินที่ยังสร้างผลงานและคนรุ่นใหม่รู้จักกันดีอย่าง ติ๊ก ชิโร่, ''ป้าง'' นครินทร์ กิ่งศักดิ์ เป็นต้น
ทุกตำนานล้วนมีผู้สร้าง ค่ายเพลงอย่างนิธิทัศน์ฯ ก็เช่นกัน ซึ่งผู้ก่อร่างสร้างฐานให้กับค่ายนี้ก็คือ วิเชียร อัศว์ศิวะกุล ผู้เป็นบอสใหญ่ของนิธิทัศน์ฯ มาตั้งแต่ต้นจนถึงปัจจุบัน และเขาก็ได้ให้เกียรติกับทางสยามดารามานั่งเล่าถึงความเป็นมา พร้อมเปิดใจถึงค่ายเพลงและชีวิตของตัวเองในวันนี้
ความเป็นมาของค่ายนิธิทัศน์ฯ
ความจริงเริ่มเข้ามาในวงการจากรายการโทรทัศน์ ปี 2520 ตอนนั้นเราทำรายการ ''เสาร์สนุก'' และ ''แม่บ้านสมองไว'' ช่วงที่เราทำเสาร์สนุก ตอนนั้นประมาณวันที่ 28 มกราคม 2521 ก็มี ''คุณกุ้ง- กิตติคุณ'', คุณเทียรี่ เมฆวัฒนา และคุณหมึก (มือกีตาร์) 3 คน ตั้งชื่อวงว่า รันสปอร์ต (Runspot) 3 คนมาออกรายการเสาร์สนุก ช่วงนั้นรายการออกทางช่อง 9 เรียกได้ว่า เป็นรายการที่สร้างศิลปินในยุคนั้นก็จะมีวงชาตรีมาขอออก อิโนเซ็นต์ตอนนั้นเพิ่งมาจากราชบุรีใหม่ๆ เลย พูดง่ายๆ ว่า เป็นรายการที่สร้างศิลปินสตริงเมื่อ 30 ปีก่อน ปรากฏว่าศิลปินเหล่านี้ในภายหลัง ไม่ว่าจะเป็นวงเจนเนอเรชั่น มี ''คุณตู้-ดิเรก'', วงเดอะเบส มีคุณอิทธิ พลางกูร, วงแมคอินทอช, หรั่ง ร็อคเคสตร้า, วงเดอะเซนต์, วงแชมพู เรียกได้ว่า เกือบทั้งวงการในตอนนั้น จากวันนั้นมาถึงวันนี้ก็ประมาณ 30 ปีแล้ว
ทำไมถึงมีแนวคิดที่จะก่อตั้งค่ายเพลงขึ้นมา?
ช่วงต้นๆ คือเราจัดรายการโทรทัศน์ พูดง่ายๆ ว่าเราก็ช่วยโปรโมตศิลปินทุกค่าย ตอนหลังคุณกุ้งเริ่มทำเทปไปอยู่กับอโซน่า ผมก็เป็นคนเอาคุณจรัล มโนเพ็ชร มาจากเชียงใหม่ มาออกทีวีที่กรุงเทพฯ โปรโมตจนกระทั่งโฟล์กซองคำเมืองโด่งดัง ก็อยู่ในยุคเดียวกับคุณกุ้ง ฯลฯ นี่คือประวัติศาสตร์ของวงการเพลง ซึ่งถ้าเป็นเด็กยุคใหม่จะไม่ค่อยรู้ อย่างแกรมมี่เค้าเพิ่งเริ่มทำเพลงเมื่อปี 2527 ชุดแรกของเค้าคือคุณนันทิดา แต่ของเราประมาณปี 2520 เราก็เริ่มวงการเพลงแล้ว ประมาณปี 24-26 เราก็เริ่มทำเทปออกมามี ดอกไม้ป่า อินโนเซนต์ อะไรพวกนี้ แล้วหลังจากนั้นก็เข้าสู่ยุคของการเปลี่ยนแปลงวงการเพลง เพราะว่าเมื่อก่อนปี 2520 ในยุคนั้นจะมีวงสตริงอยู่วงเดียว คือวงดิอิมพอสซิเบิล ที่เป็นวงร้องเพลงไทย นอกจากนั้นก็จะมีวงสตริงที่ร้องเพลงต่างชาติ แต่ยุคที่เริ่มทำเพลงไทยก็จะเริ่มจากปี 2520 เป็นต้นมา
ช่วงไหนที่ถือว่าเป็นช่วงที่รุ่งเรืองที่สุดของนิธิทัศน์ฯ?
ก็ตั้งแต่ปี 2525 เป็นต้นมา ไล่มาเลยเรามีศิลปินเยอะมาก วงไฮดร้า ติ๊ก ชิโร่ ฯลฯ แล้วพอมาปี 2530 -31 เราก็เริ่มโปรโมตเอาเพลงลูกทุ่งกลับมาทำใหม่ในแบบซูเปอร์ฮิต มี ดอน สอนระเบียบ, ''ก้อย-พรพิมล'', ''อ๊อด-โอภาส'', ''แซม-ยุรนันท์'' มาร้องเพลงลูกทุ่ง ก็เป็นต้นแบบของนักร้องหลายต่อหลายคนมาทำในตอนหลัง อย่างช่วงแรกที่เรานำเอาเพลงลูกทุ่งมาให้สตริงร้องก็ตั้งแต่ยุครอยัลสไปรท์ ร้องเพลงรักสิบล้อต้องรอสิบโมง สวยในซอย เป็นต้นแล้ว หลังจากนั้นก็พัฒนามาเรื่อยๆ
อะไรคือเอกลักษณ์ของค่ายเพลงแห่งนี้?
สิ่งหนึ่งคือ เรื่องของดนตรี และเรื่องระบบเสียง แล้วโปรดิวเซอร์ที่ทำเพลงให้กับเราตั้งแต่ยุคต้นๆ ก็คือนักดนตรีชั้นนำของประเทศไทย คุณภาพของดนตรีที่เราทำเมื่อ 30 -25 ปีก่อน มาฟังวันนี้ก็ยังทันสมัย ระบบเสียงยังล้ำสมัย นี่คือจุดเด่น เพราะว่านักดนตรีที่ออกจากนิธิทัศน์ไปขณะนี้ก็ไปอยู่ในค่ายเพลงทั้งหมด ที่เราคุ้นชื่อกันดีก็อย่างเช่น ติ๊ก ชิโร่, ''ป้าง-นครินทร์'', ปอนด์ ธนา ฯลฯ หรือไม่ก็โปรดิวเซอร์ที่อยู่ตามค่ายจัดเวทีต่างๆ ก็ล้วนเป็นศิษย์เก่าของค่ายนิธิทัศน์แทบทั้งสิ้น
ตอนนี้นิธิทัศน์หายไปไหน?
อ๋อ...ไม่ได้หายไปไหนครับ คือช่วงสิบปีที่ผ่านมา ผมได้รับโปรดเกล้าฯ ให้เป็นวุฒิสมาชิก ซึ่งในช่วงนั้นเกิดวิกฤติเศรษฐกิจ IMF เราก็เลย Low Profile พูดง่ายๆ คือ ทำอะไรให้มันน้อยลง ผมก็ไปทำกิจกรรมส่วนตัวไป ลูกๆ ก็ยังเรียนอยู่เมืองนอกที่บอสตัน 3 คน ลูกสาวผมชื่อเอม โอ๊ต และเอ้ ตอนนี้ก็ตั้งบริษัทนิธิทัศน์ AOA ตอนนี้เอมเขาก็เป็นผู้ถือลิขสิทธิ์ของนิธิทัศน์ทั้งหมด เพราะว่าตอนผมเป็นวุฒิสมาชิกปี 39 ก็ได้โอนลิขสิทธิ์เพลง เพราะดำเนินงานทางการเมืองจึงต้องโอนสมบัติให้ลูกๆ ไปหมดตั้งแต่ก่อนปี 39 ที่เราเป็นส.ว. แล้วเราก็ไม่ได้ทำแล้ว ก็กลายเป็นของลูกๆ ไป ตอนนี้ก็มีขายตามจุดขายต่างๆ ตามบิ๊กซี โลตัส ตามจุดขายของเราครับ
นิธิทัศน์ฯ จะมีวันกลับมาอีกมั้ย?
ก็คงเป็นรุ่นลูก อนาคตก็คงจะมีพัฒนาขึ้น ลูกๆ ก็จะทำในเร็วๆ นี้ เพราะเค้าก็เริ่มแข็งแรงเริ่มเรียนรู้ พูดง่ายๆ คือเค้าเริ่มเก่งขึ้นแล้ว ก็คงจะมาดำเนินกิจการต่อ ก็คาดว่าคงทำคอนเสิร์ต มีทั้งศิลปินเก่า ศิลปินใหม่ เอาเพลงเก่ามาคัฟเวอร์ ซึ่งที่ผ่านมาก็เคยมีคนเอาเพลงของเรามาทำแล้วได้รับความนิยม เราสนับสนุน เพราะถือว่าเป็นการต่ออายุเพลง เราไม่หวงลิขสิทธิ์ที่เรามีอยู่
ชีวิตประจำวันของคุณวิเชียรในตอนนี้ทำอะไรบ้าง?
ผมไม่ได้ทำงานมา 6 ปีแล้ว ทุกวันนี้ตื่นเช้ามาก็ออกกำลังกาย แล้วก็ออกไปเล่นกอล์ฟกับเพื่อนๆ ผมตีอาทิตย์ละ 5-6 วัน บางวันก็ขับรถตระเวนหาซื้ออาหารอร่อยๆ ทั่วกรุงเทพฯ แล้วก็ซื้อกลับไปฝากที่บ้าน ไม่ได้ยุ่งกับกิจการมาหลายปีแล้ว
คิดถึงวงการเพลงบ้างหรือเปล่า?
เราอยู่ในวงการเพลงมา 30 ปีแล้ว วันนี้ผมเจอคุณสุรชัย เชษฐโชติศักดิ์ (เฮียฮ้อ) ที่สนามกอล์ฟ เขายังบอกผมเลยว่า ผมจะต้องเลียนแบบเฮียวิเชียรแล้ว (หัวเราะ) แล้วคุณสุรชัยทุกวันนี้เขาติดกอล์ฟมาก พาอาซ้อกับลูกชายไปตีกอล์ฟด้วยกัน อาทิตย์หนึ่งเริ่มจะตีหลายวันแล้ว เขาบอกว่าอิจฉาผม บอกว่าคุณวิเชียรใช้ชีวิตฉลาดมาก เพราะผมทำงานตั้งแต่อายุ 25 จนกระทั่ง 25 ปีต่อมาผมเฟสตัวเองออกจากงาน ตอนนี้ผมอายุ 56 เป็นเวลา 25 ปีเต็มๆ ที่ทำงาน เพราะฉะนั้นผมถือว่าเมื่อผมส่งลูกเรียนจบการศึกษาระดับปริญญาที่ต่างประเทศครบทุกคน แล้วกลับมาเป็นคนดีของสังคม แค่นี้ผมก็ถือว่าเพียงพอแล้วในชีวิต ก็ขออนุญาตพักผ่อน แล้วเราไม่รอให้แก่ก่อน แต่เราพักผ่อนขณะที่ยังหนุ่ม ผมรีไทร์ตัวเองตั้งแต่อายุ 50 เดี๋ยวนี้เลยมีคนอิจฉาผมมาก ได้ไปตีกอล์ฟทุกวัน ร่างกายฟิตปั๋งเลย ผมเคยตีกอล์ฟตั้งแต่เช้ายันเย็น 40 กว่าหลุม เดินนะครับไม่ได้ใช้รถ
ทุกวันนี้ยังเหลืออะไรที่อยากจะทำอีก?
ตอนนี้ก็ดูแลลูก และหลานๆ ศิลปิน ส่วนเรื่องงานเป็นของลูกๆ แล้ว พอแล้วครับชีวิตผม คนในครอบครัวนิธิทัศน์ก็ยังเจอกันอยู่เป็นประจำ ยังรักใคร่กันเสมอ ถึงแม้ว่าบริษัทจะไม่ได้ทำกันแล้ว แต่เราก็ยังเจอกันคุยกัน ทุกคนพร้อมที่จะกลับมาทำงานกับผม ก็มีหลายคนถามว่าเมื่อไหร่จะกลับมาใหม่สักที ผมก็บอกว่าใจเย็นๆ อย่าให้พี่ต้องเหนื่อยเลย เพราะว่าพี่อยากจะตีกอล์ฟ (หัวเราะ)
กว่าจะถึงวันนี้ของ วิเชียร อัศว์ศิวะกุล
วิเชียร อัศว์ศิวะกุล เกิดเมื่อวันที่ 10 มีนาคม พ.ศ.2494 ในครอบครัวค้าขาย โดยทางบ้านได้เปิดร้านขายของที่มีชื่อว่า ''วันชัยสโตร์'' ย่านดินแดง วิเชียรคลุกคลีอยู่กับกิจการมาตั้งแต่วัยเยาว์จนได้คุมกิจการเองตั้งแต่อายุเพียง 16 ปี แต่ด้วยความต้องการหาความท้าทายใหม่ๆ เมื่อถึงตอนอายุ 24 เขาจึงเริ่มต้นงานข้างนอกด้วยการเป็นคนหาโฆษณาให้กับนิตยสาร ''รจนา'' และนั่นเองที่เป็นหน้าต่างสู่โลกกว้างของชายคนนี้ จากประสบการณ์ในการทำงาน วิเชียรจึงรู้จักกับสปอนเซอร์หลายเจ้า อย่างเช่น บุญชัย โชควัฒนา จากสหพัฒนพิบูล จนมีช่องทางในการทำรายการโทรทัศน์ เริ่มต้นจากรายการ ''แม่บ้านสมองไว'' เมื่อปี 2520 และตามมาด้วยรายการ ''เสาร์สนุก'' รายการวาไรตี้สลับกับดนตรี ออกอากาศทางช่อง 9 อสมท และนั่นเองก็เป็นจุดเริ่มต้นของแนวคิดการเปิดค่ายเพลงนิธิทัศน์ฯ ในเวลาต่อมา ซึ่งแน่นอนว่าการรักในเสียงดนตรีคือเหตุผลสำคัญที่ทำให้ วิเชียร อัศว์ศิวะกุล กล้าติดสินใจที่จะก่อร่างสร้างฐานค่ายดนตรีแห่งนี้ขึ้นมา
''ผมเป็นคนที่ชอบฟังเพลงมาตั้งแต่เด็ก เพลงทำให้ผมนึกถึงวัน เดือน ปี ที่ทำอะไรอยู่'' วิเชียร อัศว์ศิวะกุล ผู้ก่อตั้งบริษัทนิธิทัศน์ โปรโมชั่นฯ กล่าว[/size]
ประวัติย่อ นายวิเชียร อัศว์วิเศษศิวะกุล
ประวัติบุคคล -- พฤหัสบดีที่ 6 กุมภาพันธ์ 1997 12:45:00 น.
เกิด 6 พฤษภาคม 2494
คุณวุฒิ มัธยมศึกษาตอนปลาย (โรงเรียนอำนวยศิลป์)
ปริญญากิตติมศักดิ์ สาขานิเทศศาสตร์
วิเชียร อัศว์ศิวะกุล
บริษัทนิธิทัศน์โปรโมชั่น จำกัด
แหล่งข้อมูล มีเดีย ปีที่ 9,99( ก.ย. 2535) หน้า 95-99
ที่มา สยามดารา
แก้ไขล่าสุดโดย Jessay เมื่อ Sun Jan 17, 2010 4:37 pm, ทั้งหมด 3 ครั้ง
_________________
