
โดนใจแฟนคลับมาก บ่งบอกถึงภาคที่ 5 อย่างเด่นชัด
ผู้กำกับภาคนี้ได้แก่ Steven Quale (second-unit director จากเรื่อง Avatar



ส่วนมือเขียนบทได้แก่ Eric Heisserer (The Thing, A Nightmare On Elm Street 2010)
อย่างน้อยก็อุ่นใจได้หน่อยว่าคงไม่ห่วยเท่าภาคที่แล้วนะ
เว็บไซต์หลักอย่างเป็นทางการยังไม่มีอะไรมากเลย เพิ่งจะเปิดเลยนะเนี่ย ตามไปกันได้ที่
http://finaldestinationmovie.warnerbros.com/
ส่วนโปสเตอร์ภาคอื่น
ภาค 1

ภาค 2

ภาค 3

ภาค 4

รายละเอียดคร่าว ๆ เผื่อมีใครยังไม่เคยดู เนื้อเรื่องก็ประมาณว่า จะเกิดอุบัติเหตุร้ายแรงขึ้นแล้วก็จะมีผู้ที่เหตุการณ์หรือนิมิตล่วงหน้า ซึ่งเป็นตัวเอกของเรื่องนั่นแหละ พอเห็นแล้วก็พยายามที่จะขัดขวางเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นซึ่งเป็นการโกงความตาย และ ความตายก็จะกลับมาทวงชีวิตผู้ที่รอดจากเหตุการณ์ดังกล่างทีละคน ๆ จนหมด จนไม่มีใครเหลือ ดังคำเปรยของหนังในต้นฉบับที่ว่าไว้ว่า You Can't Cheat Death หรือ คุณไม่สามารถโกงความตาย!!!
ตัวหนังต้นฉบับภาคแรกดั้งเดิม เดิมทีนั้น เป็นเหตุการณ์เครื่องบินที่จะระเบิดและตัวเอก(ชาย) มองเห็นเหตุการณ์ล่วงหน้า และได้สกัดกั้นความตายได้บางส่วน และความตายก็ได้เอาคืนทีละคน
ด้วยความแปลกใหม่(มั้ง) ต้นฉบับของแฟรนไชส์เรื่องนี้เปิดตัวได้ค่อนข้างโอเค
รายรับเปิดตัววีคแรกที่ 10 ล้านเหรียญ
รวมรายได้ทั้งหมดเก็บรายได้ไป 53 ล้านเหรียญ
ด้วยทุนสร้าง 23 ล้านเหรียญเท่านั้น แถมดาราที่นำแสดงก็โนเนมทั้งน้าาาาน มีเหรอจะไม่มีภาคต่อ???
เราจะสร้างตำนานโกงความตายกัน 555+

ต่อมาด้วยภาคต่อที่ตามหลังภาคต้นมาหลังจากหายไป 3 ปี ได้เวลาโกงความตายอีกรอบด้วยเหตุการณ์อันต่อเนื่องจากภาคแรกล้วน ๆ เริ่มต้นด้วยเหตุการอุบัติเหตุบนท้องถนนซุปเปอร์ไฮเวย์ที่เป็นจุดเริ่มของการโกงความตายในภาคนี้ ทั้งในภาคนี้ยังมีผู้รอดชีวิตจากภาคแรกอยู่ 1 คน คือ Ali Larter ซึ่งก็ไม่รอดในภาคนี้ ผู้ที่โกงความตายในภาคนี้ส่วนมากจะรอดชีวิตจากเหตุการณ์ที่ภาคแรกได้ก่อขึ้น ซึ่งก็ถือว่าบุคคลเหล่านี้สมควรตายตั้งแต่หลังเหตุการณ์ในภาคแรกแล้ว ดังนั้น ถนนซุปเปอร์ไฮเวย์เส้นนี้จึงสมควรเป็นที่จบชีวิตของแต่ละคน แต่ทว่า ก็ยังมีตัวเอก(หญิง) ผู้ที่มองเห็นนิมิตล่วงหน้าอีก ทำให้ทุกคนต้องพยายามหนีีจากความตายกันต่อแบบคูณสองเลยทีเดียว
รายรับเปิดตัววีคแรกที่ 16 ล้านเหรียญ
รวมรายได้ทั้งหมดเก็บรายได้ไป 46 ล้านเหรียญ
ด้วยทุนสร้าง 26 ล้านเหรียญเท่านั้น แถมดาราที่นำแสดงก็โนเนมทั้งน้าาาาน มีเหรอจะไม่มีภาคต่ออีก???
เจ๊ละหน่าย...

มาต่อกันที่ภาค 3 กันต่อ ภายหลังอีก 3 ปี ภาพยนตร์เรื่องนี้ก็หวนกลับเวทีด้วยภาคใหม่ที่กลับคืนพร้อมกับผู้กำกับที่หวนคืนสู่ตัวหนังเรื่องนี้นั่นก็คือ James Wong ผู้กำกับในภาคแรกนั่นเอง การกลับมาครั้งนี้กะจะมาผงาดในนามของหนังสยองขวัญ 3 มิติ เรื่องแรก ๆ ในเวลานั้น ๆ ซึ่งยังไม่บูมเหมือนทุกวันนี้ แต่กระนั้นโครงการก็พับไปกลายเป็นหนังมิติธรรมดา ๆ ทั่วไปแทน แต่กระนั้นแฟนคลับเดนตายก็ไม่วาย พลาดไม่ได้จริง ๆ ยังไงก็ต้องดู ครั้งนี้เหตุการณ์ก็ยังโยงไปถึงเหตุการณ์ที่สองภาคแรกอยู่ โดยอุบัติเหตุในเรื่องนั้นเกิดที่สวนสนุกซึ่งไม่มีใครคาดคิดว่ารถไฟเหาะที่แสนจะตื่นเต้นจะทำให้ทุกคนลืมไม่ลงเลยทีเดียว ภาคนี้ไ้ด้ Mary Elizabeth Winstead สุดสวยมารับบทตัวเอกที่เห็นนิมิตล่วงหน้า
รายรับเปิดตัววีคแรกที่ 19 ล้านเหรียญ
รวมรายได้ทั้งหมดเก็บรายได้ไป 54 ล้านเหรียญ
ด้วยทุนสร้าง 34 ล้านเหรียญเท่านั้น มีเหรอจะไม่มีภาคต่ออีกที???
อยากผิวสีแทนมั้ย???

อันภาคที่ 4 นี้กำหนดฉายในปี 2009 แทนที่จะเป็น Final Destinaiton 4 ทางต้นสังกัดก็สั่งว่า เฮ้ย!!! ไม่ได้นะ มันต้องมีอะไรมากกว่าที่จะเป็นภาคต่อสิ ว่าแล้วก็เริ่มด้วยการเปลี่ยนจากภาค 4 ธรรมดา ๆ เป็น The Final Destination แทน ยัง ยังไม่พอ ตัวหนังยังออกฉายในรูปแบบ 3 มิติ อันที่ภาค 3 ตั้งใจจะทำแต่สำเร็จ ส่วนเนื้อเรื่องก็เกี่ยวกับผู้ที่ถึงคราวเคราะห์ร้ายต้องตายภายในสนามแข่งรถซึ่งดันต้องถล่ม แต่ก็ยังมีผู้เห็นนิมิตล่วงหน้าในภาคนี้ กลับมาเป็นตัวเอก(ชาย) ที่เป็นผู้ที่เห็นเหตุการณ์ล่วงหน้า ภาคนี้ถ้าไม่ติดตรง 3 มิติล่ะก็ คงโดนสวดยับจนพรุน เพราะเหล่าแฟนคลับต่างก็ตราหน้าว่า นี่คือภาคที่ห่วยที่สุดของแฟรนไชส์หนังเรื่องนี้เลยทีเดียว แต่กระนั้น.........
รายรับเปิดตัววีคแรกที่ 27 ล้านเหรียญ
รวมรายได้ทั้งหมดเก็บรายได้ไป 66 ล้านเหรียญ
ด้วยทุนสร้าง 43 ล้านเหรียญเท่านั้น แต่นั้นก็แค่ในอเมริกาเหรือเท่านั้น รายรับทั้งโลกนั้นก็คือ 180 กว่าล้านเหรียญ ทางผู้สร้างนั้นก็อารมณ์ประมาณ

หนักชิหาย+++

จนกระทั่งมาถึงภาคล่าสุด Final Destination 5 นี้เอง รายละเอียดตัวอย่างและนักแสดงนำดูได้ที่ ตัวอย่างหนัง