˹���á Forward Magazine

ตอบ

Mariah Carey : Me.I Am Mariah…The Elusive Chanteuse
ผู้ตั้ง ข้อความ
ตอบโดยอ้างข้อความ
ตอบ Mariah Carey : Me.I Am Mariah…The Elusive Chanteuse 


http://www.facebook.com/hysteriaculture

http://hysteriaculture.wordpress.com/2014/05/28/mariah-carey-me-i-am-mariah-the-elusive-chanteuse-poprbsoulhip-hopgospel-83-45

Mariah Carey : Me.I Am Mariah…The Elusive Chanteuse : Pop/R&B/Soul/Hip-Hop/Gospel (83% = 4/5)

จนถึงวันนี้ดิฉันก็ยังได้อ่านคอมเมนต์เป็นระยะๆจากท่านผู้อ่านที่ไม่เห็นด้วยกับงานเขียนวิจารณ์อัลบั้ม “Memoirs Of An Imperfect Angel” ผลงานชุดที่แล้วของ “มารายห์ แครี่ย์” ด้วยเหตุผลที่ว่า “อวยเกินไป” ซึ่งเรื่องนี้เดี๋ยวจะขอถือโอกาสเขียนอะไรที่คาใจให้เคลียร์กันไปเลยในย่อหน้าถัดๆไปนะคะ จะว่าไปก็ไม่น่าเชื่อว่าเวลาได้ล่วงเลยเกือบจะ5ปีเข้าไปแล้วตั้งแต่งานเขียนรีวิวในครั้งนั้นจนวันนี้ได้เสร็จสมอารมณ์หมายกับ “Me.I Am Mariah…The Elusive Chanteuse” สตูดิโออัลบั้มล่าสุดของแม่มาลัยที่ชะเง้อหน้ารอคอยกันมาชนิดข้ามปีตั้งแต่ทีเดียว

เอาจริงๆก็ต้องยอมรับว่าได้ฟังทุกเพลงของอัลบั้มนี้ตั้งแต่ก่อนจะวางขายมาร่วมสัปดาห์ (ยกเว้นแทร็คจากเดอลุกซ์) แต่ส่วนตัวตัดสินใจที่จะไม่รีบเขียนรีวิวตั้งแต่วันแรกเนื่องจากอยากจะใช้เวลาที่จะดื่มด่ำและทำความเข้าใจกับอัลบั้มชุดนี้สักระยะเพราะสำหรับคนที่ได้ติดตามอัลบั้มของแม่มาลัยมาทุกชุดก็คงจะเห็นชัดว่า “Me.I Am Mariah…” ชุดนี้ไม่ใช่อัลบั้มที่ฟังแล้วจะเข้าถึงในทุกภาคส่วนแบบฉับพลันทันใจซะทีเดียว วินาทีแรกที่ฟังจบอัลบั้มแล้วแม้ว่าจะมีบางส่วนที่ใกล้เคียงกับ “The Emancipation Of Mimi” แต่ดันแอบคิดถึง “Charmbracelet”,”E = MC 2″ และ “Memoirs Of An Imperfect Angel” มากกว่าด้วยความที่อัลบั้มล่าสุดนี้เป็นงาน “พ็อพอาร์แอนด์บี” ที่หนักไปทางสายอาร์แอนด์บีมากกว่าจะเอาใจเมนทสตรีมจ๋าอย่างที่ได้ยินกันในงานชุดMimi ตัวงานในอัลบั้ม “Me.I Am Mariah…” โดยรวมนับว่าทำออกมาเพื่อลงสายคอนเทมโพรารีย์แท้ๆซึ่งนั่นก็หมายถึงว่าความหวานหูและเข้าถึงง่ายดายอย่างที่ผู้ฟังที่คร่ำหวอดสายพ็อพคาดหวังนั้นไม่ได้มีมากมายเท่ากับ4อัลบั้มแรกหรือMimiด้วยความที่ผลงานชุดนี้เน้นหนักบนความเป็นงานเออร์บันแบบอาร์แอนด์บี ฮิพฮอพ โซลและกอสเพลที่เข้มข้นกว่าความเป็นพ็อพเอาใจตลาดในระดับที่สูง ก่อนหน้านี้อ่านในบทสัมภาษณ์ของ “นิค แคนนอน” สามีแม่มาลัยเห็นว่านางได้แรงบันดาลใจในการทำอัลบั้มนี้จากอัลบั้มชุดแรกแล้วก็ “Emotions” ซึ่งส่วนตัวก็เห็นด้วยเพราะกลิ่นอายโอลด์สคูลตั้งแต่อิทธิพลของฟั้งค์ โซลและดิสโก้ย้อนยุคสมัยโมทาวน์ไล่เรียงมาถึงงานบัลลาดสายดิว่า90sที่ได้ยินในอัลบั้มนี้ก็เป็นคำตอบที่ชัดเจน ถ้าจะให้เปรียบก็คงเป็นงานในแบบMariah CareyและEmotionsที่ใส่วิญญาณของแม่มาลัยในยุคButterflyลงไปคลุกเคล้าผลลัพธ์ออกมาเทียบเคียงกับ E = MC 2 ที่สีสันน้อยกว่าและภาคดนตรีไม่หลากหลายเท่าแต่ทรงพลังกว่าเป็นเท่าตัว

ตัดสินกันแบบไม่ต้องสนใจความติดหูหรือความโด่งดังเป็นปรากฏการณ์พูดถึงไปทุกหย่อมหญ้า “Me.I Am Mariah…The Elusive Chanteuse” ชุดนี้คืออัลบั้มที่ดีที่สุดของแม่มาลัยตั้งแต่ก้าวขึ้นทศวรรษ2000sมาถ้าวัดกันในแง่ของการนำเสนอและชั้นเชิงดนตรีสำหรับดิฉัน แต่ก็อีกนั่นแหละมันแปลกตรงที่แม้ส่วนตัวจะรู้สึกว่างานชุดนี้เป็นอัลบั้มที่ดีที่สุดแต่ก็กลับไม่รู้สึกพิเศษอะไรกับอัลบั้มนี้เลยซึ่งนี่ก็คืออีกหนึ่งเหตุผลที่ไม่รีบกระวีกระวาดจะรีวิวอัลบั้มนี้ตั้งแต่ได้ฟังครั้งแรกเนื่องจาก “ไม่รู้สึกอะไรกับมันเลย” แม้แต่นิดเดียวก็ไม่รู้สึกอารมณ์เดียวกับ “Ghost Stories” ชุดล่าสุดของพวก “Coldplay” ที่งานดี๊ ดีแต่ไม่มีอิทธิพลอะไรต่อเราแม้แต่น้อย ส่วนหนึ่งอาจจะเป็นเพราะว่าดิฉันผ่านช่วงเวลาที่อินกับพวกดิว่ามามากๆด้วยแล้วก็เป็นได้! อีกหนึ่งจุดที่สัมผัสได้คือแม้จะดีแต่จุดพีคน้อยมากเทียบกับอัลบั้มชุดที่แล้วอย่าง “Memoirs Of An Imperfect Angel” ที่คนอ่านกระหน่ำสับดิฉันไม่ยั้งว่า “อวย” ซึ่งก็จริงว่า “อวย!” แล้วก็ไม่ใช่จะไม่เห็นว่าตัวงานมันโรยแรงและโพรแกรมมิ่งดูลวกๆในภาพรวมแต่ถ้าเราดึงเฉพาะแทร็คที่พีคจริงๆในอัลบั้มนั้นอย่าง “Betcha Gon’ Know”,”Candy Bling”,”Inseperable”,”Angels Cry” และ “I Want To Know What Love Is” มาพูดกันสำหรับดิฉันแล้วคือเป็นอะไรที่แม่มาลัยสื่อออกมาได้ “ถึงใจ” เลยจริงๆนะรวมถึงเอกภาพและความอบอุ่นที่สื่อออกมาจากอัลบั้มเป็นสิ่งเล็กๆแต่สื่อสารเป็นส่วนตัวชนิดใจถึงใจกับแฟนๆคือเหตุผลที่ให้คะแนนอัลบั้ม Memoirs Of An Imperfect Angel เยอะด้วยความที่มันสื่อถึงเราและทำให้เราเชื่อ ในขณะที่ “Me.I Am Mariah…” สำหรับดิฉันคือเป็นงานที่ดี,ทรงพลังและปล่อยของนับตั้งแต่ The Emancipation Of Mimi เราก็รอคอยงานที่มีศักยภาพในตัวสูงๆแบบนั้นอีกมาตลอดจนมาพบเจออีกทีก็ชุดนี้…ไอ้ชื่นชมคารวะนะใช่แต่แปลกที่ไม่ได้ประทับใจซะจนหัวใจเต้นตูมตามขนาดความดีของอัลบั้ม!

คงจะแปลกที่ขอเริ่มต้นการรีวิวแทร็คในอัลบั้มนี้ด้วยเพลงที่ไม่ชอบแทบจะที่สุดของอัลบั้มอย่าง The Art Of Letting Go (3/5) อดีตไทเทิ่ลแทร็คก่อนจะเปลี่ยนมาเป็น “Me.I Am Mariah…The Elusive Chanteuse” ก่อนเลย เพลงนี้น่าจะเป็นหนึ่งในแทร็คได้รับแรงบันดาลใจมาจากอัลบั้มแรกของมารายห์สมัยที่ทำงานพ็อพโซลบัลลาดย้อนยุคแบบงานบัลลาดสมัย50s น่าแปลกที่สัญลักษณ์แห่งความรุ่งโรจน์ในฐานะตำนาน90sของแม่มาลัยในเพลงนี้แทนที่จะออกมาน่าตื่นตาตื่นใจกลับไม่มีอะไรสมการรอคอยเพลงออกมาดูแข็งๆด้านๆไร้มนตร์เสน่ห์มัดใจใดๆทั้งที่โปรดัคชั่นดนตรี,เสียงประสานและการเรียบเรียงก็อลังการดีแท้ ชะรอยว่ามุขเดิมๆของแม่ควรค่าแก่การเก็บเข้ากรุแล้วฝังดินให้มิดไปได้แล้ว อีกหนึ่งเพลงที่ไม่ชอบเป็นการส่วนตัวยกให้ Supernatural (3/5) งานคอนเทมโพรารี่ย์อาร์แอนด์บีบัลลาดสายโซลฟูลอาร์แอนด์บีนวลเนียนแบบงานจำพวกสโลวแจมดาวน์เทมโพทั้งหลายในสองอัลบั้มก่อนหน้าน่ะค่ะ คือมันก็ไม่ได้แย่อะไรขนาดนั้นหรอกนะคะเพียงแต่ความหวีดหวิวล่องลอยในเพลงนี้เมื่อไปเทียบกับแทร็คอื่นๆในอัลบั้มที่แข็งกว่ามากแล้วดูด้อยไปถนัดตาเลย เป็นเพลงที่มีเนื้อหาค่อนข้างเป็นส่วนตัวแทบจะที่สุดในอัลบั้มนี้ ข้ามมาพูดถึงเพลงที่ชอบบ้างเริ่มต้นที่เพลงเก่งอย่าง #Beautiful ft. Miguel (4.5/5) ที่นับว่ากู้หน้าบนบิลบอร์ดชาร์ตของแม่มาลัยไปย่อมๆด้วยการทะยานเข้าสู่ทำเนียบท็อป20ซึ่งก็นับว่าไม่ใช่จะได้มาง่ายๆในยุคร่วงโรยของนาง คอโมทาวน์ที่ชอบงานแบบอาร์แอนด์บีและโซล60sย้อนยุคน่าจะชอบไพเราะขาดใจมากๆเสียดายที่แม่มาลัยร้องน้อยไปนิด สำหรับใครที่ชอบงานสายอาร์แอนด์บีฮิพฮอพแบบในยุคButterflyขึ้นมาถึงCharmbraceletขอแนะนำ Faded (3.5/5),Dedicated ft. Nas (4/5),Thirsty (3.5/5)และ You’re Mine (Eternal) (3.5/5) เริ่มตั้งแต่เพลงแรกที่เทียบเคียงกันได้กับงานในอัลบั้ม Charmbracelet – Memoirs Of An Imperfect Angel พวกงานอาร์แอนด์บีฮิพฮอพสายลีดแบ็คดาวน์เทมโพสโลวแจมทั้งหลายน่ะค่ะ ในขณะที่ Thirsty ชวนให้นึกถึง “Migrate” จากอัลบั้ม “E = MC2″ พอตัวเพียงแต่หนักบนจังหวะจะโคนของฮิพฮอพมากกว่าพ็อพอาร์แอนด์บีแถมกลิ่นอายดิบดำตามแบบฉบับเออร์บันแท้ๆส่งกลิ่นฟุ้งตลบอบอวนทั้งเพลง Dedicated ผสานกันได้อย่างลงตัวระหว่างวัฒนธรรมของฮิพฮอพ,คอนเทมโพรารี่ย์อาร์แอนด์บีและโซลหวานๆลอยละล่อง นับว่าเป็นอีกแทร็คที่โดดเด่นเป็นอันดับต้นๆของอัลบั้ม ส่วน You’re Mine (Eternal) นี่เป็นงานมิดเทมโพพ็อพอาร์แอนด์บีที่คงจะเข้าทางคนชอบงานต่อยอดเผ่าพันธุ์เดียวกันกับ We Belong Together สลับมาที่งานโอลด์สคูลบัลลาดย้อนยุคใน Make It Look Good (4/5) ที่เล่นกับดูว็อพยุค50sอย่างที่นางชอบทำบ่อยๆนั่นแล พิสูจน์ได้อีกเพลงกับ It’s A Wrap ft.Mary J. Blige (4/5) งานจากอัลบั้มที่แล้วที่งุบงิบมาใส่ไว้อีกรอบในอัลบั้มนี้ (เพื่ออะไร?) ชะรอยว่าแม่มาลัยคงยังคับแค้นจิตใจที่ Memoirs Of An Imlerfect Angels Remix ถูกยกเลิกโครงการก็เลยเอามาโปะกันไว้ในงานใหม่ดื้อๆซะเลย หลังจากนี้เราอาจจะเดาทางได้ว่าเพลงในเดอลุกซ์อิดิชั่นสำหรับงานชุดต่อๆไปของนางจะมาอีหรอบไหน ว่าแต่ประหยัดงบไปหลายเพลงเลยเนอะแม่เนอะ! สำหรับแทร็คเปิดอัลบั้ม Cry. (4.5/5) ก็ยังเป็นบทพิสูจน์ที่ดีว่างานบัลลาดเชิงกอสเพลของเธอยังคงมนตร์ขลังอยู่เสมอ แม้ว่าจะมาแบบเรียบง่ายพรมบนเพียโนติดกลิ่นไลท์แจ๊ซซ์จางๆแต่ยังจับจิตจับใจชวนขนลุกเสมอที่สำคัญเมโลดี้และท่อนคอรัสไพเราะมากๆ ฟังแล้วก็แอบนึกถึงอารมณ์สุดบรรเจิดในอัลบั้มโปรดตลอดกาลของดิฉันอย่างEmotions สับรางจากกอสเพลมาหางานฮิพฮอพโซลกันบ้างใน Money S*/…) ft. Fabolous (4/5) เจิดจรัสสุดๆกับแซมเพิ่ลโอลด์สคูลจำพวกฟั้งค์โซล60sที่ยกระดับให้เพลงนี้เป็นงานสายฮิพฮอพและอาร์แอนด์บีที่ดูโดดเด่นมีคลาสขึ้นมาทันที สำหรับไฮไลท์ของอัลบั้มขอยกให้ You Don’t Know What To Do Ft. Wale (5/5) ที่สับขาหลอกช่วงเปิดเพลงให้นึกว่าเป็นงานบลูส์โซลดิบๆมุขเดียวกันกับ You’re So Cold ในอัลบั้ม Emotions แต่พอเข้าสู่ตัวเพลงจริงๆกลับเป็นงานเต้นรำแบบฟั้งค์กี้ย์ดิสโก้ยุค70sเก๋ๆประสานอารมณ์โซลสุดสุนทรีย์รวมถึงแซมรสชาติสตรีทแร็พเท่ห์ๆอย่างที่เคยได้ยินไปแล้วในซิงเกิ้ล Fantasy Remix ไม่คาดคิดว่าจะมาเจองานปล่อยของขนาดนี้ในอัลบั้มนี้ ดูกรีดกรายเป็นคุณนายที่เปรี้ยวมากๆ อีกหนึ่งเพลงที่ขอยกให้เป็นจุดพีคสุดของอัลบั้มขอยกให้หมดใจกับ Heavenly (No Ways Tired/Can’t Give Up Now) (5/5) นี่แหละเพลงแบบมารายห์ แครี่ย์ที่ลูกแกะทุกคนคาดหวังกับงานกอสเพลสายคอนเทมโพรารี่ย์คริสเตียนบริสุทธิ์งามระยับจับใจอันเป็นงานล้ำค่าในแบบฉบับที่แม่มาลัยผูกขาดทำออกมาได้ดีทุกครั้ง มครบทั้งความไพเราะ,อบอุ่นและพลังที่ฟังแล้วมันเหมือนกับมีแสงสว่างจุดประกายขึ้นมาจากภายในทีเดึยว ยิ่งท่อนอะแค็พเพลล่าชวนเฟดเอ๊าท์นี่เป็นอะไรที่ทำออกมาเรียกเสียงกรี๊ดจากผู้ฟังได้อย่างดี Meteorite (4.5/5) เป็นอีกหนึ่งแทร็คที่ไม่ได้คาดหวังว่าจะเจอในอัลบั้มนี้เหมือนกับเป็นการจับเอางานโอลด์สคูลแบบฟั้งค์กี้ย์ดิสโก้ใน Say Somethin’ และ I’m That Chick มาเข้าสู่การทดลองกับดนตรีเต้นระบำจำพวกดีพเฮ้าส์และคลับแด๊นซ์ มาทายกันดีกว่าว่าอัลบั้มหน้าแม่มาลัยจะผันตัวมาทำEDMกับเขามั้ย ในขณะเดียวกัน Camouflage (4/5) เป็นงานกอสเพลอารมณ์สว่างบริสุทธิ์ตามธรรมเนียมเดียวกับพวกJoy RideหรือSunflowers For Alfred Roy ใครที่ชอบอะไรอนุรักษ์นิยมแบบClassic Mariah Careyก็น่าจะชอบ One More Try (4/5) นี่ไม่แน่ใจว่าใช่งานคัฟเว่อร์จาก “จอร์จ ไมเคิล” รึเปล่า? ฟังแล้วคิดถึงงานพ็อพบัลลาดผสานอาร์แอนด์บีโซลเย็นๆแบบในสองอัลบั้มแรก เพราะดี! ปิดท้ายอัลบั้มด้วย Betcha Gon’ Know ft. R. Kelly (4/5) อีกหนึ่งผลงานจากอัลบั้ม Memoirs Of An Imperfect Angel – - เป็นเพลงเปิดอัลบั้มอีกต่างหาก! – - ส่วนตัวชอบฉบับออริจินัลโซโล่มากกว่า แฟนเพลงวิทนี่ย์ ฮูสทัน,แมรี่ย์ เจ ไบล์ทและอลิช่า คียส์น่าจะชอบงานคอนเทมโพรารี่ย์อาร์แอนด์บีบัลลาดประมาณนี้

โดยส่วนตัวแล้วไม่คาดหวังในแง่ของยอดขายหรือสถิติบนชาร์ตใดๆจากอัลบั้มนี้เลยแม้แต่น้อย พูดอย่างจริงใจเลยว่าตอนแรกไม่คิดด้วยซ้ำว่ามารายห์จะสามารถคัมแบ็คพร้อมกับเนื้องานในระดับนี้ได้ พูดโดยไม่เข้าข้าง “Me.I Am Mariah…The Elusive Chanteuse” ชุดนี้สำหรับดิฉันเชื่อว่าจะเป็นหนึ่งในงานของศิลปินหญิงที่ดีที่สุดประจำปี2014นี้แน่นอน


ดูข้อมูลส่วนตัว ส่งข้อความส่วนตัว
ตอบโดยอ้างข้อความ
ตอบ  


ดูข้อมูลส่วนตัว ส่งข้อความส่วนตัว
แสดงเฉพาะข้อความที่ตอบในระยะเวลา:
ตอบ หน้า 1 จาก 1
คุณไม่สามารถสร้างหัวข้อใหม่
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
คุณไม่สามารถแก้ไขข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลบข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลงคะแนน
  


copyright : forwardmag.com - contact : forwardmag@yahoo.com, forwardmag@gmail.com