UNDERWORLD :
BLOOD WARS มหาสงครามล้างพันธุ์อสูร
8 ธันวาคม 2559 ในโรงภาพยนตร์
ระหว่าง แวมไพร์กับไลแคน ที่กลับมาลุกโชติช่วงขึ้นอีกครั้ง
Underworld: Blood Wars มหาสงครามล้างพันธุ์อสูร
ภาคใหม่ล่าสุดที่ดุเดือดและน่าตื่นตาตื่นใจที่สุดของ บล็อคบัสเตอร์แฟรนไชส์ยอดนิยม Underworld เซลีน รับบทโดย เคท เบคคินเซล นักรบแวมไพร์สาวฮ็อตในตำนาน ประจันหน้ากับคู่ปรับที่ทรงพลังที่สุดของเธอ ทั้งไลแคนและเหล่ากบฎแวมไพร์ โดยมีเพียงแค่ เดวิด รับบทโดย ธีโอ เจมส์ และพ่อของเขา โธมัส รับบทโดย ชาร์ลส แดนซ์ ที่สู้อยู่เคียงข้างเธอ เซลีน จะหยุดสงครามที่ไม่มีวันสิ้นสุดระหว่างแวมไพร์กับไลแคนได้หรือไม่ อภิมหาสงครามครั้งนี้ต้องแลกด้วยชีวิต
ข้อมูลงานสร้าง
ใน Underworld: Blood Wars ภาคใหม่ล่าสุดของแฟรนไชส์บล็อกบัสเตอร์ แวมไพร์ผู้ท้าความตาย เซลีน (เคท เบคคินเซล) ต้องรับมือกับการโจมตีที่โหดเหี้ยมจากทั้งเผ่าพันธุ์ไลแคนและกลุ่มแวมไพร์ที่หักหลังเธอ ด้วยความช่วยเหลือจากพันธมิตรของเธอ เดวิด (ธีโอ เจมส์) และโธมัส พ่อของเขา (ชาร์ลส์ แดนซ์) เธอจะต้องปิดฉากสงครามอมตะระหว่างเผ่าพันธุ์ไลแคนและแวมไพร์ให้จงได้ แม้ว่านั่นจะหมายถึงการเสียสละครั้งสุดท้ายก็ตาม
ภาคที่ห้าของแฟรนไชส์แอ็กชันสยองขวัญที่ประสบความสำเร็จอย่างสูงเรื่องนี้ดำเนินต่อจากตอนจบของ Underworld Awakening เผ่าพันธุ์ไลแคนได้ผู้นำใหม่ผู้ทรงพลัง แมเรียส (โทเบียส เมนซีส์) ผู้ปลูกฝังความรู้สึกแรงกล้าในการปฏิบัติภารกิจให้ลุล่วงตามเป้าหมายให้กับบรรดาคนในเผ่าที่เคยขาดความสามัคคีกันมาก่อน แมเรียสไม่ยอมให้อะไรมาหยุดยั้งเขาจากการสืบร่องรอยของเซลีนเพื่อควานหาตัวอีฟ ลูกสาวของเธอ ผู้เป็นลูกครึ่งแวมไพร์/ไลแคนให้ได้
ด้วยความร่วมมือกับเดวิด เซลีนได้หนีรอดจากไลแคนที่สะกดรอยตามเธอมา จนกระทั่งข้อตกลงสงบศึกที่โธมัส พ่อของเดวิด เป็นผู้เจรจา ทำให้เธอสามารถหลบพักพิงที่อีสเทิร์น โคเวน ภายใต้การปกครองของเซมิรา (ลารา พูลเวอร์) ผู้ทะเยอทะยานได้ ด้วยความกลัวต่อภัยคุกคามของไลแคนที่ทวีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ อดีตปรปักษ์แวมไพร์ของเซลีนก็หวังว่าทักษะการต่อสู้ในตำนานของเธอจะช่วยพวกเขากำจัดพวกไลแคนชั่วๆ ให้สิ้นซาก แต่เมื่อเซลีนได้พบว่า ผู้คุ้มครองเธอที่อีสเทิร์นบางคนแอบซ่อนความคิดทรยศหักหลังเอาไว้ เธอและเดวิดก็ต้องหลบหนีอีกครั้ง โดยพวกเธอถูกบีบให้ต้องหาแหล่งพักพิงเบื้องหลังกำแพงของนอร์ดิค โคเวนที่ลึกลับ กลุ่มแวมไพร์รักสงบที่ใช้ชีวิตสันโดษราวนักบวชทางตอนเหนือสุดของโลก แต่ความรู้สึกปลอดภัยที่พวกเธอเพิ่งพบในดินแดนวาร์ โดห์ที่ปกคลุมไปด้วยหิมะกำลังหายไป เพราะไม่ว่าเซลีนจะไปที่ไหน สงครามเก่าแก่หลายร้อยปีระหว่างแวมไพร์และไลแคนก็จะติดตามเธอไปด้วยเสมอ
Underworld: Blood Wars นำแสดงโดยเคท เบคคินเซล (Underworld, Love & Friendship), ธีโอ เจมส์ (แฟรนไชส์ The Divergent), ลารา พูลเวอร์ (Edge of Tomorrow), โทเบียส แมนซีส์ (Outlander, The Night Manager), แบรดลีย์ เจมส์ (ซีรีส์เอแอนด์อี Damien), เจมส์ ฟอล์คเนอร์ (Game of Thrones) และชาร์ลส์ แดนซ์ (Game of Thrones)
เกี่ยวกับงานสร้าง
Underworld: Blood Wars ภาคห้าของแฟรนไชส์ที่ประสบความสำเร็จอย่างสูงเรื่องนี้ เป็นการกลับมาที่น่ายินดีของบรรยากาศขุ่นมัว ตามที่ปรากฏครั้งแรกในภาพยนตร์ยอดนิยมปี 2000 เรื่อง Underworld Blood Wars ย้อนกลับไปสู่รากเหง้า ตำนาน และวิถีทางของอดีตจริงๆ ครับ ผู้อำนวยการสร้าง ริชาร์ด เอส. ไรท์จากเลคชอร์ เอนเตอร์เทนเมนต์ กล่าว การออกแบบฉาก เครื่องแต่งกายและวิสัยทัศน์ทั้งหมดเดินตามรอยของ Underworld ภาคแรกมากกว่าภาคสี่ แม้ว่ามันจะมีตัวละครเดิมหลายตัว แต่เรามองว่า Blood Wars เป็นเหมือนการเริ่มต้นใหม่ครับ สำหรับการทำงานครั้งแรกในแฟรนไชส์นี้ ผู้กำกับแอนนา เจ. โฟเออร์สเตอร์ หลงใหลได้ปลื้มกับไอเดียของการนำแฟรนไชส์นี้กลับสู่รากเหง้า ฉันชอบ Underworld ภาคแรกจริงๆ เพราะตอนนั้น มันได้แสดงจุดยืนสำคัญเกี่ยวกับลุคและโลกใบนี้ค่ะ เธอกล่าว
Blood Wars ที่ถ่ายทำในยุโรปตะวันออก เช่นเดียวกับ Underworld ภาคแรก กระตุ้นบรรยากาศแบบยุคอดีต ที่แสดงความเคารพต่อ DNA สุนทรียศาสตร์ของแฟรนไชส์นี้ แต่บทภาพยนตร์ของมือเขียนบทโครี กู๊ดแมน ยังได้ต่อยอดตำนานของแฟรนไชส์นี้ ด้วยการแนะนำดินแดนใหม่น่าขนลุกที่ผลักดัน เซลีน ตัวละครของเคท เบคคินเซล ไปสู่ขีดจำกัด หนึ่งในองค์ประกอบที่น่าตื่นเต้นที่สุดของหนังเรื่องนี้คือนอร์ดิค แวมไพร์ โคเวนครับ แกรี ลุชเชซี ประธานเลคชอร์ เอนเตอร์เทนเมนต์ กล่าว เราไม่เคยเห็นแวมไพร์พวกนี้มาก่อน
หญิงผู้มีอำนาจ
ในการนำเสนอมุมมองใหม่สำหรับ Underworld: Blood Wars ทีมผู้อำนวยการสร้างได้เลือกโฟเออร์สเตอร์ ผู้กำกับมากความสามารถชาวเยอรมัน ผู้นำประสบการณ์ด้านแอ็กชันมากมายมาสู่โปรเจ็กต์นี้ ก่อนหน้านี้ เธอเคยกำกับซีเควนซ์แอ็กชันยูนิทที่สองในภาพยนตร์ทุนหนาที่น่าตื่นตาตื่นใจหลายเรื่อง รวมถึง The Day After Tomorrow ได้ทำงานวิชวล เอฟเฟ็กต์ให้กับภาพยนตร์บล็อกบัสเตอร์หลายเรื่องเช่น Independence Day และได้กำกับซีรีส์สตาร์ซเกี่ยวกับการเดินทางข้ามเวลาที่ได้รับการเสนอชื่อชิงรางวัลเอ็มมีเรื่อง Outlander ผลงานแอ็กชันของแอนนา ผสมผสานกับฝีมือที่เธอแสดงให้เห็นในการกำกับนักแสดงสำหรับเอพิโซดต่างๆ ในซีรีส์ Outlander ทำให้ผมรู้สึกว่าเธอเป็นตัวเลือกที่เพอร์เฟ็กต์ในการกำกับ Underworld: Blood Wars ครับ ผู้อำนวยการสร้างลุชเชซีกล่าว ทอม โรเซนเบิร์ก ผู้อำนวยการสร้างแฟรนไชส์นี้ อ้าแขนต้อนรับโฟเออร์สเตอร์สู่ครอบครัว Underworld ด้วยความกระตือรือร้นอย่างยิ่ง แอนนาเข้าใจแอ็กชันเป็นอย่างดี เธอเข้าใจกล้อง และเข้าใจสเปเชียล เอฟเฟ็กต์ ซึ่งนั่นเป็นส่วนผสมที่หาได้ยากครับ เขากล่าว
โฟเออร์สเตอร์ชื่นชอบโอกาสในการได้ยกย่องสุนทรียศาสตร์ของ Underworld ด้วยมุมมองของเธอเองที่มีต่อเรื่องราวนี้ แนวทางการสร้าง Blood Wars ของฉันคือการเคารพความจริงที่ว่าคุณมีตำนานที่แข็งแกร่งแล้ว คุณมีโทนสีที่ชัดเจนแล้ว คุณมีกฎสำหรับพวกไลแคนและแวมไพร์แล้วว่าเมื่อไหร่และทำไมพวกเขาถึงแปลงร่าง เธอกล่าว ฉันตื่นเต้นกับการรักษาสิ่งต่างๆ เหล่านั้นเอาไว้เพราะฉันคิดว่ามันคงเป็นเรื่องผิดพลาดที่จะบอกว่า เอาล่ะ ตอนนี้ เราจะทำทุกอย่างไม่เหมือนเดิมแล้วนะ แต่ฉันตัดสินใจนำทุกอย่างที่ฉันคิดว่าเป็นเรื่องน่าตื่นเต้นเกี่ยวกับ Underworld มาเป็นพื้นฐาน แล้วต่อยอดมันด้วยองค์ประกอบใหม่ๆ ที่คาดไม่ถึงค่ะ
ไอเดียของการให้ผู้หญิงมากำกับแฟรนไชส์เกี่ยวกับตัวละครหญิงแกร่งเป็นเรื่องที่เขาเห็นด้วยโดยไม่ต้องคิดหนักเลย ริชาร์ด ไรท์จากเลคชอร์ เอนเตอร์เทนเมนต์ กล่าว แอนนาสามารถเนรมิตชีวิตใหม่ให้กับแฟรนไชส์นี้ในแบบที่ผมคิดว่าคงไม่มีคนอื่นทำได้น่ะครับ
แง่มุมใหม่ของเซลีน
ในฐานะดารานำของ Underworld สี่ภาคจากทั้งหมดห้าภาค เบคคินเซลได้ถ่ายทอดความเปลี่ยนแปลงที่ละเอียดอ่อนจากภาคหนึ่งไปสู่อีกภาคหนึ่ง เป็นเรื่องน่าสนใจที่ฉันได้กลับมารับบทตัวละครที่ฉันเคยแสดงมาก่อนค่ะ เธอกล่าว ฉันมักจะแต่งตัวแบบเซลีน แต่โลกในหนังแต่ละเรื่องเปลี่ยนแปลงไปมากทีเดียว ภาคแรก เราถ่ายทำกันในบูดาเปสต์ และมันก็ดูเหมือนโลกอุตสาหกรรมและเครื่องจักรไอน้ำ ส่วน Blood Wars มีกลิ่นไอแบบยุคกลางมากทีเดียว เสื้อผ้าของฉันอาจจะเหมือนเดิม แต่สิ่งที่ตัวละครตัวนี้ต้องเจอและโลกที่เธออาศัยอยู่นั้นกลับเปลี่ยนแปลงไปมากทีเดียวในแต่ละครั้ง เหตุผลที่ฉันสนใจ Blood War คือการที่เซลีนต้องเผชิญกับเรื่องราวสะเทือนอารมณ์มากมายในหนังเรื่องนี้ ซึ่งนั่นก็เป็นสิ่งที่ดึงดูดใจแอนนาเช่นกัน
สำหรับตัวละครของเบคคินเซล ไม่เคยมีครั้งไหนที่มีความเสี่ยงตายมากเท่านี้มาก่อน มันมีสงครามที่เกิดขึ้นยาวนานระหว่างแวมไพร์และไลแคน แต่ใน Blood Wars เซลีนห่างเหินจากทั้งสองกลุ่ม นักแสดงหญิงอธิบาย เธอไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของแวมไพร์จริงๆ จังๆ อีกต่อไปแล้ว และเธอก็หนีจากทุกคน เซลีนเป็นคนแข็งแกร่งและเธอก็มีความคิดสร้างสรรค์อย่างเหลือเชื่อในเรื่องการฆ่าสัตว์ประหลาดและอะไรทำนองนั้น แต่แรงจูงใจของเธอคือความรักเสมอ ใน Blood Wars ความรักที่เธอมีต่อ อีฟ ลูกสาวของเธอคือสิ่งที่ผลักดันให้เธอเดินหน้าต่อไปค่ะ
เบคคินเซลชื่นชอบการถ่ายทำฉากสงครามที่พวกไลแคนโจมตีนอร์ดิค โคเวนเป็นพิเศษ พวกเขามีอุปกรณ์จากยุคกลางมากมายให้เซลีนได้หยิบฉวย และเธอก็ต้องรับมือกับทั้งดาบและขวานรูปร่างพิลึกที่จู่โจมเข้ามาหาเธอค่ะ เบคคินเซลกล่าว
ในตอนที่โฟเออร์สเตอร์และเบคคินเซลร่วมมือกันทำงานในภาพยนตร์เรื่องนี้ ทั้งคู่ก็สร้างสายสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นขึ้นมา ฉันต้องบอกว่า เคทเป็นหนึ่งในผู้หญิงที่ฉลาดที่สุดเท่าที่ฉันเคยร่วมงานด้วย โฟเออร์สเตอร์กล่าว ในบทเซลีน เคททั้งดุ ร้ายกาจและแข็งกร้าวกว่าแต่ก่อน แต่ในขณะเดียวกัน คุณก็จะได้เห็นความเปราะบางของเธอ ในตอนที่ตัวละครของเธอผ่านความเปลี่ยนแปลงทั้งหมดนี่ ดังนั้น เธอก็เลยแสดงความอ่อนโยนออกมาในบางครั้ง ตอนที่เธอเดินทางขึ้นเหนือ เธอต้องเปลี่ยนแปลงโฉมหน้าของตัวเองและทำไฮไลท์ผมสีบลอนด์ด้วย ฉันชื่นชอบการได้ทำงานร่วมกับเคทสำหรับแง่มุมใหม่ๆ ของตัวละครตัวนี้ค่ะ
ใน Blood Wars เซลีนต้องเผชิญกับการเดินทางที่ทรหดที่สุดของเธอ ในตอนที่ตัวละครแวมไพร์นักสังหารของเบคคินเซลต้องหลบภัยในแหล่งพำนักที่น่าอัศจรรย์ใจของพวกแวมไพร์นอร์ดิค และต้องเผชิญหน้ากับคู่ปรับที่ร้ายกาจที่สุดเท่าที่เธอเคยเจอมาตลอดชีวิต 1,000 ปีของเธอ แกรี ลุชเชซี ประธานบริษัทเลคชอร์ เอนเตอร์เทนเมนต์ มองภาคใหม่ของตำนาน Underworld นี้ว่า เป็นการแสดงถึงความสามารถที่น่าตื่นเต้นของนักแสดงหญิงชาวอังกฤษ เคท เบคคินเซลเป็นคนสวย ฉลาดและมีเสน่ห์น่าหลงใหล เธอสร้างความแตกต่างให้กับแฟรนไชส์นี้ในฐานะฮีโรสาวแวมไพร์จริงๆ มันเป็นการคัดเลือกนักแสดงที่เพอร์เฟ็กต์ครับ
เพื่อนใหม่และศัตรูที่ร้ายกาจยิ่งกว่า
Blood Wars เป็นการพบกันอีกครั้งระหว่างเซลีน ตัวละครของเบคคินเซลและเดวิด ตัวละครของธีโอ เจมส์ ผู้ผ่านความเปลี่ยนแปลงของตัวเองเช่นกัน ความสัมพันธ์ระหว่างเซลีนและเดวิดพัฒนาขึ้นอย่างแน่นอนครับ เจมส์กล่าว ก่อนหน้านี้ เขาเป็นหนุ่มน้อยผู้ไม่มั่นใจ ที่คอยติดตามเธอ แต่ตอนนี้ เขาเป็นลูกผู้ชายมากขึ้นครับ
ในตอนที่เซลีนช่วยเดวิดให้ค้นพบชะตากรรมที่แท้จริงของเขา เธอก็ถูกบีบให้ต้องเข้าไปพัวพันกับคู่ปรับใหม่ที่น่าสนใจ รวมถึงเซมิรา สมาชิกผู้ทะเยอทะยานของสภาสูงของอีสเทิร์น โคเวน นักแสดงหญิงชาวอังกฤษ ลารา พูลเวอร์ รับบท เซมิรา จอมบงการผู้หมกมุ่นกับเซลีน และพลังที่ซ่อนเร้นอยู่ในเลือดของเธอ เซมิราเป็นกิ้งก่าเปลี่ยนสีตัวจริงค่ะ พูลเวอร์บอก ขึ้นอยู่กับว่าเธอรับมืออยู่กับใคร เธอจะสามารถเปลี่ยนตัวเองและควบคุมสถานการณ์เพื่อให้เธอได้ประโยชน์ค่ะ ในการทำให้ตัวละครของเธอน่าหวาดเกรงมากขึ้น พูลเวอร์ได้ฝึกฝนอย่างหนักสำหรับซีเควนซ์สู้กันด้วยดาบในภาพยนตร์เรื่องนี้และได้แสดงฉากสตันท์มากมายด้วยตัวเอง
เซมิรามีความจริงจังแบบโรคจิต ที่ถูกผลักดันด้วยพลังงานและความสนุกสนานที่ลาราใส่เข้าไปในการแสดงครับ ผู้อำนวยการสร้างไรท์กล่าว
เซลีนได้เจอกับคู่ปรับที่ร้ายกาจยิ่งกว่าอย่าง แมเรียส ผู้นำเผ่าไลแคน ผู้มุ่งมั่นที่จะหาตัว อีฟ ลูกสาวของเซลีนให้พบ เพื่อที่เขาจะได้ดื่มเลือด ลูกผสม ของเธอและสร้างกองทัพไลแคน/แวมไพร์ที่ไร้เทียมทาน โดยแมเรียส รับบทโดยโทเบียส เมนซีส์ เมนซีส์ ผู้ได้รับการเสนอชื่อชิงรางวัลลูกโลกทองคำจากซีรีส์ Outlander ชื่นชอบประสบการณ์ของการได้รับบทเป็นผู้นำมนุษย์หมาป่า การร่วมงานกับแอนนาเป็นเรื่องวิเศษสุด เขากล่าว คุณจะรู้สึกได้ถึงการที่เธอพยายามผลักดันขอบเขตของหนังแนวนี้ออกไป พยายามสร้างรูปแบบของมันขึ้นมาใหม่และทำให้มันเป็นอะไรที่แปลกใหม่ครับ
แม้ว่าแฟรนไชส์ Underworld จะนำแสดงโดยนักแสดงละครเวทีชื่อดังชาวอังกฤษมากมาย รวมถึงไมเคิล ชีน, บิล ไนฮีย์และดีเร็ค จาโคบี้ แต่ผู้อำนวยการสร้างไรท์ก็ยกย่องแมเรียส ตัวละครของเมนซีส์ว่าเป็นหนึ่งในตัวละครที่มีสีสันที่สุด ที่ได้เข้าฉากกับเบคคินเซล แมเรียสมีสไตล์ ท่าทางและจังหวะของตัวเองในระดับที่ตัวร้ายก่อนหน้านี้ของ Underworld ไม่มีน่ะครับ ไรท์กล่าว โทเบียสเป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับแมเรียสเพราะเขาเคยรับบทผู้ร้ายมาก่อนและเขาก็สวมบทนี้ด้วยความยินดีอย่างยิ่งครับ
นักแสดงหน้าใหม่ คลีเมนไทน์ นิโคลสัน เปิดตัวในโลกภาพยนตร์ด้วย Blood Wars ในบทลีนา แวมไพร์สาวผู้ลึกลับแห่งนอร์ดิค โคเวน ลีนาให้ความรู้สึกลึกลับบางอย่างที่ทำให้เซลีนมีโอกาสได้เปิดใจค่ะ โฟเออร์สเตอร์กล่าว ในแง่หนึ่ง ลีนาเป็นเหมือนตัวกระตุ้นสำหรับความว้าวุ่นใจของเซลีน และสิ่งที่น่าสนใจเกี่ยวกับลีนาคือเธอพูดภาษาซามี ซึ่งเป็นภาษาของเผ่าทางตอนเหนือของแล็ปแลนด์ นิโคลสัน ผู้คว้าบทใน Blood Wars มาได้หลังจากที่เธอสำเร็จการศึกษาจากโรงเรียนการแสดงอีสต์ 15 แอ็กติ้ง สคูลในกรุงลอนดอน เพียงแค่เจ็ดสัปดาห์ เรียกตัวเองว่าเป็นแฟนพันธุ์แท้ของ Underworld ฉันตื่นเต้นจริงๆ ที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของตัวละครรุ่นใหม่ค่ะ เธอกล่าว
_________________
Like กดที่รูป
