อินดี้กลับมาแล้ว แต่ไปที่คานส์ก่อน
ในรายงานของเอพีบอกว่า ผู้กำกับสตีเวน สปีลเบิร์ก ผู้อำนวยการสร้างจอร์จ ลูคัส นักแสดงแฮริสัน ฟอร์ด, เคต แบลนเชต, แคเรน แอลเลน และ ไชอา ลาเบิร์ฟ นำหนังภาคต่อ Indiana Jones and the Kingdom of the Crystal Skull ไปเปิดฉายรอบปฐมทัศน์โลกในเทศกาลหนังเมืองคานส์ในวันอาทิตย์ที่ 18 พฤษภาคมที่ผ่านมาครับ ซึ่งผู้ชมและนักวิจารณ์ตื่นเต้นกันอย่างมากที่จะเข้าชม ต่างปรบมือดังเกรียวกราวเมื่อหนังเริ่มฉาย และเมื่อฉายจบก็ได้รับการปรบมือเช่นกัน แต่ดังน้อยกว่าเมื่อหนังเลิก อย่างไรก็ดี หนังไม่ได้โดนโห่แบบที่ The Da Vinci Code โดนเมื่อตอนที่ไปเปิดฉายที่คานส์สองปีที่แล้ว
เสียงตอบรับจากสื่อมวลชนออกไปในลักษณะปานกลางถึงค่อนข้างดีครับ แม้ว่าจะมีความไม่พอใจอยู่บ้างเช่น เจ. สเปอร์ลิง ไรช์ จาก FilmStew.Com ซึ่งรอคอยหนังภาคต่อเรื่องนี้มา 19 ปี บอกอย่างค่อนข้างผิดหวังว่า "มันเหมือนพวกเขาสร้างหนังขึ้นมาอย่างนั้นเอง ไม่ได้ใส่ใจลงไปด้วย" แต่อเลน สไปรา จากนิตยสาร Paris Match ก็แก้ต่างให้ว่า หนังเป็นเรื่องราวขุมทรัพย์สุดขอบฟ้าที่ยอมรับได้โดยดูจากเสียงปรบมือเมื่อหนังฉายจบ "มันเป็นหนังที่ดี เป็นผลิตผลที่ผ่านการขัดเกลาและเป็นอุตสาหกรรม เราไม่ได้โดนดูถูกในแง่คุณภาพของหนังเลย คุณรู้ว่าคุณจะได้เห็นอะไรจากหนังเรื่องนี้ และคุณก็ได้อย่างที่ต้องการเมื่อรับชม คุณออกมาจากโรงหนังด้วยความสุข"
แต่ในหมู่แฟนๆ ของหนังแล้วดูจะได้รับการตอบรับที่ดีกว่า หลายคนฮัมเพลงธีมประจำไปด้วยเมื่อไฟในโรงดับลง เอ็มมานูเอล เลวี่ ผู้คร่ำหวอดในวงการภาพยนตร์ฮอลลีวู้ดตั้งข้อสังเกตว่า "ในตลอด 24 ปี ที่เคยมาร่วมเทศกาลหนังเมืองคานส์ ผมไม่เคยเห็นการฉายหนังรอบสื่อมวลชนที่ผู้คนตื่นเต้นกันขนาดนี้เลย แม้แต่ Pulp Fiction ของเควนติน ตารันติโน ในปี 1994 นักวิจารณ์และนักข่าวมาเข้าแถวกันเต็มยาวเหยียดในไม่ถึงชั่วโมงก่อนหนังฉาย และเข้านั่งประจำที่อย่างเงียบๆ และเต็มโรงภาพยนตร์ the Grand Palais ในไม่ถึงครึ่งชั่วโมงก่อนหนังเริ่ม"
อย่างที่รู้กัน Indiana Jones and the Kingdom of the Crystal Skull มีเนื้อเรื่องเกี่ยวข้องกับมนุษย์ต่างดาว ต่างจากภาคก่อนๆ ที่เกี่ยวข้องกับไสยศาสตร์ และเปิดเผยความสัมพันธ์ระหว่างอินดี้กับคู่หูคนใหม่ หนุ่มขบถที่รับบทโดยลาเบิร์ฟ
ในมุมมองของนักวิจารณ์ที่ไปชมและเขียนวิจารณ์ออกมาแล้ว ท็อด แม็คคาร์ธี จากวาไรตี้ดูจะชื่นชมภาคต่อเรื่องนี้อย่างมากว่าดีกว่าสองภาคที่ผ่านมา "แต่ก็ยังเทียบไม่ได้กับภาคต้นฉบับซึ่งเป็นภาคที่ดีที่สุดที่ออกฉายในปี 1981" และชมผู้กำกับสตีเวน สปีลเบิร์ก และ แฮริสัน ฟอร์ด ว่า "ยังคงทำให้หนังภาคต่อที่เป็นที่นิยมเรื่องนี้ให้สนุกไปกับเรื่องราวและสไตล์ของหนังได้ไม่ยาก"
ที่อาจวิจารณ์หนังอย่างเผ็ดร้อนหน่อยก็คงเป็นเคิร์ต ฮันนี่คัต จาก The Hollywood Reporter ที่บอกว่า "ใครจะไปนึกว่า Indiana Jones and the Kingdom of the Crystal Skull หนังที่ถูกมองว่าเป็นการกลับมาของอินเนียนา โจนส์ กลับกลายเป็นหนังภาคต่อของ Close Encounters of the Third Kind แทน" และบอกว่าดูเหมือนผู้กำกับสปีลเบิร์กดูจะจับเอาทุกอย่างที่เคยทำมาในช่วงต้นอาชีพมาปนเปในหนังเรื่องนี้ทั้งหมด
แต่ไม่ว่าคำวิจารณ์จะออกมายังไง ก็ดูเหมือนว่าทีมนักแสดงและผู้สร้างจะไม่ห่วงในเรื่องนี้เลยครับ "ผมไม่กลัวเลยสักนิด ผมคาดไว้แล้วว่าต้องถูกลงแส้คืนบ้าง มันไม่แปลกที่หนังฮิตแบบนี้จะถูกด่าบ้าง ผมคาดไว้แล้ว แต่ผมทำงานให้คนที่เสียตังค์เข้าไปดู พวกเขาเป็นลูกค้าของผม และผมสนใจอยู่ที่จะให้ประสบการณ์ที่ดีที่สุดที่จะให้ได้แก่ผู้คนเหล่านั้น" แฮริสัน ฟอร์ด บอก
Indiana Jones and the Kingdom of the Crystal Skull จะเปิดฉายรอบสื่อมวลชนในบ้านเราค่ำวันพุธนี้ก่อนที่จะฉายรอบทั่วไปในวันพฤหัสบดีครับ แฟนหนังของบ้านเราจะคิดยังไงต่อหนังเรื่องนี้ เราคงจะรู้ในตอนนั้น
ที่มา Jediyuth
วันพฤหัสนี้เจอกัน แน่นอน ++
_________________
I can make the bad guy good for a weekend.
