อ้างอิงจาก:
TOP การเป็นพี่ใหญ่ของบิกแบง มันคือ ภาระ
อ้างอิงจาก:
ตอนแรกเลย มันเป็นเรื่องยากที่จะเข้ากับสมาชิกคนอื่นได้ครับ มันเหมือนกับว่าจู่ๆผมก็มีน้องเล็กให้ต้องดูแลหลังจากที่ผมใช้ชีวิตอิสระตัวคนเดียวม
าตลอด และผมก็ไม่ชอบที่ในตาของพวกเค้าจะเต็มไปด้วยความคาดหวังที่จะมีพี่ใหญ่คอยเป็นแบบอย่
างให้กับพวกเค้า แต่ยิ่งผมรู้จักพวกเค้ามากขึ้นเท่าไหร่ผมก็ยิ่งได้เรียนรู้ถึงภาพลักษณ์ที่สง่างามจา
กน้องๆและมันก็ยิ่งทำให้ผมรู้สึกเหมือนกับว่าผมเป็นน้องเล็กของวงด้วยซ้ำ
สมาชิกแต่ละคนในวงบิกแบงนั้นล้วนมีแต่ความกระตือรือร้น พวกเค้าทำงานกันอย่างหนักเพื่อจะได้โชว์ด้านใหม่ๆของพวกเค้าแต่พวกเค้าก็ไม่ต้องการท
ี่จะกลายเป็นคนที่บ้าทำงานเหมือนคนโง่ พวกเค้าไม่ชอบที่จะได้ยินคนอื่นพูดว่าพวกเค้าเป็นคนที่ทุ่มเทความพยายามอย่างมากเพื่
อมุ่งไปข้างหน้า พวกเค้าต้องการที่จะแสดงตัวตนในตอนที่งานเสร็จลุล่วงแล้ว พวกเค้าไม่ต้องการที่จะแสดงให้คนอื่นเห็นว่าพวกเค้าพยายามลำบากมากแค่ไหนหลังฉาก พวกเค้าต้องการที่จะโชว์ให้คนดูเห็นถึงความสมบูรณ์แบบของผลงานที่เสร็จมาแล้ว ไม่ใช่ความลำบากที่พวกเค้าพยายามเบื้องหลัง
ในช่วงนี้ เป็นช่วงทางแยกที่สำคัญของวงบิกแบง พูดตามตรงว่าสมาชิกทุกคนกำลังมันส์เขี้ยวคันไม้คันมือ เพราะความคาดหวังจากสาธรณชนที่กำลังสงสัยว่า " บิกแบงจะแสดงออกมาในแบบไหนน้าครั้งนี้??? " นั้นมีสูงขึ้นๆ ความคาดหวังแบบนี้เป็นทั้งภาระและแหล่งพลังความแข็งแกร่ง ระยะนี้ผมมักจะคิดในแง่บวก อย่าง " มันจะต้องออกมาดีแน่ๆ" ผมกลายเป็นคนแบบนี้หลังจากที่ได้พบกับพี่ๆจากกองถ่าย Into the fire ผมใช้ชีวิตทุกวันด้วยความสำนึกในบุญคุณ
ผมพยายามที่จะไม่ให้ตัวเองต้องตกต่ำ ผมพยายามที่จะไม่คิด ว่า" ฉันทำได้ไม่ดีเลยในตอนนี้" แทนที่จะมองไปแค่วันพรุ่งนี้หรือวันถัดมา ผมจะมองไปถึงปีหน้า ผมต้องการที่จะเป็นคนที่รู้จักขอบคุณความโชคดีต่างๆและมีความหวังศรัทธาในการทำงานที
่ผมได้รับมา
Source: Asiae
Eng Translation by seungie@tumblr
Thai Translation by undercover @ VIPP @ choitopthailand
ขอบคุณ TOP PCF2
_________________