ครั้งสุดท้ายที่ทั้งโลกจะ “กรี๊ด” ไปด้วยกัน 42 ปรากฏการณ์คลั่งแห่งแวมไพร์ ทไวไลท์ ที่จะอยู่ในใจวัยรุ่นทั้งโลกไปนิรันดร์
1. ความสำเร็จถล่มทลายของหนังสือทไวไลท์
ถึงปัจจุบัน หนังสือทั้ง 4 เล่มของ แวมไพร์ทไวไลท์ ถูกขายไปมากกว่า 170 ล้านเล่มทั่วโลก และถูกแปลไปมากกว่า 38 ภาษา โดยทั้ง 4 เล่มก็กลายเป็นหนังสือที่ขายดีที่สุดตลอดกาลประจำปี 2008 ของ USA Today และก็ยังอยู๋ใน 10 อันดับหนังสือขายดีของ New York Times ถึง 235 สัปดาห์ติดต่อกัน โดย Breaking Dawn ก็ได้รับรางวัลวรรณกรรมเยาวชนยอดเยี่ยมประจำปี 2008 จาก British Book Award และยังได้รับรางวัลวรรณกรรมชุดยอดเยี่ยมประจำปี 2009 จาก Kids’ Choice Award อีกด้วย
2. กระแสความคลั่งที่มีต่อ Edward
จากผลการสำรวจ เอ็ดเวิร์ด กลายเป็นแวมไพร์ที่ได้รับความนิยมสูงสุดตลอดกาล ด้วยผลโหวตถึง 38% แซงหน้าแวมไพร์ชื่อดังอย่าง แดรกคูล่า และ เลสแตท โดย โรเบิร์ต แพททินสัน ที่เอาชนะนักแสดงกว่า 5,000 คนที่เข้ามาคัดตัวเป็น เอ็ดเวิร์ด ก็ให้สัมภาษณ์ในระหว่างการเดินสายโปรโมต Twlight ว่า “ก่อนแสดงเรื่องนี้ผมยังนั่งเล่นอยู่ในจตุรัสที่เลสเตอร์โดยไม่มีใครรู้จักผมอยู่เลย แต่ปัจจุบันมีคนตระโกนส่งเสียงชื่อตัวละครที่ผมแสดง และผู้หญิงหลายคนที่เดินขึ้นมาหาผม และขอให้ผมกัดเธอ เธออยากให้ผมเป็น เอ็ดเวิร์ด และกัดเหมือนกับว่าเธอคือ เบลล่า มันน่าเหลือเชื่อมาก”
3. กระแสเรื่องของ Bella’s Choice
สิ่งที่ถูกพูดถึงมากที่สุดในวรรณกรรมชุดนี้ก็คือทางเลือกของ เบลล่า ในการตัดสินใจอยู่กับ เอ็ดเวิร์ด ไปชั่วนิรันดร์ โดย แคทธาลีน ฮาร์ดวิค ผู้กำกับ Twilight ภาคแรก ก็ให้สัมภาษณ์ถึงสิ่งที่เธอคิดว่าสมเหตุสมผลกับทางเลือกของ เบลล่า ว่า “เมื่อฉันอ่าน Twilight เล่มแรกจบ มันก็ทำให้ฉันตามอ่านหนังสือครบทุกเล่ม ฉันคิดว่า สเตฟานี่ เขียนออกมาด้วยความรู้สึกที่สมจริง กับเรื่องราวที่เป็นมหากาพย์ มันมีความงดงามและเปี่ยมไปด้วยความรู้สึก ให้ความรู้สึกถึงการตกหลุมรักเป็นครั้งแรก และการรักใครบางคนมากพอ ที่จะยอมเดินตามเสียงเรียกของหัวใจ”
4. ปรากฏการณ์กรี๊ด 6 pack ของ Jacob
หลังจากมีข่าวว่า เทย์เลอร์ เลาท์เนอร์ อาจไม่ได้กลับมารับบท เจคอบ ใน New Moon แต่สุดท้ายแล้วด้วยความตั้งใจในการฟิตหุ่น เสริมสร้างกล้ามเนื้อขึ้นกว่า 30 ปอนด์ และความทุ่มเทที่แสดงให้ทีมงานได้เห็น และก็ทำให้แฟนๆได้ทำความรู้จักกับซิกแพ็คของเขา เลาท์เนอร์ ได้ให้สัมภาษณ์ในช่วงโปรโมต New Moon ว่า “ผมได้รับประสบการณ์ที่วิเศษจาก Twilight และคิดว่าตัวเองต้องทำทุกอย่างเพื่อเป็นส่วนหนึ่งของ New Moon ผมเตรียมฟิตร่างกายอย่างหนักเพื่อให้เหมือน เจคอบ ในหนังสือ และดูเหมือนว่าสิ่งที่ผมทำไปนั้นจะสัมฤทธิ์ผล”
5. ชุด – เสื้อผ้าที่เป็นที่จดจำ
เมื่อ Twilight ภาคแรกเข้าฉาย โอเวอร์โค้ทสีเทาของ เอ็ดเวิร์ด ก็กลายเป็นชุดที่ได้รับความนิยมอย่างสูงในหมู่แฟนๆ จนกลายเป็นภาพติดตาของ เอ็ดเวิร์ด เช่นเดียวกับชุดแต่งงานของ เบลล่า ใน Breaking Dawn – Part 1 ที่ออกแบบโดย Carolina Herrera ที่มีมูลค่ากว่า 35,000 เหรียญ ก็ถือเป็นชุดแต่งงานที่แพงที่สุดที่เคยถูกใช้ในภาพยนตร์
6. สถิติขายตั๋วล่วงหน้า
ตั๋วล่วงหน้าของ Breaking Dawn – Part 2 ภาคสุดท้ายของแวมไพร์ ทไวไลท์ ที่เปิดขายในวันที่ 1 ตุลาคมเป็นวันแรกในอเมริกา ก็มียอดขายถึง 1.17 ล้านเหรียญ มากกว่า Breaking Dawn – Part 1 ที่ขายวันแรกได้ 626,000 เหรียญ และยังมากกว่าทุกภาคที่ผ่านๆมา โดยปัจจุบันตั๋วก็ถูกขายหมดไปแล้วมากกว่า 3,500 รอบ
7. ปรากฏารณ์ตั้งแคมป์รอเจอนักแสดงใน Premiere
งานพรีเมียร์ของแวมไพร์ ทไวไลท์ทุกภาคที่ผ่านมา จะเปิดตัวกีนที่โรงภาพยนตร์โนเกีย เธียเตอร์ ในเมืองลอส แองเจลิส โดยทุกครั้งก็จะมีแฟนๆนับพันคน มาตั้งแค้มป์รอบๆสถานที่จัดงาน เพื่อรอพบกับทีมนักแสดงก่อนหน้างานเป็นเวลาถึง 4 วัน โดยแต่ละภาคก็มีทีมนักแสดงหลัก รวมถึงนักแสดงที่มีชื่อเสียงเข้ามาร่วมเป็นเกียรติ รวมถึงยังมีการถ่ายทอดสดทุกครั้ง ซึ่งไม่เคยเกิดขึ้นกับการเปิดตัวภาพยนตร์เรื่องไหนมาก่อน
8. ความสามารถพิเศษที่น่าสนใจของ Vampire คาแรกเตอร์ต่างๆ
Breaking Dawn – Part 2 ถือเป็นภาคที่เราจะได้เห็นความสามารถพิเศษของแวมไพร์จากทั่วทุกมุมโลก เช่น เคท แวมไพร์กลุ่มเดนาลีที่มีพลังในการสร้างกระแสไฟฟ้า, เจน แวมไพร์กลุ่มโวลตูรี่ ที่สามารถสร้างความเจ็บปวดอย่างรุนแรงให้เป้าหมาย, อเล็ก ที่สามารถลดทอนประสาทสัมผัสของเป้าหมาย และ เบนจามิน จากแวมไพร์อีบิปต์ที่มีความสามารถพิเศษอันทรงพลังที่สุด นั่นก็คือการ “ควบคุมธาตุทั้งสี่” นั่นก็คือ ดิน น้ำ ลม ไฟ
9. แฟนแห่รอในงาน Comic Con
Twilight ถือว่าเป็นขาประจำของงาน San Diego Comic-Con โดย 4 ภาคที่ผ่านมาก็ที่จัดขึ้นที่ Hall H สามารถจุคนได้หลายพันคนและเป็นฮอลล์ที่ใหญ่ที่สุดในงาน Comic-Con โดยใน Breaking Dawn – Part 2 ซึ่งถือเป็นครั้งสุดท้ายของการเข้าร่วมงาน ตั๋วเข้าร่วมงานก็ขายหมดภายในเวลาเพียง 3 ชั่วโมง และก็เหมือนทุกปีที่ผ่านมาที่มีแฟนๆเข้ามาเข้ามาตั้งแค้มป์รอนานกว่า 3 วัน
10. ฉากจูบ + รางวัล Best Kiss จาก MTV
แวมไพร์ ทไวไลท์สร้างประวัติศาสตร์ ด้วยการเป็นแฟรนไชส์ภาพยนตร์งเรื่องแรกที่ได้รับรางวัลฉากจูบยอดเยี่ยม 4 ปีซ้อน จากเวที MTV MOVIE AWARDS โดยในภาค Twilight, New Moon และ Eclipse ทั้ง โรเบิร์ต แพททินสัน และ คริสเต็น สจ๊วต ต่างก็ตอบแทนเสียงโหวตจากคนดูด้วยการขึ้นไปจูบบนเวทีเรียกเสียงฮือฮา
11. สถิติ Box Office
ตั้งแต่ Twilight ภาคแรกที่เข้าฉายในเดือนพฤศจิกายน 2008 จนถึงภาคล่าสุด Breaking Dawn – Part 1 ในเดือนธันวาคม ปี 2011 ก็ทำรายได้เฉพาะในอเมริกาไปแล้วกว่า 1 พันล้านเหรียญ และทำรายได้ทั่วโลกไปมากกว่า 2.5 พันล้านเหรียญ ยังไม่รวมแผ่นดีวีดีและบลูเรย์ที่ถูกจำหน่ายไปกว่า 30 ล้านแผ่นทุกภาค
12. กระแสในโลก internet (ยอด view ตัวอย่าง/จำนวนครั้งการ search/ จำนวน fan site)
จำนวนสมาชิกเฟชบุ้คและทวิตเตอร์อย่างเป็นทางการของแวมไพร์ ทไวไลท์ มียอดคนติดตามมากที่สุดในบรรดาหนังทุกเรื่องบนโลก ในขณะที่ตัวอย่างสุดท้ายของ The Twilight Saga: Breaking Dawn – Part 2 ในช่อง YouTube ทางการของหนัง ก็มียอดผู้เข้าดูมากกว่า 5 ล้านคน ภายในระยะเวลาเพียงแค่ 3 วัน ทำลายสถิติเก่าของ แวมไพร์ ทไวไลท์ ทุกภาค และตัวอย่างหนังบล็อคบัสเตอร์ทุกเรื่องในปีนี้ และยังมี fan site ที่สร้างขึ้นเพื่อหนังและหนังสืออีกกว่า 1,000 เว็บทั่วโลก
13. Soundtrack เด่นๆ
หลังจากที่ Twilight ภาคแรก สร้างปรากฎการณ์ทำยอดขายอัลบั้มเพลงประกอบเอาไว้ถึง 4 ล้านก็อปปี้ ทำให้ศิลปินชื่อดังมากมายก็เข้ามาถ่ายทอดเพลงหลักให้กับหนังแต่ละภาค โดยในภาคแรกนั้นก็ได้ Paramore กับเพลง Decode, New Moon ก็ได้ Death Cab For Cutie กับเพลง Meet Me On The Equinox, Eclipse ก็ได้ Muse กับเพลง Neutron Star Collision, Breaking Dawn – Part 1 ก็ได้ บรูโน่ มาร์ส กับเพลง It Will Rain และในภาคสุดท้ายก็ได้วงร็อคชื่อดัง Green Day มาทำเพลงที่ชื่อ The Forgotten
14. ทีมคัลเล็น
ครอบครัวคัลเลนที่ประกอบไปด้วย เอ็ดเวิร์ด, คาร์ไลล์, เอสเม่, อลิซ, แจสเปอร์, โรซาลี และ เอมเม็ต ถือเป็นหัวใจแวมไพร์ ทไวไลท์ พวกเขามีบทบาทสำคัญในทุกๆภาค โดย ปีเตอร์ ฟาซิเนลลี่ ผู้รับบทเป็น คาร์ไลล์ ก็พูดถึงประสบการณ์ที่ผ่านมาทั้งหมดว่า “ผมคิดว่า Twilight เหมือนการเข้าเรียนมหาวิทยาลัย ภาคแรกเราเหมือนนักศึกษาใหม่ที่อยู่กินด้วยกัน เมื่อเข้าปีสองเราก็มีกลุ่มใหม่อย่างพวกวูล์ฟแพ็ค และยิ่งเราเดินทางไปข้างหน้ามากเท่าไหร่ พวกเราก็ยิ่งเป็นเหมือนรุ่นพี่ที่คอยแสดงให้รุ่นน้องเห็นว่าแนวทางของเรา และในภาคนี้ก็เป็นเหมือนกับพิธีเรียนจบของทุกคน”
15. อุบัติเหตุที่โรงเรียน (พิสูจน์รักครั้งแรก)
เชื่อว่าสาวกแวมไพร์ทไวไลท์ทุกคนคงจดจำช่วงเวลานี้ได้ทุกวินาที กับฉากที่ เอ็ดเวิร์ด เข้ามาช่วย เบลล่า ให้รอดพ้นจากการถูกรถอัดก้อปปี้ มันเป็นครั้งแรกที่เธอพบว่า เพื่อนร่วมชั้นที่ทำตัวลึกลับแต่น่าค้นหาของเธอไม่ใช่มนุษย์ธรรมดา
16. “Carlise” คุณพ่อที่ถูกกรี๊ดมากที่สุดในโลก
คาร์ไลล์ ถือเป็นตัวละครในครอบครัวคัลเลนที่ได้รับความนิยมมากที่สุด เนื่องด้วยลักษณะที่อบอุ่น หล่อ และใจดี รวมถึงประวัติความเป็นมาที่เขาเป็นผู้นำของกลุ่มแวมไพร์ที่ไม่กินเลือดมนุษย์ นอกจากนั้นนักแสดงที่รับบทอย่าง ปีเตอร์ ฟาซิเนลลี่ ก็มีจิตใจที่ดีไม่แพ้กัน โดยตอนที่เขาเดินทางไปโปรโมต Eclipse เขาก็บริจาคเงินให้กับโรงพยาบาลเด็กในเมืองพอร์ตแลนด์เป็นจำนวนถึง 10,000 เหรียญอีกด้วย
17. ทรงผมสุดชิคของ Alice
ใน New Moon เราได้เห็นโฉมใหม่ของ อลิซ หนึ่งในสมาชิกครอบครัวคัลเลน ด้วยเสื้อผ้าและทรงผมที่โฉบเฉี่ยวกว่าเดิม โดย แอชลี่ย์ กรีน นักแสดงที่ได้ลงปกนิตยสารมากที่สุดในบรรดาครอบครัวคัลเลน ก็ได้พูดว่า “ฉันคิดว่า อลิซ ก็เหมือนกับตัวตนที่แท้จริงของฉันที่เป็นแฟชั่นนิสต้า เธอมีความสดใสและมีการมองโลกในแง่ดี ฉันรู้สึกดีใจที่ได้แสดงเป็นเธอ คุณรู้ไหมว่า อลิซ ยังเป็นคนออกแบบเสื้อผ้าให้กับสมาชิกตระกูลคัลเลนทุกคนด้วยนะ”
18. ชุดแต่งงาน + เครื่องประดับของ Bella
ใน Breaking Dawn – Part 1 ฉากที่แฟนๆรอคอยมากที่สุดฉากหนึ่งก็คือฉากแต่งงาน โดยชุดแต่งงานของ เบลล่า ออกแบบโดย Carolina Herrera แบรนด์เสื้อผ้าชื่อดังที่มีออฟฟิศหลักอยู่ในนิวยอร์ค โดยชุดก็มีมูลค่ากว่า 35,000 เหรียญ ก็ถือเป็นชุดแต่งงานที่มีราคาแพงที่สุดในโลกภาพยนตร์ รวมถึงแหวนแต่งงานรูปวงรีที่ประดับด้วยเพชร 13 เม็ด ออกแบบโดย Infinite Jewelry Co และรองเท้าฝังเพชรที่แบรนด์ดัง Manolo Blahniks ตัดให้เป็นพิเศษ
19. แวมไพร์คูอริสุดหล่อ (James + Railey + Volturi Members)
ในแฟรนไชส์แวมไพร์ ทไวไลท์ ทุกภาคต่างก็มีศัตรูตัวสำคัญ ที่เข้ามาขัดขวางเส้นทางความรักชั่วนิรันดร์ของ เบลล่า และ เอ็ดเวิร์ด ไม่ว่าจะเป็น เจมส์ แวมไพร์เร่ร่อนใน Twilight, ไรลี่ย์ และกลุ่มแวมไพร์เลือดใหม่ของเขาใน Eclipse และกลุ่มแวมไพร์ราชวงค์โวลตูรี่ใน Breaking Dawn – Part 2 ที่จะนำทุกคนเข้าสู่สงครามครั้งสุดท้ายที่จะตัดสินทุกสิ่ง
20. ฉากเผย 6 pack ครั้งแรกและครั้งเดียวของ Edward ใน New Moon
ใน New Moon นอกจากที่สาวก เจคอบ จะตื่นเต้นกับร่างกายที่เฟิร์มสุดๆของ เทย์เลอร์ เลาท์เนอร์ ฝ่ายสาวก เอ็ดเวิร์ด ก็ไม่น้อยหน้าเมื่อพระเอกหนุ่ม เบิร์ต แพททินสัน ได้ถอดเสื้อโชว์ซิกแพ็คครั้งแรกและครั้งเดียว โดยเป็นฉากที่ เอ็ดเวิร์ด ตัดสินใจเผยความลับเรื่องแวมไพร์ให้กับมนุษย์ได้รู้เพื่อรับโทษประหาร หลังจากที่เขาเข้าใจผิดว่า เบลล่า ได้เสียชีวิตไปแล้ว
21. กระแสรักนอกจอของ Robert + Kristen
หลังจากแสดงความสนิทสนมใน Twilight ภาคแรก ช่วงระหว่างถ่ายทำ New Moon ทั้ง แพททินสัน และ สจ๊วต ก็เริ่มมีภาพถ่ายที่พวกเขาไปทานมื้อค่ำด้วยกัน และเมื่อต้นปี 2010 พวกเขาก็เปิดตัวกันอย่างเป็นทางการ ด้วยการไปเที่ยวที่เกาะทางตอนใต้ของอังกฤษกันสองต่อสอง โดย แคทธาลีน ฮาร์กวิก ผู้กำกับ Twilight ก็ให้สัมภาษณ์กับนิตยสาร Time ถึงสิ่งที่เธอสังเหตุเห็นตั้งแต่การถ่ายทำว่า “ฉันคิดว่ามันต้องใช้เวลาซักพักสำหรับ คริสเต็น ในการยอมรับและทำตามหัวใจของตัวเอง ซึ่งก็คือเธอรักผู้ชายคนนี้”
22. อาการ crazy รูปแบบต่างๆ ของแฟนริม Red Carpet
สาวกแวมไพร์ทไวไลท์เป็นกลุ่มที่มีแรงใจต่อสิ่งที่พวกเธอรักมากที่สุด โดยนอกจากจะมีการตั้งแค้มป์บริเวณงานพรีเมียร์เป็นเวลาถึง 4 วันแล้ว แฟนๆบางคนก็ทุ่มทุนสร้างถึงขนาดตีตั๋วเครื่องบินจากอีกฟากโลกเพื่อมาร่วมงานนี้โดยเฉพาะ เช่นสาวกแวมไพร์ชื่อ ชาร์นิ ดันแคน ซึ่งนั่งเครื่องบินกว่า 19 ชั่วโมงจากเมืองเพิร์ธ ประเทศออสเตรเลีย เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของปรากฏการณ์ แวมไพร์ ทไวไลท์ ตั้งแต่ภาคแรกจนถึงภาคล่าสุด
23. บ้านของเอ็ดเวิร์ด บ้านในฝัน
ตั้งแต่ภาคแรก หลังจากที่ เบลล่า อาศัยอยู่ในบ้านของพ่อ และ เอ็ดเวิร์ด ก็อาศัยอยู่ในบ้านของครอบครัวคัลเลน ในที่สุดในภาค Breaking Dawn – Part 2 แฟนๆก็จะได้เห็นเรือนหอของพวกเขา ซึ่งก็คือบ้านไม้กลางป่าหลังเมืองฟอร์คส ที่ทั้งคู่จะได้ใช้ชีวิตกันเป็นครอบครัวพ่อแม่ลูกที่สมบูรณ์แบบ
24. ฮันนีมูนใน Rio (ฉาก Love Scene สุดฮือฮา)
ใน Breaking Dawn – Part 1 ฉากที่แฟนๆตั้งตารอที่สุดก็คือ ฉากเลิฟซีนระหว่าง เอ็ดเวิร์ด และ เบลล่า โดย โรเบิร์ต แพททินสัน ก็เล่าถึงประสบการณ์ในการถ่ายทำว่า “ก่อนถ่ายทำฉากนี้ ทั้งผมและ คริสเต็น แทบไม่ได้เตรียมตัวเลย พวกเราก็เข้ามาแสดงในฉากนี้ด้วยสมองที่ปลอดโปร่งที่สุด นักแสดงหลายคนพูดว่าฉากร่วมรักมักทำให้พวกเขาประหม่า… ซึ่งมันก็เกิดขึ้นผมและ คริสเต็น ถึงแม้ว่าเราจะคบกันในชีวิตจริง แต่เมื่อสวมบทเป็นตัวละครที่แฟนๆเชียร์ให้รักกันมานานหลายปี มันก็ทำให้คุณรู้สึกกดดันแบบพูดไม่ถูกเหมือนกัน”
25. สินค้าสารพัดที่ inspire จาก Twilight
ด้วยปรากฏการณ์ แวมไพร์ ทไวไลท์ ที่โด่งดังไปทั่วโลก ทำให้มีสินค้าและของสะสมมากมายที่เกิดขึ้นจากหนัง ไม่ว่าจะเป็นเสื้อยืด, พวงกุญแจ, แอ็คชั่นฟิกเกอร์, แก้วมัค, สร้อยคอ, สายรัดข้อมือ, เข็มกลัด รวมถึงของสำหรับสาวกพันธุ์แท้อย่างเช่น ผ้าปูที่นอน, หมอนข้าง, ม่านกั้นห้องน้ำ, บรา หรือแม้กระทั่งเสื้อชั้นใน!
26. ฉากจูบของเบลล่า และ เจคอบ
หลังจากแอบชอบ เบลล่า มาตั้งแต่เด็ก และได้ใกล้ชิดเธอมากขึ้น หลังจากที่ เอ็ดเวิร์ด ออกไปจากเมืองใน New Moon ในที่สุด เจคอบ ก็บอกความในใจกับเธอใน Eclipse และก็ได้จูบกับเธอเป็นครั้งแรก สจ๊วต เล่าถึงฉากนี้ว่า “มันเป็นฉากที่แฟนๆหนังสือรอคอยที่สุดฉากหนึ่ง เบลล่า อยู่ในเต้นท์กับ เจคอบ สองต่อสอง และเป็นฉากที่ เบลล่า เริ่มรู้สึกว่าตัวเองสามารถรัก เจคอบ ได้จริงๆ อย่างไรก็ตาม มันเป็นความรู้สึกแปลกที่จะจูบกับคนอื่นนอกจาก เอ็ดเวิร์ด ฉากนี้อาจทำให้สาวก เจคอบ ต้องปลึ้ม สำหรับฉันแล้วมันเป็นประสบการณ์ที่แปลกจริงๆ”
27. แวมไพร์+หมาป่าวัยละอ่อนที่แฟนกรี๊ด (บรี + เซธ)
ในแวมไพร์ ทไวไลท์แต่ละภาค ก็มีนักแสดงดาวรุ่งพุ่งแรงเข้ามารับบทเป็นตัวละครสำคัญ อย่างใน Eclipse ก็ได้ โจเดลล์ เฟอร์แลนด์ นักแสดงจาก Silent Hill เข้ามารับบทเป็น บรี หนึ่งในสมาชิกของแวมไพร์เลือดใหม่ ซึ่งเรื่องราวของเธอ สเตฟานี่ย์ เมเยอร์ ก็ได้นำมาเขียนเป็นหนังสือภาคเสริมที่ชื่อ The Short Second Life of Bree Tanner และ บูบู สจ๊วต รับบทเป็น เซธ เคลียร์วอเตอร์ สมาชิกวูล์ฟแพ็คที่เด็กที่สุด ซึ่งก็มีบทบาทสำคัญใน Breaking Dawn – Part 1
28. การ์ดแต่งงาน / Reaction
ทีเซอร์แรกของ Breaking Dawn – Part 1 แตกต่างจากทุกภาคที่ผ่านมา เมื่อมันเปิดด้วยรายละเอียดที่อยู่บนการ์ดแต่งงาน ที่ทั้งคู่ส่งให้กับทุกคน ซึ่งก็รวมถึง เจคอบ ที่รู้สึกโมโหจนแปลงร่างเป็นหมาป่าอีกด้วย โดยทีเซอร์ตัวนี้มียอดคนดูถึง 4 ล้านคนในระยะเวลาเพียงแค่ 3 วัน รวมถึงมีการเปิดส่วนพิเศษของเว็บไซด์ทางการของหนัง เพื่อให้แฟนๆได้เข้ามาร่วมลงนามเป็นสักขีพยานในพิธีแต่งงานระหว่าง เอ็ดเวิร์ด และ เบลล่า อีกด้วย
29. มอเตอร์ไซค์ของ Jacob
นอกจากการฟิตร่างกายของ เทย์เลอร์ เลาท์เนอร์ เพื่อรับบทเป็น เจคอบ เขายังต้องเรียนรู้การขี่มอเตอร์ไซด์วิบากให้เชี่ยวชาญ เพื่อถ่ายทำทั้งใน New Moon และ Breaking Dawn – Part 1 อีกด้วย โดยเขาก็พูดถึงประสบการณ์นี้ว่า “สิ่งหนึ่งที่ผมได้จากการแสดงในทไวไลท์ก็คือการหัดขี่มอเตอร์ไซค์ มันทำให้คุณรู้สึกถึงอะดรินาลีนที่พุ่งพล่าน และก็ทำให้ผมกล้าแสดงฉากสตันท์ในหนังแอ็คชั่นด้วยตัวเอง”
30. คอลเล็คชั่นพรีเมี่ยม
ด้วยกระแสเรียกร้องของแฟนๆที่ต้องการสะสมหนังท่ทุกคนหลงรัก ก็ทำให้มีการออกบ็อกเซ็ทของแต่ละภาคออกมา อย่างในภาคล่าสุด Breaking Dawn – Part 1 ก็ได้ออก Collector’s Edition ซึ่งนอกจากจะมีโปสการ์ดให้สะสมกันถึง 10 แบบ ก็ยังมีฟิล์มหนังของจริงหนึ่งเฟรม รวมถึงเบื้องหลังแบบเจาะลึกและพรีวิวของ Breaking Dawn – Part 2 ที่ไม่เคยถูกปล่อยทางอินเตอร์เน็ตอีกด้วย
31. ประทับรอยมือ Chinese Theatres
คริสเต็น สจ๊วต, โรเบิร์ต แพททินสัน และ เทย์เลอร์ เลาท์เนอร์ ได้รับเกียรติประทับรอยมือและรอยเท้าในฮอลลิวู้ด ซึ่งถือเป็นเกียรติสูงสุดของวงการบันเทิง โดยทั้งสามคนก็ได้กล่าวความรู้สึกในงานว่า สจ๊วต เผยพูดว่า “ตั้งแต่ฉันตัดสินใจว่าจะเป็นนักแสดง นี่คือสิ่งที่เจ๋งที่สุดที่วงการบังเทิงมอบให้กับฉัน” เลาท์เนอร์ กล่าวว่า “มันมีช่วงเวลาพิเศษที่ยากแก่การอธิบาย และนี่ก็คือหนึ่งในช่วงเวลานั้น มันเป็นฝันที่เป็นจริงของผม” และ แพททินสัน ก็กล่าวว่า “ลองดูสิว่าเรายังเด็กขนาดไหน มันทั้งตลกและน่าตื่นเต้นในเวลาเดียวกัน (หัวเราะ) แต่ทุกอย่างจะเกิดขึ้นไม่ได้ ถ้าไม่มีแฟนๆที่ให้การสนับสนุน Twilight ผมขอขอบคุณ”
32. มุมต่าง ๆ ในเมือง Forks + กลายเป็น tourist attractions
ก่อนที่ Twilight จะเข้าฉายในปี 2008 เมืองฟอร์คสก็เป็นเพียงเมืองเล็กๆในรัฐวอชิงตัน แต่ในปัจจุบันมันก็กลายเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมที่สุดของรัฐ สาวกทไวไลท์จำนวนมากก็พากันเข้ามาสัมผัสโลกที่ เอ็ดเวิร์ด และ เบลล่า ได้อาศัยอยู่ โดยร้านค้าและร้านอาหารต่างก็เปลี่ยนชื่อให้เข้ากับตัวหนัง และก็ยังมีสารคดีที่ชื่อ Twilight in Forks ที่เล่าถึงปรากฏการณ์ของหนังที่เปลี่ยนชีวิตคนในเมืองอีกด้วย
33. การรวมแวมไพร์จากทั่วโลกครั้งประวัติการณ์
เพื่อให้สมกับบทสรุปส่งท้ายสุดยิ่งใหญ่ของแวมไพร์ทไวไลท์ Breaking Dawn – Part 2 ก็ถือเป็นการรวมตัวของแวมไพร์พันธมิตรจากทั่วทุกมุมโลก ไม่ว่าจะเป็นแวมไพร์เดนาลี, แวมไพร์อะเมซอน, แวมไพร์อิยิปต์, แวมไพร์โรมาเนีย, แวมไพร์ไอริช และแวมไพร์เร่ร่อน ที่ครอบครัวคัลเลนข้อร้องให้เข้ามาเพื่อรับมือกับกลุ่มแวมไพร์กลุ่มโวลตูรี่ นสงครามครั้งสุดท้ายที่จะตัดสินชะตาชีวิตของทุกคน
34. เรเนสเม่ เด็กหญิงที่ทั้งโลกรอเห็น
นอกจาก Breaking Dawn – Part 2 จะเป็นภาคที่เล่าถึงมหากาพย์สงครามแวมไพร์ครั้งสุดท้าย กุญแจสำคัญที่เป็นชนวนของเรื่องก็คือ เรเนสเม่ ลูกครึ่งมนุษย์-แวมไพร์ ลูกสาวของ เอ็ดเวิร์ด และ เบลล่า โดยผู้กำกับ บิล คอนดอน ก็ได้พูดถึงตัวละครที่แฟนๆอยากเห็นที่สุด และการเลือกนักแสดงว่า “เรเนสเม่ เป็นสิ่งที่เชื่อม เอ็ดเวิร์ด, เบลล่า และ เจคอบ เข้าด้วยกันเป็นครอบครัว ซึ่งผมไม่ต้องการเด็กที่แอ็คติ้งเก่ง แต่ผมต้องการเด็กที่ดูเป็นธรรมชาติ และเมื่อยืนร่วมกับ โรเบิร์ต และ คริสเต็น ก็ดูเป็นครอบครัวมากที่สุด แม็คเคนซี่ย์ มอบความรู้สึกแบบนั้นให้กับผม”
35. Top 5 Memorable Quotes
1. “And so the lion fell in love with the lamb” Edward (Twilight)
2. “If I could dream at all, it would be about you.” Edward (Twilight)
3. “I’m sorry I can’t be the right kind of monster for you, Bella.” Jacob Black (New Moon)
4. “Even more, I had never meant to love him. One thing I truly knew – knew it in the pit of my stomach, in the center of my bones, knew it from the crown of my head to the soles of my feet, knew it deep in my empty chest – was how love gave someone the power to break you. I’d been broken beyond repair.” – Bella (New Moon)
5. “I promise to love you forever – every single day of forever. Will you marry me?” Edward (Eclipse)
36. ชีวิตในอดีตก่อนเป็นแวมไพร์ของ Cullens
นอกจากเรื่องของสามตัวละครหลัก เบลล่า, เอ็ดเวิร์ด, และ เจคอบ เราก็จะได้รู้ถึงอดีตของครอบครัวคัลเลนผ่านการเล่าเรื่อง เช่น คาร์ไลล์ ที่เคยเป็นนักปราบแวมไพร์ ก่อนที่จะถูกเปลี่ยนเป็นแวมไพร์ซะเอง หรือ แจสเปอร์ ที่เป็นอดีตทหารฝ่ายใต้ที่ถูก มาเรีย หัวหน้าแวมไพร์เม็กซิกันเปลี่ยนให้เป็นแวมไพร์ และใน Breaking Dawn – Part 1 เราก็ได้รู้ว่าเมื่อก่อน เอ็ดเวิร์ด ดื่มเลือดมนุษย์ โดยเขาจะเลือกดื่มแต่เลือดของฆาตกรเท่านั้น
37. จำนวน Fan ใน Fan Page = ประชากรในทวีปออสเตรเลีย
เพื่อแสดงให้เห็นถึงปรากฏการณ์ความคลั่งไคล้ที่ระบาดไปทั่วโลก จำนวนผู้ที่กด Like แฟนเพจ Twilight Movie ของอเมริกา ก็มีจำนวนกว่า 35 ล้านคน ซึ่งเกือบเทียบได้เท่ากับจำนวนประชากรของทวีปออสเตรเลียทั้งทวีป ซึ่งมีอยู่ทั้งหมด 36 ล้านคน
38. โปสเตอร์หนัง ทุกแบบ
39. TV Crazy (รายการแฟนพันธุ์แท้ / หนังล้อเลียน / Robsessed / รายการ Show)
หลังจากแวมไพร์ทไวไลท์ได้สร้างปรากฏการณ์มากมาย ก็ทำให้เกิดกระแสแวมไพร์ฟีเวอร์ไปทุกหนทุกแห่ง ทั้งภาพยนตร์ล้อเลียนอย่าง Vampire Suck ที่สร้างโดยผู้เขียนบท Scary Movies, Robsessed สารคดีที่พูดถึงกระแสคลั่งไคล้ในตัวของ โรเบิร์ต แพททินสัน ผู้รับบทเป็น เอ็ดเวิร์ด, รายการทอล์คโชว์มากมายที่นำทีมนักแสดงไปสัมภาษณ์ตลอดระยะเวลา 5 ปี และล่าสุดก็คือแฟนพันธุ์แท้ทไวไลท์ของประเทศไทย ที่เพิ่งออกอาการไปเมื่อวันที่ 12 ตุลาคม ที่ผ่านมา
40. ทีมหมาป่าสุดล่ำ
นอกจากกลุ่มแวมไพร์แล้ว ในแวมไพร์ ทไวไลท์ ก็ยังมีศัตรูคู่อาฆาตอย่างเผ่าควิลยูต ชนเผ่าพื้นเมืองที่สามารถแปลงร่างเป็นหมาป่าได้ โดยพวกเขาเรียกตัวเองว่า “วูล์ฟแพ็ค” นำโดย แซม หัวหน้าฝูง, เจคอบ รองหัวหน้า และสมาชิกทีมอย่าง ลีอาห์ และ เซ็ธ เคลียร์วอเตอร์, พอล, เอ็มบรี, ควิลล์ และ จาเร็ด โดยแต่ละคนก็มีรูปร่างที่เฟิร์มและแข็งแรงเพื่อให้สมกับเป็นนักรบของเผ่า
41. รู้จักแฟนพันธุ์แท้ทไวไลท์เมืองไทย
รายการแฟนพันธุ์แท้ “แวมไพร์ ทไวไลท์” ที่ออกอากาศไปเมื่อวันศุกร์ที่ 12 ตุลาคม ที่ผ่านมา ก็เป็นการประชันของสุดยอดสาวกทไวไลท์จากทั่วทั้งประเทศ ซึ่งในที่สุด น.ส. ชิดชนก สนิทพันธุ์ หรือ โซลมา อายุ 29 ปี ก็กลายเป็นแฟนพันธุ์แท้ โดยเธอก็เคยได้รับรางวัลจากกิจกรรมของ Breaking Dawn – Part 1 ในงานสัปดาห์หนังสือ และยังมีบล็อคใน Exteen ที่มีข้อมูลในทุกแง่มุมเกี่ยวกับ แวมไพร์ ทไวไลท์
42. Tattoos + อาการ crazy สุดเพี้ยนของแฟน
ด้วยกระแสของ แวมไพร์ ทไวไลท์ ทำให้แฟนๆบางคนแสดงความคลั่งไคล้จนถึงระดับที่หลุดโลกไปเลย อย่างเช่น แคธี่ วาร์ด ผู้หญิงชาวอเมริกันที่ตัดสินใจสักรูปของ เอ็ดเวิร์ด, เบลล่า และ เจคอบ ลงบนแผ่นหลังของเธอ โดยเธอก็ให้คำอธิบายว่า “ฉันรัก โรเบิร์ต แพททินสัน และฉันก็รักหนังเรื่องนี้ ฉันคิดว่านี่คือการตัดสินใจที่ดีที่สุดในชีวิตของฉัน”
