Article

Blog Entry



10 สิ่งที่คุณอาจไม่รู้เกี่ยวกับเพลงของ Britney Spears

10 Things About Britney Spears Song Facts
10 สิ่งที่คุณอาจไม่รู้เกี่ยวกับเพลงของบริทนี่ย์ |

1. Baby One More Time |
ที่จริงแล้วเพลง Baby One More Time นี้ถูกเขียนขึ้นเพื่อให้วงฮิพฮ็อพ TLC แต่สมาชิกวงบอกว่าเพลงนี้ไม่เข้ากับภาพลักษณ์ของพวกเธอ เพลงนี้ถ่ายทำมิวสิควิดิโอที่โรงเรียน Venice High School ซึ่งเป็นที่ถ่ายทำเรื่อง Grease หนังเพลงคลาสสิคโดยบริทนี่ย์เป็นคนคิดไอเดียในการถ่ายทำที่โรงเรียนแห่งนี้ Baby One More Time เป็นเพลงที่ขายดีที่สุดในอังกฤษในปี 1999 ในปี 2008 MTV รายงานว่า มิวสิควิดิโอ Baby One More Time เป็นเพลงที่ถูกขอให้เปิดมาที่สุดตลอดกาล

2. Toxic |
แต่งโดย Cathy Dennis ศิลปินเพลงเต้นรำยุค 80 ซึ่งเธอยังแต่งเพลง Can’t Get You Out of My Head ให้ Kylie Minogue ด้วย เพลงนี้เป็นเพลงที่ทำให้บริทนี่ย์ได้รับรางวัลแกรมมี่ตัวแรกในสาขา Best Dance Recording แม้ว่าในตอนที่ปล่อยเพลงนี้ออกมาจะตรงกับชวงที่เกิดเรื่องอื้อฉาวของ Janet Jackson ใน Super Bowl ทำให้ MTV เลื่อนการปล่อยเอ็มวีใดๆ ที่มีภาพในลักษณะทางเพศออกไปเป็นรอบดึก แต่เพลงนี้ก็ยังขึ้นอันดับหนึ่งทั่วโลกและได้รับการโหวตให้เป็นซิงเกิ้่ลที่ดีที่สุดในรอบทศวรรษแรกของสหัสวรรษใหม่จากนิตยสารและสื่อชั้นนำอย่าง Rolling Stone, Pitchfork, NME และ The Telegraph

3. Womanizer |
Womanizer เป็นเพลงที่ก้าวกระโดดในอันดับเพลงมากที่สุดนั่นคือจากอันดับที่ 96 ขึ้นมาอันดับที่ 1 ในบิลบอร์ดชาร์ต และเป็นเพลงที่สองของเธอที่ขึ้นอันดับหนึ่งนับตั้งแต่ Baby One More Time นับเป็นการ come back ที่สวยงามที่สุดในรอบ 10 ปี มิวสิควิดิโอของเพลงนี้เป็นตอนต่อจากวิดิโอ Toxic ซึ่งบริทนี่ย์ยังคงปลอมตัวในแบบต่างๆ เพื่อสะกดรอยตามแฟนหนุ่มก่อนที่จะเปิดโปงเขาในตอนจบของวิดิโอ

4. Hold It Against Me |
HIAM เป็นเพลงที่เปิดตัวที่อันดับหนึ่งในบิลบอร์ดชาร์ตเป็นเพลงที่สองติดต่อกันกับ 3 ทำให้เธอมีเพลงอันดับหนึ่งเป็นเพลงที่สี่ในปี 2011 Bonnie Mckee ผู้แต่งเพลงนี้บอกว่าได้แรงบันดาลใจในการแต่งเพลงนี้จาก Katy Perry (เพราะเธอทำงานร่วมกับ Katy ในตอนนั้น) โดยเมื่อไม่นานนี้ Mckee ให้สัมภาษณ์ติดตลกว่าเธอแต่งเพลงนี้เพราะพุงกลมๆ ของ Katy เพลง HIAM มียอดดาวน์โหลดสูงที่สุดในสัปดาห์แรกของการขายถึง 411000 ครั้ง (แต่ไม่กี่เดือนต่อมา Born This Way ของ Lady Gaga ก็มาลบสถิตินี้ไป) แต่อย่างไรก็ตาม HIAM ก็เป็นเพลงที่เปิดตัวในอันดับหนึ่งในกว่า 20 ประเทศ เป็นการ come back ที่สวยงามที่สุดของเธอ

5. Circus |
บริทนี่ย์ ให้สัมภาษณ์ว่าเพลงนี้ พูดถึงตัวเธอในฐานะเอนเตอร์เทนเนอร์ สิ่งที่เธอทำ สิ่งที่เธอแสดง มันเหมือนกับละครสัตว์ที่เต็มไปด้วยเครื่องแต่งกายสวยงาม การแสดงสนุกๆ ที่ทำให้คนดูทึ่ง ตอนแรกนั้น Circus จะไม่ได้เป็นอัลบั้มเต็มชุดใหม่ เพราะที่จริงแล้วตอนนั้นบริทนี่ย์วางแผนจะรี-รีลีสอัลบั้ม Blackout Deluxe Edition เพื่อจะใส่เพลงนี้เข้าไปพร้อมเพลงใหม่อีกสี่เพลงเพื่อโปรโมทซิงเกิ้ล Radar แต่ทีมงานของบริทนี่ย์ไม่เห็นด้วยและบอกว่าควรปิดอัลบั้ม Blackout และเปิดอัลบั้มใหม่ดีกว่า จึงเป็นที่มาของอัลบั้มเต็ม Circus ที่ประสบความสำเร็จอย่างมาก

6. Oops … I Did It Again |
เป็นหนึ่งในซิงเกิ้ลที่ขายได้มากที่สุดทั่วโลกตลอดกาล มิวสิควิดิโอเพลงนี้ถ่ายทำกันที่โรงถ่ายที่ 24 ที่เดียวกับที่ใช้ถ่ายหนัง Jurassic Park ในการถ่ายวิดิโอนี้ บริทนี่ย์เป็นคนคิดที่จะแต่งตัวด้วยแคทสูทสีแดงเพลิง และในระหว่างการถ่ายทำเธอได้รับอุบัติเหตุต้องเย็บสี่เข็บที่ศรีษะในฉากนอนบนพื้น เมื่อกล้องเคลื่อนเข้าจับหน้าเธอแบบโคลสอัพ เกิดหล่นโดนเธอเข้า หลังเย็บแผลเธอก็กลับมาถ่ายทำวิดิโอต่อ บริทนี่ย์ออกไอเดียในการถ่ายวิดิโอว่า เธอต้องการสวมชุดแคทสูทและต้องการให้มีมนุษย์อวกาศน่ารักๆ แต่ไม่เอายานอวกาศ ผลที่ได้คือ หนุ่มหล่อในชุดมนุษย์อวกาศชื่อ Eli Swanson ปัจจุบันนี้เขาเป็นศัลยแพทยทไปแล้ว ประโยคสนทนาระหว่างบริทนี่ย์และมนุษย์อวกาศยังอ้างอิงถึงสร้อยคอจากหนัง Titanic อีกด้วย

7. ‘Til The World Ends |
บริทนี่ย์ ให้สัมภาษณ์ถึงเพลงนี้ในรายการวิทยุว่า Til The World Ends เป็นเพลงที่สนุก มันส์ ฉันชอบมาก มันเต็มไปด้วยพลัง ฉันเป็นคนมันส์ๆ นะ ฉันชอบเพลงได้ฟีลสนุกๆ ถ้ามันฟังแล้วสนุก ฉันก็ชอบเลยล่ะ” เพลงนี้แต่งโดย Kesha ซึ่งหากใครคุ้นเคยกับเพลงของเธอจะสัมผัสได้ถึงสไตล์เดียวกันในเพลงนี้ ในฉบับรีมิกซ์ Kesha และ Nicki Minaj ยังมาร่วมแจมเพลงนี้ด้วย ก่อนหน้านี้บริทนี่ย์เคยพูดถึงเซ็ทการถ่ายทำวิดิโอว่ามันมีกลิ่นตุๆ ทำให้มีข่าวลือฮาๆ ในระหว่างการถ่ายทำว่า มีแดนซ์เซอร์คนหนึ่งไปผายลมตรงหน้าเธอ ทำให้ทีมงานคัดนักเต้นคนนั้นออกจากการถ่ายทำ (ส่วนจะจริงเท็จแค่ไหนก็คงยากจะรู้ได้)

8. Gimme More |
เพลงแรกของบริทนี่ย์หลังจากเผชิญกับปัญหาชีวิตหย่าร้างและการฟ้องร้องสิทธิในการเลี้ยงดูลูก ซึ่งต้องนับถือใจของเธอจริงๆ กับการ com back อย่างเข้มแข็งด้วยวลีแรง It’s Britney Bitch! ที่กลายเป็นประโยคคลาสสิคของเธอและแฟนเพลงมาถึงวันนี้ ในช่วงการถ่ายทำเอ็มวีเพลงนี้ บริทนี่ย์ผ่านเรื่องแย่ๆ มามาก เธอจึงแทบจะไม่สนใจอะไรอีกเมื่อผู้กำกับให้สคริปท์การถ่ายทำมา แต่เธอไม่สนใจเลย ทุกอย่างที่ปรากฎในเอ็มวีคือการด้นสดของเธอล้วนๆ

9. Everytime |
ว่ากันว่าเพลงนี้คือเพลงที่บริทนี่ย์บอกความในใจของเธอต่อเพลง Cry Me A River ของ Justin Timberlake หลังจากเลิกกัน แม้ว่าเธอจะไม่เคยออกมายืนยันถึงความจริงข้อนี้ แต่แฟนเพลงที่ได้ฟังต่างก็พอจะสัมผัสได้ถึงสิ่งที่เธออยากบอกโดยเฉพาะในประโยคที่ว่า Please forgive me. My weakness caused you pain. And this song is my sorry. อาจจะพูดได้ว่าเพลงนี้เป็นเพลงจากความรู้สึกของเธอจริงๆ จากที่เธอให้สัมภาษณ์ว่า “ฉันแต่งเพลงนี้พร้อมกับเล่นเปียโน ฉันอยู่ที่บ้านทำอะไรเองทุกอย่างหมดแล้วฉันก็บอกโปรดิวเซอร์ว่าฉันอยากให้เพลงนี้ออกมาแบบไหนยังไง ซึ่งเขาเข้าใจทุกอย่าง เพลงนี้เป็นเพลงที่พิเศษจริง เพราะฉันแต่งมันกับมือ”

10. If You Seek Amy |
เพลงที่ทำให้บริทนี่ย์กลายเป็นที่กล่าวขานถึงด้วยสิ่งที่ซ่อนอยู่ในชื่อเพลง ฟังเผินๆ นี่อาจเป็นเพลงสนุกๆ ที่พูดถึงการตามหาเพื่อนสาวชื่อเอมี่ในงานปาร์ตี้ แต่แท้จริงแล้ววลีที่ว่า If You Seek Amy นั้น หากร้องโดยเชื่อมตัวสะกดเคท้ายคำว่า seek เข้ากับอักษรนำเอของคำว่า Amy วลีนี้จะกลายเป็น F U C K M E ทันที และนี่คือสิ่งที่ทำให้เพลงนี้ของบริทนี่ย์ถูกพ่อแม่ของแฟนเพลงรุ่นเยาว์โจมตีอย่างมาก ถึงขนาดที่ว่าคนที่ร่วมแต่งเพลงนี้กับเธอโดนพ่อแม่ของตนประนามจนเสียคนเลยทีเดียว

https://www.facebook.com/forwardnoww/


Leave a Reply


You must be logged in to post a comment.