อันนี้ได้ฟอร์เวิร์ดเมลล์มาจากเพื่อนนะคะ หลายคนอาจเคยอ่านมาแล้ว
พอดีอ่านแล้วชอบเลยเอามาให้อ่านกันดูค่ะ
ผู้หญิงคนหนึ่งประสบอุบัติเหตุ
ทำให้ต้องตาบอดทั้งสองข้าง
และเธอก็ทุกข์ทรมานกับการสูญเสียการมองเห็น
แต่สามีเธอก็พยายามปลอบใจและให้กำลังใจเธอตลอด
พยายามสอนให้เธอใช้ประสาทสัมผัสให้มากขึ้น
ที่ทำงานของเธอกับสามีอยู่คนละทาง
แต่เขาก็ขับรถไปส่งไปรับอยู่เสมอ
จนวันหนึ่งสามีพูดกับเธอว่า
ให้เธอลองพยายามขึ้นรถเมล์ไปทำงานเอง
โดยที่เขาไม่ต้องไปรับไปส่งได้ไหม

นาทีนั้น
เธอรู้สึกเหมือนโดดเดี่ยวและน้อยใจสามีเธอ
แต่เธอก็พยายามทำตามที่เขาขอ
เธอพยายามขึ้นรถเมล์เอง
พยายามไปทำงานด้วยตัวเอง
จนในที่สุดเธอก็สามารถทำได้
วันหนึ่งก่อนที่เธอจะลงรถไปทำงานตามปกติ
พนักงานเก็บสตางค์ก็เข้ามาจับแขนเธอและพูดกับเธอว่า
ฉันช่างอิจฉาคุณจริงๆค่ะ
เธอก็เลยถามว่า
อิจฉาฉันเรื่องอะไร
พนักงานเก็บสตางค์ก็เลยบอกว่า
สามเดือนที่ผ่านมา
ฉันเห็นสุภาพบุรุษคนหนึ่ง
เขาจะขึ้นรถเมล์ตอนเช้า มานั่งตรงเบาะหลังคุณ
เฝ้ามองดูคุณด้วยความห่วงใย
และตามคุณลงรถไป และเฝ้าดูคุณเดิน
เข้าไปที่ทำงานอย่างห่วงใย
ทุกๆเย็นเขาก็จะมาเฝ้ารอดูคุณขึ้นรถ
และคอยดูคุณจนคุณลงรถ
พอเธอได้ยินดังนั้น
เธอก็น้ำตาไหล
ด้วยความตื้นตันและสำนึกผิด
เพราะตลอดเวลาที่ผ่านมา
เขาไม่เคยทิ้งเธอไปไหน
เขายังอยู่ดูแลเธออย่างใกล้ชิด
เขาเหนื่อยยิ่งกว่าตอนที่เขา
ต้องคอยมารับมาส่งเธอเสียอีก
เธอหวนนึกถึงคำพูดของเขาที่บ่นลอยๆออกมาบ่อยๆว่า
ชีวิตคนไม่แน่นอน อาจตายวันนี้ พรุ่งนี้ ได้เลยนะ..
ดูอย่างคุณสิ เมื่อวานยังมองเห็น
วันนี้ คุณมองไม่เห็นแล้ว
เธอคิดน้อยใจเขามาตลอด ๓ เดือน
ที่คิดว่าเขาเบื่อ รำคาญการเป็นคนตาบอดของเธอ
ณ วันนี้ เธอรู้แล้วว่า เขากลัวว่า
วันนี้ พรุ่งนี้ เขาจะตายไป
แล้วเธอจะไม่สามารถ ไปไหนมาไหน
หรือมีชีวิตอยู่เองได้ ถ้าขาดเขา

_________________
