˹���á Forward Magazine

ตอบ

ไปที่หน้า 1, 2  ถัดไป
ความน่ากลัวในวงการเพลงเกาหลี
ผู้ตั้ง ข้อความ
ตอบโดยอ้างข้อความ
ตอบ ความน่ากลัวในวงการเพลงเกาหลี 


ตามที่เป็นข่าวเกี่ยวกับเรื่องการเซ็นต์สัญญาอันไม่เป็นธรรมของศิลปินที่มีกรณีพิพาทกันมาตั้งแต่ วง ดงบังชินกิ หลังจากนั้นก็เห็นจะมีข่าวเสียๆออกมามากมายเกี่ยวกับวงการเพลงเกาหลี จนกรณีล่าสุด ห้าสาว KARA ก็มายื่นฟ้องอีกทำให้หลายคนที่ติดตามตั้งประเด็นสงสัยเกี่ยวกับ วงการธุรกิจเพลงที่เกาหลี แต่ก่อนจะว่ากันไป มาอัพเดทเรื่องราว ของ สาวๆ KARA กันก่อนนะคะ

สรุปแล้ว สามสาว ซึงยอน-นิโคล-จียอง ยังคงเดินหน้าฟ้องศาลให้บริษัทยกเลิกสัญญาต่อไป โดยหลักๆยังเป็นเรื่องของการ ได้รับค่าตอบแทนน้อยเกินไป รวมไปถึงการยักยอกเงินของพวกเธอ โดยหกเดือนพวกเธอได้รับเงินค่าตอบแทนเพียง 23,500 บาท ซึ่งทางบริษัทเองก็ออกมาปฏิเสธ และขอปรึกษาทนายก่อน เพราะตอนนี้หมายศาลยังมาไม่ถึง สำหรับเรื่องสัญญาการจ่ายเงินจะไปพิสูจน์กันในศาล โดยทางต้นสังกัดหวังว่า สามสาว จะเลิกกล่าวหาในเรื่องที่ไม่เป็นจริงและหวังว่าเรื่องราวจะจบด้วยดีค่ะ





_________________
ดูข้อมูลส่วนตัว ส่งข้อความส่วนตัว
ตอบโดยอ้างข้อความ
ตอบ  
ก่อนจะว่ากันต่อไป เอามาลงเฉยๆ แบบนานๆเห็นชีติดชาร์ตอะไรกับเค้าบ้าง เลย ดีใจ ว่าแจ้งเกิดบ้างแล้วโนะ

Top 16 best KPOP dancing idols!

1. JaeBeom (4365)
2. TVXQ-Yunho (3949)
3. Super Junior-EunHyuk(1668)
4. SS501-Kim Hyun Joong (1578)
5. Beast-GiKwang (1125)
6. Kara-Nicole(1108)
7. SHINee-TaeMin (919)
8. 4Minute-HyunAh (839)
9. After School-Kahi (818)
10. BigBang-TaeYang (670)
11、SNSD-Hyeo Yeon (666)
12. f(x)-Victoria(630)
13.2Ne1-Minzy (616)
14. SNSD- Yuri (563)
15. Beast-Hyun Seung (423)
16. After School-UEE (391)

Source:KRMTV @ KARA Baidu thread
Translated by Kacey @ DKPOPNEWs.NET





_________________
ดูข้อมูลส่วนตัว ส่งข้อความส่วนตัว
ตอบโดยอ้างข้อความ
ตอบ  
กรณีเรื่องสัญญาทาส หรือสัญญาอันไม่เป็นธรรมนี้ กำลังเป็นที่ฮือฮา ทำให้ สื่อที่ญี่ปุ่น ออกมาเขียนวิเคราะห์ไว้ ดังนี้


"ดาราเกาหลีขอเป็นแต่ 'เงิน' เท่านั้น"
[New Daily] วันที่ 2 กุมภาพันธ์ ปี 2011 เวลา 10:11 น.

"ถ้า หากนักแต่งเพลงรุ่นพี่ขายลิขสิทธิ์เพลงของนักแต่งเพลงรุ่นน้องไป รุ่นน้องคนนั้นจะไม่สามารถคัดค้านและได้แต่เพียงกล้ำกลืนน้ำตาตัวเองไว้ ความสัมพันธ์แบบศักดินาในประเทศเกาหลีนั้นเป็นเรื่องเกินจะจินตนาการสำหรับ ประเทศญี่ปุ่น"(ตัวแทนจากค่ายเพลงญี่ปุ่น)

ในวันที่ 2 กุมภาพันธ์ สำนักข่าวญี่ปุ่นได้รายงานว่า "นิตยสาร ญี่ปุ่นรายสัปดาห์ให้เหตุผลเรื่องความขัดแย้งระหว่างไอดอลเพลงป๊อปของเกาหลี กับบริษัทบริหารดูแลศิลปิน อย่างในกรณีของดงบังชินกิและ KARA ว่าเป็นเพราะเรื่อง 'การเรียกว่าเป็นครอบครัว' ที่เป็นลักษณะเฉพาะของเกาหลี"

นิตยสาร ญี่ปุ่นรายสัปดาห์ ชูคันบยุน (Shukanbyun) ฉบับวันที่ 3 กุมภาพันธ์ ได้สัมภาษณ์ดีเจและผู้เชี่ยวชาญเรื่องวงการเพลงป๊อปเกาหลีคือฟุรุยะ มาซายูกิ ตัวแทนดนตรีที่ได้ทำงานร่วมกับวง KARA นักข่าวบันเทิงญี่ปุ่น ตัวแทนจากค่ายเพลงญี่ปุ่นและบุคคลอื่นๆ อีก และได้ตีพิมพ์บทความสรุปจากการสืบข่าวมาว่าทำไม "วงการบันเทิงเกาหลีถึงได้ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากประสบกับความขัดแย้ง"

"ใน ประเทศเกาหลี ธุรกิจวงการบันเทิงมีการใช้การเรียกกันเป็นครอบครัวแบบเฉพาะตัว เพราะความสัมพันธ์ระหว่างศิลปินกับบริษัทนั้นไม่ได้ถูกมองเห็นว่าเป็นการ ติดต่อทางธุรกิจ แต่เป็นเสมือนหนึ่งครอบครัว บริษัท SM Entertainment เรียกศิลปินที่เซ็นต์สัญญากับบริษัททั้งหมดรวมกันว่า 'SM Town' และบริษัท YG Entertainment ก็ทำแบบเดียวกันโดยเรียกว่า 'YG Family' ทั้งสองบริษัทได้พัฒนาสร้างภาพลักษณ์ดังกล่าวขึ้นมา เพราะว่าบริษัททั้งบริษัทแสดงตนว่ามีลักษณ์เป็นครอบครัว จะขัดคำสั่งกรรมการผู้จัดการบริษัทซึ่งรับบทเป็นคุณพ่อนั้นไม่ได้ แม้ว่าคนทั่วไปจะคิดว่าก่อนจะยื่นฟ้องร้องนั้นเป็นไปได้ที่จะประนีประนอมกัน ผ่านการเจรจาก่อน แต่ศิลปินที่เซ็นต์สัญญากับบริษัทเหล่านี้ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากจะตอบรับ ว่า 'ได้ตามปรารถนาครับ/ค่ะ' กับผู้ที่เป็นเสมือนพ่อที่ย้ำอยู่เสมอว่า 'เราดูแลคุณอยู่นะ' ฟุรุยะ มาซายูกิผู้เคยเป็นพิธีกรงานแสดงของ KARA งานหนึ่งในญี่ปุ่นบอกกับนิตยสารว่า "การยื่นฟ้องร้องในกรณีนี้เป็นการส่งสัญญาว่าอยากจะเจรจาด้วยนะ เพราะมันไม่มีหนทางอื่นแล้ว"

ตามที่สำนักข่าวญีป่นได้รายงาน นิตยสารเล่มนี้ไม่เพียงกล่าวถึงเรื่อง 'การเรียกว่าเป็นครอบครัว' แต่ยังชี้ให้เห็นว่าระบบการอุปถัมภ์ไอดอลที่มีแต่เฉพาะในประเทศเกาหลีนั้นเป็นต้นตอของปัญหาด้วย ระบบ จำต้องมี 'สัญญาทาส' เพราะบริษัทบริหารดูแลศิลปินต้องดูดเงินมาเป็นค่าใช้จ่ายในสำหรับที่พัก การเรียนการสอน ค่าเดินทางและค่าการศึกษาในช่วงเวลาระหว่างที่รับศิลปินฝึกหัดผ่านการคัดตัว จนถึงตอนที่พวกเขาได้เดบิวต์ จากนั้นจึงถูกจูงใจให้จำเป็นต้องตักตวงเงินทุนกลับมา "ในศิลปินฝึกหัด 100 คนที่รับเข้ามา มีเพียง 5 คนเท่านั้นที่จะกลายเป็นดารา ทั้งห้าคนนั้นไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากจะรับผิดชอบหาเงินค่าฝึกหัดได้เสียไป กับคนทั้ง 100 คน ในกรณีของดงบังชินกิ สัญญาจ้างระยะเวลา 13 ปีนั้นได้ถูกเรียกว่าเป็น 'สัญญาทาส' แต่ระยะเวลาสัญญายาวนานขนาดนั้นก็เพราะไม่แน่ว่าพวกเขาจะทำเงินได้เท่าไหร่ หลังจากโด่งดังเป็นดารานานเท่าไหร่แล้ว" (ผู้ประกาศข่าวกีฬาเกาหลี)

"แม้ ว่าระยะเวลาสัญญาจะถูกตัดทอนให้สั้นลง แต่เพื่อจะหาเงินมาชดเชยที่ลงทุนไปในระยะเวลาที่สั้นลง บริษัทก็จะต้องบังคับให้ศิลปินมีตารางงานที่หนักมากเกินไป การออกสื่อมากๆ อย่างนั้นไม่ใช่กลยุทธที่ดีเพราะจะทำให้ผู้ชมเกิดความเบื่อหน่ายได้เร็ว ซึ่งยิ่งทำให้ระยะเวลาอาชีพการเป็นศิลปินสั้นเข้าไปอีก" (ผู้รายงานข่าวบันเทิงญี่ปุ่น)

นิตยสาร ยังชี้ให้เห็นถึงวิธีการคำนวณรายได้ที่ขัดแย้งกันเองอย่างมากในธุรกิจวงการ บันเทิงเกาหลี คุณยามาดะ ประธานของสมาคมนักเขียนเอเชียจำได้ว่า "ผมเคยมอบเงินค่าลิขสิทธิ์เพลง (สำหรับหนึ่งเดือนนั้น) ให้กับนักร้องเกาหลีคนนึง พอเห็นจำนวนเงิน เขาถามว่า 'นี่เงินค่าลิขสิทธิ์สำหรับกี่ปีเหรอครับ?' ผมซ่อนความตกใจไว้ไม่อยู่เลยครับ" และวิพากษ์วิจารณ์เรื่องค่าชดเชยลิขสิทธิ์ในธุรกิจวงการบันเทิงเกาหลีซึ่ง อยู่ในระดับด้อยพัฒนาถึงขั้นน่าหัวร่อ ยิ่งไปกว่านั้น นิตยสารได้กล่าวถึงตัวแทนจากค่ายเพลงญี่ป่นและบริษัทบันเทิงผู้วิจารณ์ ศิลปินเกาหลี "ศิลปินเกาหลีรู้จักแต่เพียงคำว่าเงิน เงิน" แต่นี่ก็เพราะมีปัญหาเกี่ยวกับเรื่องรายได้ที่ไม่สะอาดไม่โปร่งใสในเกาหลี พอพวกเขามาประเทศญี่ปุ่นและแสดงปฏิกริยาไวต่อปัญหาเกี่ยวกับเรื่องสัญญาจ้างหรือเงินรายได้

นิตยสาร รายสัปดาห์เล่มนี้สรุปไว้ว่า "ผลที่ตามมา เหตุผลที่ศิลปินเกาหลีพยายามขยายตัวมายังต่างประเทศก็เพราะมันเป็นไปไม่ได้ ที่จะมีชีวิตรอดในตลาดภายในประเทศ ตลาดการขายซีดีในเกาหลีได้ถดถอยมากจนยากที่จะหาร้านขายซีดีจริงๆ ในประเทศและการดาวน์โหลดเพลงผิดกฎหมายก็แพร่หลายมาก จนเป็นไปไม่ได้เลยที่จะได้เงินค่าลิขสิทธิ์ เพราะผู้คนสามารถไปชมรายการเพลงที่ออกอากาศทางทีวีได้เพียงแค่ยืนต่อแถว บัตรคอนเสิร์ตจึงขายไม่ออก ดังนั้นในกรณีนี้ที่คำกล่าวที่ว่า KARA 'ทำเงินในญี่ปุ่นได้มากเป็นสิบเท่าเมื่อเทียบกับในเกาหลี' ดังนั้น 'KARA เป็นคนทรยศที่หวังเงิน' เป็นคำพูดที่ทำให้เข้าใจผิด สำนักข่าวญี่ปุ่นจบการรายงานแต่เพียงเท่านี้

[Trans] การรายงานข่าวโดยสำนักข่าวญี่ปุ่น: ทำไมดาราเกาหลีถึงยื่นฟ้องบริษัทของพวกเขา
JP News’ coverage on why Korean celebrities file lawsuits against their companies

Source: kr.news.yahoo.com (นักข่าว: โอจองริม)
Translated by: Jimmie of TheJYJFiles (shared by: TheJYJFiles)
แปลไทย: ลูกแก้วใสกิ๊งระริ๊ง (walking along with JYJ @ pantip





_________________
ดูข้อมูลส่วนตัว ส่งข้อความส่วนตัว
ตอบโดยอ้างข้อความ
ตอบ  
อ่านไปอ่านมา ในกระทู้พันทิพยืเจ้าเก่าก้ไปเจอข้อความนี้ ถึงกับอึ้ง ว่าจริงหรือ ไม่ วอนแฟนๆดงบังตอบที

สมัยดงบังชินกิ ในสัญญาของทั้งสามคนที่แสดงในศาลหน้าที่ที่บริษัททำมีแค่ จัดการให้ศิลปินทำงานได้ตามตารางงานและดูแลปกป้องชื่อเสียง

นอก นั้น ค่าแดนเซอร์ ค่าเดินทาง สไตล์ลิสต์ ค่าจ้างผู้จัดการ ค่าคนขับรถ น้ำมันรถ ค่าที่พัก ค่าน้ำ ค่าไฟ ศิลปินจ่ายเองหมด หากศิลปิน ป่วย เจ็บ จนไม่สามารถแสดงในงานนั้นๆได้ ศิลปินต้องเป็นคนจ่ายค่าเสียหายในรายได้ที่หายไปของบริษัท สัญญาฉบับก่อนแก้ไข ขายได้ไม่ถึงห้าแสนแผ่นจะไม่ได้รับส่วนแบ่งใดๆเลย วันที่หยุดไปเพราะเจ็บป่วย หรือมีธุระอื่นๆจะถูกบวกเพิ่มไปในระยะสัญญา เช่น ถ้าป่วยเข้าโรงพยาบาลหนึ่งเดือน สัญญาจาก 13 ปี จะเป็น 13 ปี 1 เดือนทันที ไม่รวมกับการนอนวันละสามสี่ชั่วโมง และวันหยุดต่อปีแค่ 10 วันนะคะ

ซึ่งการบริหารจัดการแบบนี้ บางคนอาจจะทนไหว แต่บางคนอาจจะทนไม่ไหว เพราะเป็นไปในลักษณบริษัทได้แต่ฝ่ายเดียว พอทนไม่ไหว ก็พยายามเจรจา เจรจาไม่ได้ก็พึ่งกฏหมายนี่แหละค่ะ

กรณีของโทโฮชินกิ รายรับ 10 แบ่งเป็น9 :1
1ส่วนอันน้อยนิดนั้นแบ่งให้กับสมาชิกห้าคน ไหนจะค่าต่างๆจิปาถะตามที่คห ได้กล่าวไว้
สุดท้าย ทำงานแทบตายรายได้กลายเป็นติดลบเป็นใครก็คงไม่ทำค่ะ
และ9 ส่วนที่เหลือก้อแบ่งไปเป็นโบนัสผุ้บริหาร กินกันท้องแตก อ้วกเรี่ยราดบริษัทกันเลยทีเดียว



_________________
ดูข้อมูลส่วนตัว ส่งข้อความส่วนตัว
ตอบโดยอ้างข้อความ
ตอบ  
กรี๊ดดดดด ถ้าเป็นเรื่องจริงจะเป็นอะไรที่น่ากลัวมากๆ บางทีทาสน่าจะสบายกว่านี้นะคะ

แต่พอไปมองพวกของใช้ของ พวก snsd แล้ว เดี๊ยนก็ได้แต่ทำตาปริบๆ ก็ดูพวกชีจะใช้กระเป๋าแบรนด์กันเยอะแยะมากมาย

แต่บ้างก็ว่า สปอนเซอร์บ้าง แฟนคลับรวมเงินกันซื้อบ้าง (ลงทุนจังเลยค่ะ)

ถ้าเกิดรายได้มันน้อยจริงจะเอาเงินไหนมาซื้อวะ

เอ๊ะ หรือเงิน มืด เงินใต้โต๊ะ ใต้เสื้อผ้า จะเป็นจริงกรี๊ดดดดดดดดดดดด

หรือของบริษัทอะไรยังไง หรือความจริงแล้ว SM หลังๆศิลปินล้วนขายได้ขายดีเป็นเทน้ำเทท่า การเงินของศิลปินเลยไม่ขัดสนเหมือนเดิม

อย่างไรก้แล้วแต่หวังว่า กรณีของสาวๆ KARA คงจะเป็นกรณีสุดท้ายของเรื่องเสียหายแบบนี้นะคะ





_________________
ดูข้อมูลส่วนตัว ส่งข้อความส่วนตัว
ตอบโดยอ้างข้อความ
ตอบ  
งงเหมือนกัน
ไหนว่าได้เงินน้อย
แต่ทำไมของในหอพักเยอะจัง
แต่ดูรายการเรียลลี่ตี้เกาหลี
พอเห็นขนมนี้วิ่งเขาหากันเชียว
อดอยากขนาดนั้นเลยหรอ

ทำไมคาร่าได้เงินน้อยจังอ่ะ
ไม่คุ้มเลย

แล้วอี9ตัวนั้นไม่หารเงินกันตายหรอค่ะ

ศิลปินไทยว่าไงค่ะ
เห็นจะไปโหเกาหลีกันนิ


ดูข้อมูลส่วนตัว ส่งข้อความส่วนตัว
ตอบโดยอ้างข้อความ
ตอบ  
เราว่ามันก็โหดเกินไปนะ กับ วงการเพลงอ่ะ เหมือน ๆ กับวงที่เราชอบอ่า ให้ลดความอ้วนด้วยการวิ่ง 20 กิโล และให้กินแค่ผักกับไข่ต้มแค่นั้นต่อวัน เวรกรรมมากเลย แล้วเรื่องเงินอีก ยิ่งไปใหญ่ได้นิดเดียว แต่ดาราเกาหลีส่วนใหญฐานะทางบ้านดีอยู่แล้วคร่ะ เลยไม่เสียหายเท่าไร ขนาดวงที่ ไม่ดังยังมีปัญญาใช้ของแบนเนมกันเลยคร่ะ


_________________
ดูข้อมูลส่วนตัว ส่งข้อความส่วนตัว ส่ง Email MSN Messenger
ตอบโดยอ้างข้อความ
ตอบ  
น่ากลัวมากเลยอ่ะ ยิ่งพวกเกิลกรุ๊ปเนี่ย ผู้จัดการส่วนตัวเค้าจะตรวจเมนส์ทุกคนเลยว่ามาวันไหนของเดือน เพราะถ้ามาไม่ปกติจะเป็นเรื่องใหญ่ของทั้งวงเอาได้ โหดมากเลยอ้ะ


_________________
ดูข้อมูลส่วนตัว ส่งข้อความส่วนตัว ชมเว็บส่วนตัว
ตอบโดยอ้างข้อความ
ตอบ  
อ่อ อัพเดท วงน่าสงสารอย่าง secret ที่ถึงแม้จะพาเพลง shy boy ขึ้นอันดับหนึ่งได้สำเร็จ แต่พวกชียอมรับกันว่าพวกเธอไม่มีโทรศัพท์มือถือค่ะ จนมีการแซวตลกๆว่าพวกชีเกือบลืมไปแล้วว่ามันใช้ยังไง

และแต่ก่อนวงนี้หอพักเคยอยู่ห้องใต้ดิน ใช้ฟรอย อลูมิเนียมปิดหน้าต่างแทนม่านมาแล้ว

แอร๊ยยยยยยยยยยยยยยยยย รันทดจัง

แต่ตัวอย่างดีดีในวงการเพลงเกาหลีก็มีเช่น ค่าย YG สังกัดของบิ๊กแบง และ 2NE1 ที่ดูเหมือนจะไม่เคยมีปัญหากัน อยู่กันอย่าง วิน วิน รวมไปถึงค่าย JYP ด้วย ซึ่งล่าสุดคนพันทิพย์ก้พากันซาบซึ้งกับความกตัญญูอันยิ่งใหญ่ของโจควอน ที่ซื้อบ้าน (อพาร์ทเม้นท์ดีดีไม่หรูหรามาก) ให้กับครอบครัวได้ หลังจากที่ครอบครัวยอมละทิ้งทุกสิ่งทุกอย่างอยู่อย่างลำบากเพื่อให้โจควอนมาเป็นเด็กฝึก และ กลายเป็นดาราดังในปัจจุบัน

สรุปแล้ว อีค่าย sm น่ากลัวสุดค่ะ ใช้งานหนักจริงๆ ยังจำตอน snsd บูมมากๆช่วง จินนี่ แล้วพากันผลัดแตะมือป่วยกันระนาวแต่ก็ยังต้องไปทำงานได้อยู่เลย



_________________
ดูข้อมูลส่วนตัว ส่งข้อความส่วนตัว
แสดงเฉพาะข้อความที่ตอบในระยะเวลา:
ตอบ หน้า 1 จาก 2
ไปที่หน้า 1, 2  ถัดไป
คุณไม่สามารถสร้างหัวข้อใหม่
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
คุณไม่สามารถแก้ไขข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลบข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลงคะแนน
  


copyright : forwardmag.com - contact : forwardmag@yahoo.com, forwardmag@gmail.com