ในส่วนของ Billboard Chart จะลงเฉพาะอันดับที่ 1-10 และอันดับอื่นๆที่น่าสนใจนะครับ
Billboard Hot 100
1. LMFAO Featuring Lauren Bennett & GoonRock - Party Rock Anthem
2. Pitbull Featuring Ne-Yo, AfroJack & Nayer - Give Me Everything
3. Katy Perry - Last Friday Night (T.G.I.F.)
4. Adele - Rolling In The Deep
5. Nicki Minaj - Super Bass
6. Lil Wayne - How To Love
7. Lady Gaga - The Edge Of Glory
8. OneRepublic - Good Life
9. Hot Chelle Rae - Tonight Tonight
Debut** 10. Demi Lovato - Skyscraper
12. Katy Perry Featuring Kanye West - E.T.
13. Britney Spears - I Wanna Go
Debut**65. Blake Shelton - God Gave Me You
Debut**76. Cobra Starship Featuring Sabi - You Make Me Feel...
Debut**77. Colbie Caillat - What If
Debut**85. Blink-182 - Up All Night
Debut**89. Keith Urban - Long Hot Summer
Debut**92. Alexandra Stan - Mr. Saxobeat
Billboard Hot 200
Debut** 1. Blake Shelton - Red River Blue 116402 รวม 116477
Debut** 2. Incubus, If Not Now - When? 79561 รวม 80071
3. Adele - 21 76717 รวม 2673120
Debut** 4. Chris Young - Neon 72830 รวม 72989
5. Beyoncé - 4 72283 รวม 498186
Debut** 6. Colbie Caillat - All Of You 65950 รวม 66007
7. Jason Aldean - My Kinda Party 42246 รวม 1534126
Debut** 8. Theory Of A Deadman - The Truth Is... 37618 รวม 37782
Debut** 9. Sublime With Rome - Yours Truly 34653 รวม 34784
10. Selena Gomez & The Scene - When The Sun Goes Down 32532 รวม 154890
13. Lady Gaga - Born This Way 25029 รวม 1595402
Debut** 22. Soundtrack - Shake It Up: Break It 16576 รวม 16594
Debut** 25. Soundtrack - Harry Potter And The Deathly Hallows: Part 2 15355 รวม 15387
Debut** 26. Washed Out - Within And Without 15045 รวม 15270
Debut** 28. Suicide Silence - Black Crown 14401 รวม 14565
Debut** 36. Yes - Fly From Here 10908 รวม 11208
Debut** 37. Ashton Shepherd - Where Country Grows 10885 รวม 10932
Debut** 39. Brian McKnight - Just Me 10272 รวม 10364
Debut** 42. Breathe Carolina - Hell Is What You Make It 9987 รวม 10026
Debut** 43. Alkaline Trio - Damnesia 9597 รวม 9822
เพิ่มเติม - Digital Songs Chart
1. LMFAO Featuring Lauren Bennett & GoonRock - Party Rock Anthem 215,000
Debut** 2. Demi Lovato - Skyscraper 176,000
3. Katy Perry - Last Friday Night (T.G.I.F.) 172,000
4. Nicki Minaj - Super Bass 155,000
5. Lil Wayne - How To Love 137,000
6. Pitbull Featuring Ne-Yo, AfroJack & Nayer - Give Me Everything 136,000
7. Hot Chelle Rae - Tonight Tonight 131,000
8. Adele - Rolling In The Deep 130,000
9. Jason Aldean - Dirt Road Anthem 116,000
10. OneRepublic - Good Life 114,000
11. Britney Spears - I Wanna Go
13. Lady Gaga - The Edge Of Glory 91,000
21. Brad Paisley Duet With Carrie Underwood - Remind Me
22. Beyoncé - Best Thing I Never Had
Debut** 24. T-Pain Featuring Joey Galaxy - Booty Wurk (One Cheek At A Time)
25. Katy Perry Featuring Kanye West, E.T.
Debut** 41. Blake Shelton - God Gave Me You
Debut** 47. Colbie Caillat - What If
82. Beyoncé - Run The World (Girls)
Debut** 142. Chris Young - You
Debut** 187. Theory Of A Deadman - Lowlife
Debut** 188. Incubus - If Not Now, When?
July 15-17, 2011
Weekend
Weekly Box Office
July 15-21, 2011
สุดสัปดาห์ตำนานพ่อมดน้อยมหัศจรรย์
1. HP7.2 เปิดตัว$168.55m เสียงวิจารณ์ดีมาก ...สำหรับเราแม้จะหวังไว้มากกว่านี้ แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าเป็นบทสรุปที่น่าพอใจสมกับเป็นตำนาน ถ้าออสการ์ไม่เปลี่ยนกฎ BestPic มีหวังติด 1ใน10ผู้เข้าชิงแน่ๆ
2. Transformers 3 อีก$21.25m รวม$302.8m โลก$762.8m
3. Horrible Bosses ฮิต$17.63m รวม$60m กำไรงาม
4. Zookeeper อีก$12.3m รวม$42.35m
5. Cars 2 รวม$165.32m
6. Winnie the Pooh เปิดตัว$8m เสียงวิจารณ์ค่อนไปทางบวก ผู้ใหญ่เบื่อ แต่นี่แหละที่เหมาะกับเด็กจริงๆ (มากกว่าการ์ตูนของPixarด้วยซ้ำ)
7. Bad Teacher $88.5m
10. Midnight in Paris $41.79m สูงสุดในบรรดาหนัง Woody Allen แล้ว
16. The Tree of Life เรื่อยๆในวงจำกัดและคงไม่ได้เปิดตัวในวงกว้างแล้ว $10.08m โลก$33.4m ฉายผิดช่วงเวลาจริงๆ นอนรอลุ้นรางวัล แทนกำไรไปแล้วกัน ถึงจะไม่เจ๊ง แต่ก็ไม่คุ้มที่ลงทุนลงแรงนะ
Thailand B.O.
1. HP7.2 เปิดตัว99m แพ้หุ่นยนต์เมื่อ2สัปดาห์ก่อน (115m) แม้จะเป็นช่วงวันหยุดยาว แต่บางคนอาจ เลือกไปเที่ยวพักผ่อน บางคนก็รอให้สอบกลางภาคเสร็จก่อนค่อยไปดูทีหลังและอาจไปเป็นกลุ่มใหญ่ด้วย สรุปเปิดตัวระดับนี้ไม่ถือว่าเสียฟอร์ม
2. Transformers 3 ยังแรงอีก20m รวม270m! จะถึง300mมั้ย? ลืมบอกไปตอนนี้ Transformers 3 แซง Avatar ขึ้นเป็นหนังเทศทำรายรับสูงสุดในไทยแล้ว ใกล้เคียงกันที่ 270m แต่หนังหุ่นยนต์เพิ่งฉาย3สัปดาห์เอง
3. The Lost Bladesman หนังสามก๊ก เทพเจ้ากวนอู เปิดตัว4.7m
4. The Tree of Life รวม1.1m
5. Arrietty รวม0.7m
- Emma Watson จะรับบทนำในหนัง Beauty and the Beast ซึ่งมีผกก. Guillermo del Toro (Pan's Labyrinth, 2006) เป็นโปรดิวเซอร์
Oscar 2012 Top Contenders
(title; director; actor)
- A Dangerous Method;
David Cronenberg (Eastern Promises, 2007); Michael Fassbender, Viggo Mortensen, Keira Knightley
- Tinker Tailor Soldier Spy;
Tomas Alfredson (Let the Right One In, 2008); Gary Oldman, Colin Firth, Tom Hardy, Mark Strong
- The Tree of Life;
Terrence Malick (The Thin Red Line, 1998); Brad Pitt, Jessica Chastain, Sean Penn
- War Horse;
Steven Spielberg (Munich, 2005); Emily Watson, David Thewlis
- Extremely Loud and Incredibly Close;
Stephen Daldry (The Reader, 2008); Tom Hanks, Sandra Bullock
- Midnight in Paris;
Woody Allen (Vicky Cristina Barcelona, 2008); Owen Wilson, Rachel McAdams, Marion Cotillard
- Carnage;
Roman Polanski (The Pianist, 2002); Jodie Foster, Kate Winslet, Christoph Waltz, John C. Reilly
- J. Edgar;
Clint Eastwood (Changeling, 2008); Leonardo DiCaprio, Armie Hammer, Naomi Watts, Dame Judi Dench
- The Ides of March;
George Clooney (Good Night, and Good Luck., 2005); Ryan Gosling, Philip Seymour Hoffman, Paul Giamatti, Marisa Tomei, Evan Rachel Wood, George Clooney
- Young Adult;
Jason Reitman (Up in the Air, 2009); Charlize Theron, Patrick Wilson
- The Artist;
Michel Hazanavicius; Jean Dujardin, Bérénice Bejo (France)
- The Girl with the Dragon Tattoo;
David Fincher (The Social Network, 2010); Rooney Mara, Daniel Craig, Stellan Skarsgård, Robin Wright
- The Descendants;
Alexander Payne (Sideways, 2004); George Clooney
- 50/50;
Jonathan Levine; Joseph Gordon-Levitt, Seth Rogen, Anna Kendrick, Bryce Dallas Howard
- The Help;
Tate Taylor; Emma Stone, Viola Davis, Bryce Dallas Howard
- Moneyball;
Bennett Miller (Capote, 2005); Brad Pitt, Jonah Hill, Philip Seymour Hoffman
- We Bought a Zoo; Cameron Crowe (Almost Famous, 2000); Matt Damon, Scarlett Johansson, Elle Fanning
(เพิ่มเติม)
แม้ส่วนใหญ่จะยังไม่ฉาย แต่ถูกพิจารณาจาก ทีมงานที่น่าเชื่อถือ และกระแสชื่นชมเบื้องต้นจากนักวิจารณ์และบุคคลวงในกลุ่มหนึ่งที่มีออกมาหลังรอบพรีวิว
ต่อไปจะเป็นหนังที่อาจมีเซอร์ไพรส์ขึ้นมาท่ามกลางตัวเก็งก่อนหน้า
- On the Road;
Walter Salles (The Motorcycle Diaries, 2004); Sam Riley, Garrett Hedlund, Kristen Stewart, Viggo Mortensen, Amy Adams, Kirsten Dunst
- The Wettest County in the World;
John Hillcoat (The Road, 2009); Tom Hardy, Shia LaBeouf, Gary Oldman
- Contagion;
Steven Soderbergh (Traffic, 2000); Gwyneth Paltrow, Matt Damon, Kate Winslet, Marion Cotillard, Jude Law, John Hawkes
- Rampart;
Oren Moverman (The Messenger, 2009); Woody Harrelson, Ben Foster, Robin Wright, Sigourney Weaver
- Albert Nobbs;
Rodrigo García (Mother and Child, 2009); Glen Close, Mia Wasikowska, Jonathan Rhys Meyers, Brendan Gleeson, Aaron Johnson
- The Iron Lady;
Phyllida Lloyd (Mamma Mia!, 2008); Meryl Streep, Jim Broadbent
- Coriolanus;
Ralph Fiennes; Ralph Fiennes, Gerard Butler, Vanessa Redgrave
และสำหรับแฮร์รี่7.2ที่กำลังเป็นขวัญใจทั้งนักวิจารณ์และคนดู มีข่าวว่าได้นำไปฉายให้คณะกรรมการส่วนหนึ่งดูแล้วชอบมาก แต่ยังไม่มีใครกล้าฟันธงว่าจะมีสิทธิ์หลุดรอดเข้าไปเป็น1ในผู้เข้าชิง Best Picture ได้เลย
อาทิตย์นี้กว่าจะทำธุระเสร็จก็เกือบจะมืดค่ำแล้ว กะว่าคงไม่ได้ตั้งกระทู้ แต่พอเปิดอิเตอร์เน็ตมาดูข่าวแทบช็อค มีแต่การสูญเสียเกิดขึ้นเยอะมากๆ ไล่ตั้งแต่ในไทยเราเอง การเสียชีวิตของทหาร ตอนดูข่าวเพื่อนบอกว่า มีป้าคนนึงสูญเสียลูกชายจากเหตุเครื่องบินตก 3 คนจากการตก 3 ครั้ง คือคนแรกตกในครั้งแรก แล้วพวกน้องๆหรือพี่ก็เป็นหน่วยที่ไปรับศพแต่ดันเกิดตกขึ้นอีก ,, อีกข่าวก็ ก่อการร้ายที่นอร์เวย์ และที่ตกใจมากที่สุดก็คือ ข่าวการเสียชีวิตของ Amy Winehouse นักร้องนักแต่งเพลงมากฝีมือ
เมื่อครั้งหนึ่งนานมาแล้วหลายๆคนคงเคยได้รับ ForwardMail เกี่ยวกับ 27 อาถรรพ์ของนักดนตรีร๊อค-บลูส์ ครั้งนี้จะนำมาให้อ่านกันอีกรอบ
Club 27 หรือ Forever 27 Club หมายถึงกลุ่มนักดนตรีที่มีชื่อเสียงและมีอิทธิพลต่อเพลงร๊อค (Rock) และบลูส์ (Blues) ที่เสียชีวิตขณะมีอายุได้ 27 ปี - สมาชิกในกลุ่มนี้ที่มีชื่อเสียง ได้แก่ Brian Jones, Jimi Hendrix, Janis Joplin, และ Jim Morrison - สามคนหลัง (Jimi Hendrix, Janis Joplin, และ Jim Morrison ) เสียชีวิตไล่เลี่ยกันในระยะเวลาแค่ 10 เดือน - นอกจากนี้ Brian Jones และ Jim Morrison ได้เสียชีวิตวันเดียวกัน (3 กรกฎาคม) แต่ห่างกัน 2 ปี
ส่วน Kurt Cobain ที่เสียชีวิตเมื่อปี 1994 นั้นถูกรวมเข้าไปทีหลัง เนื่องจากชื่อเสียงอันโด่งดังและเสียชีวิตขณะที่กำลังถึงจุดสูงสุดในอาชีพนักดนตรี ในหนังสือชื่อ Heavier Than Heaven ได้กล่าวว่า หลังจากที่ Cobain เสียชีวิต น้องสาวของเขาได้พูดติดตลกไว้ว่า พี่ชายของเธอเคยพูดไว้ว่าอยากเข้าร่วม Club 27 ...ในบางลิสท์ (List) มีการนำเอานักดนตรีคนอื่นๆ ที่เสียชีวิตขณะอายุ 27 ปี เข้ารวมไว้ด้วย
Charles R. Cross ผู้เขียนชีวประวัติของ Cobain และ Hendrix ได้กล่าวว่า "เป็นที่น่าสังเกต (Remarkable) ที่นักดนตรีที่มีชื่อเสียงโด่งดังหลายต่อหลายคน เสียชีวิตขณะอายุได้ 27 ปี ทั้งๆ ที่มนุษย์เราสามารถเสียชีวิตเมื่อไหร่ก็ได้ ไม่ว่าจะอายุเท่าไหร่ก็ตาม"
Brian Jones
- The Rolling Stones วงร๊อคกรุ๊บ จาก อังกฤษ เมืองลอนดอน ในยุค 60's ช่วงเดียวกับ The Beatles มี Brian Jones เป็นหัวหลักในการก่อตั้งวง และเล่นกีตาร์ และ ฮาร์โมนิกา - เขาถูกพบว่าเสียชีวิตจากการจมน้ำในสระว่ายน้ำของตัวเอง เมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม 1969
Jimi Hendrix
- เขาเป็นมือกีต้าร์ชาวอเมริกันและเป็นหนึ่งในมือกีต้าร์ร๊อคที่เยี่ยมที่สุดเท่าที่เคยมีมา นอกจากนี้ยังเป็นนักร้องและนักแต่งเพลงของวงดนตรีที่ชื่อ The Jimi Hendrix Experience และ Band of Gypsys Jimmy Hendrix ถือว่ามีอิทธิพลในแนวร็อคเป็นอย่างมาก เป็นผู้สร้างประวัติการณ์ทางดนตรีที่ไม่เคยมี ใครทำมาก่อน ซึ่งนักกีต้าร์หลายคนก็ได้นำแนวทางของเขาเข้ามาใช้ ไม่ว่าจะเป็น Eric Clapton,Jeff Beck, และ Pete Townshend ซึ่งให้การยอมรับนับถือ Hendrix ราวกับเขาเป็นพระเจ้าเลยทีเดียว
นี่คือชายผู้สร้างตำนานที่ Woodstock อัจริยะผู้ที่ใคร ๆ ยกย่องว่าคืออันดับ 1 เเห่งวงการกีตาร์ ผู้ถูกร่ำลือว่าได้ขายวิญญาณให้กับซาตาน- เขาเสียชีวิตเมื่อวันที่ 18 กันยายน 1970 ว่ากันว่าเสียชีวิตเพราะเสพยาเกินขนาด
Janis Joplin
- เธอน่าจะเป็นศิลปินหญิงแห่งยุค 60 ที่โด่งดัง และได้รับการกล่าวขานถึงมากที่สุดคนหนึ่งท่ามกลางกระแสธารแห่งการเรียกร้องอิสระและเสรีภาพของหนุ่มสาวในยุค บีท เจเนอเรชั่น Janis Joplin ถือได้ว่าเป็นศิลปินผิวขาวคนแรกๆในโลกที่ร้องเพลงบลูส์ และกล้าแสดงออกถึงความเป็นปัจเจกชนที่มีอยู่ในตัวอย่างเหลือล้นบทเพลงที่เธอร้องและแสดงออกทำให้เราหวนระลึกถึงดนตรีและสภาพสังคมในยุค 60 ได้เป็นย่างดี
เป็นนักร้อง-นักแต่งเพลงชาวอเมริกันของวง Big Brother and the Holding Company, The Kozmic Blues Band และ Full Tilt Boogie Band - ในปี 2004 นิตยสารโรลลิ่งสโตนส์ (Rolling Stone Magazine) จัดให้เธออยู่ในอันดับที่ 46 จาก 100 อันดับศิลปินที่ดีที่สุดตลอดกาล (100 Greatest Artists of All Time) และในปี 2008 ถูกจัดอยู่ในอันดับที่ 28
Janis Joplin เป็นผู้หญิง ที่มีบุคลิกทางกายภาพคล้ายผู้ชายมาก ซึ่งเธอก็ยอมรับว่ามันเป็นเช่นนั้นจริงๆ ไลฟ์สไตล์ของ Janis Joplin นั้นมีความเป็นบุปผาชนเอามากๆ สิ่งนี้สามารถทำให้เธอปล่อยตัวปล่อยใจตามที่เธอต้องการได้อยู่ตลอดเวลา บุคลิกของเธอนั้นไม่สามารถคาดเดาได้เลย Janis Joplin ชื่นชอบการมั่วร่วมประเวณีกันเป็นกลุ่มอย่างมากป็นบางเวลา และในช่วงเวลาสุดท้ายแห่งชีวิต Janis Joplin ก็จากพวกเราไปด้วยด้วยใจสลายด้วยความทรมานอย่างแสนสาหัสจากชีวิตที่ต้องอยู่อย่างโดดเดี่ยวตลอดมา นี่คือบางส่วนของบทความของ Myra Friedman นักหนังสือพิมพ์และนักเขียนที่เขียนอัตชีวประวัติของเธอออกมาหลังจากที่ Janis เสียชีวิตลงจากการเสพยาเสพย์ติดเกินขนาด เมื่อวันที่ 4 ตุลาคม 1970
Jim Morrison
- เขาเป็นนักร้องระดับตำนานและเป็นนักแต่งเพลง เป็นนักร้องนำวง The Doors วงร็อคแนวไซคิเดลิคร็อค (Psychedelic rock)และบลูส์ร็อค เสียชีวิตจากการเสพยาเสพติดเกินขนาด ในขณะที่กำลังมีชื่อเสียงและได้รับความนิยมในหมู่คนรุ่นใหม่ และยอมรับกันในกลุ่มของเหล่าบุปผาชนทีใฝ่หาเสรีภาพ ต้องการหลีกหนีสังคมที่เต็มไปด้วยกฏระเบียบที่ผู้ใหญ่สร้างและกำหนดขึ้น- เขาเสียชีวิตที่กรุงปารีส เมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม 1971 สาเหตุการเสียชีวิตนั้น ว่ากันว่ามาจากอาการหัวใจล้มเหลว แต่ก็ไม่มีการชันสูตรศพ แม้เขาจะเสียชีวิตมานานแล้ว แต่เขาและวง The Doors ยังคงเป็นแรงบันดาลใจให้กับนักดนตรีในทุกยุคทุกสมัย
Kurt Cobain
- หลายคนอาจจะรู้จักเขาผู้นี้มาบ้างแล้ว แต่หลายคนก็อาจจะไม่เคยได้ยินชื่อของเขา Kurt เป็นนักร้องนำของวง Nirvana วง Grunge Rock ที่โด่งดังอย่างมากในช่วงปีต้นปี 1990s เขาถือเป็นปัจเจกชนผู้หนึ่งที่แสดงออกทั้งจากการแต่งกายคือชอบใส่เสื้อแขนยาว กางเกงยีนส์ขาด ๆ การเล่นดนตรีที่เต็มไปด้วยพลัง ถ่ายทอดถ่วงทำนองและเนื้อหาของดนตรีแนว Grunge Rock ส่งถึงผู้ชมได้อย่างเต็มเปี่ยม และเนื่องจากเขาเป็นคนถนัดซ้าย เพราะฉะนั้นจึงต้องใช้ความพยายามมากกว่าคนปกติในการเล่นกีต้าร์ ส่วนชื่อวง "Nirvana" นั้นได้แรงบันดาลใจมาจากศาสนาพุทธ ซึ่ง Kurt สนใจ
นอกจาก Kurt จะเป็นนักร้องนำและมือกีต้าร์ของวงแล้ว เขายังเป็นนักแต่งเพลงหลักของวง เขาให้ความเห็นในการแต่งเพลงว่า "สนใจเสียงดนตรีมากกว่าเนื้อเพลง เนื้อเพลงจะตามมาภายหลังและสำคัญน้อยที่สุดในเพลง" (อันนี้ผมเห็นด้วยมาก ๆ) แต่ Kurt นั้นก็มีข้อเสียคือช่วงหลัง เขาติดเฮโรอีนยาเสพย์ติดที่ให้โทษร้ายแรง ทำให้เขาซึมเศร้าและจบชีวิตตัวเองด้วยการใช้ปืนลูกซองยิงตัวตายที่บ้านในปี 1994 ในขณะที่อายุเพียง 27 ปี เมื่อวันที่ 8 เมษายน 1994
นอกจากนี้ยังมีนักร้อง-นักดนตรีอีกหลายสิบชีวิตที่จากไปตอนอายุ 27 ปี และคนล่าสุดที่ถูกบันทึกชื่อลงไปนั่นคือ Amy Winehouse
ประวัติ ขอเอามาจาก wiki เลยเนอะเพราะ จากที่ดูๆค่อยข้างละเอียดเพราะนำมากจาก wiki .org ด้วยซึ่งค่อนข้างน่าเชื่อถือ
Amy Jade Winehouse เกิดเมื่อวันที่ 14 กันยายน ค.ศ. 1983 ที่ลอนดอน เป็นนักร้องแนวโซลชาวอังกฤษ และนักแต่งเพลงแจ๊ส
อัลบั้มชุดแรกของเธอออกในปี 2003 ชื่อชุด Frank ได้ถูกเสนอชื่อรางวัล Mercury Prize และเธอได้รับรางวัลไอวอร์ โนเวลโล ในปี 2004 สำหรับซิงเกิลเปิดตัวของเธอ "Stronger than Me" และอีกครั้งหนึ่งในเดือน พฤษภาคม 2007 กับซิงเกิลแรกจากอัลบั้มในปี 2006 Back to Black ในเพลง "Rehab" และต่อมาในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ยังได้รับรางวัลบริทอวอร์ด สาขาศิลปินหญิงที่ดีที่สุดของเกาะอังกฤษ นอกจากนั้นยังได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลเอ็มทีวี วิดีโอ มิวสิก อวอร์ดส ปี 2007 อีกด้วย
ทางด้านชีวิตส่วนตัว เธอได้เข้าพิธีแต่งงานกับแฟนหนุ่ม เบลค ฟิดเลอร์ เมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม 2007 เกี่ยวกับสุขภาพเธอมีปัญหาติดยาและติดเหล้า เธอเคยถูกจับกุมข้อหาครอบครองยาเสพติด พร้อมกับเบลก ฟิล์ดเดอร์-ซิวิล สามีของเธอ และในช่วงปลายปี 2007 โดนจับอีกครั้งเนื่องจากข้อหาทำร้ายร่างกายสามี แต่ทั้งสองคดีจบไปตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์
Amy Winehouse เกิดที่เขต Southgate area of north London เธอเกิดในครอบครัวเชื้อสายยิวที่รักดนตรีแจ๊ส ครอบครัวของเธอมีสมาชิก 4 คน พ่อของเธอชื่อ Mitchell Winehouse ทำอาชีพเป็นคนขับรถแท็กซี่ แม่ของเธอชื่อ Janis Winehouse ทำอาชีพเป็นเภสัชกร และพี่ชายของเธอชื่อ Alex
ในตอนที่เอมี่ยังเป็นเด็กพ่อของเธอมักจะร้องเพลงของ Frank Sinatra ซึ่งทำให้เอมีร้องเพลงแบบนั้นมาจนถึงปัจจุบัน แม้แต่ตอนที่เธอเป็นนักเรียน ครูมักจะดุเธอเรื่องร้องเพลงในห้องเรียนเสมอ
เมื่อเอมีอายุได้ 9 ขวบ คุณยายของเธอชื่อ Cynthia แนะนำให้เธอเข้าโรงเรียนสอนการแสดง the Susi Earnshaw Theatre School เมื่อเธออายุ 10 ขวบ เธอได้ตั้งวงเพลงแร็ปชื่อ Sweet 'n' Sour กับเพื่อนชื่อJuliette Ashby เอมีเรียนอยู่ที่โรงเรียน Susi Earnshaw ได้ 4 ปี จึงย้ายไปเรียนต่อที่โรงเรียนสอนการแสดง Sylvia Young Theatre School เธอได้ร่วมแสดงในละครเรื่อง The Fast Show กับเพื่อนนักเรียนคนอื่นๆ ในปีค.ศ. 1997 แต่พอเธออายุได้ 14 ปี เธอก็ถูกไล่ออกเนื่องจากไม่ตั้งใจเรียนและไปเจาะจมูกมา หลังจากนั้นเธอจึงไปเข้าโรงเรียนบริท (BRIT School) ซึ่งเป็นโรงเรียนสอนศิลปะการแสดงและเทคโนโลยี in Selhurst, Croydon
การเข้าสู่วงการ
เอมีได้กีต้าร์เป็นของตัวเองครั้งแรกเมื่ออายุ 13 ปี เธอได้เริ่มแต่งเพลง และทำงานต่างๆ เช่น เป็นนักหนังสือพิมพ์ให้กับ World Entertainment News Network และร้องเพลงในวงดนตรีแจ๊ส เป็นต้น แฟนหนุ่มในขณะนั้นของเธอ ชื่อ Tyler James ซึ่งเป็นนักร้องเพลงโซลได้ส่งเทปเพลงตัวอย่างของเอมีไปให้ A&R ทำให้เธอได้เซ็นต์สัญญากับ Island Records/Universal ซึ่งอยู่ภายใต้การดำเนินงานของบริษัท 19 Management ของ Simon Fuller และกับ EMI เอมีได้ร่วมร้องเพลงและออกทัวร์กับ Sharon Jones's และ the Dap-Kings
อัลบั้มชุดแรกของเธอคือ Frank วางจำหน่ายครั้งแรกวันที่ 20 ตุลาคม ค.ศ. 2003 อัลบั้มชุดนี้ควบคุมดูแลโดย Salaam Remi เพลงส่วนใหญ่จะออกแนวแจ๊ส นอกจากนี้ยังมีเพลงที่เธอนำมาร้องใหม่ 2 เพลง เอมีมีส่วนร่วมในการแต่งเพลงทุกเพลงในอัลบั้มนี้ เธอได้รับบทวิจารณ์ในแง่ดีอย่างล้นหลาม พร้อมทั้งได้รับคำชมเชยมากมายว่า เนื้อเพลงเยี่ยมและน่าจับตามอง และได้มีการเทียบเคียงเสียงร้องของเธอกับ Sarah Vaughan, Macy Gray และนักร้องชื่อดังคนอื่นๆอีกด้วย
อัลบั้ม Frank ติดอันดับต้นๆของ UK Albums Chart ในปี ค.ศ. 2004 เมื่ออัลบั้มนี้ได้ถูกเสนอชื่อขึ้นชิง BRIT Awards ในสาขา British Female Solo Artist และ British Urban Act นอกจากนี้ยังได้รับรางวัล platinum อีกด้วย ในปีเดียวกันนั้นเอง เธอได้รับ Ivor Novello (songwriting) Award for Best Contemporary Song, สาขาเพลงร่วมสมัยยอดเยี่ยม จากซิงเกิลเปิดตัว "Stronger Than Me" คู่กับโปรดิวเซอร์ของเธอ Salaam Remi ยิ่งไปกว่านั้น อัลบั้ม Frank ยังถูกเสนอชื่อขึ้นชิง Mercury Music Prize อีกด้วย เอมีได้ไปร้องเพลงในเทศกาลเพลง Glastonbury Festival ด้วย
เอมีกล่าวว่า เธอพอใจกับอัลบั้ม Frank เพียง 80% เท่านั้น เนื่องจากเพลงบางส่วนไม่ใช่ตัวเธอ ในช่วงระหว่างการทำอัลบั้มที่ 2 เธอกล่าวว่า เธอไม่สามารถฟังเพลงในอัลบั้ม Frank ได้อีกต่อไป จริงๆคือเธอไม่เคยฟังมันได้เลย ถึงแม้เธอจะชอบร้องมัน แต่สำหรับการฟังนั้น มันคนละเรื่องเลย เอมียังกล่าวอีกว่า เธอฟังเพลงในอัลบั้ม Frank ได้ไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว แต่อย่างไรก็ตามเธอก็ภูมิใจกับมัน เอมีคิดว่ามันเป็นอัลบั้มที่ยอดเยี่ยมของเธอ ไม่ใช่ว่าเธอไม่ชอบอัลบั้มนี้ แต่เธอต้องทำให้แตกต่างออกไป
ความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่
ในอัลบั้มชุดที่ 2 เอมีเปลี่ยนจากแนวแจ๊สในอัลบั้ม Frank มาเป็นแนวของนักร้องวงผู้หญิงในยุค 50และ 60 เอมีกล่าวว่า หลังจากเสร็จสิ้นจากอัลบั้ม Frank เธอไม่สามารถแต่งเพลงได้เลยตลอดระยะเวลา 18 เดือน จนกระทั่งเอมีได้พบกับ Mark Ronson ผู้เป็นแรงบันดาลใจให้เธอ เธอจึงแต่งเพลงได้ครบทั้งอัลบั้มภายใน 6 เดือน หลังจากซิงเกิล "Fuck Me Pumps" ต้นปีค.ศ. 2006 เพลงจากอัลบั้มที่ 2 ของเอมี ได้แก่ เพลง "Wake Up Alone" และ เพลง "Rehab" ก็ได้กระจายเสียงผ่านทางคลื่นวิทยุ East Village Radio ในนิวยอร์ก ในรายการของ Mark Ronson ต่อมาเพลงทั้งสองนี้ได้ถูกรวมเข้าในอัลบั้มที่ 2 ของเธอด้วย และมีเพลงอื่นๆในอัลบั้มนี้เปิดในวิทยุเช่นเดียวกัน
อัลบั้มชุดที่ 2 ของเอมี มีชื่อว่า Back to Black มีจำนวนเพลงทั้งสิ้น 11 เพลง อัลบั้มนี้เริ่มโปรโมทในต้นเดือนตุลาคม ค.ศ. 2006 และวางจำหน่ายในสหราชอาณาจักรวันที่ 30 เดือนเดียวกัน โปรดิวเซอร์อัลบั้มนี้คือ Salaam Remi และ Mark Ronson อัลบั้ม Back to Black ติดอันดับ 1 ของ UK Albums Chart เป็นเวลาหลายครั้ง และติดอันดับ 7 ของ Billboard 200 ในสหรัฐอเมริกา อัลบั้ม Back to Black ขายได้ best-selling album in the UK in 2007, selling 1.85 million copies over the year
ปัจจุบันมีซิงเกิลหลายตัวจากอัลบั้ม Back to Black โดยซิงเกิลแรกของอัลบั้มนี้คือ "Rehab" โปรดิวซ์โดย Mark Ronson และได้ออกอากาศในวันที่ 23 ตุลาคม ค.ศ. 2006 ซิงเกิลนี้ติดอันดับสูงสุดอันดับ 7 ของ ยูเค ซิงเกิลส ท็อป 75 และได้รับ Ivor Novello Award สาขาเพลงร่วมสมัยยอดเยี่ยมอีกด้วย หลังจากที่เอมีได้ร้องเพลง "Rehab" ที่งาน MTV Movie Awards ประจำปีค.ศ. 2007 ซิงเกิล "Rehab" ก็ติดอันดับสูงสุดอันดับ 9 ของ Billboard Hot 100 ในสัปดาห์ที่ 26 ของปีค.ศ. 2007 (สัปดาห์ของวันที่ 21 มิถุนายน) อย่างรวดเร็วTime magazine ให้ "Rehab" เป็นอันดับ 1 ใน 1 ใน 10 เพลงยอดเยี่ยมประจำปีค.ศ. 2007 นักเขียนคอลัมน์ Josh Tyrangiel ได้ยกย่องเอมีเกี่ยวกับความมั่นใจในตัวเองของเธอและให้ความคิดเห็นว่า "จากลักษณะพูดพล่ามที่ติดตลกและยั่วยวน จนอาจถึงขั้นสติแตกนี่เองที่เป็นเสน่ห์ในแบบฉบับของหล่อนที่ยากเกินห้ามใจ และเมื่อได้ผสานกับฝีมือการสร้างชั้นยอดของ Mark Ronson ที่ผลิตแต่ผลงานเพลงโซลขั้นเทพมาตลอดสี่ทศวรรษ เชื่อได้เลยว่าคุณจะไม่ผิดหวังที่ได้บทเพลงที่ดีที่สุดของปีค.ศ. 2007 จากเขาและเธอคนนี้"
ซิงเกิลที่สองของอัลบั้ม Back to Black คือ "You Know I'm No Good" วางจำหน่ายในวันที่ 8 มกราคม ค.ศ. 2007 ในซิงเกิลนี้ประกอบด้วยรีมิกซ์ที่ให้เสียงร้องจังหวะแร็พโดย โกสต์เฟซ คิลลาห์ ซิงเกิล "You Know I'm No Good" ติดอันดับ 18 ของ UK Singles Chart ต่อมาซิงเกิล "Back to Black" ซึ่งมีชื่อเดียวกันกับอัลบั้มก็ได้วางจำหน่ายที่สหรัฐอเมริกาในเดือนมีนาคม ค.ศ. 2007 และที่สหราชอาณาจักรในวันที่ 30 เมษายน ปีเดียวกัน ซิงเกิล "Back to Black" ติดอันดับสูงสุดอันดับที่ 25 และในวันที่ 5 เดือนพฤศจิกายน ค.ศ. 2007 อัลบั้ม Back to Black แบบพิเศษก็ได้วางจำหน่ายในสหราชอาณาจักร ในอัลบั้มนี้จะมีแผ่นซีดีเพิ่มอีกหนึ่งแผ่นซึ่งประกอบไปด้วย B-sides เพลงที่หาฟังยาก เพลงที่ร้องสด และอื่นๆ เช่นเพลง "Valerie" ซึ่งดีวีดีการแสดงของเอมี I Told You I Was Trouble: Live in London ก็ได้วางจำหน่ายในสหราชอาณาจักรในวันเดียวกันนั้นด้วย ส่วนในสหรัฐอเมริกาวางจำหน่ายวันที่ 13 พฤศจิกายน ค.ศ. 2007 ดีวีดีนี้ประกอบด้วยบันทึกการแสดงสดของเธอที่ Shepherds Bush Empire ณ กรุงลอนดอน และสารคดีความยาว 50 นาทีเกี่ยวกับการเข้าสู่วงการของเธอย้อนไป 4 ปี ในวันที่ 10 ธันวาคม ค.ศ. 2007 ซิงเกิล "Love Is a Losing Game" ซึ่งเป็นซิงเกิลตัวสุดท้ายของอัลบั้ม Back to Black ก็ได้วางจำหน่ายที่สหราชอาณาจักรและสหรัฐอเมริกา
ด้วยกระแสความดังของอัลบั้ม Back to Black อัลบั้ม Frank จึงถูกนำกลับมาวางจำหน่ายอีกครั้งที่สหรัฐอเมริกาในวันที่ 20 พฤศจิกายน ค.ศ. 2007 ติดอันดับ 61 ของบิลบอร์ด 200 ชาร์ท พร้อมได้รับบทวิจารณ์ในแง่ดีอีกเช่นเคย ในส่วนอัลบั้มของเอมีเอง เธอก็ได้ร่วมมือกับศิลปินอื่นๆ ด้วย หนึ่งในนั้นคือเพลง "Valarie" ของ Mark Ronson ในอัลบั้มเดี่ยวของเขาชื่อ Version ซึ่งเอมีเป็นผู้ขับร้อง เพลงนี้ออกอากาศในเดือนตุลาคม ค.ศ. 2007 ติดอันดับสูงสุดอันดับที่ 2 ในสหราชอาณาจักร "Valarie" ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลบริท สาขา "Best British Single" ประจำปีค.ศ. 2008 นอกจากนี้เอมียังได้ร่วมงานกับ Mutya Buena อดีตสมาชิกวง Sugababe ในเพลง "B Boy Baby" ซึ่งเป็นเพลงในอัลบั้มที่สี่ของ Mutya Buena ชื่อ Real Girl
ถึงแม้ว่าโดยส่วนตัวแล้วจะไม่ได้ติดตามผลงานของเอมี่แบบเจาะลึกหรือเป็นแฟนเพลงเฉพาะก็ตาม แต่ก็รู้สึกเสียใจต่อการจากไปของเธอมาก และที่ยิ่งกว่าความเสียใจคือ "เสียดาย" เสียดายความสามารถที่เธอน่าจะยังใช้มันสร้างสรรค์สิ่งดีดีให้กับโลกได้มากกว่านี้ แต่ก็นะ หลายคนก็มองว่าเธอใช้ชีวิตผิด แต่สำหรับผมแล้ว คิดว่า ถ้าเธอไม่เป็นเธอ เอมี่ไม่เป็นเอมี่ในแบบทุกวันนี้เราอาจจะไม่มีโอกาสรู้จักเธอเลยก็ได้
They tried to make me go to rehab but I said 'no, no, no'
บางทีชีวิตเธอก็คงต้องการในแบบนั้น เธอได้ใช้ชีวิตในแบบของเธอ เธอเป็นคนหนึ่งที่ได้ชื่อว่าบรรลุเป้าหมายในหลายด้านของการประสบความสำเร็จในชีวิต และได้ทำ ทั้งการร้อง การแต่งเพลง รางวัล คนที่รักเธอ และครอบครัว ในมุมหนึ่ผมว่าเธอสร้างสรรค์อะไรๆ ให้กับโลกใบนี้ในแบบที่เธอต้องการแล้ว พรสวรรค์มักมาพร้อมกับสิ่งๆหนึ่งเสมอ หลับให้สบายนะ ... Amy Winehouse
_________________
)
