Taylor Swift - Red
งานเขียนครั้งนี้ เป็นการเขียนเพื่อนต้อนรับการกลับมาของสาวน้อยหน้าแมว ฉายาเจ้าหญิงเพลงคันทรี่พ็อพกับสตูดิโออัลบั้มเต็มลำดับที่4 ผู้เป็นAmerica's Sweetheartคนปัจจุบัน ซึ่ง ณ นาทีนี้ นางกลายเป็นสาวน้อยผู้โด่งดังเกินกว่าจะมีใครมาฉุดรั้งเธอได้อีกแล้ว หนูเทย์ เทย์เลอร์ สวิฟท์ ศิลปินพ็อพ-คันทรี่ ชาวอเมริกา วัยเพียง22ปี แต่ความสามารถนั้น ล้นเหลือ ทำให้ตอนนี้ เธอกลายเป็นบุคคลทรงอิทธิพลประเภทดารา-นักแสดงที่มีรายได้มากที่สุดในกลุ่มบุคคลที่มีอายุน้อยกว่า30ปี อะอ่ะ แค่นั้นยังไม่พอ เธอยังมียอดขายอัลบั้มทั้ง3อัลบั้มของเธอมากกว่า22ล้านก็อปี้ส์ และในส่วนซิงเกิ้ลนั้นมียอดดาวน์โหลดมากกว่า50ล้านก็อปปี้ส์ด้วยกันอีกด้วย ล่าสุด2ซิงเกิ้ลใหม่และ3โปรโมตชั่นนัล ซิงเกิ้ลจากอัลบั้มล่าสุดก็มียอดขายถล่มถลายแถมดาหน้ากันผลัดขึ้นชาร์ตเป็นว่าเล่น จนสร้างสถิติต่างๆมากมาย แค่นี้พอจะการันตีความโด่งดังของเธอได้พอหรือยังละค่ะ
Red : 78%
อย่างที่กล่าวข้างต้น นี้คืองานอัลบั้มลำดับที่4ของหนูเทย์ อัลบั้มนี้เท่าที่เห็นรายชื่อโปรดิวเซอร์ก็ขนมาทั้งหน้าเดิมหน้าใหม่มากมาย ทำให้อัลบั้มนี้หลากหลายและวาไรตี้กว่าทุกอัลบั้มที่ผ่านมา ซึ่งแน่นอน ไอ้ความวาไรตี้ของนางนั้น ก็คือพ็อพขึ้นมากๆตามมาด้วย แต่ธีมหลักและแทร็คส่วนใหญ่ก็คงความป็นคันทรี่ไว้ได้โอเคอยู่พอสมควร แต่สิ่งที่น่าเซอร์ไพรซ์มากที่สุดคือ มีหลายๆแทร็คในอัลบั้มนางเลือกจะทำเพลงพ็อพ ที่พ็อพจริงๆ ไม่อิงคันทรี่ใดๆ ส่วนที่มาของชื่ออัลบั้ม RED นั้น นางกล่าวไว้ว่า
อารมณ์ต่างๆทั้งหมด ที่ถูกถ่ายทอดผ่านอัลบั้มนี้ ฉันคิดว่าทั้งหมดนี้คือความงดงามที่เกี่ยวข้องความวุ่นวายต่างๆ ความบ้า ความไร้ซึ่งเหตุผล ความร้อนแรง หรือความสัมพันธ์ดั่งยาพิษที่เหมือนฉาบเอาไว้ซักครึ่งหนึ่ง ก็นั้นแหล่ะคือสิ่งที่ฉันเคยได้พบเจอเมื่อ2ปีก่อน อารมณ์ต่างๆเหล่านั้น ซึ่งได้ก้าวข้ามความรักอันร้อนแรง ความผิดหวังอย่างรุนแรง ความริษยา ความสับสนวุ่นวาย ในหัวหัวใจของฉันนะ ความรู้สึกเหล่านั้นมันคือ สีแดง อะนะ คุณรู้ไหมว่าทำไม? เพราะมันไม่มีสิ่งใดอยู่ระหว่างมันนะสิ มันไม่มีทางเป็นสีเบจในอารมณ์เหล่านี้หรอกนะ
เอาล่ะ คราวนี้ก็พอเข้าใจคอนเซ็ปท์คร่าวๆของอัลบั้มนี้กันแล้ว ไปดูจุดเด่น จุดด้อยอัลบั้มนี้กันดีกว่า
จุดเด่น
ส่วนตัวยังถูกใจSpeak NowหรือFearlessมากกว่าอยู่ดี แต่ว่างานอัลบั้มนี้จุดเด่นอยู่ที่งานที่พ็อพมากขึ้น และมีเพลงพ็อพจริงๆ ตัดขายจริงๆมาอยู่ในอัลบั้มนี้ด้วย แต่ แทร็คที่เป็นคันทรี่ก็ใช่ว่าจะสลัดความเป็นความเป็นคันทรี่ไป หลายแทร็คนี้ทำให้อึ้งกับกึ๋นของนางก็มีอยู่ไม่ใช่น้อย ที่สำคัญแทร็คเนือยๆแบบคันทรี้ คันทรี่มีให้เห็นน้อยลง แฟนขาพ็อพคงชอบแน่นอน ก้แหงละ อัลบั้มขยายแฟนคลับชัดๆ
จุดด้อย
สำหรับรีนะ การเรียงแทร็คก็โอเคอยู่นะ แต่มันดูโดดๆอยู่บ้าง อารมณ์สะดุดแปลก แต่ก็ดีกว่าเรียงแบบแนวเดียวกันแบบอัลบั้มที่แล้ว พวกบีทแรงๆก็จัดเข้าด้วยกัน เพลงนิ่มๆก็ต่อแถวเข้าคิวกันยาวจนจะหลับแทน แต่สิ่งที่ขัดใจที่สุดคือรู้สึกไม่ถูกใจการนำเอาเพลงพ็อพมาใส่ในอัลบั้มนี้ จะว่ายังไงดีล่ะ จะถือว่าแทร็คพวกนั้นเป็นแนวทดลองก็ได้นะ ซึ่งถ้าถามว่าตัวเพลงโอเคไหม ก็ถูกใจอยู่นะ ไม่ขัดเขินตรงไหนหรอก เพียงแต่มันสูญความเป็นเอกภาพและดูไร้ทิศทางของแนวเพลงในภาพรวม จริงๆถ้านางจะแยกไปทำอัลบั้มพ็อพไปเลยก็จะโอเคกว่า แต่อย่างว่าแทร็คที่เป็นพ็อพก็ใช่จะเยอะแยะ แนวเป็นการเปิดตลาดใหม่ ณ จุดนี้ก็โอเคนะน่ะ ยอมๆนางไปหน่อย
อีกข้อด้อยอย่างหนึ่ง ก็เพลงแนวๆเดิมนางก็ยั้วเยี๊ยเต็มไปหมด ก็อย่างว่าพ็อพคันทรี่มันก็ใช่ว่าจะฉีกแนวได้เยอะแยะ แต่มันน่าเบื่ออ่ะ
Singles and Promotional Singles of Red
We Are Never Ever Getting Back Together : 4/5
ทีนป็อปร็อคจังหวะ มีกลิ่นคันทรี่บางๆ ในลักษณะ ปาร์ตี้ สนุกสนาน เฮฮา ชวนให้มีส่วนร่วมในการฟัง อีกทั้งเนื้อหาเบาๆ แบบสาวเลิศที่ไม่ยอมทนทุกข์เพราะผู้ชายอีก มีวาทะจิกกัดสวยๆ รวมทั้งจริตแร่ดๆของตัวนักร้องเองก็มีส่วนทำให้เพลงนี้ลงตัวกลมกล่อมยิ่ง ขึ้น เพลงนี้ได้โปรดิวเซอร์อย่างMax MartinและShellbackมาดูแล ซึ่งถือเป็นการร่วมงานกันครั้งแรกกับTaylor Swiftเลยก็ว่าได้ พูดถึงตัวเพลงกันบ้าง มีการเดินบีทกระชับแบบป็อปสมัยใหม่กับดนตรีโฟล์คซอง อีกทั้งตัวเพลงทำมาในลักษณะHook Song จึงไม่แปลกใจที่จะทำให้ตัวเพลงติดหูได้ง่าย ที่สำคัญไฮไลท์อีกส่วนหนึ่งของเพลงนี้คือท่อนคอรัสที่โดดเด่น เพราะมีการผสานเสียงในลักษณะเฉพาะตัวแบบเพลงคันทรี่
พูดถึงจุดเด่นของเพลงนี้ไปแล้ว ก็มาดูจุดด้อยของเพลงนี้กันบ้าง ด้วยความที่เป็นป็อปค่อนข้างเมนเมนสตรีม จนทำให้แก่นของความเป็นคันทรี่ที่แทบจะไม่มีในตัวนางอยู่แล้ว เบาบางลงไปอีก และรูปแบบเพลงที่ดูง่ายๆ(ก็อย่างว่าจะถือว่าเป็นเพลงทีนป็อปธรรมดาก็ได้) แต่ด้วยความที่เป็นป็อปมากขึ้น ก็ทำให้เพลงนี้สามารถขยายฐานแฟนคลับของนางมากขึ้นตามไปด้วย ส่วนตัวบอกเลยว่าชอบเพลงนี้มาก ที่ชอบไม่ใช่เพราะว่าเป็นแฟนคลับนางจึงถูกบังคับให้ชอบ แต่เพลงนี้มันสามารถพิสูจน์คุณค่าของตัวมันเองออกมา อาจจะขัดใจแฟนคันทรี่เก่าแก่ของนางไปบ้าง แต่ความสด ใหม่ก็มาทดแทนสิ่งที่ขาดไปได้เช่นกัน
Begin Again : 3/5
ซิงเกิ้ลที่2 เป็นคันทรี่โฟล์ค สบายๆ ถึงจะพื้นไปหน่อย แต่ก็เป็นเพลงช้าปิดอัลบั้มได้สวยงามพอตัว จริงๆฟังครั้งแรกนี้นึกถึงBack to Decemberนะ บีท ซาวด์นี้มาแนวเดียวกัน อย่างกับก็อปกันมา แต่ส่วนตัวชอบการเรียบเรียงเพลงนี้มากกว่า และให้อารมณ์ที่หลากหลายกว่าดูไม่น้ำเน่าเท่า ตัวเพลงถ่ายทอดออกมาได้ดีนะ มีทั้งอารมณ์เศร้าและอบอุ่น คือเป็นเพลงที่เปลี่ยนไปต่อสภาวะทางอารมณ์จริงๆ ตรงนี้ถือเป็นจุดเด่นของเพลงนี้เลย ด้านเนื้อหาก็โอเค ดูโตขึ้น ไม่ดูเพ้อพกเท่าไหร่ ส่วนจุดด้อย ไม่ติดหูนะ ท่อนพีคหายาก คือไม่ทันตั้งตัว ก็อ้าว ฮุคซะงั้น ตรงนี้ดูขัดๆนิดหน่อย แต่ก็ชอบนะ จริงๆก็ไม่แปลกใจถ้าคนจะเฉยๆกับเพลงนี้ คือฟังแล้วรู้สึกไม่อินเลย นางจะสื่ออารมณ์ไหนออกมากันแน่ เพราะตัวเพลงมันดูเรื่อยๆมากกว่า
Red : 3/5
ไตเติ้ลแทร็คชื่อเดียวกับอัลบั้ม เป็นคันทรี่ พ็อพร็อค อารมณ์โจ๊ะๆ แบบSparks Flyฟิวชั่นกับFearless ทั้งตัวบีททั้งตัวซาวด์ทำออกมาได้อารมณ์ดีนะ ก็โจ๊ะๆเอาใจวัยรุ่น ดูสมัยนิยมดี มีท่อนเอคโค เรดๆๆๆเก๋ๆด้วย แต่รีว่ามันดูวอนนาบีไปอ่ะ ยอบรับว่าติดหูดีตั้งแต่ครั้งแรกแบบไม่ต้องรอรีเพลย์เลย ว่าเหมือนเป็นสูตรสำเร็จไปหรือเปล่า ว่าอัลบั้มนึงนางต้องใส่เพลงแบบนี้มา แรกๆก็เก๋นะ แต่หลังๆรู้สึกเอียนอ่ะ แต่ก็น่จะเป็นแทร็คที่หลายคนคงชอบ
I Knew You Were Trouble : 3.5/5
เก๋ๆ ตอนแรกคิดว่านางจะทำพ็อพร็อคโจ๊ะๆมันส์ซะอีก แต่ที่ไหนได้นางทำอิเล็กโทรนิก้าค่า เพลงนี้ก็เป็นอีกเพลงที่ได้Max MartinและShellbackมาดูแลให้(แน่นอนล่ะ ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าใครทำ อีเทย์คงไม่พี้ยาตามซานติก้าแล้วทำขึ้นมาเองหรอก) ดาวน์เทมโพสแบบดั๊บสเต็ป ที่มิกซ์เข้ากับเสียงกี้ต้าโปร่งที่งานนี้เป็นแค่ตัวประกอบเท่านั้น ผ่านโพรแกรมมิ่งและออโต้จูนให้ถูกใจกะเทยขาแดนซ์กัน จนออกมาเป็นงานอิเล็กโทรนิก้าแบบสมัยนิยม ใครชอบดนตรีสมัยนิยมจ๋าแบบอีแข อีเคชช่า คงเกี้ยวกร๊าวกันแน่ๆค่ะ เพลงนี้ทำได้ดีเลยทีเดียว ขนาดตบหน้าอีพวกพ็อพจ๋าหลายตัวกลาง4แยกแบบเรยาได้เลย
State of Grace : 4/5
โปรโมตชั่นนัลซิงเกิ้ลเพลงล่าสุด ซึ่งเป็นลีดแทร็คในอัลบั้มนี้ด้วย ตอนนี้ปลื้มมาก ใครบอกไม่อิน ไม่ติดหูไม่รู้แหล่ะ แต่รีชอบมาก อัลเตอร์เนทีฟร็อค จัดๆ โจ๊ะๆ ทั้งกลอง เอ็ฟเฟ็คกีต้าไฟฟ้าสาดกันมันส์มาก เป็นอัลเตอร์เนทีฟสไตล์บริทพ็อพแบบที่รีชอบอะค่ะ คิดสภาพนางไลฟ์นี้ต้องเป็นอะไรที่ต้องเริ่ดแน่นอน และที่เก๋กว่านั้นคือเพลงนี้เสียงอีเทย์หลอนมาก เหมือนนางพี้กัญชาเสร็จแล้วมาอัดเพลงนี้ ฟังแล้วได้อารมณ์ปาร์ตี้ยาอีตามวงอีโม แบบพี้ยาไป กินค้างคาวไป แอร๊ยยย เก๋มาก แต่ข้อเสียเล็กๆน้อย รีว่ามันยังตึ๊บได้กว่านี้อีก จะบอกทำไม่สุดก็ได้ แต่ก็ถือว่าเป็นก้าวใหม่ก้าวหนึ่งสำหรับการพัฒนาแนวทางของอัลบั้มชุดนี้ละค่ะ
แก้ไขล่าสุดโดย nini เมื่อ Sat Nov 10, 2012 4:18 pm, ทั้งหมด 7 ครั้ง
_________________