**คำวิจารณ์ทั้งหลายล้วนเป็นสิ่งที่ออกมาจากความคิดเห็นของบุคคลเพียงคนเดียว หากสร้างความไม่พอใจหรือมีข้อผิดพลาด ต้องอภัยมา ณ ที่นี้ด้วย ขอบคุณครับ**
นำเรื่อง: ภาคที่ 2 ดำเนินเนื้อเรื่องต่อจากเหตุการณ์ในภาคที่ 1 แทบจะทันที ด้วยเรื่องที่ว่าอัมเบรย์ น้องสาวของคาเรน นางเอกภาคแรก ถูกแม่บังคับให้เดินทางไปญี่ปุ่นเพื่อรับตัวพี่สาวกลับมา และนั้นหมายถึงการเดินทางเข้าสู้ดินแดนหายนะ บ้านที่ต้องคำสาป สถานที่ที่กลายเป็นเรื่องเล่าไม่รู้จบ
เหตุการณ์ดังกล่าวชักนำให้เธอเข้าสู่ สิ่งน่ากลัวลึกลับ ที่พี่สาวของเธอเคยเผชิญมาแล้ว และยังพาเธอไปสู่อดีตอันลึกลับที่ถูกปิดบังมาตลอด เรื่องราวสมัย คายาโกะ สมัยเป็นเด็กอีกด้วย!!
ข้อดีข้อเด่น: จากที่นั่งชมภาพยนตร์เรื่องนี้ในภาคแรกมาจุดที่ผมเห็นชอบคือเนื้อเรื่อง ถึงแม้จะไม่มีอะไรให้พลิกล๊อค หรือเหนือความคาดเดามากนัก แต่ว่ามีเนื้อเรื่องพอให้หนังดำเนินไปอย่างใช้ได้ และมีการเฉลยอย่างน่าพอใจในตอนท้าย แต่พอมาถึงภาคที่ 2 เนื้อเรื่องมีการก้าวเดินไปข้างหน้าเพียงไม่กี่ก้าว จากนั้นถือเป็นการย่ำอยู่กับที่ทั้งหมด ตัวละครถูกสร้างมาให้โง่เง่าและตายไปอย่างง่ายดาย ไม่จำเป็นต้องลุ้น ไม่จำเป็นต้องเสียง ยิ่งดูไปทุกอย่างจะเริ่มดิ่งลงต่ำไปกว่าขอบของคำว่า มาตรฐาน ขึ้นทุกที
ที่เห็นว่าดีหน่อยคงจะเป็นการลำดับภาพแบบหลอกคนดูว่าเหตุการณ์ใดเกินก่อน เกิดหลัง นั้นอาจจะเรียกได้ว่าเป็นความแปลกใหม่อย่างหนึ่งก็ได้ แต่หากนำมาหักลบกับข้อเสียต่อไปนี้แล้ว มันช่างไม่คุ้มค่าเอาซะเลยจริงๆ
ข้อด้อยและข้อเสีย: ความน่ากลัวในภาคนี้ ไม่ต่างจากภาคแรกเกินสองคืบ หากคุณถวิลหาฉากที่สยองขวัญแบบสุดขีดนั้น โคตรผีดุ2 อาจจะไม่ทำให้คุณเต็มอิ่มซักเท่าไร เพราะนอกจากฉากสยอง ๆ ในเรื่องกว่า 80% จะได้เห็นมาจากตัวอย่างหนังแล้วหนังแล้วนั้น ทุกการหลอกหลอนของผีแม่ลูก ช่างเป็นอะไรที่ซ้ำซากและไร้ความแปลกใหม่ ไร้แรงจูงใจ ยิ่งหลอกไปเท่าไหร่ ความน่ากลัวกลับยิ่งลดน้อยไปตามจำนวนครั้ง และเพิ่มความโง่ให้กับ คายาโกะ และ โตชิโอะ เข้าไปทุกนาที
แทบทั้งเรื่องมีแต่พวกฉากการตายที่ไม่ต่างกันมากนัก เปลี่ยนแค่ตัวผู้ตาย และการหลอกหลอนที่ลงทุนเพียงทาแป้งสีขาว ทาตาสีดำ มาแหกปาก แหกคออยู่ใกล้ ๆ สำหรับตัวผม มันทำให้กลัวได้แค่ไม่กี่ครั้งแรกทีได้ชม เมื่อเล่นแบบนี้ไปนาน ๆ มันกลายเป็นสิ่งที่น่ารำคาญอย่างรุนแรง หากอย่างจะหลอกหลอนฆ่าคนไม่คิดจะหามุขใหม่ ๆ บ้างหรือไง? เดาได้เลยว่า 2 แม่ลูกคู่นี้สมัยยังไม่ตายคงกินมาม่ารสเดิมซ้ำ ๆ กันทุกวัน ดูทีวีช่องเดิมซ้ำๆ กันทุกวัน ทำกิจกรรมเดิมซ้ำ ๆ กันทุกวัน พอตายเป็นผีจึงได้แต่หลอกหลอนมุขเดิม ๆ ซ้ำกันทุกราย
น่าอนาถเป็นยิ่งแท้ และไม่แปลกใจที่จะทำเงินตกลงถึง 61% ในสัปดาห์ที่สองของการฉายที่อเมริกาเหนือ
วิจารณ์ที่ตัวผีไปแล้วขอมาวิจารณ์ต่อที่เนื้อเรื่อง ที่เลือกใส่เข้ามาอย่างชุ่ยๆ เพียงเพื่อจะให้หนังมีเหตุการณ์ต่อออกไป เพื่อที่จะได้เรียกมันว่าภาคต่อ เพียงแค่นั้น เนื้อเรื่องที่ว่ามันไม่ได้น่าติดตามเอาซะเลย จะว่าไปแล้วมันไม่สมควรจะเป็นเนื้อเรื่องด้วยซ้ำ การ์ตูนเล่มละสองบาทอาจจะมีความเป็นหนังกว่าด้วยซ้ำไป โคตรผีดุนั้นไม่มีอะไรเกินไปกว่าจำพวก คนนี้ถูกหลอก คนนั้นถูกฆ่า แม่เธอเป็นผี ผัวเธอเป็นฆาตกร นอกจากจะไม่เป็นการพัฒนาสมองแล้วยังอาจจะเป็นการเสียเวลาฟรี ๆ อีกชั่วโมงครึ่งก็ได้
เมื่อหนังดำเนินมาถึงจุดสุดท้ายของเรื่อง หนังได้มีเหตุการณ์ให้เซอร์ไพรซ์คนดูนิดหน่อย จากนั้นคำถามที่ตามมาคือ แล้วไงต่อ? แค่นั้นหรอ? ดำเนินมาทั้งเรื่องเพื่อบทสรุปแบบนี้หรอ? แหม......ผีหลอกคน แล้วทีมงานยังหลอกคนดูอีก น่ารักดีจริงๆ......
สรุปส่งท้าย: โคตรผีดุ ยังคงเป็นหนังผีที่ไม่แตกต่างจากวันวาน ไม่มีอะไรที่เรียกได้ว่าเป็นของใหม่ ทุกอย่างนั้นซ้ำซากจำเจ ใครยังทนดูได้ สนุกก็ดูกันต่อไป บางคนที่เบื่อความจำเจอาจต้องขอบาย แล้วพอกันกับการทาแป้งขาวจั๋ว ขอบตาดำปี๋ แหกปาก ลอยไปลอยมา มันไม่ได้สร้างความบันเทิงให้ผมเอาซะเลย หากมีภาค3 ตามมาผมคงไม่เสียเวลาที่จะคิดไปดูด้วยซ้ำไป
ป.ล. หรือใครที่คิดจะไปดูแค่ความหล่อของ Edison Chen ก็อาจต้องผิดหวังอีกก็ได้ เพราะพี่แกเล่นเหมือนกับได้ค่าขั้นต่ำตัว 128 บาทซะจริงๆ
ความชอบ: 0.5 เต็ม 5
เกรด: D+
อีกครั้ง: ใครคอมเมนท์แล้วคอมเมนท์อีกก็ได้นะครับ เวเฟอร์ชอบ ใครมีความเห็นอะไรที่แตกต่างเชิญลงความเห็นเลยครับ
_________________
คุยหนังภาษาหมา