˹���á Forward Magazine

ตอบ

Manic Street Preachers : Rewind The Film
ผู้ตั้ง ข้อความ
ตอบโดยอ้างข้อความ
ตอบ Manic Street Preachers : Rewind The Film 


http://hysteriaculture.wordpress.com/2013/10/08/manic-street-preachers-rewind-the-film-alternative-rock-87-4-55/comment-page-1/#comment-207

hysteria

Manic Street Preachers : Rewind The Film : Alternative Rock (87% = 4.5/5)

นับว่าเป็นความบกพร่องต่อหน้าที่เด็ก “บริทพ็อพ” อย่างมหันต์เพราะว่าอัลบั้มนี้เขาออกมาจนข้ามเดือนไปแล้วดิฉันก็เพิ่งจะมีโอกาสได้มานั่งปั้นจิ้มปั้นเจ่อเขียนรีวิวเอาอีตอนเข้าเทศกาลกินเจนี่แหละค่ะ ก่อนหน้านี้ไม่รู้มัวเอาเวลาไปทำอะไรอยู่แถมพอมีเวลาเขียนก็ดันทะลึ่งลัดคิวเขียนอัลบั้มอื่นก่อนเสียอีกมาวันนี้เพิ่งจะนึกได้แหละเจ้าค่ะว่าสมควรแก่กาลเวลาเสียที

เอาจริงๆส่วนตัวเป็นแฟนคลับประเภทที่มาติดตาม Manic Steet Preachers เอาจริงๆจังๆในยุคหลังจากที่พวกเขาเป็นตำนานไปแล้ว – - ว่ากันตามตรงคือหมดยุคหมดกระแสของพวกเขาและวัฒนธรรมบริทพ็อพไปแล้ว – - เนื่องด้วยช่วงเวลาที่เอาจริงๆแล้วพัฒนาการทางการฟังดนตรีของดิฉันเติบโตและทำเข้าใจผลงานของพวกเขาเรียกได้ว่าพร้อมที่จะเปิดรับกันได้ห่างไปเป็นสิบปีเพราะสมัยที่พวก Manics พีคๆกันนี่ดิฉันยังฟังเจ เจตรินอยู่เลยกระมัง ส่วนตัวมาติดตามบริทพ็อพเข้าจริงๆจังๆก็ยุคของพวก Keane,Travis,ColdplayและStarsailorซึ่งถ้าจำไม่ผิดก็น่าจะนับเข้ายุคโพสท์บริทพ็อพไปแล้วแถมบางวงอย่าง RadioheadกับBlurเขาก็กลายพันธุ์เป็นเอ็กซ์เพอริเมนทัลร็อคเก๋ไก๋นำเทรนด์หลายๆวงยุคนี้ชนิดล้ำหน้ากันไปเป็นสิบกว่าปีก่อนที่ฉันจะไปควานหาตามฟังงานในยุคแรกๆของพวกเขายันวงอื่นๆอย่าง Suede,The Verve,Stereophonicsฟังชนิดหาตัวเองไปเรื่อยๆมาเจอที่ถูกใจจริงจังก็คงหนีไม่พ้น Oasis กับ Manic Street Preachers นี่แหละ

จำได้ว่าครั้งที่แล้วดิฉันออกแนวไม่ปลื้ม Postcards From A Young Man อัลบั้มชุดก่อนหน้าของพวกเขาที่แม้ว่านักวิจารณ์ดนตรีจากสถาบันชั้นนำจะลงมติเป็นเอกฉันท์ให้เป็นหนึ่งในอัลบั้มที่ดีที่สุดของพวก Manics แต่ทางแฟนๆก็เป็นเอกฉันท์เช่นกันว่าเป็นงานที่น่าผิดหวังและชวนอับอายที่สุดชนิดที่ไม่คาดคิดว่า Manic Street Preachers จะกล้าทำมาขายให้ผู้ฟังที่หอบหิ้วกันมาเป็นสิบล่อจะยี่สิบปีฟังได้ด้วยค่าที่มันออกแนวดาดดื่นไร้ชั้นเชิงเหมือนงานพวก Sum41 ไม่ก็ Green Day ในภาคที่จืดกว่าหลายช่วงตัว (ภาคเนื้อหาจะว่ายังไงก็ช่างเถอะ) ขนาดดิฉันติดตามจริงๆจังๆน่าจะไม่ถึงสิบปีดีแค่ฟังยังรู้สึกอายแทนขนาดนี้ก็แทบไม่อยากจะคิดถึงรอยยิ้มเจื่อนๆของบรรดาแฟนยุคบุกเบิกที่ติดสอยห้อยตามมาตั้งแต่ Generation Terrorists เลยผับผ่าด้วยความที่ เหอๆ ไม่มีความเป็นตัวตนของ Manics เลยแม้แต้น้อย

สำหรับ Rewind The Film ชุดนี้ฟังแล้วถามว่า “ประทับใจมั้ย?” คงต้องตอบตามตรงว่า “รู้สึกชอบ!” แม้ว่าโอเคอาจจะดูสองมาตรฐานเนื่องจากก็ดูไม่เป็น Manic Street Preachers พอๆกันหรือเผลอๆจะมากกว่าเพราะอย่าง Postcards From A Young Man ในแง่ของภาคดนตรีอาจจะมีบางจุดเล็กๆที่ทำให้นึกถึงพวกเขาในช่วง The Holy Bible ไม่ก็ Generation Terrorists ได้บ้างในขณะที่ Rewind The Film เป็นอะไรที่ใหม่และไม่ใช่Manicsจริงๆกับงานดนตรีอัลเทอเนทีฟร็อคละเมียดละไมที่เป็นงานร็อคละเมียดละไมบนท่วงทำนองของกีต้าร์อคูสติคเรียบง่าย เครื่องสายหวานหยดและเครื่องเป่าสวยบหรูยันมิติของโพรแกรมมิ่งเจือจางชนิดที่ห่างไกลจากความเป็นบริทพ็อพแบบ Manic Street Preachers ที่พวกเราคุ้นชินหลายคนไม่มีอารมณ์พั้งค์เก๋าๆสับกีต้าร์แกลมร็อคจี๊ดๆไปจนถึงความหมองหม่นเกรี้ยวกราดบนท่วงทำนองที่ทรงเสน่ห์ในแบบที่ผันตัวมาเป็นร็อคปัญญาชนเนื้อหาหนักอึ้งด้วยการเสียดสีการเมืองสุดโต่งแบบตั้งแต่สมัย Everything Must Go ขึ้นมา จะว่าไปฟังอัลบั้มนี้แล้วกลับนึกผลงานของพวกเขาอย่าง Lifeblood งานบริทพ็อพละเมียดละไมเพราะพริ้งที่มีความเป็นตัวตนของทางวงน้อยแทบจะที่สุดเช่นกันมากกว่าที่นักวิจารณ์หลายท่านหยิบอัลบั้มนี้ไปเปรียบกับ This Is My Truth Tell Me Yours อีกนะ ซึ่งสำหรับเป็นสองผลงานที่แม้จะไม่เป็น Manic Street Preachers เลยแต่กลับชอบในการนำเสนอที่มีชั้นเชิง กลมกล่อมและลงตัวที่สำคัญเมโลดี้ไพเราะดูเป็น Manics ในภาคที่สงบและมีวุฒิภาวะขึ้นนับจากอัลบั้ม Everything Must Go และ This Is My Truth Tell Me Yours

เพลงที่ชอบจะว่าไปอัลบั้มนี้ก็ชอบเกือบยกชุดแต่เอาที่ฟังแล้วโดนจริงๆขอเริ่มที่ไทเทิ่ลแทร็คอย่าง Rewind The Film (4.5/5) ที่ปล่อยออกมาให้ฟังกันล่วงหน้าหลายเดือนอยู่แถมเพลงนี้ยังไปดึงเอาพี่ริชาร์ดอดีตสมาชิกวง Pulp มาร่วมร้องด้วยนะเออ ฟังครั้งแรกคือโอเคเพราะแต่ก็มีแอบงงๆบ้างว่า เฮ้ย!นี่มันManicsจริงๆเหรอ?เพราะตั้งแต่Lifebloodก็ไม่คุ้นกับความเรียบง่ายละมุนละไมเทือกๆนี้กับกีต้าร์อคูสติคสวยๆพรมโพรแกรมมิ่งเจือจางปะทะเครื่องสายคลาสสิคคัลกรีดเสียงสวยและสรรพสำเนียงดนตรีพื้นเมืองสก็อททิชในตัวจะว่าไปดูเหมือนจะเรียบง่ายแต่ลูกเล่นแพรวพราวเหมือนกันนะ ฟังไปฟังมาแล้วอดหลงรักในความเข้มข้นของอารมณ์เพลงไม่ได้ Show Me The Wonder (4.5/5) ซิงเกิ้ลแรกที่เชื่อว่าแฟนๆ Manics น่าจะชอบเพลงอัลเทอสไตล์นี้แหละที่เป็นโลโก้ของพวกเขาหากแต่ในเพลงนี้แค่หยอดความหวานของเครื่องเป่าสวยๆและเมโลดี้พ็อพร็อคหวานๆเชิงอีซี่ลิสนิ่งเข้าไปแทนที่อารมณ์พั้งค์หรือแกลมร็อคแบบเดิมๆนับว่าเป็นการขยับผลงานตัวเองมาเล่นกับตลาดอดัลท์คอนเทมโพรารี่ย์ได้ดี เสียงประสานท่อนคอรัสเพราะมากๆ This Sullen Welsh Heart (4/5) อคูสติคเพราะๆเปิดอัลบั้มนับว่าหยอดมิติและชั้นเชิงของวัฒนธรรมการประสานเสียงในแบบฉบับของดนตรีโฟล์คมาเล่นได้ชนิดไม่ธรรมดา ฟังแล้วเคลิ้ม (I Miss The)Tokyo Skyline (4.5/5) เครื่องสายที่ใช้ในเพลงเพราะมากๆพอมาผสานกับโพรแกรมมิ่งอิเล็คโทรนิคในเพลงนี่เล่นเอาใจแทบหลุดลอยไปไกลนับว่าเป็นงานเชิงทดลองที่ทำออกมาผสานกับความเป็นบริทพ็อพและอคูสติคโฟล์คในงานได้ลงตัวทีเดียว Anthem For A Lost Cause (4.5/5) เป็นแทร็คที่ส่วนตัวคิดว่าน่าจับตามองที่สุดของอัลบั้มชุดนี้ด้วยความที่เป็นงานเพลงช้าสูตรสำเร็จสไตล์ Manic Street Preachers ที่ไพเราะบาดขั้วหัวใจมากๆแถมยังงามระยับชนิดเหนือคำบรรยาย โคตรจะไพเราะจนไม่รู้จะอธิบายยังไงเอาเป็นว่าเป็นหนึ่งในแทร็คที่ทรงพลังที่สุดของอัลบั้มนี้ที่แฟนๆ Manics ได้มาฟังคงต้องควักหัวใจมอบให้ทั้งตัว As Holy As The Soil (4.5/5) ส่วนตัวดีใจที่ได้ยินงานที่ยังใช้เทคนิคการประสานเสียงแบบนี้รวมถึงการนำเสนอที่หวนให้นึกถึงพ็อพบริสุทธิ์แท้ๆดั่งอันเชิญจิตวิญญาณโอลด์สคูลของงานพ็อพยุค60s-70sขึ้นมามีลมหายใจโลดแล่นอีกครั้งจะว่าไปนี่คือแทร็คมาสเตอร์พีซของอัลบั้มก็คงไม่ผิด ปิดท้ายด้วย 30-Year War (4/5) ที่การเรียงเรียงมิติของตัวเพลงน่าสนใจไม่แพ้ชื่อเสียงเรียงนามของตัวมันเองเลยทีเดียวนับว่าปิดอัลบั้มได้สวยใช้ได้ที่สำคัญหวานหยดมาทั้งอัลบั้มแล้วมาฟังงานอัลเทอเนทีฟร็อคติดโพสท์พั้งค์และแกลมร็อคอารมณ์แบบสมัย Journal For Plague Lovers ในภาคที่เป็นเอ็กซ์เพอริเมนทัลร็อคขึ้นมาหน่อยแบบนี้ก็ไม่เลวนะจะได้ยังรู้เดียงสาว่าพวกเขายังไม่ได้โยนเขี้ยวเล็บทิ้งไปไหน

นับว่าอิ่มอกอิ่มใจมากๆจนความชอบเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆตามรอบที่ฟังจนขอมาแก้คะแนนในรีวิวจากที่ให้ไว้ตอนแรก4ดาวขอเปลี่ยนเป็นสัก 87% ให้มาอีกครึ่งดาวเป็น4.5คะแนนบางทีคะแนนจะเพิ่มหรือจะลดนี่ก็ตอนรีวิวนี่แหละค่ะยิ่งงานที่เก๋ไก๋แบบซึมลึกอย่างนี้นี่มาฟังอย่าพินิจพิเคราะห์ตอนรีวิวนี่อะฮ้าชุ่มปอดสุดๆขอบอก ใครที่อยากลองฟังนี่รับรองว่าไม่ผิดหวังนะคะคุ้มค่ามากๆเพราะอัลบั้มนี้แถมเดโมมาให้นั่งฟังกันเต็มอิ่มแถมไลฟ์ที่O2อีกต่างหาก


ดูข้อมูลส่วนตัว ส่งข้อความส่วนตัว
ตอบโดยอ้างข้อความ
ตอบ  


ดูข้อมูลส่วนตัว ส่งข้อความส่วนตัว
แสดงเฉพาะข้อความที่ตอบในระยะเวลา:
ตอบ หน้า 1 จาก 1
คุณไม่สามารถสร้างหัวข้อใหม่
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
คุณไม่สามารถแก้ไขข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลบข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลงคะแนน
  


copyright : forwardmag.com - contact : forwardmag@yahoo.com, forwardmag@gmail.com