
http://hysteriaculture.wordpress.com/2013/10/14/get-into-the-groove-starsailor-silence-is-easy-britpop-98-55/
http://www.facebook.com/hysteriaculture
Starsailor : Silence Is Easy : Britpop (98% = 5/5)
ก่อนจะเบรคยาวจากงานรีวิวหนีไปแต่งนิยายสุสานนักเรียน ตอนที่3ต่อให้จบตลอดหนึ่งสัปดาห์นี้ (ทั้งนี้ทั้งนั้นอาจจะมีคั่นเวลาด้วยรีวิวซิงเกิ้ลไม่ก็อัลบั้มที่ส่วนตัวอยากเขียนจริงๆบ้าง) ดิฉันขอเขียนรีวิวสั้นๆมอบให้คนอ่านที่รักถึงเพลงๆหนึ่งที่ ณ ขณะนี้ได้หวนกลับมาโลดแล่นก้องกังวานในหัวสมองอีกครั้งหลังจากที่มันหายไปจากความสารบบสนใจของเราเสียนานเกือบสิบปี ซึ่งเป็นบทเพลงที่แทนความรู้สึกส่วนตัวของดิฉันเองในวินาทีนี้ได้ดีที่สุด เพลงที่ว่าคือ Silence Is Easy ซิงเกิ้ลในปี2003ของ Starsailor วงบริทพ็อพจากฝั่งสหราชอาณาจักรที่ในวินาทีนั้นผลงานของเขานับว่าเป็นที่จับตามองและให้ความสนอกสนใจไม่แพ้วงร็อคอังกฤษชั้นนำอย่าง Coldplay,KeaneหรือTravis อันนี้วัดจากความนิยมในบ้านเขาทั้งหมดทั้งมวลไม่เกี่ยวกับความดังในบ้านเราที่กระแสเฉียดๆคำว่า ไม่เกิด แม้ว่าส่วนตัวจะได้ยินเพลงๆนี้ของเขาเปิดตามสถานีวิทยุบ้านเราจวบจนทุกวันนี้อยู่บ้างก็ตาม ท่ามกลางตัวเลือกของวงบริทนับร้อยนับพันของอังกฤษในช่วงเวลานั้น Silence Is Easy ของพวกเขากลับทำให้ดิฉันถึงกับหันหลังขวั่บไปทางวิทยุได้ตั้งแต่เมโลดี้แรกที่เริ่มขึ้นต้นบรรเลงมากับท่วงทำนองอันงามระยับของดนตรีอัลเทอเนทีฟร็อคตามแบบฉบับร็อคอังกฤษแท้ๆที่ผสานเอาความละเมียดไมหวานหูจากชั้นเชิงการเรียบเรียงตามวัฒนธรรมของดนตรีแขนงบริทพ็อพทุกกระเบียดที่นำมาละลายความดิบกร้าวของภาคเนื้อหาเชิงประชดแดกดันและอารมณ์หม่นหมองที่ระเบิดออกมาจากก้นบึ้งของหัวใจได้อย่างดี - คิดถึงความหวานของงานแบบTravisหรือHurricane #1 หากแต่ฉาบไปด้วยความเกรี้ยวกราดดุดันทางอารมณ์แบบSuedeและManic Street Preachersเพียงแต่ภาคดนตรีไม่แพรวพราวเท่า - เหนือสิ่งอื่นใดก็คงจะต้องบอกว่าไม่พ้น ภาคเนื้อหา จริงๆแหละที่ทำให้ดิฉันรู้สึกอินกับมันมากๆและอินมาจวบจนทุกวันนี้ในทุกครั้งที่เราต้องเผชิญกับความหยาบคายหรือคำวิพากษ์วิจารณ์เพลงนี้เปรียบเสมือนธีมที่ทำให้เรายิ้มแล้วพยักหน้าก่อนจะมั่นคงบนทางเดินที่เราสบายใจต่อไป ส่วนตัวเชื่อว่ามนุษย์เราเกิดมาแล้วจะรับแต่คำชมไม่ได้ค่ะต้องโดนด่าโดนวิจารณ์ด้วยซึ่งเมื่อเรากล้าที่จะนำเสนอผลงานไม่ว่าจะในชีวิตจริงหรือบนโลกโซเชี่ยลเราก็สมควรที่จะต้องมีวุฒิภาวะให้เพียงพอสำหรับรับฟังความเห็นตลอดจนความรู้สึกเชิงลบ เปล่า!!! อย่าเพิ่งเข้าใจผิด นี่ไม่ใช่เพลงปลอบใจ แต่เป็นธีมสำหรับช่วงเวลาที่ดิฉันได้ฟังหรือได้อ่านการดูถูกเหยียดหยามหรือวิพากษ์วิจารณ์อะไรด้วยถ้อยคำแย่ๆแล้วอดหัวเราะเยาะเพราะ สมเพซ ไม่ได้ ซึ่งก็นั่นแหละค่ะผู้ที่มีปิยะวาจาเวลาจะสนทนากับคนอื่นไม่ว่าเชิงบวกหรือเชิงลบเขาจะมีสัญชาตญาณความเป็นชนชั้นสูงมากพอที่จะเลือกใช้ถ้อยคำที่ชี้ให้เห็นเหตุและผลพร้อมนำมาด้วยบทสรุปอันสุขใจตามประสาคนที่เขามีมารยาทซึ่งมันก็ต่างจากคนต่ำช้าโดยสิ้นเชิงที่ไม่ว่าต่อให้ฟังเพลงภาษาอังกฤษหรือจะถ่อไปเรียนไกลถึงอังกฤษก็เชื่อว่ารสนิยมทางดนตรีกับการศึกษาก็คงพยุงระดับอะไรในตัวไม่ได้มากอย่างที่วงนี้เขาร้องไว้แหละค่ะว่า Silence Is Easy! บางทีหุบปากแล้วนิ่งเสียตำลึงทองว่ามั้ย? ^ ^ - ว่าแล้วเราก็มีความสุขกับหน้าที่การงานที่เราทำดนตรีที่เรารักและงานเขียนที่เป็นงานอดิเรกกว่าสิบปีต่อไปเพราะดิฉันชีวิตนี้ก็ทำได้แค่นั้นแล้วก็จะมีความสุขต่อไป ในขณะที่บางคนเขาก็คงจะมีความสุขกับการคอยแทงข้างหลังติฉินนินทาเพื่อนร่วมงานในที่มืดไม่ต่างจากในโลกโซเชี่ยลที่บางคนชีวิตของพวกเขาก็ ทำได้แค่นั้น! 55555 - จะว่าไปเพลงนี้ของ Starsailor ถึงจะผ่านไปสิบปีแล้วยังดูสดใหม่และเข้มข้นมีมนตร์เสน่ห์ไม่เสื่อมคลายนะคะ ด้วยความที่สาส์นในตัวเพลงมันมีวิญญาณ เป็นจริงและจับต้องได้เป็นรูปธรรมจนถึงทุกวันนี้พอๆกับมนตร์ขลังอันเหนือกาลเวลาของบริทพ็อพ