
http://www.facebook.com/hysteriaculture
http://hysteriaculture.wordpress.com/2013/11/01/get-into-the-groove-one-direction-story-of-my-life-popfolkpop-rock-80-45/comment-page-1/#comment-354
One Direction : Story Of My Life : Pop/Folk/Pop-Rock (80% = 4/5)
เอาสิคะ! ไม่คิดไม่ฝันว่าบอยแบนด์อย่าง One Direction ที่เพื่อนๆหลายคนบนหน้า Feeds ดิฉันปรามาสพวกฮี (หรือพวกนาง?) ว่าเป็นแค่ตุ๊กตาประดับวงการเพลงพ็อพไปยันใจร้ายถึงขั้นกระแหระกระแหนว่าเป็นได้แค่เพียงกระแสชั่วครั้งชั่วคราวอยู่ได้ไม่นานเดี๋ยวก็มีอันล้มหายตายจากอันตรธานไปจากวงการเหมือนกับหลายๆวงก่อนหน้านี้ - เช่น Blue (ที่เมื่อต้นปีเพิ่งกลับมารวมตัวกันออกอัลบั้มใหม่) เป็นอาทิ - วันนี้จะออกเพลงโชว์กึ๋นโชว์พัฒนาการมาอุดปากสารพัดตุ๊ดช่างจิกกัดแถวนี้ให้หุบปากเงียบกริบกันแต่โดยดี (เช่นอีบ.ก.)
ว่ากันแบบซื่อๆตัวอีแนสเองก็ไม่ได้อินังขังขอบกับวงนี้เท่าไรคือไม่ได้สนใจติดตามแต่เพลงเพราะๆของพวกเขาอย่าง What Makes You Beautiful หรือ One Thing นี่คงไม่ปฏิเสธว่าชอบและยังฟังมาจนถึงทุกวันนี้ (โดยความกรุณาจากดีเจสถานีวิทยุที่ เปิดจัง!) ในขณะที่อีกวงอย่าง The Wanted ที่ดังสูสีคู่คี่กันมาเรากลับชอบเพลงของพวกเขาแม้ว่าจะไม่ชอบที่ตัวตนของศิลปินก็ตามด้วยความที่วงหลังนี่แม้จะปากดีปากหมาปากน่าเอาสากกะเบือตำสักเท่าใดแต่พวกเขาก็ฉายศักยภาพและวิสัยทัศน์ความเป็นของจริงออกมาอย่างชัดแจ้งว่าเรานั้นเป็นของจริงจึงทำให้ส่วนตัวในฐานะคนฟังและนักวิจารณ์เพลงสากลที่เป็นกลางเราก็ต้องให้ความยุติธรรมที่จะยอมรับวงดีๆที่ทุกวันนี้หาได้ยากแทบจะพลิกแผ่นดินเฟ้นทั้งฟากอเมริกาและสหราชอาณาจักร สงสัยบอยแบนด์ดีๆจะหนีไปเกิดเกาหลีกันหมดแล้วกระมัง!
แนสทิน่าเป็นคนชอบฟังเพลงพ็อพดังนั้นจึงนิยมอะไรที่มันพ็อพติดหูได้ไม่ยากเย็นซึ่งหลายๆซิงเกิ้ลของ1Dก็เป็นเช่นนั้นงานทีนพ็อพสไตล์บอยแบนด์อารมณ์เบิกบานกระจ่างแจ้งที่ก็ไม่แปลกใจว่าทำไมพวกเขาถึงสมควรขึ้นมาเป็นวงอันดับหนึ่งในยุคโรยราของบอยแบนด์เมืองผู้ดี - ก็เพลงมันพ็อพซะขนาดนั้นนี่เจ้าคะ! - อย่างไรก็ตามซิงเกิ้ล Story Of My Life เพลงโปรโมตลำดับที่สองจากอัลบั้ม Midnight Memories นี่เป็นเพลงแรกของพวก1Dจริงๆที่ทำดิฉันหันขวับด้วยความสนอกสนใจใน ชั้นเชิง ของการทำดนตรีได้จริงๆจังๆ - หาใช่แค่ความไพเราะติดหูรื่นเริงอารมณ์ดีไม่! - กับงานพ็อพที่ขยับขึ้นไปเล่นกับดนตรีโฟล์คที่โดดเด่นทั้งจากมิติในการใช้เสียงประสานในแบบของวัฒนธรรมโฟล์คกับลูกเล่นจากดนตรีเชิงทดลอง(Experimental)ที่หยอดความเป็นอิเล็คโทรนิคจางๆ คลาสสิคยันกลิ่นอายของดนตรีพื้นเมืองโซนไอริชได้อย่างลงตัวสุดๆจะว่าไปทั้งหมดทั้งมวลนี้นับว่าพวกเขายกระดับงานของพวกเขาขึ้นไปสู่ความเป็น นูโฟล์ค แบบย่อมๆได้เช่นกันฟังแล้วก็แอบคิดถึงงานแบบ Coldplay ในยุคสองอัลบั้มหลังที่พ็อพกว่าหลานช่วงตัวมากกว่าจะเป็นบริทพ็อพหรือเอ็กซ์เพอริเมนทัลร็อคนั่นแล ส่วนตัวที่ชอบนอกจากดนตรีกับการประสานเสียงสวยๆแล้วก็คงหนีไม่พ้นท่อนคอรัสอัพบีทกระชากใจสับรางเป็นงานพ็อพร็อคเอาใจเมนทสตรีมและอดัลท์คอนเทมโพรารี่ย์จำพวกอารีน่าร็อคอ่อนๆแค่รอบเดียวก็ติดหูหนึบ ฟังจบแล้วก็เกิดแรงบันดาลใจให้อยากฟังอัลบั้มเต็มของพวกหนุ่มๆ1Dเป็นครั้งแรกในชีวิตทีเดียว สงสัยคงต้องเตรียมกรอกใบสมัครแฟนจ๋า Directioner อีกแล้วแน่กู