
http://www.facebook.com/hysteriaculture
http://hysteriaculture.wordpress.com/2014/01/29/get-into-the-groove-lana-del-rey-once-upon-a-dream-chamber-poptrip-hop-85-45/
Lana Del Rey : Once Upon A Dream : Chamber Pop/Trip Hop (85% = 4/5)
ทำเอามิตรสหายและสารพัดคนใกล้ตัวถึงกับอ้าปากค้างเมื่อดิฉันเอ่ยปากสารภาพอย่างจริงใจว่า ไม่เคยฟังเพลงของลาน่า เดล เรย์มาก่อน เชื่อเถอะค่ะว่านั่งจีบปากวิพากษ์วิจารณ์เพลงใน FF Mag มาได้สิบปีกว่าๆจะเข้าปีที่11-12อยู่รอมร่อแต่ดิฉันก็สามารถเอ๊าท์ได้ถึงขนาดนี้เช่นกัน - เช่นเดียวกับ Lorde หรือ Mumford&Son ที่ก็ยังไม่เคยมีโอกาสได้ฟังกับเขาเช่นกัน - คือรู้นะคะว่าเธอคนนี้ดังเพราะเสียงลือเสียงเล่าอ้างรอบกายก็ต่างขนานนามยกย่องในวิสัยทัศน์อันเจ๋งเป้งเด็ดดวงในการทำดนตรีของเธอแต่ด้วยความที่ไม่เคยสนใจนางเลยแม้แต่น้อยจริงๆ จึงปล่อยตัวเองให้พลาดมาถึงทุกวันนี้!
ต้องขอบคุณโชคชะตาหรืออะไรก็ตามที่ทำให้สาว ลาน่า เดล เรย์ ตัดสินใจหยิบ Once Upon A Dream เพลงประกอบภาพยนตร์การ์ตูนสุดคลาสสิคขึ้นหิ้งของค่าย วอล์ท ดิสนี่ย์ อย่างเรื่อง Sleeping Beauty หรือที่เรารู้จักดีในชื่อแปลเป็นไทยว่า เจ้าหญิงนิทรา มาปัดฝุ่นทำใหม่สำหรับเป็นซาวนด์แทร็คเรื่อง Maleficent นางมารสุดทรงพลังที่บุกไปสาปเจ้าหญิงออโรร่าตั้งแต่เพิ่งจะแรกเกิดนั่นแล (สวยอย่างเดียวไม่พอยังซวยด้วยนะคะ เจ้าหญิงอาร๊ายยยโดนแช่งให้ตายตั้งแต่วันที่ตัวเองเกิดแถมยังแช่งให้ตายด้วยวิธีวิปริตพิสดารด้วยการเอานิ้วทิ่มเข็มปั่นด้าย พอโตมาย้อนกลับไปดูแล้วขำว่ะเธอ!)
กลับมาที่ Once Upon A Dream ถ้าจำไม่ผิดต้นฉบับเป็นเพลงแนววอลซ์ที่ขับร้องโดย แมรี่ คอสต้าและบิล เชอร์รี่ย์ ซึ่งก็ถือกำเนิดบนโลกใบนี้มาตั้งแต่ปี1959 มาที่ฉบับของเจ๊ลาน่ายังยึดความรุ่มรวยกรีดกรายของต้นฉบับโดยคงกลิ่นอายของความเป็นวอลซ์เจือจางหากแต่เนรมิตแต่งแต้มความอลังการด้วยเครื่องสายมโหรีใหญ่บึ้มชนิดที่ฟังแล้วขนหัวลุกก่อนจะตบเข้าทดลองกับความเป็นทริพฮอพดาวน์เทมโพเนิบนาบหลอนๆลอยละล่องสไตล์ลาน่าที่ ณ จุดนี้ขอชมว่าลงตัวและมีเสน่ห์มากๆคือมันเป็นอะไรที่สมดุลย์ระหว่างความสวยงามของเทพนิยายสไตล์วอล์ท ดิสนี่ย์กับตัวตนของลาน่า เดล เรย์กับเอกลักษณ์ทางดนตรีที่เยือกเย็นและมีกลิ่นอายของความมืดหม่นปกคลุมอยู่ขมุกขมัวซึ่งผลลัพธ์ออกมาเจิดจรัสเหนือคำบรรยาย นับถือในความกล้าเสี่ยงตายและความกล้าทดลองกล้าใส่ความเป็นตัวเองของเธอในครั้งนี้จริงๆเพราะว่าหลายครั้งนะคะที่เวลาศิลปินดังๆมาทำซาวนด์แทร็คถ้าไม่โดนอิทธิพลของหนังตีกรอบก็จะโดนความเป็นตัวตนของศิลปินกลบภาพยนตร์หมดจด อย่างอีเจ๊แม่มาดอนน่าใน Die Another Day นั่นประไร - ท้ายที่สุดไม่อยากเชื่อก็ต้องเชื่อว่าศิลปินที่เราไม่เคยสนใจเลยจะทำเพลงได้มีเสน่ห์ตรงใจขนาดนี้ว่าแล้วก็อดไม่ได้จริงๆที่จะไปตามหาอัลบั้มชุดก่อนหน้านี้ของเธอมาฟัง มีใครแนะนำได้บ้างเอ่ย?