อ้างอิงจาก:
ศบค.ไฟเขียวปลดล็อกเฟสแรก เปิดให้นั่งกินในร้านได้ 50% เสริมสวย นวดฝ่าเท้า สนามกีฬา สวนสาธารณะ รวมถึงการเดินทางโดยเครื่องบิน และระบบขนส่งสาธารณะสามารถเดินทางข้ามจังหวัดได้ มีผล 1 ก.ย.นี้ แต่ยังคงเคอร์ฟิว เหมือนเดิม
วันที่ 27 สิงหาคม 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) ที่มีพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน มีมติเห็นชอบปรับระดับของพื้นที่สถานการณ์ย่อยในพื้นที่ทั่วราชอาณาจักรและมาตรการป้องกันควบคุมโรคโควิด ? 19 ในจังหวัดควบคุมสูงสุดและเข้มงวด 29 จังหวัด (พื้นที่สีแดงเข้ม)
?ที่ประชุมศบค.ชุดใหญ่ได้พิจารณามาตรการในหลายประเด็น และครั้งนี้ไม่มีการปรับพื้นที่สี แต่มีการปรับมาตรการการควบคุมโรคที่เข้มงวด มีการอนุญาตให้เปิดกิจการ กิจกรรมเพิ่มเติม ตามความพร้อมและความจำเป็น เพื่อให้ประชาชนสามารถดำเนินชีวิตได้ใกล้เคียงกับปกติมากที่สุด รวมทั้งพิจารณารอบด้านทั้งเศรษฐกิจและสังคม? แพทย์หญิงอภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษก ศบค.กล่าว
สำหรับมาตรการที่ผ่อนคลายเพื่อป้องกันและควบคุมโควิด-19 ตามระดับของพื้นที่สถานการณ์ย่อยในพื้นที่ทั่วราชอาณาจักร มีดังนี้
1. การเดินทางข้ามจังหวัดจากพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวดได้
ขอความร่วมมือหลีกเลี่ยงการเดินทาง หรือเดินทางเมื่อมีเหตุจำเป็นเท่านั้น
สื่อสารให้ผู้ที่มีประวัติเสี่ยงต่อการติดเชื้อ หรือผู้ติดเชื้อให้เดินทางตามโครงการรับคนกลับบ้าน/รับผู้ป่วยกลับภูมิลำเนา เพื่อป้องกันการแพร่เชื้อระหว่างและหลังการเดินทาง
ระบบขนส่งสาธารณะจำกัดจำนวนผู้โดยสาร ไม่เกิน 75 % สวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา
ห้ามรับประทานอาหาร
มาตรการสำหรับรถโดยสาร หรือรถตู้ ระยะทางไกลควรแวะพักทุก 2- 3 ชั่วโมง เพื่อระบายอากาศ
การเดินทางไปทำงานของแรงงาน ให้ใช้ระบบ seal route ตามมาตรการ Bubble and Seal
การกำกับติดตามมาตรการโดย ผู้ประกอบการ กระทรวงคมนาคม และ สำนักงานการบินพลเรือน
2. การเปิดบริการของร้านอาหาร
ประเภทร้านอาหาร
ร้านอาหารที่อยู่นอกอาคาร หรือในอาคาร แต่ไม่มีเครื่องปรับอากาศ โล่ง อากาศถ่ายเทดี ให้นั่งรับประทานได้ 75 % และร้านอาหารที่เป็นห้องที่มีเครื่องปรับอากาศ ให้นั่งรับประทานได้ 50 %
ผู้ประกอบการต้องดำเนินตามมาตรการป้องกันควบคุมโรคที่กำหนดไว้อย่างเคร่งครัด
การกำกับติดตามมาตรการ โดยผู้ประกอบการ สมาคมภัตตาคารไทย และคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด/กรุงเทพมหานคร
3.การปรับมาตรการสำหรับกิจการห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า คอมมูนิตี้มอลล์ กิจการ/กิจกรรมสามารถเปิดดำเนินการได้ทุกแผนก ภายใต้มาตรการฯ ยกเว้น กิจการ/กิจกรรม
กลุ่มที่ 1 กิจการ/กิจกรรมที่เปิดได้แบบมีเงื่อนไข ได้แก่
ร้านเสริมสวย ร้านตัดผมหรือแต่งผม เปิดได้เฉพาะตัดผมเท่านั้น ไม่เกิน 1 ชั่วโมง
ร้านนวด เปิดได้เฉพาะนวดเท้า
คลินิกเสริมความงาม เปิดจำหน่ายสินค้าเท่านั้น (อาจมีการนัดหมายล่วงหน้า เมื่อมีความพร้อม)
ร้านอาหาร เปิดได้ตามเงื่อนไขของมาตรการร้านอาหารมีเครื่องปรับอากาศ
กลุ่มที่ 2 กิจการ/กิจกรรมที่ยังไม่เปิดบริการ ได้แก่
สถาบันกวดวิชา
โรงภาพยนตร์
สปา
สวนสนุก สวนน้ำ
ฟิตเนส ห้องออกกำลังกาย สระว่ายน้ำ
ห้องจัดประชุม/จัดเลื้ยง
ผู้ประกอบการต้องดำเนินตามมาตรการป้องกันควบคุมโรคที่กำหนดไว้อย่างเคร่งครัด
การกำกับติดตามมาตรการ โดยสภาหอการค้าไทย และ คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด/กรุงเทพมหานคร
เปิดถึง เวลา 20.00
Source: https://www.prachachat.net/general/news-746466
คือนี่คิดว่ามันก็เป็นเรื่องดีนะคะ แต่สิ่งที่เป็นห่วงอะค่ะ คือกลัวว่าจะยอดเพิ่มขึ้นอะค่ะ ถึงแม้ว่าจะกำหนดมาให้แล้วว่าผู้ที่จะเข้านั่งในร้านได้ต้อง Fully vaccinated หรือ ตรวจ ATK แต่ชั้นอยากจะรู้จริงๆว่าแต่ละร้านจะทำได้จริงเหรอคะ ในเชิงปฏิบัติที่ว่าจะต้องมาเช็คทีละคน อีกทั้งวัคซีนก็เข้าถึงยาก + อีราคาค่าเครื่องตรวจนี่ก้ใช่ว่าจะอันละ10บาทนะคะ นี่ยังไม่รวมถคงมาตรการนั่งในร้านอีกนะคะ ว่าไม่เกินกี่ % ของ
ร้าน ชั้นเลยสงสัยอะค่ะ ว่าจะทำได้กันจริงๆเหรอ
_________________