เห็นด้วยกับกะเทย คือเข้าใจว่าอีนี่คงกะให้มูดแอนด์โทน ดูเป็นparody ตลกขบขัน ก็เลยเลือกที่จะถ่ายทอดให้ดูexaggerate จนเหมือนกะเทยตามรายการอีรูพอล แต่คือ.. การเอากะเทยมาmake funในยุคนี้ มันดูเชยและไร้creativityในการนำเสนอไปหน่อย
แต่สิ่งที่ช้านชอบงานอีลิลแนส คือความกล้าที่จะยืนหยัดในฐานะlgbtบนวัฒนธรรมของดนตรีชายแท้ (โอเคว่าคงมีกะเทยคนอื่นที่ทำอีก แต่ไม่ดังเท่านาง)
มันเป็นเรื่องที่challengeมากๆ ที่กะเทยที่come outแล้ว จะยังkeep goingอยู่ในแวดวงดนตรีที่มีกำแพงและการกีดกันต่อเพศที่3สูงมาก อย่างวงการฮิพฮอพและคันทรี แต่กลับไม่ถูกอิทธิพลพลวัฒนธรรมชายแท้กลืนไป แบบป้าแอ้วสมัยหัวโปก ป้าไมค์ หรือเฟรดดี้ เมอร์คิวรี่
อีกทั้ง การไม่พยายามจะเป็น'ชะนี' แบบที่นักร้องกะเทยชอบเป็นกัน คือพอcome outเสร็จ ก็มโนนึกว่าตัวเองมีหีมาตั้งแต่เกิด ทำเพลงเพ้อควยแข่งกับอีเทย์ อีล้านนาซะงั้น
คือเพลงกะเทยก็คือเพลงกะเทย โอเคว่ามันก็ต้องมีมุมที่ดูเป็นfeminineมากๆบ้าง แต่มันก็ต้องมีวิถีแบบmasculineอยู่ด้วย คือช้านก็ไม่ถึงขนาดหวังว่า นักร้องกะเทยจะต้องบาลานซ์2สิ่งนี้ให้ได้เป๊ะๆหรอก แต่มันต้องมีcombinationนี้อยู่ จะ70:30ก็ได้ แต่ไม่ใช่โดนวัฒนธรรมใดวัฒนธรรมนึงกลืนไปหมด
กะเทยprideก็ควรจะเป็นกะเทยprideจริงๆ ไม่ใช่gay icon กลับมีแต่นักร้องชะนี กับผู้ชายแนวmetrosexual ที่ก้าวไม่พ้นวัฒนธรรมชายแท้ แบบลุงพริ้นซ์ หรือเดวิดโบวี่ ได้ซักที
คือถ้าอีลิลแนสสถาปนาตัวเองไปอยู่ ณ จุดๆนั้นได้จริงๆ ช้านก็ดีใจ และก็ขอแสดงความยินดีด้วย
_________________