เพราะเราก็รู้ว่า มารีไม่ค่อยจะพอใจพวกเราเท่าไหร่ด้วย เนื่องจาก
หนึ่งเพื่อนเราพูดอังกริดไม่ได้ สอง เราเองก็ยังพูดอังกริดได้ไม่คล่อง
มันก็ยังติดๆขัดๆอ่ะนะ บางคำบางประโยค จะให้ลื่นไหลเหมือนอเมริกันได้ไง
แต่ยัยมารีเค้าต้องการแบบโปรเฟชชันนอล เค้าบอกเราแบบนี้เลยนะ
เออๆ มีอยู่ครั้งนึงตอนที่เราฝึกรับโทรศัพท์จากลูกค้า โนเอ้เป็นคนสอน
โนเอ้ก็บอกว่า ผมจะเป็นลูกค้านะ แล้วเน็ตตี้ก็ต้องรับลูกค้าให้ดี โอเค๊?
แล้วโนเอ้ก็โทรมา พอเราพูดผิดอะไรตรงไหนเค้าก็จะบอก แร๊วทีนี้ มันแกล้ง
ถามนอกเรื่อง อย่างเช่น เอ่อ รู้ไหมว่าบีชที่นี่มีกี่บีช ชื่ออะไร อยู่ตรงไหน ขับรถไปเส้นไหน
จะดูโอเปร่าที่ไหน ราคาแพงไหม
พอไปแอบดูมันนะ โอ้โห มันแอบนั่งหัวเราะใหญ่เลย
ทีนี้ มารีเข้ามาเจ๊อะพอดี ตาเขียวปั้ด ... แล้วก็พูดอะไรกะโนเอ้ไม่รู้ เป็นภาษาสเปน
ปนฝรั่งเศส แอบได้ยินพูดถึงดิชั้นนะคะ แหม เรียนฝรั่งเศสมาย่ะ ไม่ต้องมานินทา
อืม ต่อเรื่องที่ว่าอาเท่อบอกไม่ต้องมาทำงาน
แล้วเค้าก็ไม่ให้ทำจริงๆนะ สามวัน แต่เค้าก็มาดูอาการทุกวัน อาการนังเพื่อนน่ะค่ะ
มันก็บอกว่ายังไม่ดีขึ้นๆ อีฟลาวเวอร์ แหม กรูเห็นมรึงเล่นเอ็มอยู่
สามวันนั้น ไม่ทำไรค่ะ ไปปาร์ค ดูทีวี ดู making the band , ANTM ดูแต่เอ็มทีวีกะวีเอชวัน
ช่วงนั้น sarah bareille ดังมากๆ เพลง love song นี่ ไปไหนก็เจอ แล้วก็เพลง
realize ของ colbie caillat ดังระเบิดเถิดเทิงมากๆ
แล้วทีนี้ พอเข้าวันที่สามปุ๊บ มารีก็มาเคาะประตู บอกเราว่า ขอคุยด้วยเป็นการส่วนตัว
นั่นแล้ว
พอเข้าไปคุย มารีก็บอกว่า ชั้นเห็นแคร์แล้ว ชั้นว่าหล่อนน่ะไม่เวิร์คเลย
หล่อนทำอะไรไม่ได้เลย หล่อนได้แต่นอนทุกวันแบบนี้ รู้ไหมว่าเราจ้างหล่อนมาทำงาน
แต่หล่อนไม่ทำงาน ทีนี้ ในเมื่อหล่อนไม่ทำงาน หล่อนก็ต้องทำงานที่อื่น
เน็ต คำถามก็คือ แคร์จะต้องย้ายไปยูท่าห์ คุณจะไปด้วยไหม
เราก็ตอบว่า คิดดูก่อนนะ เพราะมาคิดๆดู ทำงานโรงแรมนี้ ไม่คุ้มอย่างแรง ขาดทุนเป็นอย่างสูง
แล้วมารีก็เจือกพูดขึ้นมาว่า
รู้ไหม ภาษาอังกริดแคร์น่ะ ใช้ไม่ได้เลย เพราะชั้นพูดกะหล่อนทีไร หล่อนต้องหัน
หน้าไปหาคุณ ให้คุณแปลให้ทุกที แล้วอย่างเงี้ย หล่อนจะรับแขกไม่ได้เลย
แต่คุณ คุณก็โอเคนะ แต่คุณก็ไม่ใช่ระดับโปรเฟชชันนอล (ก็แน่สิ ป้า)
ซึ่งเราต้องการคนแบบมืออาชีพ เข้าใจไหม เราต้องการคนที่พูดได้แบบโปร
คิดในใจ เอ๊า มรึงไม่จ้างอีอเมริกันมาทำล่ะคะ ?
แล้วหร่อนก็พูดว่า คุณจะลองดูก็ได้นะ ทำงานกับเรา โดยเราจะให้แคร์ย้ายไปก่อน
ถ้าคุณผ่านใน 1 week นี้ ก็โอเค แต่ถ้าคุณไม่ผ่าน คุณก็ต้องไปเหมือนกันนะ
ถ้าคุณผ่าน จะให้แคร์อยู่นี่ด้วยก็ได้นะ ให้แคร์ทำร้านอาหารไทยก็ได้ คุณทำงานกับเรา
ไม่รู้ยังไงค่ะ รู้สึกเหมือนถูกหยาม ก็บอกมัน ขอคิดก่อน แต่คำตอบในใจ
คอยดูนะ กูจะออก
แล้วทีนี้หล่อนก็เรียกแคร์ไปคุย แบบเดียวกัน
ทีนี้พอแคร์กลับมา ก็ได้ข้อสรุปว่า ไปหาพี่เพ็งที่ร้านอาหารข้างๆกันเถอะ
ทีนี้ พี่เขาก็ชวนเราไปอยู่ด้วย แล้วบอกว่า ไม่ต้องห่วง เดี๋ยวพี่หางานร้านอาหารให้
พี่อ่ะ รู้จักคนเยอะ โทรไปบอกโครงการซะ ว่าเราไม่ไปยูท่าห์
ซึ่งเราก็ไม่อยากไปจริงๆนะ เพราะมันกันดารกว่านี้อีก ไม่อยากไปอยู่กลางแคนยอน
เราก็โทรบอกโครงการ แล้วเค้าบอกว่า นางมารีนี้จัดการให้หมดแล้ว ติดต่อโครงการทั้ง
ที่ไทยและที่เมกาเรียบร้อย แต่เราก็ยืนยันว่าจะหางานเอง พี่เค้าก็ตอบตกลง
แล้วก็คุยกันกะพี่เพ็ง ว่าทุกอย่างโอเคไหม แล้วทีนี้ เราก็ออกเลย เพราะนางมารีบอกว่า
คุณต้องออกไปภายในสองวัน เราจะเอาห้องให้ลูกจ้างใหม่เราอยู่
นังมาร ใจดำ
คิดดูสิ ที่เค้าพาเรามานี่แล้วภาษาเราไม่ถูกใจเค้า มันไม่ใช่ความผิดเรานะ
เพราะงานที่ต้องใช้ภาษา นายจ้างจะต้องโทรสัมภาษณ์กะลูกจ้างก่อน
แต่นี่นังมารีรับมาซี้ซั้ว พอไม่ถูกใจ ก็จะให้ออก อีฟลาวเวอร์
แล้วหล่อนเตรียมการไว้หมดแล้วค่า ก่อนจะมาถามเราน่ะ
พอวันที่ออก อาเท่อก็ลา แต่นังมารไม่มานะคะ นั่งอยู่ในออฟฟิศ
อาเท่อบอกขอโทษ แล้วก็ช่วยขนกระเป๋า แล้วบอกให้โทรกลับมาหาด้วย เขาเป็นห่วง
และแล้วเราก็ขนกระเป๋าไปอยู่ ณ บ้านพี่เพ็ง
เป็นบ้าน mobile home บ้านแบบย้ายได้นั่นน่ะค่ะ เล็กๆ แล้วบ้านนั้นอยู่กันตั้งหกคน
ประกอบด้วย ลูกสาวเขา สองคน พี่มั่น สามีพี่เพ็ง พี่เพ็ง ทั้งหมดนี้เป็นคนลาว
และมีคนไทยสองคนคือลุงชาติ กะป้าแต๋ว แล้วมีเรามาอีกสอง โอ้โห บ้านแออัดมาก
โดยเรานอนอยู่ห้องรับแขกข้างนอก ก็โอเคนะคะ สบายใจ
พอตื่นเช้า ทุกคนก็มาประชุม ว่ามีตำแหน่งงานว่างที่ไหน
พอเอาเข้าจริงแล้ว มันก็ไม่เหมือนที่พี่เพ็งพูดไว้เลย คือ เค้ารู้จักคนเยอะ
แต่รู้จักในความหมายภาษาลาวก็คือ รู้จักว่าอยู่ที่ไหนเฉยๆ เค้าจะรู้จักเรารึป่าว
ก็ไม่รู้ เอ๊า กรู เลือกผิดช้อยแล้วสิเนี่ย
ไปร้านแรก ร้านพี่สาวป้าแต๋ว ชื่อป้าตุ่ม เป็นร้านอาหารไทย พอเล่าให้เค้าฟัง
เค้าก็สงสาร แต่รับได้คนเดียว แล้วทำไม่กี่วันต่อสัปดาห์ สามสี่วันเองมั้ง
ก็เลยให้แคร์ก่อน เพราะหร่อนชอบพูดว่า ไม่แคร์เรื่องทำงาน ประมาณว่ามีตังค์
อะไรเทือกนี้ ก็เลย อ่ะ มรึงเอางาน ชม น้อยๆไปซะ
แล้วพี่เพ็งก็บอกว่า ไม่ต้องห่วง เดี๋ยวพี่พาไปฝากร้านนั้น ร้านนี้
กรูก็เชื่อค่ะ มั่นใจมากๆ พอเอาเข้าจริงๆ เข้าไปถามเค้า เค้าไม่รู้จักพี่เพ็งซะหน่อย อ้าว
มันก็เหมือนไปขอสมัครงานธรรมดาอ่ะค่ะ แล้วช่วงนั้นเป็นช่วงสโลว์ ไม่มีที่ไหนรับเลย
แล้วพี่เพ็งนะคะ คือ เค้ามาหางานกะเราสองสามวันเค้าก็ชักเบื่อ ทีนี้ เค้าก็บอกเราว่า
ทำไมไม่ไปเดินหาแถวนั้น แถวนี้ล่ะ
แหม ถ้าเมืองนี้มันเจริญก็คงเดินได้อยู่นะคะ รถโดยสารก็ไม่มี แถมไม่เข้าถึงทุกถนน
แล้วก็อย่างที่บอก แต่ละที่ห่างไกลกันเป็นสิบไมล์ ประมาณว่า แมคอยู่เมืองนี้
เคเอฟซีอยู่เมืองโน้น แล้วบ้านพี่เขาก็ไกลลลลลลลลลลลล มากๆ
ไกลจากเมืองมากมายก่ายกองเป็นครึ่ง ชม
แต่พอพี่เขาพูดมาแบบนี้ ก็แอบเสียความรู้สึกนะคะ ที่เขาประมาณว่า ขี้เกียจหาให้แล้ว
ก็รนู้นะคะ ว่าเขาเหนื่อย ก็ถามมันทุกร้านอาหารไทยที่มีอยู่แล้วอ่ะค่ะ หมดแล้ว ทุกร้านจริงๆ
เป็นสิบๆร้านเลย ประมาณว่า หมดเมืองแล้ว ถ้สจะหาร้านที่ยังไม่ได้ไป ต้องไปหาที่เมืองอื่นแล้ว
แต่พี่เขาก็เป็นคนพาเราออกมาเอง แล้วมาขี้จุ๊ให้เรามั่นใจที่จะอยู่กับเขาแบบนี้
ก็เลยบอกเขาพาไปปล่อยแถวเคมาร์ทน่ะค่ะ แล้วเดินมัครงานร้านฝรั่ง
ไปมาหมดแล้ว ทั้งแมค เคเอฟซี เวนดี้ แจ็คอินเดอะบ๊อก เคมาร์ท วอลมาร์ท quiznoz
สตาร์บัค สารพัดจะหาแล้ว ทุกที่ เหมือนกันหมด
"แล้วเราจะติดต่อไป" แต่ไม่เคยติดต่อมา
ไปอาบน้ำทำงานก่อนนะ ไม่ทันแล้ววุ้ย
ทำงานเส็ดมาเล่าใหม่ กะลังมันส์
_________________
