
Shania Twain : Come On Over : 4.5/5
งานรีวิวชิ้นนี้เป็นรีเควสจากคุณ CarrieUnderwood ก่อนหน้าที่เดี๊ยนจะตัดสินใจอำลาบอร์ดรีวิวกับงานรีวิวของ Alicia Keys อัลบั้ม As I Am ประมาณ3สัปดาห์นะคะ ส่วนตัวแล้วก็ไม่ได้ติดตามเรื่องราวทั้งหมดอย่างละเอียดรวมถึงไม่มีความเห็นฟันธงเกี่ยวกับข้อเท็จจริงของเรื่องราวทั้งหมดนี้นะคะ อย่างไรก็ตามขออุทิศความตั้งใจในการรีวิวครั้งนี้แก่คุณ CarrieUnderwood ในฐานะหนึ่งในแฟนรีวิวตัวยงท่านหนึ่งของเดี๊ยน ในฐานะนักรีวิวที่มีความสามารถมากที่สุดคนหนึ่งของบอร์ด ในฐานะคนที่รักดนตรีด้วยกันและที่สำคัญที่สุดในฐานะสมาชิกท่านหนึ่งของบอร์ดผู้เป็นหนึ่งในกำลังสำคัญที่ช่วยสนับสนุนผลักดันให้สังคมออนไลน์แห่งนี้มีสีสันและความสำคัญอย่างยิ่งยวดแก่สมาชิกทุกท่านมากกว่าค่าที่จะเป็นแค่เพียงพื้นที่เพื่อความบันเทิงที่ผ่านไปวันๆในโลกไซเบอร์หากแต่มีความหมายและความพิเศษเปรียบเสมือนกับเสี้ยวหนึ่งของชีวิตปรระจำวันของสมาชิกทุกท่านในสังคมแห่งนี้นะคะ
รูปแบบเพลง
Come On Over เป็นสตูดิโองานคันทรีย์พ็อพลำดับที่3จากชาไนญ่า ทเวนโดยเวอร์ชั่นที่เดี๊ยนได้นำมาเขียนรีวิวถึงเป็น International Version ซึ่งวางจำหน่ายในช่วงเดือนพฤศจิกายนปี1999หลังจากที่2ปีก่อนหน้านี้เคยได้จำหน่าย Original Country Version ในโซนอเมริกาเหนือมาแล้วนะคะ สำหรับภาคดนตรีในเวอร์ชั่นนี้ยังคงความเป็นคันทรีย์พ็อพเช่นเดิมหากแต่ขัดเกลาให้ออกมาเข้าถึงได้ง่ายและละเมียดละไมรับกับตลาดสากลมากขึ้นโดยลดความสดของคันทรีย์ บลูส์ เวสเทิร์น Honky Tonkและร็อคแอนด์โรลกร้าวๆลงและแทนที่ด้วยการบีบความเป็นพ็อพและเวิลด์เข้าไปยืนพื้นเคียงคู่กับคันทรีย์มากขึ้นก่อนจะเสริมความเป็นคันทรีย์พ็อพร็อค โฟล์ค อคูสติค เมนส์ตรีมและฟั้งค์เข้าไปเนรมิตรูปโฉมการนำเสนอใหม่ได้อย่างลงตัวโดยแทร็คเดียวที่ยังคงไว้ซึ่งเวอร์ชั่นออริจินัลคือ Rock This Country ! นะคะ สำหรับในภาคของการโปรโมตอัลบั้มนี้ได้รับโควต้าในการโปรโมตระยะยาวถึง12ซิงเกิ้ล (ทุกแทร็คในหัวข้อแทร็คเด็ดยกเว้น Black Eyes,Blue Tears) รวมถึงประสบความสำเร็จในด้านยอดขายมากมายถึง36ล้านก็อปปี้ทั่วโลก (ในปัจจุบัน) สร้างสถิติให้อัลบั้มนี้ได้รับเกียรติให้เป็น The Best Selling Country Music Album Of All Time รวมถึงทำลายสถิติอัลบั้ม Rose Garden โดย Lynn Anderson ในปี1971 เข้าสู่การเป็นศิลปินหญิงคันทรีย์ที่มียอดขายมากที่สุด (ส่วนตัวไม่แน่ใจนะคะว่าอัลบั้มนี้เป็นงานที่มียอดขายสูงสุดตลอดกาลของศิลปินหญิงรึเปล่า) เป็นหนึ่งในอัลบั้มที่ประสบความสำเร็จที่สุดอัลบั้มหนึ่งของโลกที่เคยมีมาโดยศิลปินหญิงเลยทีเดียว เป็นหนึ่งในอัลบั้มคันทรีย์คุณภาพที่ช่วยเสริมระดับให้ดนตรีคันทรีย์สามารถก้าวเข้าสู่วัฏจักรความเป็นที่นิยมในระดับสากลอย่างเปี่ยมด้วยชั้นเชิงโดยแท้
จุดด้อย
เท่าที่พยายามหาดูแล้วข้อบกพร่องจุดเดียวของงานชุดนี้สำหรับเดี๊ยน (ซึ่งเป็นจุดใหญ่ที่เดี๊ยนสะดุดกับทุกงานของเธอ) คือในบางแทร็คยังไม่สามารถสลัดหลุดจากสูตรสำเร็จเดิมๆของกรอบการนำเสนอแบบธรรมเนียมนิยมฉบับคันทรีย์ที่ค่อนข้างเกร่อและจำเจไปแล้วไม่ว่าจะเป็นมุขของชาไนญ่าเองหรือมุขที่ใช้กันมาจนเปนตำนานของการนำเสนองานคันทรีย์ของศิลปินทุกเพศทุกวัยที่มาจากแวดวงนี้แล้วก็ตาม ส่วนตัวก็เข้าใจค่ะว่านี่อัลบั้มคันทรีย์ซึ่งรูปแบบการนำเสนอมันเป็นธรรมเนียมปฏิบัติไปแล้วในแง่ของการอนุรักษ์ลูกเล่นและจิตวิญญาณของภาคดนตรีให้เป็นสมบัติแก่อนุชน ซึ่งมาถึงตรงนี้จะไปว่าป้าเขาก็ไม่ได้ถ้าจะด่าใครก็ต้องด่าตัวเดียนนี่แหละค่ะในฐานะที่เรื่องมากที่สุดแลฃะดันหล่อหลอมพื้นฐานการฟังดนตรีมาจากสายพ็อพล้วนๆซึ่งมีรูปแบบการนำเสนอที่ไม่เสถียรและขยายแวดวงการเล่นออกไปหบล่อหลอมกับภาคดนตรีใหม่ๆได้กว้างขวางและหลากหลายกว่าพอมาเจออะไรที่ค่อนข้างมีธรรมเนียมนิยมตายตัวก็เป้นเรื่องธรรมดาที่ตจะเกิดอาการเบื่อรวมถึงไม่เก็ทในภาคการนำเสนอบางแง่มุมเนื่องด้วยส่วนตัวไม่ใช่คอคันทรีย์แท้ๆมุมมองในหลายส่วนจึงอาจจะตัดสินไปเอื้ออำนวยในแบบที่ตัดสินเพลงพ็อพเสียมากกว่า นอกจากนี้ในแง่ของการนำเสนอที่ทำออกมาได้ถึงทั้งภาคเนื้อหาและเมโลดี้ย์ของภาคดนตรีที่ต้องขอออกปากว่า "ทุกแทร็คเพราะมากๆเลยค่ะ" อย่างที่เจ๊นาโอเคยบอกไว้เลยว่าแต่ละซิงเกิ้ลของอัลบั้มนี้นี่เพราะฆ่าคนฟังตายไปข้างเลยไม่ดังไม่เปรี้ยงให้รู้ไปซึ่งส่วนตัวเห็นด้วยสุดๆนะคะ (ว่าแล้วบวกคะแนนพิศวาสอีก.5ทันที) รวมถึงเอกภาพระดับสูงเสียดฟ้าที่ถ่ายทอดออกมาให้ฟังทั้งการเรียบเรียงที่ภาพรวมฉีกนิยามออกไปจากภาคการนำเสนอคันทรีย์เดิมๆสร้างความประทับใจและเพลิดเพลินในการฟังแก่เดี๊ยนมากๆ จนต้องออกปากว่านี่เป็นงานคันทรีย์ที่พ็อพเอามากๆคือไม่ได้แก่ยานน่าเบื่อดิบสดเข้าถึงยากอย่างที่เราเคยชินจากการฟังคันทรีย์ก่อนหน้านี้รวมถึงยกระดับให้ภาพรวมออกมาเข้าถึงง่ายแถมยังเต็มไปด้วยไอเดียเก๋ๆจากภาคเนื้อหาและลูกล่อลูกชนเปรี้ยวๆเจ็บๆที่ไม่ค่อยจะพบพานในโลกคันทรีย์เท่าไรหากแต่ถูกใจผู้ฟังมากกลุ่มแน่ๆถ้าได้ลองลงมาสัมผัส
แทร็คเด็ด
Love Gets Me Every Time (2.5/5) ซิงเกิ้ลแรกอย่างเป็นทางการโดยยึดข้อมูลจากการโปรโมตออริจินัลเวอร์ชั่นเป็นหลักนะคะโดยก่อนหน้านี้แทร็คนี้เกือบจะได้ใช้ชื่อสุดรากหญ้าว่า Gol' Darn Gone And Done It ต๊ายยยย แค่ชื่อก็รู้ชั้นค่ะ (เสร่อมากกกกกก) อย่างไรก็ตามนับว่าไปกันได้ดีกับตัวเพลงที่นำเสนอในรูปแบบที่คงไว้ซึ่งขนบของคันทรีย์พ็อพร็อคเชยลากทั้งภาคดนตรีและการเรียบเรียงถ้อยคำโดยเหยาะความเป็นเวสเทิร์น ร็อคแอนด์โรลและกีตาร์บลูส์ร็อคเชือดๆลงไปผสมผสาน ผลลัพธ์ออกมานี่ต๊ายยย ตายขนาดเวรอ์ชั่นที่ฟังมันพัฒนาแล้วยังออกมาห่างไกลความเจริญอยู่ดีนะคะเจ๊ อย่างไรก็ตามเพลงนี้ก็ทำออกมาได้ถูกใจคอคันทรีย์ถึงขั้นทะยานขึ้นไปถึงอันดับหนึ่งบนบิลด์บอร์ดคันทรีย์ชาร์ตถึง5สัปดาห์รวมถึงเป็นอันดับหนึ่งเพลงที่5ของเธอในชาร์ตนี้ด้วยนะคะ มองในแง่ของการนำเสนอแบบเอาใจคอคันทรีย์ก็โอเคนะคะสดเชยถึงกึ๋นตามธรรมเนียมเลยทีเดียวแต่ส่วนตัวไม่ถูกสเป็กด้วยก็แค่นั้นเอง ต่อด้วย Man!I Feel Like A Woman! (4/5) หนึ่งใน Signature Song ตลอดกาลที่มาในรูปแบบคันทรีย์พ็อพร็อคเก๋ๆที่มาพร้อมกับภาคเนื้อหาเปรี้ยวๆฮุคที่ติดหูหนึบหนับและจริตจก้านความขบถของสาวคันทรีย์ที่รับประกันความโดนใจผู้ฟัง เพลงนี้ได้รับเลือกให้เป็นแทร็คประกอบโฆษณาเชฟเวอร์ โคโลราโดในปี2004รวมถึงชนะรางวัลแกรมมี่สาขา Best Female Country Vocal Performance ในปี 2000 ด้วยนะคะ เริ่ด!!! มาที่ Don't Be Stupid (You Know I Love You) (4.5/5) ซิงเกิ้ลที่สองของงานชุดนี้หากแต่ได้รับเลือกให้เป็นซิงเกิ้ลที่7สำหรับตลาดสากลนะคะ ภาคดนตรีเป็นคันทรีย์พ็อพน่ารักๆที่เจือกลิ่นอายดนตรีเต้นรำแบบเวิลด์อ่อนๆ คลาสสิคและร็อคได้อย่างลงตัว เป็นหนึ่งในแทร็คที่ส่วนตัวคิดว่าสมบูรณืแบบและนำเสนอออกมาได้ดีสุดๆจากเธอ แทร็คถัดไป Honey,I'm Home (3.5/5) ถ้าจำไม่ผิดรู้สึกว่าจะเป็นอันดับหนึ่งเพลงล่าสุดบนบิลด์บอรืดคันทรีย์ชาร์ตของเธอนะคะ มาที่ตัวเพลงแม้ว่าจะเชยไปนิดแต่ส่วนตัวแล้วคิดว่าการนำเสนอทั้งภาคดนตรีและเนื้อหาทำออกมาได้อย่างน่าเอ็นดูเรียบเรียงได้ดีค่ะยืนพื้นที่ความเป็นคันทรีย์ก่อนจะตบกลิ่นอายของร็อค พ็อพ บลูส์และฟั้งค์ลงไปผสมผสานได้เนียนดีเลยทีเดียวนับเป็นหนึ่งในแทร็คที่ส่วนตัวคิดว่าติดหูที่สุดตลอดกาลจากเธอ
สำหรับแทร็คที่โดดเด่นและประสบความสำเร็จที่สุดในอัลบั้มที่ไม่พูดถึงไม่ได้แน่นอนคงไม่พ้น You're Still The One (5) คันทรีย์พ็อพบัลลาดเมโลดีย์สุดงดงามที่สมบูรณืแบบและบรรเจิดครบเครื่องในภาคการนำเสนอรอบด้านที่ผลักดันให้เพลงนี้เข้าสู่ทำเนียบหนึ่งในบัลลาดสุดคลาสสิคตลอดกาลของโลกรวมถึงเป็นเพลงที่ประสบความสำเร็จในใจของผู้ฟังระยะยาว จริงๆแล้วเพลงนี้ถูกโปรโมตเป็นซิงเกิ้ลที่สามสำหรับออริจินัลเวอร์ชั่นนะคะแต่ในเวอร์ชั่นอินเตอร์เพลงนี้แรงถึงขั้นได้รับเลือกให้เปิดตัวเป็นซิงเกิ้ลแรกซึ่งสอยความสำเร็จมามากมายตั้งแต่ทะยานขึ้นไปสูงถึงอันดับสองบนบิลด์บอร์ดชาร์ตซึ่งเป็นท็อปเท็นตัวแรกของเธอและเป็นเพลงที่ทำอันดับได้สูงที่สุดบนชาร์ตหลักรวมไปถึงชนะรางวัลแกรมมี่สาขา Best Country Song กับ Best Female Country Vocal Performance ในปี1999 เหนือสิ่งอื่นใดเดี๊ยนเชื่อว่ารางวัลใดๆคงไม่เท่าความอมตะในตัวที่ส่งบารมีให้เพลงนี้เป็นบัลลาดที่ผู้ฟังในทุกยุคทุกสมัยจะตกหลุมรักในมนต์สะกดของมันแน่นอน มาที่ That Don't Impress Me Much (UK Dance Mix) (3.5/5) ฉบับที่ฟังเป็นยูเคแดนซ์มิกซ์นะคะซึ่งบีบอิทธิพลของพ็อพเต้นรำแบบจางๆลงไปหากแต่ยังไม่สามารถกลบกลิ่นจของความเป็นคันทรีย์พ็อพร็อคในตัวที่สูงโด่ง ส่วนตัวประทับใจภาคเนื้อหาที่เจ๊ร่ายออกมาได้ก๋า มั่นและเจ็บปวดมากๆเป็นหนึ่งในเพลงชาติสำหรับสาวเปรี้ยวที่กินขาดไปได้ทุกวงการโดยแท้ ต่อด้วย When (4/5) เป็นซิงเกิ้ลที่สองในตลาดยูเคแต่ไม่ได้รับการโปรโมตในฝั่งอเมริกานะคะ ตัวเพลงเป็นคันทรีย์พ็อพร็อคที่มีทีเด็ดกับท่อนฮุคที่คมคายและติดหูอย่างหนักหน่วง เสียดสีถึงความแตกต่างอันน่าเสร้าระหว่างโลกแห่งอุดมคติอันเปี่ยมด้วยสีสันงดงามกับโลกแห่งควมเป็นจริงอันหนาวเหน็บหดหู่ได้อย่างเป็นรูปธรรมโดยแท้ สำหรับ Black Eyes,Blues Tears (4/5) แทร็คที่4ในเวอร์ชั่นสากลซึ่งเป็นแทร็คเดียวในงานรีวิวนี้ที่ไม่ได้รับเลือกให้ตัดเป็นซิงเกิ้ลนะคะซึ่งส่วนตัวเสียดายมากๆเนื่องจากเป็นอีกแทร็คที่ครบเครื่องและโดเด่นมากๆกับคันทรีย์พ็อพร็อคที่เหยาะเมโลดี้ย์โฟล์คร็อคและความเป็นบลูส์แกว่งๆลงมาเสริมทัพได้อย่างเจิดจรัสพร้อมกับสรรพสำเนียงเวสเทิร์นสวยๆที่เป้นเสน่ห์และคุณสมบัติอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของศิลปินคันทรีย์ที่จะสะกดใจผู้ฟังทุกหูให้อยู่ในภวังค์ได้อย่างแน่นอน แทร็คถัดไป You've Got A Way (Notting Hill Mix) (4/5) คันทรีย์พ็อพบัลลาดเพราะๆที่มัดใจผู้ฟังให้สยบอยู่ภายใต้มนต์เสน่ห์ตลอดเกือบๆ3นาทีครึ่งได้อย่างอยู่หมัดแน่นอน แทร็คนี้ได้รับเลือกให้เป็นหนึ่งในซาวนด์แทร็คประกอบภาพยนตร์เรื่อง Notting Hill รวมถึงได้เสนอชื่อเข้าชิงแกรมมี่ครั้งที่42สาขา Song Of The Year ด้วยนะคะ
อีกหนึ่งแทร็คที่โดเด่นมากๆของงานชุดนี้คงหนีไม่พ้นแทร็คบัลลาดอย่าง From This Moment On (5) คันทรีย์พ็อพบัลลาดที่ออริจินัลเวอร์ชั่นเธอได้ดูเอ็ทคู่กับไบรอัน ไวท์ ในขณะที่เวอร์ชั่นสากลซึ่งกำลังเขียนถึงอยู่นั้นเป็นฉบับโซโล่ในรูปแบบของอดัลท์คอนเทมโพลารีย์เมนท์สตรีมพ็อพบัลลาดที่โดยส่วนตัวแถบจะสัมผัสได้แต่ความเป็นพ็อพล้วนๆที่โชยออกมาจากแทร็คนี้ เป็นอีกหนึ่งแทร็คบัลลาดที่เมโลดี้ย์สวยงามบรเจิดและอลังการที่สุดตลอดกาลจากเธอ ต่อด้วย Come On Over (3/5) ไทเทิ่ลแทร็คที่เป็นคันทรีย์จากทุกกระเบียดชนิดที่คอคันทรีย์ฟังแล้วต้องยกเอาขึ้นหิ้งบูชาแน่ๆ ถ้าจำไม่ผิดรู้สึกจะชนะแกรมมี่ Best Country Song ในปี 2000 ด้วยนะคะ (ถ้าไม่ใช่ก็ขออภัยมา ณ ที่นี้) แทร็คถัดไป Rock This Country! (4/5) เป็นแทร็คเดียวในอัลบั้มที่ยังคงเค้าเดิมจากออริจินัลเวอร์ชั่นนะคะ ภาคดนตรีเป็นคันทรีย์พ็อพร็อคที่ผสานความเป็นโฟล์คและบลูส์รวมถึงนำเสนอออกมาในทุกๆแง่ได้อย่างลงตัวมากๆ ส่วนตัวแล้วเสียดายนะคะที่ช่วงนั้นตัดเป็นซิงเกิ้ลโดยไม่มีการโปรโมตเสริมใดๆไม่อย่างนั้นส่วนตัวเชื่อว่าจะเป็นอีกแทร็คที่สามารถเปรี้ยงปร้างติดลมบนเป็นอันดับต้นๆของเธอเลยทีเดียว ปิดงานกับซิงเกิ้ลอันดับที่12 I'm Holdin' On To Love (To Save My Life) (4/5) ซึ่งเป็นซิงเกิ้ลปิดอัลบั้มกับภาคดนตรีพ็อพโฟล์คคันทรีย์ผสานแดนซ์ร็อค บลูส์และฟั้งค์ได้อย่างลงตัวเป็นอีกแทร็คที่เด็ดเอาความไพเราะติดหูชะงัดมาเอาใจผู้ฟังได้อย่างครบถ้วนเหนือชั้นอีกครั้ง (ทั้ง13เพลงที่รีวิวมานี่เพราะไม่มีตกเลยนะคะ) คออีซี่ลิสคงจะถูกใจกับเพลงนี้บ้างไม่มากก็น้อยนะคะ เนื่องจากครบเครื่องตามสูตรสำเร็จเพลงคุณภาพที่มีเมโลดี้ย์เข้าถึงง่ายเป็นมิตรกับทุกรูหู ขนาดตัดออกมาเล่นๆชนิดไม่โปรโมตอะไรเลยยังเข้าไปนอนสวยๆในท็อป20ของบิลด์บอร์ดชาร์ตได้คิดเอาว่าแน่จริงหรือไม่?
สรุป
ไม่ว่าความเป็นจริงจะออกมาในรูปแบบใดก็ตามวินาทีนี้เดี๊ยนขอเลือกวิถีปฏิบัติที่จะมอบความเคารพแก่คุณ CarrieUnderwood อย่างจริงใจนะคะ ในกรณีที่เป็นความจริงส่วนตัวก็รู้สึกใจหายและขอแสดงความเสียใจกับการจากไปของสมาชิกที่มากความสามารถท่านหนึ่งของบอร์ดอีกทั้งสมาชิกท่านนี้ยังเป็นแฟนงานรีวิวเดี๊ยนด้วย คงจะเป็นเรื่องที่ดีไม่น้อยนะคะถ้าคุณได้เข้ามานั่งอ่านขณะมีชีวิตอยู่ไม่ว่าจะเป็นในโลกแห่งความจริงหรือชีวิตในการออนไลน์ในสังคมนี้ก็ตาม สุดท้ายนี้ไม่มีอะไรจะมอบให้นอกจากความตั้งใจในการอุทิศครั้งนี้รวมถึงในกรณีที่ทุกสิ่งเป็นความจริงเดี๊ยนขอให้ดวงวิญญาณคุณไปสู่สุขคติและมีความสุขกับการผจญภัยและการเริ่มต้นเส้นทางใหม่ในโลกแห่งจิตวิญญาณนะคะ
แก้ไขล่าสุดโดย Da Nastina เมื่อ Fri Feb 06, 2009 6:35 pm, ทั้งหมด 5 ครั้ง
_________________
