˹���á Forward Magazine

ตอบ

ไปที่หน้า 1, 2  ถัดไป
การสัก[คิดยังไงกับการสักค่ะ]
ผู้ตั้ง ข้อความ
ตอบโดยอ้างข้อความ
ตอบ การสัก[คิดยังไงกับการสักค่ะ] 
คิดยังไงกับการสัก ทั้งผู้หญิงและผู้ชายอ่ะค่ะ


ประวัติการสัก
เริ่มต้นจากที่กรีก การสักเป็นการทำสัญลักษณ์เฉพาะใบหน้าของทาส และ อาชญากร ต่อมาการสักเริ่มแพร่หลายในทวีปยุโรป ต่อมาประมาณ ค.ศ. 787 การสักบนใบหน้าถือเป็นการลบหลู่ต่อพระผู้เป็นเจ้า

ในประเทศไทย การสัก หรือ สักเลกนั้นเป็นการทำเครื่องหมายที่ข้อมือ เพื่อแสดงการขึ้นทะเบียนเป็นไพร่หลวงที่มีสังกัดกรมกอง แต่ถูกยกเลิกไปในรัชสมัยรัชกาลที่ 4 ส่วนที่หน้าผาก หรือการสักท้องแขนใช้กับผู้ต้องโทษจำคุก แต่ยกเลิกในปี พ.ศ. 2475 รวมทั้งการสักยันต์เป็นเหมือนเครื่องรางของขลังตามความเชื่อ

ในญี่ปุ่น การสักเรียกว่า Irezumi ซึ่งมีความหมายว่าการเติมหมึก คาดว่าเริ่มปรากฏในประมาณศตวรรษที่ 3 ก่อนคริสตกาล ต่อมาในคริสต์ศตวรรษที่ 8 การสักจะประทับตาคนกลุ่มต่างๆ เพื่อแบ่งแยกเช่น เพชฌฆาต สัปเหร่อ อาชญากร จนกระทั่งเริ่มมีการสักแบบ Horibari ที่มักจะสักลวดลายต่างๆทั่วร่างกาย และเริ่มแพร่หลายในปี ค.ศ. 1750 โดยนิยมมากในหมู่ Eta ซึ่งเป็นกลุ่มคมฐานะชั้นต่ำที่สุด ลวดลายต่างๆมักเป็นจิตรกรรมที่มีชื่อเสียง ตลอดจนเทพเจ้า ตามความเชื่อทางศาสนา และนิทานพื้นบ้าน



ประเภทของการสัก

ทริบอล สไตล์แฟนตาซี สไตล์ - ผสมหลายรูปแบบ เป็นภาพในจินตนาการ เทพนิยาย
ทริบอล สไตล์ - เป็นลวดลาย เช่นเถาวัลย์ ใบไม้ หรือลายกราฟิก
ยุโรป สไตล์ - เป็นภาพเหมือนลงแสงเงา คล้ายกับภาพเหมือนบุคคล
เจแปน สไตล์ - มีลวดลายที่บ่งบอกความเป็นตะวันออก เช่น ปลาคาร์พ มังกร
เวิร์ด สไตล์ - มีตัวอักษรที่มีความหมาย หรือไม่มีความหมายก็ได้ บางทีก็อ่านไม่รู้เรื่องเช่นงานแนวแอมบิแกรม
ไกเกอร์ สไตล์ - ลวดลายนามธรรม รวมถึงเฉพาะกลุ่มเช่นฮิปฮอป
พังค์ สไตล์ - ลายสักไม่เน้นสีสัน ส่วนใหญ่จะเป็นสีดำ
ฮาร์ดคอร์ สไตล์ - ใกล้เคียงกับ พังค์ สไตล์แต่จะมีความเหมือนจริงมากกว่า
อินดี้ สไตล์ - ไม่มีแนวทางชัดเจน ขึ้นอยู่กับรสนิยมส่วนตัว


วิธีการสัก
ปัจจุบันการการสักพัฒนาไปมาก เครื่องมือที่เป็นที่นิยมที่สุดเป็นเข็มที่ใช้มอเตอร์ในการทำให้ขยับแทงในผิวหนังลึกระหว่าง0.6-22 มิลลิเมตร เมื่อแทงลงไปหมึกจะแพร่กระจายไปสู่เนื้อเยื่อ ดูดซึมเก็บสะสมไว้ โอกาสที่จะเปิดปฏิกิริยาที่เป็นเชิงลบจากหมึกที่ใช้สักมีน้อยมาก โดยปกติแล้วสิ่งแปลกปลอมจะถูกขจัดจากร่างกายโดยใช้กลไกป้องกันตามธรรมชาติ แต่อนุภาคของหมึกนั้นใหญ่เกินกว่าที่จะถูกขจัดออกไปด้วยกลไกนี้ได้

ขณะเดียวกันการสักอาจจะก่อให้เกิดอันตรายจากการติดเชื้อโรคชนิดต่างๆ เช่น impetigo, staph infection, cellulitis ตลอดจนปฏิกิริยาจากสีซึ่งสักลงไปปัจจุบันใช้สารที่นิยมใช้เป็นสีหลายชนิดมักเป็นโลหะหนัก เช่น สารปรอท แร่เหล็ก แร่โคบอลด์ สารเหล่านี้ทำให้เกิดปัญหาบางอย่างโดยเฉพาะสารสีแดง (cinnabar) ของโลหะจะพบได้บ่อยที่สุด



การลบรอยสัก
การผ่าตัดออก (SURGICAL EXCISION) : เหมาะในรายเป็นรอยสักที่มีขนาดเล็ก หรือเป็นจุดๆ จะได้มีแผลที่มีขนาดเล็ก แต่ในรายที่มีรอยสักขนาดใหญ่ อาจจะใช้ตัวขยายเนื้อ (TISSUE EXPANSION) ช่วยเหลือได้
การกรอผิวด้วยเครื่องกรอผิว (DERMABRASION) : ในรายที่เป็นรอยสักมืออาชีพ การใช้การกรอผิวอย่างเดียว หรือร่วมกับการใช้เกลือแกงบริสุทธิ์จะช่วยให้ได้ผลดี ซึ่งในรายที่สักตื้นๆ การกรอผิวมากกว่าสองครั้งสามารถให้ได้ผลดีแผลเป็นน้อย ซึ่งในการทำครั้งที่สอง ควรจะรอประมาณ 3 ถึง 6 เดือน
การลอกด้วยสารเคมี (CHEMICAL PELING) : มักใช้กรดบางชนิด หรือสาร PHENOL ทำให้เกิดเป็นรอยแผลไฟไหม้ขึ้นบริเวณรอยสัก แต่วิธีนี้มักจะมีผลแทรกซ้อนสูง จึงไม่ค่อยใช้กัน
การสักเพิ่มขึ้น (OVERTATTOOING OR RETATTOOING)
การลบด้วยไฟฟ้า (ELECTRIC CAUTERY)
การลบด้วยเครื่องเลเซอร์ (LASER BEAM) : ที่นิยมใช้กันได้แก่ Q-SWITCHEDND-YAG และ Q-SWITCHED RUBY LASER ซึ่งมักจะได้ผลดีในรายที่เป็นสีน้ำเงิน และดำ ซึ่งวิธีนี้ได้ผลดี และมีผลข้างเคียงเช่นกัน ได้แก่ ผิวหนังเป็นรอยริ้ว หรือเป็นรอยด่างขาว

ชอบ ash จริงๆเลยนายแบบหนุ่มน้อยคนนี้




รอยสักของอีตา Pierre







Credits : Wiki,Suicidegirls

...........................................................................................................................
ส่วนตัวคิดว่าการสักเป็นศิลปะอย่างนึงไปแล้ว แต่ถ้าพวกเกรียนสักก็ไม่ชอบนะค่ะ
แต่เป็นพวกsuicidegirlsก็ชอบนะค่ะ แบบนั้นสวยงามแรง+โหดดี ^^



แก้ไขล่าสุดโดย wow เมื่อ Tue Jun 23, 2009 3:03 am, ทั้งหมด 1 ครั้ง

_________________
^
^
^
^

ดูข้อมูลส่วนตัว ส่งข้อความส่วนตัว MSN Messenger
ตอบโดยอ้างข้อความ
ตอบ  
เห็นไหมคะว่าต้นกำเนิดการสักนั้นมีเพื่ออะไร

ส่วนตัวกันไม่อยากสักคะ
แล้วถึงแม้จะไม่อชบคนที่สัก
แต่กันก็ต้องทำใจให้เฉยเข้าไว้
เพราะว่าเกลียดอะไรมันจะได้อย่างนั้นสำหรับกันแล้ว
เป็นจริงตลอดเลยคะ

อย่าง
ไม่ชอบแฟนหล่อ ไม่ชอบแฟนรวยไรงี้คะ


ดูข้อมูลส่วนตัว ส่งข้อความส่วนตัว ชมเว็บส่วนตัว
ตอบโดยอ้างข้อความ
ตอบ  
สักแกต่พอดีก็พอโอเคคะ แต่โดยส่วนตัวบัวเกี๋ยงมิค่อยชอบคะ เหมือนมีรอยตำหนิให้แก่เรือนร่าง


_________________

ดูข้อมูลส่วนตัว ส่งข้อความส่วนตัว
ตอบโดยอ้างข้อความ
ตอบ  
สวยดี แต่ยังไม่กล้าทำ like

ดูข้อมูลส่วนตัว ส่งข้อความส่วนตัว MSN Messenger
ตอบโดยอ้างข้อความ
ตอบ  
ป้าหอคิดว่าการสักเป็นเรื่องของศิลปะ ความชอบส่วนตัว
บางคนมีรอบสักที่สวย พอเหมาะ พอควร อยู่ในที่ที่สมควร

ป้าหอไม่ชอบที่สักเยอะแยะดูรกรุงรัง มันดูไม่สะอาดยังไงชอบกลค่ะ



_________________
ดูข้อมูลส่วนตัว ส่งข้อความส่วนตัว Yahoo Messenger
ตอบโดยอ้างข้อความ
ตอบ  
คือถ้าสักแล้วเท่ห์น่าหลงใหลก็เครๆ

แต่ถ้าเริ่มเยอะก็ไม่ไหว



_________________

ดูข้อมูลส่วนตัว ส่งข้อความส่วนตัว ชมเว็บส่วนตัว
ตอบโดยอ้างข้อความ
ตอบ  
ถ้าผู้ชายสักก็โอเคนะ ถ้าไม่มากเกินไป
แต่ถ้าผู้หญิง มันยังไงไม่รู้ ดูบ่งบอก โห๊ะๆ

ดูข้อมูลส่วนตัว ส่งข้อความส่วนตัว
ตอบโดยอ้างข้อความ
ตอบ  
สักประมาณพี่แบงค์วงแคลชนั่นคือโอเคนะ แต่ไอที่สักสัตว์ทั้งป่าลงทั้งตัว น่ากลัวมาก


_________________
ดูข้อมูลส่วนตัว ส่งข้อความส่วนตัว
ตอบโดยอ้างข้อความ
ตอบ  
นู๋กัว


_________________
ดูข้อมูลส่วนตัว ส่งข้อความส่วนตัว
แสดงเฉพาะข้อความที่ตอบในระยะเวลา:
ตอบ หน้า 1 จาก 2
ไปที่หน้า 1, 2  ถัดไป
คุณไม่สามารถสร้างหัวข้อใหม่
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
คุณไม่สามารถแก้ไขข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลบข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลงคะแนน
  


copyright : forwardmag.com - contact : forwardmag@yahoo.com, forwardmag@gmail.com