http://www.thannews.th.com/detialnews.php?id=M1724461&issue=2446
ช่อง 3 แก้เกมเรตติ้งละคร ไม่ชนะคู่แข่ง ส่งทีมดาราลงพื้นที่ เรียกเรตติ้ง พร้อมสร้างจุดแข็งคอนเทนต์คุณภาพ และการนำเสนอที่แตกต่าง ชูจุดขายละครของคนเมืองและผู้หญิง เจาะตลาดสินค้าคอนซูเมอร์ ผลิตภัณฑ์บำรุงผิว ตอกย้ำ Year of Content เน้นพัฒนาคุณภาพคอนเทนต์ ด้านเอเยนซีย้ำ นอกจากเรตติ้ง ยังพิจารณากลุ่มเป้าหมายตรงกับกลุ่มเป้าหมายสินค้าหรือไม่ ช่อง 7 ย้ำยังครองแชร์ผู้ชมช่วงไพรม์ไทม์สูงสุด 52%
นายสุรินทร์ กฤตยาพงศ์พันธุ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท บีอีซี เวิลด์ จำกัด(มหาชน) ผู้บริหารสถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 กล่าวกับ "ฐานเศรษฐกิจ" ว่า เรตติ้งละครของสถานีสู้คู่แข่งไม่ได้ ทั้งนี้เนื่องจากคู่แข่งมีจุดแข็งที่ฐานคนดูกลุ่มกว้าง โดยเฉพาะในต่างจังหวัด แต่ช่อง 3 สามารถตีตื้นเรตติ้งได้ในบางโอกาส เช่น ละครเรื่องจำเลยรัก สวรรค์เบี่ยง ที่มีเรตติ้งเฉลี่ย 17-20 เรตติ้ง ซึ่งเมื่อเทียบกับฐานคนดู ซึ่งเป็นกลุ่มคนเมืองและกรุงเทพฯ เป็นหลัก ถือว่าสถานีประสบความสำเร็จพอสมควร
ก่อนหน้านี้ นายประวิทย์ มาลีนนท์ กรรมการบริหาร บริษัท บีอีซี เวิลด์ จำกัด(มหาชน) กล่าวว่า ไม่ค่อยพอใจกับเรตติ้งละครนัก เพราะคิดว่าเรตติ้งน่าจะได้สูงกว่านี้ เช่น ละครหยกลายเมฆ กับพระจันทร์สีรุ้ง
เรตติ้งออกมาค่อนข้างต่ำกว่าที่คิด ทั้งๆ ที่จากการไปสำรวจของทางสถานี ด้วยการไปเดินสำรวจในพื้นที่พบว่า ปริมาณคนดูใกล้เคียงกับช่อง 7 ซึ่งเรตติ้งนั้น มีผลกับการทำงานคนทำละครพอสมควร พร้อมยืนยันว่า ตลอดเวลาการทำงานเรตติ้งถือเป็นปัญหาอย่างมาก ที่ทำให้ทางสถานีต้องหาวิธีพิสูจน์ ส่วนเรื่องของเทคโนโลยีการรับชมในต่างจังหวัด ยืนยันว่าไม่มีปัญหา เพราะคนดูสามารถรับได้จากเคเบิล และจานรับสัญญาณดาวเทียม
ล่า สุด ช่อง 3 ได้ส่งนักแสดงนำละคร "ผู้ใหญ่ลีกับนางมา" ที่เพิ่งออกอากาศวันแรก เมื่อ 19 กรกฎาคมที่ผ่านมา ไปพบปะผู้ชมที่ตลาดยิ่งเจริญ 1 สะพานใหม่ ดอนเมือง เมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม เวลา 16.00 - 17.30 น.โดยมีปอ-ทฤษฎี พลอย - เฌอมาลย์ มะปราง-วิรากานต์
ท๊อป- ดารณีนุช และ น้องริชาร์ด ไปขอคะแนนนิยมเรียกเรตติ้งจากผู้ชม พร้อมสำรวจความนิยมของนักแสดงและละครไปในตัว
นาย สุรินทร์ กล่าวเพิ่มเติมว่า การวัดเรตติ้ง เป็นการสุ่มตัวอย่าง จากจำนวนครัวเรือนที่นำเครื่องวัดการรับชมไปติดตั้ง จากเรตติ้ง พบว่าช่วงเวลาที่ช่อง 3 แพ้ช่อง 7 อยู่ คือ เวลาในช่วง 16.00-22.00 น. ส่วนเวลาละครช่วง 19.30 น. ถือว่าใกล้เคียงกัน จากเดิมที่เป็นเวลาของการ์ตูนสำหรับเด็ก สถานีได้ปรับมาเป็นรายการละครหัวค่ำ และขยายเวลาจาก 30 นาที เป็น 45 นาที
" ตัวแปรของเรตติ้ง มาจากผู้ชมในเขตต่างจังหวัด หรือชนบท เพราะฉะนั้นใครที่ชนะคนดูต่างจังหวัด ซึ่งเป็นกลุ่มคนดูฐานใหญ่ ก็จะได้เรตติ้งเฉลี่ยสูง ส่วนในเขตกรุงเทพฯ และหัวเมือง เรามีชนะบ้าง แต่เรตติ้งที่ออกมาเป็นเรตติ้งรวม ปกติละครถ้าเรตติ้งเกิน 10 ก็ถือว่าดีมาก เรตติ้งของคู่แข่งช่วง 1 ทุ่ม - 4 ทุ่ม เรตติ้งเกินกว่า 20-30 ถ้าเราได้ 15 ก็ถือว่าโอเค เพราะเราเทียบจากฐานคนดูทั้งหมดจากจำนวนฟรีทีวี 6 ช่อง เราได้มาสัก 30-40% ก็ถือว่าโอเคแล้ว" นายสุรินทร์กล่าวและว่า
การเลือกชมละคร ปริมาณคนดูจะเข้าๆ ออกๆ แล้วแต่เรื่อง ที่ ผ่านมา สถานีพยายามที่จะทดลองตลาด ด้วยการลงไปทำละครแนวเดียวกับคู่แข่ง ซึ่งบางครั้งมีสำเร็จและไม่สำเร็จบ้าง ขณะนี้สถานีจึงพิจารณาว่า การปรับเปลี่ยนไปเล่นละครแนวเดียวกับคู่แข่ง จะทำให้สถานีเสียฐานคนดูที่เป็นกลุ่มคนกรุงเทพฯ และคนเมืองไปหรือเปล่า ซึ่งถ้าทำแล้วไม่เหมาะกับช่อง คนไม่ได้ย้ายมาดูช่องเราเยอะขึ้น และการทำแบบนั้นอาจทำให้เราเสียจุดแข็งของเรา ตรงนั้นก็ต้องมาพิจารณา และพยายามรักษาจุดแข็งของตัวเองไว้จะดีกว่า
สำหรับการ ปรับตัว สถานีให้ความสำคัญกับเรื่องของคอนเทนต์เป็นหลัก จากนโยบาย Year Of Content นอกจากนี้ วิธีการนำเสนอยังเป็นเรื่องสำคัญ เพราะเนื้อหาของละครโดยรวมไม่ได้แตกต่างกันมาก แต่มาแตกต่างกันที่วิธีการนำเสนอ ซึ่งตรงนั้นแหละเป็นเรื่องที่น่าสนใจ และไม่ได้มีสูตรสำเร็จ
พร้อมกันนี้ ช่อง 3 ยังพิจารณาถึงเม็ดเงินโฆษณาที่ลงในสถานีซึ่งที่ผ่านมาโฆษณาช่วงละครหลังข่าว ยังเต็ม 100% จากอัตราโฆษณา 450,000 บาทต่อนาที ส่วนละครช่วงหัวค่ำอัตราโฆษณาประมาณ 300,000 กว่าบาทต่อนาที ถือว่าทั้ง 2 ช่วงเวลา บริษัทไม่ได้เพลี้ยงพล่ำให้กับคู่แข่ง
วิธีการ พิจารณา ช่อง 3 ดูจากฐานสินค้าที่ยังใช้เม็ดเงินในตลาด ได้แก่ กลุ่มคอนซูเมอร์ และกลุ่มผลิตภัณฑ์บำรุงผิว ซึ่งมีกลุ่มเป้าหมายตรงกับสถานี ทำให้มีเม็ดเงินโฆษณาเข้ามาต่อเนื่อง เพราะฉะนั้นถือว่า สถานีมาถูกทางแล้ว โดยจากรายได้รายการโทรทัศน์ประมาณกว่า 70% ยังเป็นรายได้หลักจากละคร ส่วนรายการข่าว มีรายได้กว่า 2 พันล้านบาท
ด้านนางสุภาณี เดชาบูรณานนท์ รองประธานกรรมการบริหาร และผู้อำนวยการกลุ่มกลยุทธ์การค้าและการลงทุนในสื่อเครือ กรุ๊ปเอ็ม กล่าวว่า การเลือกลงโฆษณาปัจจุบันเรตติ้งยังเป็นส่วนสำคัญ แต่ยังต้องพิจารณาปัจจัยอื่นๆ ประกอบด้วย เช่น กลุ่มเป้าหมายของสื่อหรือรายการ ว่าตรงกับกลุ่มเป้าหมายของสินค้าหรือไม่
อย่าง ไรก็ตาม นายพัฒนพงค์ หนูพันธ์ ผู้จัดการฝ่ายอาวุโสและรักษาการผู้จัดการสำนักประธานกรรมการ บริษัท กรุงเทพโทรทัศน์และวิทยุ จำกัด ผู้บริหารสถานีโทรทัศน์ช่อง 7 กล่าวก่อนหน้านี้ว่า ส่วนแบ่งผู้ชมของช่อง 7 ยังคงเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง โดย เฉพาะช่วงไพรม์ไทม์ที่คนดูโทรทัศน์มากที่สุดสูงมาตั้งแต่เดือนพฤษภาคม ปี 2551 จนถึงปัจจุบัน ส่งผลให้ช่อง 7 ครองส่วนแบ่งผู้ชมโทรทัศน์สูงสุดเป็นอันดับหนึ่ง ช่วงไพรม์ไทม์มีส่วนแบ่งผู้ชมอยู่ที่ 52% ส่วนรายการตลอดทั้งวันอยู่ที่ 47% โดยเป้าหมายสูงสุดของช่อง 7 คือ การพัฒนาการทำงาน เพื่อให้ช่อง 7 เป็นสถานีโทรทัศน์ของคนไทยที่ได้รับความนิยมตลอดไป
นอกจาก นี้ ช่อง 7 ยังทำโครงการเพื่อสังคม ยังและใช้ประโยชน์จากศักยภาพของสถานี ให้มากที่สุด ทั้งด้านบุคลากร และด้านเทคโนโลยี โดยมีการนำนักแสดงในสังกัด 5 คน แพนเค้ก - เขมนิจ นิว - วงศกร น้ำ - รพีภัทร ฝ้าย - ณิชานันท์ เอก - จิรพัฒน์ มาเป็นพรีเซนเตอร์ ทำหน้าที่เป็นผู้แทนในการรณรงค์ เชิญชวนให้คนไทยมาร่วมมือกันปฏิบัติและปรับเปลี่ยนพฤติกรรม และจากความที่เป็นสื่อโทรทัศน์ที่มีเครือข่ายครอบคลุมพื้นที่ทั่วประเทศมาก ที่สุด ช่วยให้กิจกรรมต่าง ๆ เข้าถึงประชาชนทั่วประเทศได้ง่ายขึ้น
_________________
