˹���á Forward Magazine

ตอบ

แนสทิน่าย้อนอดีตรีวิวที่ประทับใจ (3)
ผู้ตั้ง ข้อความ
ตอบโดยอ้างข้อความ
ตอบ แนสทิน่าย้อนอดีตรีวิวที่ประทับใจ (3) 




Cradle Of Filth : Godspeed On The Devil's Thunder : 95%

แม้ว่าส่วนตัวพฤติกรรมและรสนิยมของ เดียนจะค่อนข้างไปทางน่าสะพรึงกลัวเพียงใดก็ตามแต่ต้องขอยอมรับไว้ ณ ที่นี้เลยนะคะว่าในเรื่องของการเสพย์ดนตรีนี่คนละเรื่องกับภาพลักษณ์ภายนอก ที่เห็นๆกันเลยทีเดียว เป็นที่ทราบกันดีสำหรับคุณๆที่ติดตามงานเขียนของเดียนมานานว่า "พ็อพ" คือแนวเพลงที่เดี๊ยนโปรดปรานมากที่สุดกล่าวคือถ้าเป็นพ็อพนี่เหมาได้ฟมดค่ะ ตั้งแต่กะโหลกกะลาชาติไพร่ยันหมวดคุณภาพ นอกจากนี้เพื่อนๆหลายคนที่รู้จักเดียนดียังถึงกับอึ้งเมื่อเดี๊ยนสารภาพจาก ใจถึงความหลงใหลในแนวดนตรีแจ๊ซซ โซลและคลาสสิคขนาดไหน -- ถ้าใครรู้จักตัวจริงคงรู้ว่าไม่เข้ากับเดียนอย่างแรง - และถึงแม้ว่าส่วนตัวจะมีมุมดุๆสำหรับพั้งค์กราดเกรี้ยว ฮิพฮอพกร้าวๆ กรั๊นจ์หม่นๆและร็อคแรงๆแล้วแต่ชีวิตการฟังเพลงหลายสิบปีก่อนหน้านี้ไม่เคย ถูกโรคกับแนวเพลงที่เรียกว่า "เมทัล" กล่าวคือไม่ใช่ไม่ฟังนะคะแต่เป็นการฟังในแบบที่ไม่ใช่เจาะลงลึกเข้าสู่ สันดานเฉกเช่นที่ฟังแนวอื่นๆคือเป็นการฟังในแบบที่ "แค่เพียงให้รู้ว่าแนวแบบนี้เขาเรียกว่าเมทัล" แต่ก็ไม่คิดว่าจะไปข้องแวะยุ่งขิงผูกมิตรทางดนตรีกับแนวเพลงประเภทนี้แต่ อย่างใด จนวันหนึ่งเมื่อเกิดความรู้สึกที่อยากจะหลีกหนีความซ้ำซากจำเจทางดนตรี ประกอบกับที่ได้แฟนเป็นคอเพลงแนวนี้พอดีจึงมีโอกาสที่ทำให้ได้ลองเปิดใจและ ทำความรู้จักกับแนวดนตรีชนิดนี้มากขึ้นจนถึงขั้นที่หลงไปกับเสน่ห์ของความ เกรี้ยวกราดบ้าระห่ำของการประโหมประโคมเครื่องดนตรีชนิดเลือดสาด เนื้อหาที่เรียบเรียงออกมาได้เป็นเรื่องราวน่าสนใจแม่ว่าภาษและโลกทัศน์จะ สื่ออกมาได้อย่างมืดหม่น ดิบกร้าวและรุนแรงจนถึงขั้นน่ากลัวหาแต่ไม่ลืมที่จะแฝงวาทะศิลป์และความสวย งามไว้ในตัวรวมถึงการนำเสนอหลายสิ่งที่มีเสน่ห์เฉพาะตัวทำให้ "เมทัล" กลายเป็นอีกหนึ่งแนวที่สะกิดความสนใจให้เดียนอยากจะเรียนรู้และลองติดตาม ด้วยใจไปโดยปริยาย และนี่คือหนึ่งในวงดนตรีเมทัลที่ส่วนตัวโปรดปรานที่สุดตลอดกาลวงหนึ่งกับ ความสามารถในการนำเสนอภาคดนตรีที่โดเด่นมีเสน่ห์กระทบใจเดี๊ยนมากกว่าวงเม ทัลอื่นๆ ยิ่งไปกว่านั้รที่ประทับใจสุดๆคงหนีไม่พ้นภาคเนื้อหาที่สามารถกลั่นกรองออก มาได้อย่างสวยงามมีศิลปะประหนึ่งบทกวีชั้นสูงรวมถึงสามารถร้อยเรียงออกมาได้ อย่างมีมิติและมีเอกภาพในระดับที่จัดให้เป็นหนึ่งในอัลบั้มเมทัลที่เข้า ค่ายมหากาพย์ยองขวัญทางดนตรีก็คงไม่เกินความจริงแต่อย่างใดและนี่คือหนึ่งใน วงดนตรีและอัลบั้มเมทัลที่ทำให้เดียนตกอยู่ในมนตร์สะกดแห่งความสวยงามของ ดนตรีชนิดนี้อย่างถอนตัวไม่ขึ้น Cradle Of Filth กับอัลบั้มชุด Godspeed On The Devil's Thunder ค่ะ

ที่มา


Godspeed On The Devil's Thunder มีที่มาภายใต้สโลแกนซับไทเทิ่ลสุดเก๋ไก๋ว่า The Life And Crimes Of Gilles De Rais ซึ่งคอนเส็ปท์ของตัวงานได้รับการจุดประกายแรงบันดาลใจมาจากเรื่องราวในตำนาน ของ Gilles De Rais ขุนนางผู้เลื่องชื่อในศตวรรษที่15ซึ่งชื่อของเขาถูกชุบชีวิตกลับมาโลดแล่นใน มหากาพย์ทางดนตรีชิ้นนี้อีกครั้งซึ่งได้เนรมิตเรื่องราวชีวิตของเขาทั้งความ รักและความอาลัยที่มีต่อโจนส์ ออฟ อาร์ค จุดกำเนิดของความผลิกพันครั้งยิ่งใหญ่ทางจิตใจที่นำเขาไปสู่เส้นทางแห่งความ มืดมิดเฉกเช่นหลายทรชนในตำนานที่ผันตัวให้อำมหิตในระดับเดียวกับอมนุษย์ เคียงคู่ไปกับการสอดแทรกทัศนคติสยองขวัญของลัทธิเทิดทูนซาตานให้เป็นมิตรทาง วิญญาณและวัฒนธรรมการดำเนินชีวิตและฆาตกรรมกระหายเลือดสุดแสนวิปริตน่า สะพรึงกลัวหากแต่ผ่านความหฤหรรษ์ทางภาษาในระดับวาทะศิลป์ที่สูงและทรงพลัง รวมถึงภาคดนตรีที่ยืนพื้นโดยใช้ความเป็นซิมโฟนิคแบล็คเมทัลและเสน่ห์ของความ เป็นโกธิคในการดำเนินเรื่องได้อย่างมีศิลปะถึงขั้นที่เดียนขอยกให้งานชุดนี้ เป็นมหากาพย์ทางดนตรีที่ให้จินตภาพอย่างมีมิติเป็นรูปธรรมที่จะดึงคุณเข้า สู่บรรยากาศแห่งความน่าสะพรึงกลัวจากทั้งจารีตวัฒนธรรมที่สุดแสนจะชวนหดหู่ ในช่วงยุคกลางและกลิ่นคาวเลือดจากฆาตกรรมและความมืดหม่นอนธกาลจนแปรเปลี่ยน ไปสู่ความวิปริตของชายผู้นี้ได้อย่างมีชั้นเชิงเลยทีเดียว
จุดด้อย

ส่วน ตัวแล้วเท่าที่ลองฟังงานชุดนี้เทียบกับงานหลังๆของ Cradle... ดู ส่วนตัวต้องยอมรับนะคะว่าภาคดนตรีแข็งและมีความเร้าใจสมกับความเป็นเมทัลใน แบบที่สาวกของทางวงรอคอยรวมถึงการนำเสนอเนื้อหานั้นทำออกมาได้อย่างเด่นชัด มีเอกภาพและเป็นเรื่องเป็นราวที่มีเสน่ห์ชวนติดตามขึ้นกว่างานช่วงหลังๆที่ ผ่านมาอย่างเหนได้ชัด เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งในอัลบั้มเมทัลที่เข้าขั้นดีมากๆและต้องเข้าทางอุป สงค์แฟนๆของทางวงหลายท่านแน่ๆ อย่างไรก็ตามชุดนี้อาจจะไม่ใช่งานที่ผู้ฟังบางท่านจะนับเป็นมาสเตอร์พีซหาก เทียบกับงานที่ปูทางมาก่อนไม่ว่าจะเป็น Median,Dusk...And Her Embrace หรือ Cruelty And The Beast อย่างไรก็ตามสิ่งที่เดี๊ยนกล้าพูดว่าสิ่งที่งานชุดนี้ไม่ได้ด้อยไปกว่าบรรดา สามงานที่กล่าวมาเลยคือมิติในการนำเสนอภาคเนื้อหาที่สูงและมีชั้นเชิงมากๆ ซึ่งเผลอๆอาจจะดีกว่าบางงานที่กล่าวมาข้างบนด้วยซ้ำนะคะอย่างไรก็ตาม คงต้องยกเรื่องการประเมินค่านี้ให้ขึ้นอยู่กับรสนิยมส่วนตัวของแต่ละท่าน ในแง่ของภาคดนตรีก็คงปฏิเสธไม่ได้นะคะว่าการนำเสนอของ Cradle..นี่มีจุดบกพร่องที่วงเมทัลวงอื่นๆอีกหลายวงหนีไม่พ้นเช่นกันคือการ ยึดติดอยู่กับเอกลักษณืทางดนตรีที่สร้างไว้จนตายตัวจนเมื่อฟังมากๆเข้าถ้า มองในแง่ร้ายมันก็เรียกได้ว่าซ้ำซากและวนเวียน อย่างไรซะก็ต้องนับว่าเป็นโชคดีนะคะที่ถ้ามองในแง่ของการนำเสนอที่ทำออกมา ได้เข้ากับบบรยากาศทางดนตรีชนิดที่เรียกว่าเติมเต็มความสมบูรณ์แบบของตัวงาน ได้อย่างน่าประทับใจเลยทีเดียว อีกประเด็นหนึ่งคือส่วนตัวคิดว่างานชุดนี้เป็นเมทะลที่ฟังง่ายมากๆไม่ดิบ กร้าวหรือโหดเกินจนคนฟังไม่อยากจะรับเรียกได้ว่าเป็นเมทัลที่ออกไปทางการนำ เสนอที่พ็อพเอาใจตลาดและคอเมทัลที่กำลังอยู่ในระดับแรกเริ่มเลยทีเดียว ถ้าเปิดใจและลองรับฟังดูอาจจะเป็นหนึ่งในงานเมทัลที่ถูกหูคุณๆที่สุดในรอบ สองปีที่ผ่านมาเลยทีเดียว

รูปแบบเพลง+แทร็คเด็ด

งาน ของ Cradle... ในอัลบั้มนี้ยังคงยืนพื้นอยู่ที่ภาคดนตรีเอ็กซ์ทรีมเมทัลที่ผสานความเป็นเด ธเมทัล,แธรชเมทัลและอินดัสเทรียลเข้ากับหัวใจสำคัญที่โดเด่นบนควมเป็นซิมโฟ นิคแบล็คเมทัลและโกธิคอันเป็นสองโทนหลักที่คุมทิศทางและภาคการนำเสนอโดยรวม ของภาคดนตรีในงานชุดนี้เลยทีเดียว จะว่าไปส่วนตัวก็แอบเห็นด้วยนิดๆกับนักวิจารณ์เมทัลนะคะที่ว่าเป็นงานที่โดด เด่นบนความเป็นซิมโฟนีสุดอลังการที่ต่อยอดรงบันดาลใจมาจากงานชุด "Median" รวมถึงอารมณืโกธิคแบบที่ได้ยินกันใน "Cruelty And The Beast" ซึ่งส่วนตัวเดียนว่าเป็นการบูรณาการจุดเด่นของงานมาสเตอร์พีซทั้งสองชุดนี้ เข้าด้วยกันได้อย่างมีเอกภาพเลยทีเดียว

เริ่มด้วย Shat Out Of Hell (4/5) ที่หยิบมาเปิดอัลบั้มได้อย่างเหมาะเจาะสุดๆกับภาคดนตรีเอ็กซ์ทรีมเมทัลดิบๆ ที่ผสานไปด้วยความกร้าวและหนักหน่วงของเฮฟว่เมทัลเข้ากับสรรพสำเนียงของเด ธเมทัลกึ่งๆแธรชเข้ากับภาคเนื้อหาสุดแสนมืดหม่นอนธกาลและเชือดเฉือนทางภาษา รวมถึงทัศนคติตามธรรมเนียมของแบล็คเมทัลหากแต่ยังคงความสวยงามทางวาทะศิลป์ อันเปี่ยมไปด้วยชั้นเชิงอันไพเราะประดุจบทกวีโกธิค เช่น " Eclipsing violent centuries Like a dark scar over France Enter the nascent Gilles de Rais A warrior and a scholar.He fought for Joan Of Arc Before she met with martyrdom in flames." ซึ่งสามารถแนะนำทั้งทั้งที่มาที่ไปของเรื่องราวทางแรงบันดาลใจของอัลบั้มรวม ถึงทิศทางของตัวงานได้อย่างครบถ้วนมีชั้นเชิงภายใน2ประโยค ต่อด้วย The Death Of Love (3.5/5) ที่เก๋ด้วยการใช้คำถามในเชิงวาทะศิลป์ถ่ายทอดความเจ็บปวดรวดร้าว ความอาลัยและจุดเริ่มต้นของการผลิกชีวิตเข้าไปสู่เส้นทางแห่งความเป็น อมนุษย์ผู้กระหายการฆาตกรรมตลอดกาลได้อย่างมีชั้นเชิงเคียงคู่ไปกับภาคดนตรี โกธิคเมทัลที่หยอดสรรพสำเนียงแบบโพสท์-อินดัสเทรียลหลอนๆตามสไตล์เดียวกับ Rammstein ในการขับขานก่อนจะเบรคด้วยเสียงหวานๆของซาร่าห์ ดีว่าซึ่งเป็นมุขเดียวกับที่เคยใช้จนประสบความสำเร็จมาแล้วในก่อนหน้านี้ ตามด้วย Sweetest Maleficia (4.5/5) ที่เริ่มพันธสัญญาทางวิญญาณกับซาตานด้วยอินโทรบทสวดสั้นๆแต่ความหมายและ เจตนารมณ์เข้มข้นและทรงพลังจนทำเอาเดียนสยองจนขนลุกก่อนจะเข้าสู่วัฒนธรรม ของซิมโฟนิคแบล็คเมทัลที่เกรี้ยวกราดด้วยความเป็นอินดัสเทรียลเดธเมทัลดิบๆ หากแต่ยังแฝงไว้ซึ่งความงามระยับลอยละล่องและหลอนในแบบฉบับของโกธิคที่คลุก เคล้ากันได้อย่างมีชั้นเชิง

สำ หรับแทร็ตคที่ส่วนตัวประทับใจที่สุดในงานชุดนี้จนขอคารวะให้เป้นงานระดับ มาสเตอร์พีซตลอดกาลของทางวงคือ Darkness Incarnate (5) ที่ตัวเพลงเป็นซิมโฟนิคแบล็คเมทัลสุดทรงพลังผสานลูกเล่นอันมีมิติและสมบูร ณืแบบของวัฒนธรรมโกธิคที่ฟังแล้วส่วนตัวถึงกับตะลึงในชั้นเชิงอันสุดแสนจะ เหนือระดับของภาคดนตรีในแทร็คนี้ ประกอบกับภาคเนื้อหาที่กล่าวถึงการปลดปล่อยด้านอำมหิตเคียงคู่ไปกับการระบาย จินตนาการการฆาตกรรมอันสุดแสนพิสดารของ Gilles De Rais จากทางวงที่คงชั้นเชิงของความสวยงามและมิติในการมใช้ภาษษได้อย่าเหนือชั้น ประดุจบทกวีชั้นสูง อาทิ "Nightingales sang of tragedy,Whispers were made of blasphemy.Vain, insane, this brute aloof Drew tainted veils over bitter truth" ไปยันมหัศจรรย์จนถึงขั้นไม่น่าเชื่อว่าจะถูกกลั่นกรองออกมาจากปลายปากกามนุษย์อย่าง "Fleeing ghosts so indisposed To his Satanic love Of children dragged from cellars to his feast.He rose, a carnal wind opposed To those that sat aboveมTearing out into the forest like a beast" หรือ "Beneath the sallow moonlight In a wonderland of pain,Gilles fled back to the castle Terrified and drained.He sought his deep red velvet bed And the sleep it preordained,Exhausted, forced into the dead.The creep of nightmares came again." และอีกมากมายที่ถูกบรรจงเขียนออกมาได้อย่างอัฉริยะได้จนน่าขนลุกไม่แพ้ตัว เพลง นับได้ว่าเป็นคความซาดิสท์และความรุนแรงทางทัศนคติทางภาษาอันสุดแสนจะวิจิตร มีมิติจนสามารถยกให้อัลบั้มนี้เข้าสู่หนึ่งในความเป็นวรรณกรรมคลาสสิคทางด นตรีได้อย่างสมศักดิ์ศรีในแทร็คเดียว
สรุป

โดย ส่วนตัวแล้วขอยกให้งานชุดนี้ขึ้นทำเนียบหนึ่งในมาสเตอร์พีซของ Cradle Of Filth ซึ่งเป้นการเนรมิตให้ตำนานของ Gilles De Rais ให้ขึ้นมามีลมหายใจโลดแล่นบนอาณาจักรแห่งเสียงดนตรีในทศวรรษ2000ได้อย่างมี มิติ และถ้าหากเดี๊ยนเป็น Gilles De Rais ล่ะก็คงจะรู้สึกภูมิใจกับการที่ตำนานได้ถูกเล่าขานลงสู่มหากาพย์ทางดนตรีอัน สมบูรณืแบบนี้ที่พวกคุณอุทิศให้แก่แรงบันดาลใจจากตำนานอันสยดสยองของขุนนาง ปีศาจท่านนี้ หึหึหึ



ดูข้อมูลส่วนตัว ส่งข้อความส่วนตัว
ตอบโดยอ้างข้อความ
ตอบ  

Who Hears The Tears Of Night Fall,Who Steers The Spears So Spiteful?


ดูข้อมูลส่วนตัว ส่งข้อความส่วนตัว
ตอบโดยอ้างข้อความ
ตอบ  


ดูข้อมูลส่วนตัว ส่งข้อความส่วนตัว
ตอบโดยอ้างข้อความ
ตอบ  
หนูค่อนข้างจะสังเกตดูนะคะเจ๊ ว่าส่วนใหญ่ในบอร์ดเรามักจะฟังเพลงอย่างบริทนี่ย์ไรทำนองนี้ ซึงถือว่าไม่ผิดคะ เพราะก็ตามรสนิยมของคนชอบ

แต่อย่างที่เจ๊บอกหละคะ ถ้าอยากลองหนีความจำเจของอาร์แอนด์บีหวานๆเลี่ยนๆ ป็อปหรือ ไรแบบนี้ แนวเพลงนี้คิดว่าน่าจะเป็นทางเลือกนึงอะคะ หนูไม่มีความเห็นอะไรกับรีนี้ของเจ๊นะคะ เพราะหนูแวะเข้ามาฟังเพลงเพลินๆคะ (แฮะๆ) เพราะนานๆทีหนูจะได้เห็นเจ๊รีวิวของเมทัลซะที


_________________

>>>...Blink 182...<<<
ดูข้อมูลส่วนตัว ส่งข้อความส่วนตัว ตำแหน่ง AIM Yahoo Messenger MSN Messenger
ตอบโดยอ้างข้อความ
ตอบ  
น่ากลัวมากๆเลยอ่ะ ฟังแล้วฉี่แตกเลย


_________________
ดูข้อมูลส่วนตัว ส่งข้อความส่วนตัว
ตอบโดยอ้างข้อความ
ตอบ  
อารมณ์หลอนมากๆค่ะ ยอมฟังได้นะ แต่ว่ามันมีอะไรให้ฟังหรอ?? แค่อินโทรเริ่มก็ปาไปจะจบเพลงแระ


_________________

ดูข้อมูลส่วนตัว ส่งข้อความส่วนตัว ส่ง Email ชมเว็บส่วนตัว
ตอบโดยอ้างข้อความ
ตอบ  
ไม่ชอบเมทัลแบบนี้อ่ะ รุนแรงเกิลโน๊ะ เป็น 30 seconds 2 mars ดีก่า Cool

ดูข้อมูลส่วนตัว ส่งข้อความส่วนตัว
แสดงเฉพาะข้อความที่ตอบในระยะเวลา:
ตอบ หน้า 1 จาก 1
คุณไม่สามารถสร้างหัวข้อใหม่
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
คุณไม่สามารถแก้ไขข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลบข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลงคะแนน
  


copyright : forwardmag.com - contact : forwardmag@yahoo.com, forwardmag@gmail.com