˹���á Forward Magazine

ตอบ

ไปที่หน้า 1, 2, 3, 4, 5, 6  ถัดไป
==(3.5/5)Bionic-Xtina Aguilera น้องแอม+แมรี่ย์+มาดามรีวิว==
ผู้ตั้ง ข้อความ
ตอบโดยอ้างข้อความ
ตอบ ==(3.5/5)Bionic-Xtina Aguilera น้องแอม+แมรี่ย์+มาดามรีวิว== 


Part 1 ======Xtina Aguilera :: Bionic -- 4/5 ======
Gossip Glam Queen :: อีเจ๊มาดามหนนี้ย์ไม่เลื่อนนะคะ กรั่กๆ

เกริ่นนำ
คงไม่ต้องมานั่งแนะนำหรือจาระไนที่มา ไปยันสาธยายกันเป็นพงศาวดารกระเทยให้เป็นหน้าๆกับประวัติในวงการอันผาดโผนโลดแล่นมาตลอดเกือบจะ 10 ปี(แล้วนะ)ของอีนักร้องที่มีประเด็นกับนักร้องในแวดวงเจเนเรชั่นเดียวกันมากที่สุดคนหนึ่ง Christina Aguilera จะอาหน้าไหนจิ๋มรูไหน โหนกแคมบิ่นทรงไหนของมดลูกซีกใดๆพูดชื่อเจ้าของปิแครมออกมาได้ เพราะนางเคยมีประเด็นและTopicให้ยกกันขึ้นมาเถียงให้เกิดปัญหากันในกลุ่มแฟนคลับและตัวนางเองมากที่สุดแล้ว ทั้งศิลปินหญิงรุ่นเดียวกันนังหอก บริทนี่ย์ เจสสิก้านางนั้นก็เคยมีปัญหาและถูกยกมาเปรียบๆกันพักหนึ่งแต่ด้วยนางเจสเลือกบ้าควยแทนที่จะหันมาร้องเพลงเป่าปี่สนุกกว่าสบายฮี ก็เลยตกประเด็นไป มาจวบจนโลกหมุนผ่านไปมาหลายปีนางก็ยังเดินหน้าพิสูจน์ตัวตนมาตลอดโดนมาหมดทุกรูปแบบ ล่าสุดก็นางเลดี้ย์ กาลกิณี เอ้ย กาก้า หรือแม้กระทั่งนังบีเสนยีด เอ้ย บียอนเซ่ไปจนถึง ป้าแก่ศิลปินรุ่นพี่อีหมี มารายห์ ป้าวิทนี่ย์ไปยันป้าแก่เตารีดซีลีน ป้าโทนี่ย์ บรรดาดิว่าแหกเครื่องในมากองหน้าเวทีลูกคอแปดชั้นสวรรค์กาเเล็กซี่ทั้งหลายนั่นแหล่ะ ไปยันเสด็จแม่มาดอนน่าหล่อนก็เคยแลกลิ้นร่วมเบี๊ยนกันบนเวที MTV ร่วมกับคู่เพื่อนรักหักเหลี่ยมแตดกันมาแล้วนะยะ จะเป็นราชินีแห่งดินแดนอีเดนแห่งโลกดนตรีพ๊อพของอิสตรีเพศแห่งทศวรรษอย่างเจ๊แม่ นางก็เคยทั้งได้ร่วมงานและถูกชมเชยเองกับปาก ส่วนบรรดาการยอมรับในวงการและแฟนๆทั่วโลกไม่ต้องพูดถึง การไปปรากฏตัวทรีบิวท์ให้ลุง James Brown การเล่นหนังซ้อนหนังเป็น Guest รับเชิญในคอนเสริ์ต(หนัง) Shine The Light ของวงลุงๆน้าๆ Rolling Stone ก็สามารถ ฉะนั้นเรื่องจุดยืนและตัวผลงานที่นางร่วมกับแฟนเพลงและเพื่อนๆในวงการทั้งทีมงาน บรรดาศิลปินหลากหลายที่เคยและได้มีโอกาสทำงานกับนาง ล้วนหล่อหลอมให้นางก้าวผ่านรากเงาต่างๆนานา ที่โดนป้ายหน้าและจับตัวเป็นNominee เป็นนู่น เป็นนี่ เป็นนั่น เหมือนหน้ากากเปลี่ยนบทที่คนในสังคมและสื่อ รวมไปจนแฟนๆ (ที่คอยตามคาดหวัง) สั่งและบังคับกลายๆไปด้วยระบบลัทธิทุนนิยมสามานย์ของสังคมบริโภคนิยมบูชาวัตถุและเปลือกแต่ภายนอกกันเป็นเรื่องธรรมดาสามัญที่รับได้

นับมาตั้งแต่ Christina Aguilera , Stripped และ Back To Basics นางได้ตบหน้าฉาดใหญ่ๆและพาทุกคนที่ได้ร่วมมีประสบการณ์ผ่านความสามารถและอิจฉริยภาพทางสุนทรียดนตรีด้วยหนึ่งสมองสองมือและ หนึ่งลูกกระเดือกกับหน้าสวยๆและลูกหนึ่งผัวหนึ่ง ไปกับบรรดางานที่ร้อยเรื่องราวในชีวิต ประสบการณ์และทัศนคิตกับอิสรภาพทางจินตนาการแห่งแรงบันดาลใจผ่านเสียงดนตรีที่นางรักอย่างซื่อสัตย์ ตรงไปตรงมา และ"มีเลือดเนื้อ" "จับต้องได้" เป็นมนุษย์มีสามัญสำนึก หัวจิตหัวใจ มีราคะ รัก โลภ โกรธหลงและ บาปรับรู้ชั่วดี มีด้านที่ไม่ได้สวยงาม งดงามนัก ชีวิตวัยเด็กที่บกพร่อง จิตวิญญาณที่กำลังเยียวยาผ่านสรสุม ไปตลอดจนเรื่องรักที่ไม่ได้จบแบบในนิยาย และการมีชีวิตอย่างมีความสุข ด้วยพลังที่มาจากภายในที่ส่งถึงทุกหัวใจ . . . ส้รางฐานแฟนคลับและแรงศรัทธากับผู้คนทั่วโลกอย่างมากมาย และแน่นอนแรงผลักดันทุกอย่างในตัวผลงานที่ถ่ายทอดออกมาด้วยหัวใจย่อมมีทั้งคนรักคนชัง อาจด้วยความที่ไม่ได้สวยงามฉาบไปด้วยภาพสวยหรูของเจ้าหญิงหรือผ้าขาวสะอาด แต่การออกมายอมรับและเป็น "คนมีเลือดเนื้อจริงๆ" ของนางเป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่ทำให้นาง"แตกต่าง" และ "โดดเด่น" กว่าดิว่าและศิลปินหญิงในเจเนเรชั่นเดียวๆกันและอาจรวมไปถึงรุ่นใหม่ที่กำลังเป็นที่โด่งดังทั้งหมดด้วย แม้กระทั่งเจ๊แม่มาดอนน่า ก็ยัง "ขาด" คุณสมบัติข้อนี้ ซึ่งตัวเธอเหมือนเป็นเทพเจ้า เป็นตำนานเป็นบุคคลที่แฟนๆและคนทั่วไปเข้าถึงไม่ค่อยได้ แต่นั่นก็เป็นเหตุผลให้เธอประสบความสำเร็จและเป็น "หนึ่งในประวัติศาสตร์ที่ยิ่งใหญ่ของโลกดนตรี" หน้าหนึ่งเช่นกัน

หลังจากการเปลือยหมดเปลือก ทะลุไปจนถึงกมลสันดานใน Stripped ด้วยบาดแผลทางอารมณ์และทำให้หลายๆคนสะเทือนใจไปกับบทเพลงโซล อาร์แอนด์บี กอสเพลร็อคเข้มข้นไปกับเสียงกราดเกรี้ยว ทรงพลัง เข้มแข็งเด็ดเดี่ยว เธอพาทุกคนไปด้านที่อ่นโยนกว่าใน Back To Basic ที่เป็นงานสดุดี Dedicated ให้กับศิลปินเออร์บันผิวสี ระดับบรมครูหลายๆท่านที่ส่งอิทธิลให้ตัวนางกับผลลัพธ์ดนตรีในปัจจุบันด้วยงานที่ไม่หนีไปจาก Stripped เท่าไหร่นัก เพียงแต่เพิ่มความเข้มข้นในส่วนของโซล กอสเพลมากขึ้น และมีลูกผสมของดนตรีบลูส์ แจ๊ส กับกลิ่นอายดนตรีเก่าแก่ของยุค's40-70 ซาวด์แบบโมทาวน์เรคคอร์ดคลาสสิคแซมเพิลน่าฟังประปรายด้วยงานที่ยังคงเป็น "คนชายขอบ" ที่ "เจอที่ของตัวเองแล้ว" ด้วยความที่อัลบั้มยังเต็มไปด้วยเพลงที่ส่วนตัว หม่นหมองระคนกันไปกับอารมณ์ที่ยังคงกราดเกรี้ยวแต่หนนี้เธอเลือกที่จะโอดครวญเพื่อ "ชีวิตใหม่" ที่กำลังจะเกิดมาด้วยความรักของเธอและบุคคลที่เธอจำฝากชีวิตไว้ให้ มันจึงแตกต่างกันจนแทบกลั้นน้ำตาไม่อยู่

หายหน้าหายตาไปเกือบ 5 ปี (รึเปล่า ?) นางกลับมากับข่าวเซอร์ไพรส์และหนึ่งในคำจำกัดความของอัลบั้มชุดใหม่ลำดับที่ 4 ว่า "futuristic" ที่ทำให้หลายคนตีความไปต่างๆนานาไปจนขีดเส้นตาย ชะตากรรมอัลบั้มกันไปซะเกินความจริงจนเมื่อตัวอัลบั้มมีโอกาสได้ออกมาแยลยลวางอยู่บนหูฟังของหลายๆคน ก็เกิดคำถามและการแบ่งแยกของการตอบรับและกระแสที่ต่างขั้วอย่างชัดเจนของอัลบั้มนี้

บ้างชอบมาก
บ้างเฉยๆ
บ้างเกลียด
บ้างบ่นว่าไม่เห็นดีเหมือนที่โม้ไว้
บ้างบอกแป๊กแน่ ง่อย
บลา บลาๆๆ
ไปกันใหญ่แล้วววววววววววว ถึงโดยส่วนตัวก็เป็นอีกคนที่คาดหวังไว้สูงหลังจาก Decade Of Hits ที่มีการลองของสนุกมือไปจนประทับใจหลายๆของของ You Are What You Are (Beautiful),Genie 2.0 และอาจรวมไปถึง Keep Getting Better มันทำให้เราเตลิดและล้นเพ้อไปเยอะมากว่าเพลงในอัลบั้มใหม่นางจะต้องออกมาเปรี้ยวว และล้ำมากก ยิ่งพอเริ่มประกาศและเผยรายชื่อโพรดิวซ์เซอร์และบรรดาผู้ร่วมงานทั้ง Santigold , Goldfrapp , M.I.A.,Le Tirge,Ladytron,John Hill, กับขาประจำอย่างป้าลินดา ก็ยิ่งต้องกรี๊ดดดดดดดดดดดด

แต่ตอนได้ฟังซิงเกิ้ลแรก NMT ที่หลุดออกมา ความรุ้สึกตอนนั้นยังไม่สั่นคลอนนะ เพราะมันยังครอบคลุมกับคำอวดดีของอีตี๊มันอยู่ คือมันเป็นเพลงคลับแดนซ์ Club banger , Dancing Athem ของยุคขนานแท้ คือมีทั้งบีทหนักๆ เสียงสังเคราะห์อลังการ บิดลูกมิกซ์ในห้องอัดกันสนั่น เสียงซินธ์และคอรัสสนุกกระจายอีตี๊ก้แหกปากได้อย่างสะใจ บวกกับความเป็นอาร์แอนด์บีเจือๆที่ได้จาก Polow da don และ เคลาธ์ เคลลี่ย์มาด้วย มันก็ใช้ได้ พอใจชื้น (และPolow da don ก็คือหนึ่งในตัวทีมงานอีกคนที่เพิ่งเข้ามาร่วมงานในช่วงข่าวอัลบั้มคลอดหลังๆ)

แต่พอได้ฟัง Bionic , You lost me ที่เป็นคลิปก็เริ่ม เหวอๆและแอบมึนว่า อะไรวะ ? นี่เป็นเพลงที่อัดเหลือๆไว้ในอาราบั้มไหนซักชุดของหร่อนรึ ? ด้วยความที่มันไม่มีทั้งความแปลกใหม่ และกลิ่นความโม้เมาธ์ที่พล่ามไว้เรยสักกระเบียด แต่ยังด่าได้ไม่เต็มปากพราะ มันเป็นแค่คลิปไม่ใช่เพลงทั้งเพลง อาจมีเซอร์ไพรส์อะไรก้เกิดขึ้นได้ และแค่ 20 กว่าวิ ตัดสินอะไรตัวเพลงและอัลบั้มทั้งชุดไม่ได้

แต่ แต่
WooHoo ที่หลุดออกมาเต็มเพลงทำเอาข้าพเจ้าถึงกับผงะ และบ่นงุบงิบ ยอมรับว่าชอบเพลงนี้นะคะส่วนตัว เพลงมันส์จริงอะไรจริง อย่าเพิ่งไปพูดมากถึงรายละเอียดดนตรีอะไรเพราะมันเป็นเพลงแดนซ์ที่บีทแน่นทะลักล้นรกและร้องตามสนุกปาก การเรียบเรียงก็ทันสมัยเหมาะสม มีทั้งความเป็นสตรีทฮิพฮอพ ผสมกับฟัลเธ็ทโซ่ด้วยลูกล่อลูกชนระดับอลังการงานช้างเช่นเดิม

ถามว่าเพลงดีไหม ใช้ได้เรยค่ะ เปิดสนั่นในคลับดังระเบิด คนกรี๊ดทั้งซ่อง เนื้อหายิ่งแล้วใหญ่ดัดจริตได้ตลกและกวนตีนมากๆ อีนิคกี้ย์ที่มาแร๊พก็แย่งซีนเพลงไปทั้งเพลง ทั้งๆที่ร้องแค่ ท่อนเดียว เสียงร้องกึ่งแร๊พของอีตี๊ก็ฟังสนุกดีสอบผ่านในฐานะเพลงฮิตและเพลงฟังสนุก

แต่ในแง่ภาพรวมที่โม้เอาไว้และแนวทางที่วางเอาไว้ในตอนแรกและวคามคิดสร้างสรรค์กับความสดใหม่ที่เรารอคอยและคาดหวังจากลมปากชี ติบลบค่ะ สอบตกมากๆ เพลงแบบนี้คนเค้าทำกันให้ระเบิดถังกระจาดมดลูกทั่วทั้งวงการ

คนวิสัยทัศน์และศักยภาพระดับอัจฉริยะแบบหร่อน ทำไมต้องมาทำเรื่องเดิมๆน่าเบื่อๆ ตามรอยเท้าคนอื่นด้วยค่ะ ?

สรุปคือส่วนตัวแอบคิดและเสียดายว่า อารมณ์อาราบั้มนี้จะออกมาเป็น เพลงเต้นรำเพลงแดนซ์ทันสมัยๆ ตามกระแสนิยมที่เน้นความจัดจ้านสีสันของโพรดัคชั่นส่วนประกอบแวดล้อมอื่นๆมากกว่าตัวงานแบบที่ประชดแดกดันกระแส Pop culture ผานงานที่ตีกระแสหลักตลาดอุตสาหกรรมดนตรีฉาบฉวยกินง่าย แดกด่วนจองสมัยนี้ด้วยวัฒนธรรมดาวน์โหลด อย่างทีเจ๊แม่ทำใน Hard candy และ เนลลี่ย์ เฟอร์ทาร์โด้ทำใน Loose มากกว่าที่จะเป็นงาน นิวเวฟ อิเล็คโทรนิค หรืออัลเตอร์นิทีฟ ร็อคเปรี้ยวๆที่คาดหวังกันเอาไว้ตอนแรกอะนะคะ

และพอได้ฟังตัวอัลบั้มเต็มๆ ก็ต้องขอบอกว่า คิดถูกครึ่งหนึ่งและผิดครึ่งหนึ่ง !!! เราจะมาว่ากันต่อไปเรื่อยๆละกันตามลำดับ


รูปแบบดนตรี

อย่างที่เกริ่น พล่ามมาซะยาวเป็นหางเมียงูนั่นแหล่ะ อัลบั้มนี้เป็นส่วนผสมของดนตรีฮิตที่เป็นกระแสหลักของโลกดนตรีและอุตสาหกรรมเพลงโลกทั้งใบตอนนี้ ทั้งอาร์แอนด์บี ฮิพฮอพ แดนซ์ อิเล็คโทรนิค กับมีความเป็นดนตรีอัลเตอร์ฯอ่อนๆกล้อมแกล้มพอเป็นกระสัย และยืนพื้นเป็นพ๊อพ ทั้งยังอาศัยความเป็นโซลเอาไว้ในเนื้อน้ำเสียงและไสตล์คอรัสและลูกเล่นบางอย่างของดนตรีเอาไว้ไม่ให้หลุดจากแนวทางเดิมๆของนาง เพิ่มมิติแลชะความน่าฟังให้แต่ละเพลงขึ้นมาก เหมือนเป็นเสน่ห์ในอัลบั้มไปโดนปริยาย


ยีนส์เด่น

อย่างที่พูดเอาไว้ตอนแรกว่าคิดถูกครึ่งหนึ่งคือ ใช่ อัลบั้มนี้ธีมอัลบั้มเหมือน FS/LS ของจัสติน และ Hard CAndy ของเจ๊แม่ กับ Loose ของเนลลี่ย์ คือมันเป็นงานที่เอาดนตรีเมนสตรีมทุกรูปแบบมาประยุกต์กับไสตล์และคาเร๊กเตอร์เข้ากับเนื้องานที่ฉาบไว้กับลูกเล่นที่ใส่เข้ามาสนุกๆของตัวศิลปินที่นำเอาจุดเด่นของตัวเองมาใช้ผ่านงาน "ที่เหมือนโหลๆ" "ทั่วๆไป" ให้ "โดดเด่น" และ "สนุกสนาน" งานอัลบั้ม Bionic ของอีตี๊ก็คื่ออารมณ์เดียวกัน FS/LS ของจัสิตน ใช้บีทลู๊พ และบีทบ๊อกซ์และดนตรีฟังก์ย้อนยุคเข้ามาช่วยขับพลังของตัวอัลบั้ม เจ๊แม่ Hard candy ใช้ความเป็นราชินีของตัวเองยืนพื้นบนงานผ่าน "วัสัยทัศน์" ของการตลาดและ"สมอง" ช่วยเติมสีสันในงานให้ทรงพลัง Loose เนลลี่ย์ใช้ดนตรีเร๊กเก้ ดนตรีโฟล์คและดนตรีพื้นบ้านของแอฟฟริกันเข้ามาทำให้ตัวงานเด่นดังระเบิดไปทั่วชาร์ท

ส่วนอีตี๊ นางใช้อะไรน่ะเหรอ ? เสียงนะสิ ? ใช่ นางถ่ายทอดและใช้เสียงออกมาสุดยอดทุกเพลง ผ่านเนื้อหาสนุกๆและแรง"จริงๆ" อาจเป็นนักร้องรุ่นเดียวกันไม่กี่คนที่อัลบั้มต้องแปะ Parental Advisory กันเลยทีเดียว คำหยาบวิ่งกราดเต็มอัลบั้ม พอเอาจุดเด่นในบุคลิกและตัว skill การร้องระดับมหาภาคดิว่าของนาง รวมไปถึงการหยอดหยิบยืมไสตล์ดนตรีที่เป็นแรงบันดาลใฝจของนางเองมาใช้ เพิ่มรสนิยมและศักยภาพในแต่ละเพลงเพิ่มขึ้นเป็น ทวีคูณ อาจเรียกได้ว่างานชุดนี้ดีเทียบเท่า Loose ของเนลลี่ย์และ Hard Candy เจ๊แม่และFS/LS ของจัสติน ประมาณนั้นเลยน่ะแหล่ะ

ยีนส์ด้อย
อคติ และความคาดหวัง เป็นตัวบั่นทอนการเปิดใจรับฟังอลับ้มนี้อย่างร้ายกาจ ต้องยอมรับอีกส่วนนึงด้วยว่า การมาถึงของ Bionic อาจช้าไปด้วยแหล่ะ หากอัลบั้มนี้วางเมื่อ 3 หรือ 2 ปีที่แล้วคงจะเหมาะสมกว่านี้มาก แต่นี่เล่นมาช้ากว่าคนอื่นเค้าหน่อย ก็โดนด่า โดนดิสเครดิตและทับถมกันชนิดไม่ได้ใส่ใจกับตัวรายละเอียดงานกันจริงๆเลย

อีกอย่างซาวด์ในอัลบั้มนี้หลากหลายก็จริงแต่ แต่ละเเทร็คมันไม่สุด ในภาคดนตรีน่ะนะ มันยังดูเหมือนกั๊กๆและไม่ไปสุดทาง วนไปวนมาและย่ำอยู่กับที่หลายเพลง และด้วยขอบเขตของการไม่อยากจะให้อัลั้บมไปจนเลยเถิด การควบคุมงานโพรดัคชั่นให้ออกมา "พอเหมาะพอควร" จึงเป็นเรื่องยาก เพราะหากงานชุดนี้ ไปออกทะเลสุดทางติสท์แดกหลุดโลก หรือตลาดจ๋าจนน่าเลี่ยน ก็คงไม่ไหว มันจึงเป็นการยอมเสี่ยงที่ทั้งน่ากลัวและกล้าหาญจริงๆของอีตี๊มัน ฉะนั้น จุดด้อยตรงนี้ ถือเป็นดาบสองคมที่ย้อมเข้าหาทั้งตัวอีตี๊เองและต่อตลาดเพลง งานนี้จะรอดไม่รอด ต้องเอาดวงช่วยด้วยแล้วกันนะ เพราะงานก็ออกมาดีระดับนึงแล้วด้วยล่ะนะ

ชำแหละรายแทร็ค

เปิดอัลบั้มด้วย Bionic (3/5) เทคโนพ๊อพติดกลิ่นอิเล็คโทรนิคก้าด้วยเสียงสังเคราะห์และโพรแกรมมิ่งตามสมัยนิยมกับการผสมผสานการเดินคีย์บอร์ดไสตล์สกากับการมิกซ์เสียงแสครชเทริ์นเทเบิ้ลเข้ากับลูพดนตรีและบิดปุ่ม คอนเวเตอร์เสียงอีตี๊ให้บิดเบี้ยวเหมือนโพรแกรมหุ่นยนต์ตามหนังไซไฟ เป็นเพลงที่ฟังได้เรื่อยๆ เปิดอัลับ้มได้คึกคักใช้ได้ ต่อความสนุก ด้วย

Not Myself Tonight (3.5/5) คลับ แบงเกอร์ระดับระเบิดซ่องที่มีครบรสครบองค์ประกอบของ Danicg Athem แห่งยุคสมัย เสียงสังเคราะห์ซินธ์เปี๊ยวป๊าว เสียงกลองสนั่นระทึก โพรแกรมมิ่งอลังการงานส้รางระดับ180 ริกเตอร์สึนามิถล่มเสม็ดฆ่าเกย์ตายทั้งหาด Silver sand,พี่ Polow da don คงกดบิดปุ่มมิกซ์ในห้องอัดนิ้วซะซ้น การเพิ่มลูกเล่นของดนตรีอาร์แอนด์บีและการร้องไสตล์โซลติดสำเนียงกอสเพลช่วงท่อนแยกตอนเฟดเอาท์ช่วยเพิ่มคุณค่าให้ตัวเพลงต่างจาก เพลงฮิตๆเสล่อๆตามชารท์กลาดเกลื่อนได้แบบหวุดหวิด เป็นการเอาตัวรอดได้สมศักดิ์ศรีและสวยงามหมดจดทุกคำครหา Dirty Dignity จริงๆแม่คุณ

WooHoo (3.5/5) อินโทรล้ำเลิศน่าปรบมือ stading O's ให้กึกก้องกัมปนาทด้วยความเป็นกอธิคนิวเฟวลูพเพอร์ลึกลับน่าฟัง แต่พอบีทเริ่มเคลื่นตัวเท่านั้นล่ะ แทบร้องกรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด ชอบนะ ยิ่งฟังมากรอบยิ่งมีทัศนคติต่อตัวเพลงดีขึ้นเรื่อยๆ สตรีทอิเล็คโทรพ๊อพอาร์แอนด์บีฮิพฮอพดิบๆ ที่มีการใช้เสียงสังเคราะห์ชาญฉลาดทุ่มทุนส้รางจากพี่ Palow da don ให้ตัวเพลงยิ่งฟังสนุกๆ แน่นอนพี่แกยังบิดปุ่มมิกซ์ระเบิดสตูเช่นเคย เหมือนส่วนผสมของ Milkshake - kelis + paper plane -MIA และ Hollaback Girl ของอีเกวน กับ Get me bodied อีบี อร๊ายยยย คิดดูสิเพลงเพลงเดียว สามารถทำให้นึกถึงเพลงดังๆตั้งหลายเพลงได้ขนาดนี้ มันไม่ธรรมดานะคะ แถมท่อนที่อีนิคกี้ย์มาแร๊พช่วยเนี่ย จะบอกว่า แซ่บนัวร์ชนะเลิศ เป็นเพลงที่ถ้าไม่ใช่คอฮิพฮอพหรือพวกแดนซ์ฮลล์มิวสิคจริงๆคงจะเกลียดไปเลย เพราะเพลงแบบนี้มันต้องมีคอรสัสนุกๆ ท่อนโดนๆ ร้องตามง่ายๆ แล้วต้องบีทแน่นล้นทะลักมันส์ไม่รุ้เรื่องแบบนี้แหล่ะ มิกซ์ดีๆอีกหน่อย เปิดดังๆในคลับนะคะ ที่ไหนในโลกก้หีแหกออกมากลีบถลกขึ้นหน้าผุ้ชายค่ะ

Elastic Love (3.5/5) ดีพแทรนซ์เนิบนาบกระฉึกกระฉัก ติดกลิ่นอิเล็คโทรพังก์ยุค 80 กับการใช้ลูกเล่นแคปเสียงอีตี๊แล้วโสครปให้เหมือนหุ่นยนต์ที่ลอยอยู่บนซินธ์ที่มิกซ์เนียนๆเข้ากับแบ็คกราวน์ดนตรีโพรแกรมมิ่งหลายๆชั้นมีการเพิ่มเสียงคอรัสซ้อนๆกันทับแล้วใช้เบสกับกีต้าร์ไฟฟ้าสดๆใส่กันไม่ยั้ง เป็นเพลงที่ตอบโจทย์ความเป็นดนตรีเต้นรำที่เหมือน Parodox กันของความทันสมัยและความเป็นเรโทรมิวสิคไสตล์

Desnudate (3/5) พ๊อพแดนซ์ที่มีการหยิบยืมดนตรีอารบิกและใส่ความเป็นละตินเข้าไปในไลน์การร้อง(และภาษาละตินเก๋ๆ)กับบีทซัลซ่าเข้ามาใช้ มีการเพิ่มเสียงแตรและเครื่องเป่ากับลีดกีต้าร์พลิ้วๆให้อารมณ์เซ็กซ์ซี่ย์ แต่ยังไม่ลืมใส่เสียงสังเคราะห์พอประมาณให้เพลงทันสมัยตามธีมอัลบั้ม

Love & Glamour (0/5) ไม่เข้าใจจริงๆ ปกติอินเทรอ์ลูดและอินโทรของอีตี๊จะมีความหมาย มีนัยยะและเป็นการเชื่อมกับเพิ่มอรรถรสในการฟังของอีกเพลงเข้าด้วยกันแท้ๆ แต่หนนี้ ถ้าอินโทรของเพลงนี้ มันรวมเข้ากับ Glam ไปเลยเป็นเพลงเดียวกัน ก็คงจะไม่มีใครด่า และสงสัยกังขาว่ามึงจะอัดเสียงแล้วเพิ่มแทร็คเข้ามาให้คนดีใจทำไม ? แถมบทพูดในสคริปต์ของแทร็คนี้ก็ไม่มีอะไรน่าสนใจ ไม่ฉลาด ไม่แสดงถึงวิสัยทัศนะใดๆใน แฟชั่นที่ทำให้หล่อนดูชิคหรือ สมาร์ทขึ้นมาซักนิดเดียวเลย เป็นหนึ่งในแทร็คตลอดกาลที่แย่ที่สุดของอีตี๊ เหมือนคนป่วย เหมือนคนบ้า เหมือนไม่รู้จะทำอะไรเพิ่มดีเข้าอัลับล้มเลย อัดลง BB ส่งให้ต้นสังกัดแล้วส่งลงโพรแกรมเข้าแผ่น เรคคอร์ทขายไปขำๆ อีดอก ต้นสังกัดก็บ้าจี้นะ ถึงจะเป็นอีตี๊ทำแบบนี้เบรคบ้างก็ได้นะ ประสาทแดก

Glam (4/5)
ต๊ายยยยยยยยยยยยยยยย Vogue ยุค 2010 เหรอคะ ? ทริคกี้ย์หร่อนอวดดีไปหน่อยนะยะ แต่ถ้าจะบอกว่ามันเป็นเพลงที่ทำให้นึกถึงเพลงโว้คของเจ๊แม่อันนี้จริงและเป็นไปในทางที่ดีด้วย เพียว ไลท์อาร์แอนด์บีเนิบนาบจังหวะเฉิดฉายมีรสนิยมไม่โหวกเหวกเป็นกระหรี่ ไปด้วยจริตจะก้านของฟัลเซ็ทโธ่ กับเพอร์เคสชั่นที่ถูกนำมาร้อยเรียงกรุยกรายอย่างปาณีตเข้ากับทุกอาณุภาคดนตรีเพิ่มมิติด้วยการร้องหลากหลายไสตล์ในเพลงเดียว เป็นการจัดการงานอย่างยอดยเยี่ยมของทีมโพรดัคชั่น เพลงนี้ตรงคอมเส็พเพลงฮิตอีกเพลง ทั้งยังย้ำและชี้ชัดถึงความมีริยสมของตัวอีตี๊และแนวทางของ ทริคกี้ย์ ที่หากทำงานดีๆอย่างนี้ตลอด นายจะล้ม Darkchild และ Timbalnd ได้เป็นตัวเลือกที่ฉลาด สมบูรณ์และ อย่างที่บอก งานเพลงเต้นรำมีระดับที่ปาณีตเหมือนเนื้อผ้าและดีไซน์ชุดดีๆมาหนึ่งชุดที่โดดเด่น สง่างาม และไม่ซ้ำใคร แต่ความติดหูอาจจะสุ้เพลงอื่นๆในอัลบั้มไม่ได้มากเท่าไหร่

Prima Donna (3.5/5) ต๊ายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย ทริคกี้ย์เธอเหมือนจะทำเพลงโหลๆให้อีตี๊นะคะ แต่ไม่นะยะ ฟังดีๆ อาร์แอนด์บี ฮิพฮอพดุดัน เบสกลองหนักๆแน่นๆ เข้ากับซาวด์สังเคราะห์จัดจ้านไสตล์ ครั๊มพ์เท่ห์ๆแบบแกงค์เสตอร์ ที่ถึงจะทำให้นึกถึง รีฮานน่า Rock Star 101 ไปนิดหน่อย แต่ไม่ผิดนะคะ เพราะมันเข้ากับอีตี๊มาก ความกักฬขะทั้งหมดมวลตอน Dirrty ณ บัดนาว ได้แปลเปลี่ยนเป็นตัวชูโรงแห่งซ่องแบบมีระดับใน Prima Donna แล้วล่ะยะ โฮะๆ และก็เป็นการร้องลูบคมของการวบคำรัวลิ้นแบบที่อีมาลัยอาจค้อนขวับ แถมน้ำเสียงระดับนี้กับเพลงไสตล์นี้ กินขาดค่ะ เสียดายที่หร่อนทำเพลงนี้ช้าไปหลายปีนะคะ ไม่งั้นคะแนนจะเยอะกว่านี้มาก คิดดูหากเพลงนี้ไปอยู่ใน Stripped อัลบั้มมาสเตอร์พีชชุดนั้นงานเพลงนี้จะกระหึ่มกว่านี้มาก

Morning Dessert (3.5/5)
อินเทอร์ลู๊ดนุ่มนวล พรีลู๊ดอาร์แอนด์บีนุ่มๆน่าฟังที่โยงเข้าแทร็คเด็ดหนึ่งแทร็คในอัลับ้ม
Sex For Breakfast (4.5/5) คูลดาวน์เทมโพอาร์แอนด์บี ที่มีกลิ่นนีโอโซลเข้มข้นคุ้ลงเค้ลาไปด้วยรายละเอียดของโน้ตที่ใช้ลูกเล่นของเทมพ์ซาวด์แบบที่ Erykah Baduชอบทำ พรมไปด้วยเพียโนและเบสกับคอรัสพริ้วๆ หยอดโพรแกรมมิ่งและริฟกีต้าร์เบาๆเคลือบบางๆ กับการร้องแบบ Less Is More เป็นหนึ่งในแทร็คที่หยามกันไม่ได้ และน่าจะถูกใจคนฟังเพลงเป็นมากกว่าคอเพลงพ๊อพ เป็นอาร์แอนด์บี อเดาท์คอนเทมโพราลี่ย์พ๊อพที่คนมีอายุ(หรือคนมีผัว)น่าจะชอบ โฮะๆๆๆ

Life Me Up (5/5) สมบูรณ์แบบ ครบไปทุกส่วนผสมของงานบัลลาดพ๊อพแห่งจิตวิญญาณที่มีดีมากกว่าแค่เพลงให้กำลังใจไร้สมอง ตอแหลโง่ๆเต็มท้องตลาด Insparional บัลลาดซินธเธอร์ไซเซอร์พ๊อพที่ให้รูปแบบของงานดนตรีบริทพ๊ฮพของวงร็อคทางฝั่งอังกฤษมากกว่างานอัลเตอร์ฝั่งอเมริกา กับคอรัสแบ็คอัพแบบอแคพเพลล่า และเครื่องสายที่เข้ามาเร่งจังหวะกับวงออเครสต้ราวงมโหรีย่อมๆที่เพิ่มพลังไปตามจำนวนเวทีที่เพลงนี้เล่นไปทุกวินาที เพิ่มพูนความไพเราะ พลังงานที่ขับเคลื่อนผ่านทุกองค์ประกอบดนตรีที่ถ่ายทอดออกมาด้วยน้ำเสียงระดับโซปราโน่ แลด้วยเมโดลี้ย์จากป้าลินดาที่เล่นเอาตายคาท่อนเริ่มมาก็อาจเอาน้ำตาซึม เป็นบทพิสูจน์ว่าเพลงพ๊อพไม่มีวันตาย และงานดีๆไม่จำเป็นต้องฟังยากและพยายามทำให้ฟังยาก ตีลังกาหกขะเหมกหรือเล่นท่ายากเลยซักนิด เพราะทุกอย่างมันอยู่ทีใจ ทั้งนั้น

My Heart (1/5) เอ่อ 1 คะแนน ที่ให้เนี่ย ให้เพราะเสียงน้อง Max แกหรอกนะ เสียงผัวหน้าเหี้ยที่เอามาใส่ไว้เนี่ยไม่ประทับใจเลยซักนิดเดียว แต่หากอยากให้ชั้นประทับใจหร่อนเอาเสียงเทปลับตอนเย่อกัผัวมาใสนะ ชั้นจะมาวิจารณ์ให้ว่า เป็นยังไง ลีลา น้ำเสียง อะไรงี้ โอเคนะ แทร็คที่เชื่อมอารมณ์ (เหรอ ??) ต่อมาก็คือ All I Need (3.5/5) ยังคงเป็นงานบัลลาดง่ายๆที่ดีไม่ถัดจาก Lift Me Up ต่างกันตรงที่มันให้อารมณ์ความเป็นโซลมากกว่าอย่างเห็นได้ชัด เสียงเพียโนที่ยืนพื้นกับบีทเรียบง่ายที่มีการเรียบเรียงภาคดนตรีมาอย่างดี เหมือนงานอัลเตอร์พ๊อพบุกเบิกดีๆของ Mama And The Papas หรือแม้กระทั่ง Carpenters และ น้าบียอร์คยุคผียังไม่เข้า

I Am (4/5) เพลงพ๊อพจังหวะกลางๆสะอาดๆบีทกำลังดีอีกเพลง ที่มาเพิ่มเติมมิติดนตรีด้วยโพรแกรมมิ่งและเสียงสังเคราะห์ให้อารมณ์ล่องลอยกำลังดี เป็นเพลงที่ธรรมดาๆแต่มีสน่เหอย่างประหลาด อาจด้วยความธรรมดาไม่หวือหวาจากเพลงที่จัดจ้านเต็มอัลบั้ม ทำให้เพลงง่ายๆเรื่อยๆมาเรียงๆเพลงนี้เด่นลอยขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้ อีกทั้งท้ายๆเพลงความเป็น ยังลอยมาแตะจมูกเบาๆให้ได้เคลิ้นอีกต่างหาก ถ้าหร่อนกล้ากว่านี้นะ คงจะได้เห็นอะไรดีๆกว่าที่เป็นอยู่เยอะ

You Lost Me (3.5/5) บรอดเวย์โอลด์ สกูลโซลบัลลาด เพลงช้าจริงๆอีกเพลงในอัลบั้มที่เเตกต่างจากหลายๆเพลงในอัลบั้มที่เพลงนี้นางเน้นดนตรีสดๆทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นเครื่องดีดสีตีเป่า ไปกระทั่งคอรัสในเพลงนี้ยังกลับไปใช้ไสตล์บิ๊กแบนด์ ที่เน้นการร้องไล่คีย์และประสานเสียงแบบโหยหวนกึ่งกอสเพลและอะแคพเพลล่าแบบใน Back To Basic เป็นเพลงที่เน้นย้ำจุดยืนและช่วยเพิ่มภาพรวมในอัลับ้มให้หลากหลายน่าสนใจขึ้นมาก

I Hate Boy (2.5/5) เพลงที่เหมือน Bad Boy ของนังAlexandra Burke กับ Hot & Cold ของอีเคดี้ย์ แต่ไม่ใช่ว่ามันไม่ดีนะ คือเพลงมันก็สนุกๆดี เนื้อเพลงก็แรงก๋ากั๋นขนาดนั้น แต่มันเบื่อง่ายน่ะ ดีที่เพลงแบบนี้มีแค่ไม่กี่เพลงในอัลบั้ม ชอบอินโทรที่เหมือนเสียงเชียร์ในสนามกีฬา กับท่อนแร๊พตอนไบรจ์หร่อนทำได้ดีมากนะยะ ขอชม แร๊พได้ดีกว่า อีหอกและเจ๊แม่มากมายก่ายกอง แต่ยังแพ้อีมาร-ร้ายอ่าห์นะกรั่กๆ นางนั้นแร๊พทีลิ้นพันควยผัวจนยอมแต่งงานด้วยรุย โฮะๆๆๆ

My Girls (4.5/5) เรโทรฟังก์กี้ย์ติดพังก์อิเล็คโทรนิคย้อนยุคของความเป็นนิวเวฟและกลิ่นอายดนตรีอินดี้ย์ของยุค 70 - 90 ของแวดวงดนตรีร็อคแอนด์โรลมาตัดแปะดีเอ็นเอ พันธุกรรมใหม่ ให้ทันสมัยด้วยบีทเสียงสังเคราะห์แน่นๆกับเบสและเครื่องดนตรีไฟฟ้าฟิ้วฟ๊าว สั่นโสตประสาทกับการให้บรรยากาศของธีมเพะลงแบบ Falshing Light ด้วยลูกเล่นลูกล่อลูกชนที่ใส่เข้ามา ต้องขอขอบคุณ Le Tirge คุณแน่มากที่กล้าทำเพลงที่ย้อนสมัยผ่านศักยภาพทะเยอะทะยานของอีตี๊ ส่วน Peaches ที่มาช่วยแร๊พกึ่งร้องแบบมีเมโลดี้ย์ก็เข้าท่า สนุกพอใช้ได้ ถือว่าหร่อนไม่เจ็บตัว ไม่เสียราคาความเปรีย้วที่หร่เอนสั่งสม อีตี๊เองก็ไม่ได้ทำอะไรเกนิเลยแหกปากมากมาย เป้นการร่วมงานกันแบบพบกันคนละครึ่งทาง Win-Win


Vanity (3/5) เพลงนี้นะคะ ดนตรีกะโหลกกะลามากไม่มีอะไรมากไปกว่าแค่เดินบีทบนโพรแกรมมิ่งวนไปวนมา กับกลองที่มิกซ์เข้ากับดรัมพ์ลูพดังๆกระหึ่มๆ ชวนให้อะดินาลีนหลั่งเลือดสูบฉีด แต่เนื้อเพลงค่ะ เนื้อเพลง นางพ่นคำหยาบเกือบทั้ง 3 นาทีกว่าๆ ทำเก๋ด้วยการ เปรียบตัวเองเป็นเจ้าหญิง กระจกวิเศษบอกข้าเถิดใคร "แร่ดอย่างเหี้**" อร๊ายยย กรูเองคร๊า อีพวกขี้ครอก " ต๊ายย แรงถูกใจปิดอัลบั้มได้อย่างเก๋ไก๋ด้วยริทึ่มอคอรัสร่วมของผัวหร่อนและหร่อนเข้าจังหวะ ป๊าบๆๆๆ และจบด้วยการบอกให้ลูกน้อง MAXY มา สรรเสริญหร่อนผ่านเฟดเอาท์ กึ่งเสียดสีตัวหร่อนเองและด่าไปกลายๆ เป็นการทำธุรกิจในเรือนได้ชนะเลิศมาก และปิดอัลบั้มได้ดีมาก ที่ว่าดีก็เพราะเพลงแบบนี้ กับอัลบั้มคอนเส๊พที่ทำทั้งเสียดสีเย้ยหยันประชดประชัน ไปจนแข่งขันในตลาดกระแสหลัก ชนกันตรงๆใน อุตสาหกรรมดนตรีตอนนี้ที่กินง่าย หน่ายเร็วเน้นแดกด่วน อิ่มท้องคุณประโยชน์ไม่ต้องมีเยอะได้ดีมาก ตีแสกหน้าได้คมคาย มีทั้งอีโก้และทัศนคิตที่ดีผ่านภาษาสกปรกที่มีอยุ่เต็มเพลงได้อย่างอัจฉริยะ ขอชม


ความน่าจะเป็น

สั้นๆง่ายๆ นี่จะเป็นหนึ่งในอัลบั้มที่ทรงอิทธิพลอีกอัลับ้มในโลกดนตรีพ๊อพ และทศวรรษที่ 2010 และจะเป็นหนึ่งในอัลบั้มที่จะถูกยกมาพูดถึงบ่อยๆในแง่การวิจารณ์ การถกเถียง การยอมรับ กระแสความนิยม และเป็นการจุดชนวนเรื่องราวต่อยอดต่างๆ ของตัวศิลปินขึ้นมาให้คนได้ทั้งด่า ชื่นชมและถกกันถึงสาระพันอันละน้อย ซึ่งจะได้แง่มุมที่ดีๆรึเปล่าหรือเป็นการเปิดโลกทัศน์ใดๆหรือไม่ อันนี้ย์ก้ขึ้นอยุ่กับมันสมองของกลุ่มคนที่ยกขึ้นมาพูดถึงแล้วล่ะนะ


=================================================================



_________________

ดูข้อมูลส่วนตัว ส่งข้อความส่วนตัว ชมเว็บส่วนตัว ตำแหน่ง AIM Yahoo Messenger MSN Messenger
ตอบโดยอ้างข้อความ
ตอบ  
รีแรกกกกกก

รอเจ๊มา1ชมครึ่ง




_________________

ดูข้อมูลส่วนตัว ส่งข้อความส่วนตัว ชมเว็บส่วนตัว
ตอบโดยอ้างข้อความ
ตอบ  


ขอออกตัวก่อนว่าช้านกับอีติ๊นั้นไม่ถูกกันตั้งแต่ อีติ๊ตัดสินใจทำแนวเพลงผิดลู่ทางผิดคอนเซ็ปผิดในวิสัยทัศน์ของช้านตั้งแต่อัลบั้ม Back To Basics แล้วค่ะ
จนตอนนี้ก็ยังไม่รู้ว่ามันจะย้อนยุคไปหาคุณพ่อคุณแม่เทอตอนสาวๆหรอคะ ช้านหนะ เอือมระอากับหล่อนมากถึงมากที่สุดจนหาคำมาเปรียบเปรยไม่ได้ เรียกได้ว่าตัดขาดความสัมพันธ์กันเลยทีเดียว
แต่ถึงกระนั้น พอรู้ว่าอีติ๊จะมีอัลบั้มใหม่ ช้านก็อดตื่นเต้นไม่ได้ กริ๊ดดดดดดดดด
"มึงจะมาแนวไหนคะ "
ช้านต้องกลืนน้ำลายตัวเอง วิ่งแจ้นไปหาอัลบั้มใหม่อีติ๊มาฟังโดยเร็ว

หลังจากอัลบั้มย้อนยุค Back To Basics เสร็จสิ้นไป กองทัพทีมโปรเซอร์ก็เริ่มซุ่มทำอัลบั้มกันยกใหญ่ รายชื่อโปรดิวเซอร์ หน้าเก่าและหน้าใหม่ก็เวียนว่ายสลับผลัดเปลี่ยนกันไปจนปวดหัว โอ๊ยย ขี้เกรียจจำ ข่าวลือสะพัดจริงบ้างตอแหลบ้างเกี่ยวกับงานเพลงของเทอออกมาเป็นระรอกๆ แม้ส่วนใหญ่มันจะตอแหลมากกว่าก็เหอะ แต่การกลับมาของอีติ๊ก็ทำให้เดี๊ยนประหลาดใจได้มากที่สุดคนนึงถึงแนวเพลงที่จะย้อนไปย้อนมา อารมณ์ขึ้นๆลงๆ เสมือนหญิงสาวที่โดนผัวทิ้ง โกรทขึงอาราวาดบ้านแตก
อีติ๊ป่าวประกาศออกสื่อโดยไม่แคร์กระแสจะแป้ก ตบหน้าศิลปินเพลงแดนซ์อย่างเรดี้กาก้า ว่าถึงเวลาแล้วที่กูจะกลับมาล้ำยุคล้ำสมัยแบบสุดกู่ มึงเตรียมตัวตาย ?
ชีขยันที่จะหยิบนู่นหยิบนี่มารังสรรค์ผลงานตัวเองตลอดเวลา เปรียบเป็นปลาที่ว่ายทวนกระแสน้ำไม่แคร์สื่อใดๆ ถึงก่อนหน้านี้จะมี Keep Gettin'Better มาเป็นก้างขวางความคิดช้าน ที่ช้านจะคิดเสมอว่าอีติ๊ไม่น่าสิ้นคิดปล่อยอัลบั้มรวมฮิตนี้ออกมาเล้ยย ไม่รู้เธอคิดยังไงนะ? แต่ช้านก็เพิ่งตาสว่างได้เดี๋ยวนี้นี่เองนะคะว่าชีตั้งใจเอา Keep Gettin'Better มาปูทางเข้าสู่อัลบั้ม Bionic แบบเนีบน ๆได้อย่างอลังกาล

แต่น แตน แต๊น นี่ไม่ใช่ตัวกูหรอกคืนนี้ Not Myself Tonight ถูกโปรดิวซ์โดย Polow Da Don ที่เคยร่วมงานให้แก่ศิลปินดังๆมาหลายคน ตั้งแต่ อัชเชอร์ , เนลลี่ ยัน พุดซี่ แคท ดอลล์ ในที่สุดอีติ๊ก็ปล่อยซิงเกิ้ลแรกที่คุยโวไว้ยาวนานข้ามปี ปีแล้วปีเล่าเลื่อนแล้วเลื่อนอีกจนน่าตบ ออกมาให้เราฟังเป็นบุญหูสักที
โฮะๆๆๆๆ ช้านเดาทิศทางหล่อนออกหมดเลยค่า เหมือนการถูกหวยรางวัลที่1 อย่างไงอย่างงั้น
ชีตีกรอบกการนำเสนอให้เป็นดนตรีแนวอิเล็คโทรนิค ออกมาอย่างจับไต๋ได้ แล้วอยู่ในอารมณ์ขาดๆเกินๆอย่างบอกไม่ถูก เหมือนประนึงว่าจะไปงานกลางคืน เทอไม่ลืมจะแต่งชุดราตรีสวยๆแต่เทอดันลืมแต่งหน้าซะนี่ ?
แต่กระนั้นก็ไม่ได้เลวร้ายไปซ๊ะหมดหรอก ยังไงมันก็เป็นเพลงเต้นรำได้ดี ดิชั้นเจียดคะแนนให้เพลงนี้แค่ 2 เต็ม 5 เท่านั้นหย่ะ จะบอกให้นะแทร็คเด็ดแต่ไม่เด่นดูเหมือนจะมีเยอะจริงๆสำหรับอัลบั้มของอีติ๊ มันกลมกลืนกันไปหมด เริดแต่น่าเบื่อ ไม่เริดแต่ก็ชิลดีนะ เพลงนี้แปลกใหม่นะ แต่เชยจัง เข้าใจที่ช้านพูดแมะ
เพลงอย่าง Bionic ที่คิดว่าจ่อคิวเป็นซิงเกิ้ลนั้น อาจจะทำให้คุณต้องเบื่อและเอียนจนจะอ้วกได้หากฟังเกิน5 รอบ หรือแม้แต่ Glam ที่ Tricky Stewart โปรดิวซ์ให้ ได้บอกนักบอกหนาว่ามันจะออกมาเป็นVoque เวอร์ชั่น 2010 ฮือฮาจนถึงขั้นจะเป็นซิงเกิ้ลเปิดตัว สำหรับช้านแอบผิดหวังมากๆ
มันไม่ติดหูเแล้วยังไม่โดเด่นอย่างแรง เช๊อะ อี Tricky น่าจะเอาปี้บมาคลุมหัวเดินเหอะค่ะ จับฉ่ายเอานู้นมาทีเอานี่มาที
ผิดกับ My Girls เริดกว่าหลายขุม แตกต่างจากที่ช้านคิดไว้มาก เสียงที่ท่องบ่นๆเหมือนเด็ก
เพลงที่ไม่คิดว่าจะเริดแต่กับเริดได้อย่างประหลาด
ช้านคิดว่า จุดเด่นของอัลบั้มนี้ คือ การที่อีติ๊ได้ใช้เสียงได้หลากหลายรูปแบบ อาจจะด้วยแนวเพลงที่มันต้องแรดต้องล้ำ ทำให้ดูมีพัฒนาการเติบโตขึ้น แต่บางคนที่ยังชอบความป๊อปของเทออาจจะต้องอ้วกแตกไปด้วยบีทแด็นซ์ อิเลคทรอนิคเร่งจังหวะ ล่องลอย ย้วย ยวด ผสมกันมั่ว
แต่ที่แย่ไปกว่าคืออีติ๊จับฉ่ายหลอกล่อให้ทีมโปรดิ้วดึงเอาศักยภาพของโปรดิวเซอร์แต่ละคนออกมาใช้มากเกินไป ให้มันดูรกไปด้วยความจัดจ้านจนเกินไป แต่ยังไงก็ไม่ทิ้งตัวตนของเทอไปซะทีเดียว อัลบั้มนี้ จึงมีแนวเพลงคล้าย Hard Candy ของมาดอนน่ามากทีเดียว
ยังค่ะขอบ่นอีกนิดนึงอัลบั้มนี้ยังมีอยู่หลายเพลงเลยที่สร้างความรักความประทับใจให้เราแล้วรีบสั่งลาหายวับไปกับกลีบเมฆอย่างรวดเร็วด้วยความเบื่อหน่าย เพลงอย่าง Elastic Love ดนตรีนัวไปหมด อิเรคทรอนิค มารุมมาตุ้ม หรือเพลง Prima Donna อย่างเงี้ย การร้องแอบนึกถึงอีห่านใน Rude boy เหมือนกัน หนึบๆ หนับๆ เอื่อยๆ เหนื่อยๆ จนน่าเบื่อ ฟังแล้วอยากจะหันมาแหวะใส่ปก
หรือเพลงที่ท่าดีทีเหลวอย่าง Woohoo คำถามเกิดขึ้นในใจ
อะไร? อีติ๊แกจะแร๊พหรอ? ไหวมั๊ย? ปิดตะปูตอกฝาโลงไปเลยฮ่ะ กะโหลกกะลามากๆ
Sex for Breakfast นึกถึงเพลงในอัลบั้ม Stripped ไม่คิดว่าอีติ๊จะเอาลงอัลบั้ม คิดผิดคิดใหม่ได้นะอีติ๊ แต่ใช่ว่าที่กล่าวมามันจะเป็นอะไรที่เลวร้ายไปซะทีเดียว
ผิดกับเพลงบัลลาดในอัลบั้มที่ดูพิถีพิถันบันจงอย่างสวยงาม เศร้า ซาบซึ้ง มีพลัง แทรคที่ถูกอกถูกใจมากที่สุดคงไม่พ้น Lift Me Up เพลงที่บัลเลงเสียงเพียโน สวยๆ
"ว๊ายยยย ใครโปรดิวให้เนี่ยทำเพลงเพราะจัง"
คำถามเกิดขึ้นในใจ
ติ๊นาทำเพลงบัลลาดได้ไพเราะ ..
.
...

...


All I Need เพราะจัดอีกเพลง
I Am คิดว่าเพลงนี้ต้องมีเซอร์ไพรส์แน่ๆ เนื้อเสียงสวยดนตรีไพเราะจับใจ มากๆ ตายล๊ะ ชอบอ่ะ

..

...

You Lost Me กริ๊ดดดด เพราะมากๆ
..

..
....

อัลบั้มนี้อาจจะทำให้คุ๊รักคุณหลงไปเลยหรือทำให้เมินใส่อีติ๊ไปเลยก้ได้เช่นกัน ยังไงก็ตามถ้าวัดกันเฉพาะความดีเด่นของงาน อัลบั้มมีศักยภาพพอจะติดหนึ่งในอัลบั้มยอดเยี่ยมแห่งปีได้เลย เสียดายก็อยู่ที่ก็แต่เดี๋ยวนี้ลำพังแค่ความดี อย่างเดียวมันไม่พอ ยังไงก็ลดความหวังลงมาให้ขอแค่อัลบั้มมันยังขายได้บ้างก็พอนะคะ รวมแล้ว อัลบั้มนี้ 3/5 เลยทีเดียวค่ะ ให้เยอะไปใช่มั๊ยคะ



_________________

ดูข้อมูลส่วนตัว ส่งข้อความส่วนตัว ชมเว็บส่วนตัว ตำแหน่ง AIM Yahoo Messenger MSN Messenger
ตอบโดยอ้างข้อความ
ตอบ  
Part 3 - MARRY ON !!!



ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่าพวกแดนซ์ๆล้ำๆ ฟิวเจอริสติคอะไรเนี่ยะ ถ้าไม่ติดหูจริงๆจะฟังไม่ได้เลย ตอนรู้ว่าติ๊จะมาแนวนี้ก็ทำใจไว้แล้วล่ะว่าต้องฟังไม่ได้แ่น่ๆ เพราะส่วนตัวนอกจากเป็นแควนเพลงอีมาลัยแล้ว ก็เป็นอดีตแควนเพลงอีหอกเหมือนกัน อย่าง circus เองก็ฟังได้แค่่บางเพลงจริงๆ จนพี่มาดมบอกให้ช่วยรีวิวหน่อย ก็เออ น่าจะดีเหมือนกันนะ อยากน้อยท่านผู้อ่านทั้งหลายจะได้เห็นมุมมองจากคนที่ไม่ถนัดฟังเพลงแนวๆนี้บ้าง

การลำดับแทร็คอัลบัมก็ค่อนข้างชัดเจน ครึ่งแรกก็เป็นแดนซ์ล้ำๆที่เดี๊ยนเข้าไม่ถึง แต่ที่ชอบคือ bionic ค่ะ เพราะตรงกับภาพที่เดี๊ยนอิมเมจินไว้ตอนแรกที่รู้ว่าติ๊จะมาในแนวนี้ เสียงสังเคราะห์ตู๊ดๆตี๊ดๆแต่วๆใส่มาเยอะก็จริง แต่เดี๊ยนว่าไม่น่ารำคาญนะ ไปได้กับไลน์โน้ตและเสียงอีติ๊กับบรรดาคอรัสทั้งหลายได้ดีทีเดียว บีทก็สะกิดต่อมแดนซ์ที่ไม่ค่อยจะมีของเดี๊ยนได้มากพอสมควร ขอยกเป็นแทร็คที่ชอบที่สุดในอัลบัมค่ะ NMT ก็มาชอบเพราะว่าเอ็มวี woohoo นี่คล้าย get me bodied ของอีบีมาก นอกจากจะไม่ค่อยตรงคอนเส็ปแล้วฟังไปนิดเดียวก็เบื่ออ่ะ โดยเฉพาะท่อนฮุคที่น่าจะติดหูแต่มันทำให้เบื่อและรำคาญ ส่วนเพลงที่เหลือในครึ่งแรกไม่ขอพูดถึงเพราะไม่อยู่ในความทรงจำเลยค่ะ ปิ๊ก้า

ครึ่งหลัง sex for breakfast ฟังแล้วก็อดนึกถึง loving me 4 me ในสตริ๊ปไม่ได้ You lift me up เป็นที่พูดถึงพอสมควรแต่ส่วนตัวยังเฉยๆอยู่เพราะติ๊ใช้เสียงได้ไม่ค่อยมีมิติเท่าไหร่ ให้ความรู้สึกร้องไปงั้นๆยังไงไม่รู้ ฟังไปเรื่อยๆได้ ส่วนอินโทร my heart นี่ก็เก๋นะ เอาลูกมาพูด แต่แหม ไหนๆก็มาแล้วอีน้องแมกซ์ช่วยพูดให้มากกว่านี้ำได้แมะ เช่น mama i love you แล้วหัวเราะคิกๆคักๆ อะไรก็ว่าไป นี่อะไรมาแค่คำเดียว ส่วนของบัลลาดเราว่ายังขาดพลังไปนะคะ เมื่อก่อนติ๊ทำได้ดีกว่านี้มาก นี่ฟังแล้วแห้งๆไปยังไงไม่รู้ ส่วนแทร็คล่างๆก็ได้กลิ่นเกว็นมาเชียว

โดยสรุปแล้ว สำหรับเดี๊ยนต้องใช้เวลาพอสมควรที่จะเข้าถึงอัลบัมนี้ รวมถึงตัวช่วยอย่างเอ็มวีและไลฟ์ดีๆ เพราะไม่มีแทร็คที่โดนใจจริงๆเลย อัลบัมนี้เดี๊ยนยังคลำหาความเป็นติ๊ไม่ค่อยเจอค่ะ ฟังแต่ละแทร็คแล้วส่วนใหญ่เดี๊ยนจะคิดถึงนักร้องคนนี้คนนั้นเพลงนี้เพลงนั้นไปเรื่อยอ่ะ แต่ยังไงก็ยังชอบที่ติ๊กล้าที่เปลี่ยนตัวเองไปเรื่อยทุกอัลบัมนะคะ

ต้องขอโทษด้วยที่มินิรีวิวจากเดี๊ยนไม่ค่อยได้แสดงความรู้สึกอะไรมากเพราะไม่มีความรู้สึกต่ออัลบัมนี้จริงๆ อย่างที่บอกคงต้องใช้เวลาฟังอีกซักพัก น่าจะชอบมากขึ้นนะ


_________________

ดูข้อมูลส่วนตัว ส่งข้อความส่วนตัว ชมเว็บส่วนตัว ตำแหน่ง AIM Yahoo Messenger MSN Messenger
ตอบโดยอ้างข้อความ
ตอบ  
จะจมน้ำ

ดูข้อมูลส่วนตัว ส่งข้อความส่วนตัว
ตอบโดยอ้างข้อความ
ตอบ  
เข้ามาขอบคุณก่อน เดี๋ยวจะอ่านล่ะครับ
/me นั่งรอเหมือนกัน Cool


_________________
ดูข้อมูลส่วนตัว ส่งข้อความส่วนตัว
ตอบโดยอ้างข้อความ
ตอบ  
มาอ่านแก้ง่วง ครับ Cool


_________________
ดูข้อมูลส่วนตัว ส่งข้อความส่วนตัว
ตอบโดยอ้างข้อความ
ตอบ  
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดด มาเจิมกระทู้ก่อน เด๋วพรุ่งนี้มาอ่าน

บ๊ายบายค่ะ ฝันดี


_________________
ดูข้อมูลส่วนตัว ส่งข้อความส่วนตัว
ตอบโดยอ้างข้อความ
ตอบ  
กรี๊ดในที่สุดก็ได้อ่าน
Me//น้ำตาไหล
Surprised


_________________
ดูข้อมูลส่วนตัว ส่งข้อความส่วนตัว ส่ง Email
แสดงเฉพาะข้อความที่ตอบในระยะเวลา:
ตอบ หน้า 1 จาก 6
ไปที่หน้า 1, 2, 3, 4, 5, 6  ถัดไป
คุณไม่สามารถสร้างหัวข้อใหม่
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
คุณไม่สามารถแก้ไขข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลบข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลงคะแนน
  


copyright : forwardmag.com - contact : forwardmag@yahoo.com, forwardmag@gmail.com