บางทีก็เคยพยายามคิดบวก+เพื่อจะให้มีเพื่อนมากขึ้น เผื่อจะมีแก๊งค์ที่สนุกสนานจริงใจกันมากขึ้น แต่ พยายามเท่าไหร่ไม่สำเร็จ พยายามที่จะเป็นคนจิตใจดีๆแบบเค้าๆมั่ง อยากจะปรับเปลี่ยนนิสัยทัศนคติตัวเองซะใหม่แต่พอเจออีพวกนี้แล้วอดอายคนอื่นแทนไม่ได้ อดอุบาทใจ อดชายตาแลไม่ได้ ก็อีพวกเก้ง กวาง บ่างข้าง ช้าง ชะนี ส่วนอีพวกล่าสุดก็คืออีพวกเกย์แรดพยายามแอ๊บแมน แอ๊บแบ๊ว รู้มาก แสร้งทำเป็นไม่รู้?ทำเฉไฉตะติ๊งโหน่ง กระแดะสอพลอ น่าด่าจิงๆ บ้างก็อยากเป็นดี้คบทอม(ส่วนเรื่องเกย์ชอบทอมก็อาจจะเป็นไปได้เพราะทอมแมนกว่าพุชายหรือเกย์จิงๆ) เห็นจนตาลายในหมู่คนรู้จักของคนรู้จักๆ ทั้งในเฟสบุ๊ค เฟสบอด แม้กระทั่งสมัยไฮไฟว์ดังตู้มๆ
แต่พอเจอเข้ากับตัวจริงๆถึงกับพูดอะไรไม่ถูกรับมุขมันแทบไม่ทัน ไอ้เราก็นึกนะว่าถ้าเราคิดดี พูดดี ไม่ต้องคิดอะไรมากกับมิตรภาพใหม่ๆ(ไม่ต้องซีเรียสกับใคร) แล้วจะทำให้ตัวเองมีการพัฒนาคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น มีความเป็นคนมองโลกในแง่ดีบ้าง สุขภาพจิตก็จะดีบ้าง
แต่....(มีเรื่องจะเล่าคือว่า)
อีเนี่ยมันเป็นเพื่อนของเพื่อนเรา
คือว่าอีเนี่ยมันชื่ออี บ. (อีบ้าอีบอตั้งให้แม่งเงี๊ยะแหล่ะแล้วกัน ย่อก่อนสงสารมันเผื่อมันมาอ่าน)
First Season Episode1
วันแรกที่รู้จักมัน เราเจออีนี่ที่ห้างแห่ง1ใน กทม. ฝั่งธน ตัวล่ำๆ หน้าเดี้ยงๆ ยืนกอดอกมองหน้าเรา ในขณะที่เราคุยอยู่กะเพื่อนอยู่ที่เป็นพริตตี้ (อี บ.กะพริตตี้เป็นเพื่อนกัน แต่เราก็เป็นเพื่อนกะพริตตี้อีกที)
และก็คุยกันไปเรื่อยเปื่อยจนได้รู้จักกัน เละแล้วเรื่องมันเกิดขึ้นวันนั้น อี บ. มันเกิดเหล่พุชายที่บูธบัตรเครดิต ซิตี้ เอ็ม วิซ่า
มันบอกว่าชอบมากๆๆๆเลย และก็เรียกให้คนอื่นมองพุชาย จนเค้าคิดว่าเราไปมองหน้าหาเรื่องแบบมีอะไรอ่ะ เราก็รีบหันกลับกลัวจะมีปัญหา ในใจเราก็คิกว่ามันไม่ได้เป็นเกย์หรอกน่ะแบบนั้นไม่ออกเลยสักนิดเสื้อ ผ้า หน้า ผม ก็โคเอ ปกติ ไม่ผิดพลิ้ว เราก็บอกมันไปว่าเขาไม่ได้เป็นเกย์หรอกนะเราว่า มันก็บอกว่าเนี่ยใช่ๆๆๆๆ อีเนี่ยใช่ อีเนี่ยใช่-*- ทีนี้นี้ผ่านไปประมาณ2-3ชมก็ยังไม่เลิกคลั่งไคล้อิก โอ๊ยยย ไอ้กุก็รำคานเรียกให้ดูอยู่ด้ายย เลยจับมือลากมันเข้าไปถามพนักงานพีอาร์พุหญิงในบูธ ซิตี้ เอ็ม แบงค์ เลย ตอนแรกก็เนียนๆตีซี้ๆ ใช้หน้าอันเนียนๆใสๆ ฮิฮิ หลอกล่อถามพุหญิงในนั้น
นั่งได้ป่าวครับ(แบบ AB ABเป็นพิธีมารยาท) สักพักอี บ.เดินกลับ สะบัดมืออันหยาบกระด้างเหมือนใบหน้า พลางบ่นไม่อาววว อ่ะอายยยนะ เขินนะ(อี*อกสวยตายอ่ะมึง)
เหตุการณ์พาไปกุเลยต้องนั่งต่อคนเดียวที่นั่นแบบเนียนๆ เพื่อไม่ให้เสียหน้าพนักงานพีอาร์ซิตี้แบงค์ แล้วต่อด้วย "พวกพี่ๆมาทำงานกี่วันแล้วล่ะครับ"(AB อิกรอบ)
และก็ชวนคุยโม้อยู๋คนเดีย อีนั่นก็ไปยืนลุ้นรอคำตอบแบบห่างๆ(แต่แสร้งทำเป็นเหมือนกับว่า ฉันม่ายด้ายอยากรู้หรอกนะ แต่เธอเข้าไปถามให้ฉันเองนะ)
เราก็พยายามจะดูโบรชัวร์ที่มันแจกมันจะมีเบอร์ตัวพีอาร์ที่แนะนำลูกค้าของแต่ละคนในโบรชัวร์ เห็นแล้วตรงเคาน์เตอร์อีกอันก็เหลือบดูชื่อ สมจิต อิกอัน พิศมัย อิกอัน สมใจ(นามสมมุติ) พอเหอะใครมั่งก็ไม่รุ มีแต่ชื่อพุหญิงบ้านนอกๆ เราก็เลยถามพี่เขาว่า(ไม่รู้นึกอะไรไม่ออกไม่ทันคิดเลยถามไปว่า)พี่มีแฟนยังอ่ะ คนตัวเล็กตอบไม่อ่ะค่ะ ขำๆแบบแอ๊บๆสวย(แต่จิงๆแล้วไม่เลยสักนิด.....)-*- เราก็ยอต่อพี่สวยนะครับทำไมพี่ไม่มีแฟนแปลกจังน่าตาน่ารักออก(ใจก็ตุ๊มๆต่อมๆแกล้งถามจะได้หาเรื่องผันเป็นเรื่องไอ้นั่นให้ได้) อีคนข้างๆส่งเสียงตอบว่าพี่ยังไม่มีอ่ะค่ะ แต่พอมองไปที่พุงSHHHOOCKK!!!! ท่าทางพี่จะกินเยอะนะคับเนี่ย เหมือนคนท้องเชียว อิอิ อ้าว แร้ววันนี้ที่ห้างเขามีงานรับปริญญาด้วยหรอครับ (ป่าวนี่คะ ทำไมหรอคะ) และพี่ สวมชุดครุยมาทำไมอ่ะ ฮ่าๆๆๆ (อีนั่นตำตาเหลือก1ทีแล้วก็พูดว่า น้องนี่บ้าๆๆๆๆ เหมก็พี่ท้องนี่คะ หัวเราะ(ฮิฮิฮะๆแบบแรดๆ) แล้วพนักงานก็หัวเราะกันคิกๆๆ ดูเหมือนจะมีฟามสุขหน้าเคาน์เตอร์) ทีนี้พอเริ่มหมดมุข เราก็ทำหลับหูหลับตาถามห้วนๆแล้วส่งสายตาเหลือบไปหาอี*อก บ.(ส่งซิกให้พวกเหล่าพีอาร์สาวแบงค์รับทราบว่ากำลังหมายถึงใคร) พี่ครับคือว่าเพื่อนผมเค้าชอบเพื่อนพี่อ่ะครับ (อีพวกนั้นพูดพร้อมๆกันว่า.... ว่าแระ!!! ว่าแระเชียะ มิน่าทำลับๆล่อๆ และทำปากแบ่ะ เหมือนไม่เคยเห็นกระเทยแอ๊บแมนมากแต่ไม่แมนแบบอี บ. ยังไงยังงั้น ฮิฮิ) น้องคะพี่มีอะไรนะคะ เป็นฟามจิง จะฟังมั๊ยคะ ทำใจด้วยค่ะ
เมียเค้านั่งอยู่ข้างๆน่ะค่ะ (แระก็พากันหัวเราะ คิกคักๆๆๆๆๆ) เราก็เลยแสร้งทำหัวเราะด้วยฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆ(จริงๆแล้วเราอ่ะหน้าเสียมากกก แต่ก็ปั้นหน้าให้ยับน้อยๆหน่อยอ่ะพอเป็นพิธีกรรม แต่ตัวเหมือนจะอ่อนปวกเปียก หน้าแห้งแบบซีดๆ แบบแหกแทนอี บ. แล้วก็พูดปลอบใจตัวเองแกมแก้หน้าว่า พี่ครับ น่าสงสารเพื่อนผมเนอะอีนั่นน่ะ ผมก็บอกมันแล้ว มันก็ไม่เชื่อๆว่าเขาเป็นผู้ชายๆ มันก็ยังด้านผลักไสให้ผมเขามาขอเบอร์ แถมแอ๊บทำเป็นไม่รู้เรื่องแบบห่างๆอิก) เห้อ งั้นผมไปและ (อ้าวน้องจะรีบไปไหนคะ อะไรกันไปง่ายจัง)
แห่ะๆ ไปแล้วพี่ขอบคุณครับ(นึกในใจหมดประโยชน์ละอีช่ะนีย์ ฮ่าๆฮิฮิฮุๆ)
Episode2
เสร็จภาระแล้วเราก็เลยไปหาเพื่อนๆในกลุ่ม เพื่อนๆต่างรุมถาม(เป็นไงบ้างๆ อยากรู้ๆเป็นไง) อืม ถามให้แระๆ (ในใจไม่อยากตอบ กลัวอี บ. จะหน้าเสียเลยเฉไฉไปเรื่องอื่นๆ)
แต่สุดท้ายก็โดนไถความเอาจนได้(นึกในใจก็บอกให้มันรู้ไปเหอะ ก็ดีแล้วมันจะได้รู้ตัวและจะได้ไม่ไปส่งสายตาให้เขาอีก กุล่ะอ๊ายอาย) ก็เลยบอกไปว่า Ummmm เมียเขานั่งอยู่ข้างๆ(อี บ. หน้าเปลี่ยนสีจากสีแดงสดๆปนระทึกเป็นสีดำมืดจืดซีด เหงื่อแตก ผั่กๆ!!555+) ไอ้เราก็ทำไม่สนใจ แก้หน้าเสียให้มัน แล้วก็ พูดว่า เฮ๊อะ! ไม่หล่อหรอกแบบนั้นน่ะ แกหาได้ดีดีกว่านั้นเยอะอยู่แร้ว(แต่ในใจคิดอิกอย่างนะ อิอิ) มันก็เลยรีบบอกว่า เออๆใช่ๆ จิงๆ หาได้ดีกว่านี้เยอะอยู่แระแบบนั้นอ่ะนะไม่เห็นหล่อเลอะ งั้นๆอ่ะ จิงๆอ่ะ (ได้ทีอีนี่เยอะเชียะ แหมทีตอนแรก แพ่มเพ้อไม่หยุด ยี๊!!อนาถใจแทนมัน) แล้วก็พากันไปนั่งที่โต๊ะ มันก็ถามเราว่า เนี่ยนะถามจิงๆ ฉันอ่ะดูแมนกว่ามันนะว่าป่ะ มันดูออกๆนะ แต่ฉันน่ะ ดูไม่รู้เลยอ่ะ แกคิดว่าไง (ไอ้เราเจอคำถามนิถึงกับอึ้ง ต่อบไม่ถุ่กเลอะ อิเชี่ย ตอบยังไงดี รึไม่ตอบดี มันก็รอคำตอบอยู่ ซักแร้วซักอิก) อืม....มันก็ออกนะ แต่แกก้ไม่ออกอ่ะ เฉยๆอ่ะ (ตอบแบบงงๆ ไอ้ที่ตอบไปก็กลัวว่ามันจะเดารู้และจะเสียหน้า จะโกหกก็กลัวจะมีผลเสียระยะยาวต่อมัน จะตอบตรงก็กลัวหน้ามันจะพัง) สรุปไม่เป็นผลใดๆทั้งสิ้นอีนี่หน้าหนานี่เอง ยังระรื่นได้อยู่ส่วนคนที่อับอายขายขี้หน้าแทนก็คงเป็น กรูในนี้เพียงคนเดียว เท่านั้น? และก็พวกอีสมจิต สมใจ พิศมอย อะไรนั่นก็นั่งเงียบไม่กล้ามองหน้ากลัวว่าพวกเราจะอายพวกมันก็นั่งขีดๆเขียนๆเอกสารเกี่ยวกะสัญญาบัตรเครดิตอย่างเงียบๆ ก่อกแก่กๆไป สักพักมันก็พาเราไปเดินเล่นชั้นบน มันถามว่าอยากไหนกัน เราก็บอกว่าไปซื้อไอเดลี่ควีนก่อน
แล้วค่อยไปเดินเล่นดูโปรแกรมหนังกัน บรรยากาศหน้าโรงหนังมันช่างครึกครื้นปนโนแมนทิกมีวัยรุ่นๆทั่วๆไปมาเดินเล่นวัยๆเดียวกับเราเยอะแยะ น่าสนุกดีออก แต่อี บ.มันไม่ไป มันเลยพาไปเข้าสวนน้ำ ที่มีเด็กๆวิ่งเล่นในสระตื้นเขิน พร้อมกับผู้ปกครองแก่ๆนุ่งกางเกงในตัวเดียว พุงกางๆ เป้าย้วยๆ เยอะแยะไปหมด แทบไม่มีวัยรุ่นเลยจริงๆ(จริงๆ) มันบอกว่ามันจะเข้าห้องน้ำ มันเข้านานมากๆเรารอหน้าห้องน้ำชายอ่ะร้อนก็ร้อน มีแต่ผู้ชายใส่กางเกงในตัวเดียวเต็มไปหมด เดินเข้าออกมีทั้งศพมีทั้งเกือบจะเป็นศพ และก็ก่อนเกือบจะเป็นศพเพียบ!!! รอเกือบ20นาทีอีเนี่ยแม่งเข้านานมากเลยอ่ะ มันต้องเขาไปขี้แน่นอน อีห่า พอออกมาก็แพ่มๆเรื่องผู้ชายในห้องน้ำอ่ะเคยมีอะไรกับมันงู้นงี้ มันอ่ะนะมาบ่อยมาก หล่อๆงู้นงี้ทั้งนั้น(ตั้งแต่กุเข้ามาเนี่ยกุยังไม่เคยเห็นคนหน้าตาดีสักคน อืดๆย้วยๆ แหย่ะ! หรือว่าอาจจะเป็นเพราะเราเพิ่งเคยมาก็เป็นได้นะ วันนี้อาจจะฟลุคเจอแต่แบบนี้มั้ง) ในขณะนั้นมันก็พาเดินทั่วรอบสวนน้ำตรงนู้นตรงนี้ และเดินอย่างเร็วอ่ะเหมือนพวกโรคจิตชอบเดินดูพุชายตามขอเบอร์คนนู้นนี้ไปทั่วจนติดเป็นนิสัยจนไม่ฟังใครแม้แต่คนรอบข้าง(น่าเวทนายิ่งนัก) และมันก็แพ่มถึงแต่เรื่องการมีเซ็กที่นั่นที่นี่ เวลาอาบน้ำนะบางคนก็เปิดประตูให้คนอื่นเห็นหมดเลยพอมีใครชอบเขาก็จะเข้าไปมีอะไรกันในห้องน้ำนั้น(หวายยยยยยย กุจะอ้วกกกกยิ่งฟังยิ่งเอียน ยิ่งพูดที่นี่ยิ่งนึกถึงแต่คนที่นี่อ่ะ ท่ามันเป็ฯงั้นจริงทางห้างเขาไม่ปล่อยไว้หรอกมันไม่ใช่อาบอบนวดซะหน่อยใช่ป่ะ มันผิดกฏสวนน้ำแล้ว อีนี่แต่งเรื่องรึปล่าวก็ไม่รุ) พอสิ้นสุดวันนั้นเราก็เลยต่างคนต่างกลับ
Next Season Episode1
ครั้งที่สองเราได้ติดต่อกับมันอีกครั้งเพื่อจะซื้อใจตัวเองว่าเราก็สามารถทำความรู้จักกับคนแปลกหน้าได้ไม่ยากนะ เราสามารถสานสัมพันธ์กับใครๆก็ได้โดยที่มองโลกในแง่บวกอีกครั้ง... วันนั้นพอดีโดดเรียน ฮัลโล บ. หรอเอางี้นายว่างป่าว อยู่ไหน(มันบอกว่าอยู่บ้าน เด่วเราไปนะ อยู่ที่ไหนล่ะ ตลาดพลู นั่งรถสาย อะไรๆ ก็สนทานกันไปใช่ป่ะพอรู้เรื่องแล้วก็วางสาย) นั่งรถไปเลย พอไปถึงก็โทรไปหาอีกครั้ง มันไม่รับสายเว่ย ประมาณ3-4 สายได้ ต้องมานั่งติดแหง่ะแดกซีเรียลกะนมโอวัลตินมอลล์ฟันดำปี๋ติดเหล็กจัดฟันหน้าสถานีรถไฟประมาณสักเกือบครึ่ง ชม. และก็มีลุงแก่ๆเดินถือประเป๋าไปมามีเด็กนักเรียนตัวเล็กๆชายหญิงวิ่งเล่นยั๊วะเยี๊ยะหน้าสถานีเหมือนเพิ่งจะเลิกเรียน บ้างก็มีเด็กประถมตอนปลายทำเก๋าเห่อ*มอยนั่งกร่างกะหมู่เพื่อนแซวหญฺงกิ๊วก๊าว พอตั้งสติได้ เลยงัดบีบีจีนขึ้นมากดลิสรายชื่อเพื่อน พอดีโชคช่วยเจอเบอร์พี่แพรที่เป็นพริตตี้ ที่เป็นเพื่อนของมันมาก่อนแล้วถามทาง พี่ครับ ผมมาบ้าน บ.อ่ะ พอโทรไป บ. ไม่รับสายไม่ทราบว่าบ้านมันไปตรงไหนหลอ พี่เค้าก็บอกมา แล้วก็เดินไปเลย พอไปถึงก็ หวัดดีพวกป้าๆแม่ๆมัน ให้หลานมันขึ้นไปปลุก สรุปมันนอนไม่ตื่น อีห่า และเสือกรับปากให้กุมาเนอะ (ก็พยายามไม่คิดไร อาจจะเป็นเหตุสุดวิสัยก็ได้ มันอาจจะหลับแบบไม่สนใจใครจริงๆ) พอมันลงมารับเรามันก็พาเราไปนั่งหลังร้านบ้านมัน
สักพักมันก็ไปอาบน้ำแบบว่านานมากกกกกกกกกกกกกกกกกนานโฮกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก ไอ้เราก็ได้แต่นั่งยิ้มให้ตู้ปลานับฟองอากาศเป็นล้านฟองจนในที่สุดมันก็ลงมาจนได้ และก็นั่งคุยกัน เราอุส่าคุยเบาๆเกรงใจญาติผู้ใหญ่มัน และอีกอย่างเรื่องบางเรื่องก็เป็ฯความลับแค่มาขอคำปรึกษา อีนี่พูดเสียงดังประจานคนในร้านหมดเลย เราก็พยายามเบรกมันเบาๆดิ จะดังไปไหนเนี่ย มันก็บอกว่าไม่เป็นไรหรอกน่า ไม่มีใครว่าหรอกไม่มีใครรู้ด้วย(แหมสงสัยบ้านมึงคนเป็นคนหูหนวกมหดเลยสิท่าอีบ้า คนมันมีหูมีตามันก็ฟัง แค่พูดเบาถ้าคนมันอยากจะรู้ ให้มันอ่านปากก็อ่านออกกันแล้วอะ แหม๊...ทำเป็นบอกว่าไม่เป็นไรไม่ถือๆ เหมือนยียวนกวนประสาทเราเล่นๆน่ะ) พอตกลงกันเส็ด สรุปไปเดินเล่นที่ห้างเดิม ในขณะที่ออกไปขึ้นรถ มันวิ่งไม่รอเราเลยอ่ะ และเราก็ไม่เจนทางอ่ะ มันไวมาก ขาก็เจ็บจมูกเล็บฉีกโว๊ยยยย ปวดมาก ในขณะที่นั่งรถมันก็โม้งู้นงี้ว่ามันน่ะเพื่อนเยอะนะ มันรู้จักคนเยอะมากเลย มันมีเพื่อนหลายกลุ่ม มันอ่ะชอบนัดเจอคนในเฟสบุ๊คออกบ่อยๆ(ใครนะกล้านัดเจอมันได้ไง ผีในคราบคน ชัดๆ) มันบอกว่าจะไปพารากอน ไอ้เราก็คิดว่าไกล แต่ไปก็ได้นะ พอจะไปก็ไม่ไป อะไรของมันก็ไม่รุ เดาใจยาก ล่อกแล่ก จับความคิดยากจริง เอาใจไม่ถูกเลย มันยืนโหนรถเมล์ทำท่าแบบแมนๆ ไอ้เราก็มองมันอยู่ข้างๆว่ามันจะเป็นคนยังไงนะเราจะมีเพื่อนใหม่ได้หรือป่าวนะ หรือจะมีแต่เพื่อนเก่าๆที่ทะเลาะกันมาเกือบ10ครั้งตั้งแต่รู้จักจนเข้าใจกัน หรือว่าเราต้องทะเลาะกะมันถึง10ครั้งเพื่อที่จะได้สนิทกันให้เหมือนเพื่อนเก่าๆ-*- (ในขณะนั้นเราเห็นมันชำเลืองมองเราด้วยหางตาข้างๆแบบมั่นๆว่า กุต้องแอบชอบมันเป็นแน่ ดูเจ้าเล่ห์แอ๊บแบ๊วๆ ที่ไหนได้ไม่รู้ซะแร๊วว่ากุกำลังยืนคอมเม้นมึงอยู่ข้างๆเนี่ยมึงยังไม่รู้ตัวอีกหรอ เจียมกระบานซระบร้าง) และแล้วกลิ่นสาปกระเทยแร๊งทิ้งก็ลอยหึ่งหั่งเหมือนไม่ได้ทาลูกกลิ้งก่อนออกจากบ้านแต่พ่นน้ำหอมกลบด้านนอกกลิ่นเลยออกๆแนวกลิ่นเต่าประสมกลิ่นเพอฟูม แบบฉุนๆ เคืองๆจมูก กลิ่นชีนี่คลุ้งไปยังหน้ารถถึงหลังรถ มันก็เก๊กยืนทำท่าเหมือนเท่ห์ ใส่เดปรัดๆติ้วๆ เสื้อยืดฟิตๆเหมือนกระเทย ยกดัมเบลท่าไตรเซป ไบเซ็บ เบรคิไอ จนแขนดูพองๆใหญ่ๆแต่ไม่ได้เล่นนานแขนเลยเหมือนกระเพาะปลาต้มสุกๆ อืดๆ ย้วยๆ หยี๊ๆๆ แหย่ะ นึกแล้วจะอ้วก ใหล่ก็แคบ หน้าตี๋ๆเกย์ๆโรคจิตๆอ่ะ ผิวหยาบๆ หัวเกรียนๆ จมูกแฟ่บๆ ปากเบินๆนิดๆ หน้าบวมๆดูเพิ่งตื่น (ยี๊ แหยะๆๆๆๆ กุจะอ้วก อย่ามาคิดว่ากุจะชอบมรึงนะ กูไม่ได้ชอบมึงงงงงงงงงงอีโง่... ไปตายซะ!!!!!)
เวลาพูดก็พูดเร็วๆ จีบปากคอแต่ก็พยายามแอ๊บให้ดูแมนๆ เวลาเจอเกย์ในห้างพอมีคนส่งสายตาก็จะเดินตามยั่วเค้า(ไม่รู้ว่ายั่วยวนหรือยั่วโมโหกันแน่) แล้วมันก็พาไปเดินสวนน้ำอีกครั้ง สภาพที่เจอก็คือเหมือนเดิม มีแต่ แก่ๆ ง่อกๆ พุงทะลัก เป้าตุงๆย้วยๆเดินไปมาลงสระขึ้นสระ กับเหล่าเด็กๆตัวเล็กๆTT และก็พาคุยแต่เรื่องอย่างว่าๆ(ฟังจนจะอ้วกพยายามจะเปลี่ยนเรื่องหลายครั้งแต่มันก็กลับมาเรื่องเดิมจนได้) และก็ชอบแกล้งทำเป็นแสร้งไม่รู้จักศัพท์บางคำ อย่างเช่นคำว่า จิก ขวะ เฉไฉ เป็นต้น และก็ชอบย้ำว่าไม่รู้จักจริงๆไม่เข้าใจๆเลยสักนิดเดีย!!! แบบว่าพยายามทำให้ดูว่าตัวเองพูดจาแบบเกย์แบบกระเทยเหมือนคนอื่นเค้าไม่เป็น ทั้งๆที่ตัวเองก็บอกว่าชอบไปเที่ยว อตก สีลม เอกมัย สุขุมวิท อยากจะไปเต้นรูดเสาใส่กางเกงในตัวเดียว หนำซ้ำยังชวนไปอาบอบนวดด้วย อีนี่เจนจัดมากๆ ชวนคนอื่นยไปอาบอบนวด น่ากลัวมากกกก(ทั้งๆที่กู ซึ่งเป็นคนพูดคำว่า จิก ว่า ขวะแท้ๆ แต่ไม่เคยไปด้วยซ้ำ เสือกรู้จักคำพวกนี้(คงได้มาจากในFF>> 555+) และเราก็คิดว่ามีคนอีกเยอะแยะที่รู้จักคำพวกนี้แน่นอน 100% มันไม่ได้เป็นคำที่น่าเกลียดเลยนะ ถึงมันจะรู้จักมันก็ไม่ได้ทำให้คราบตุ๊ดเหม็นๆของมึงลอกคราบออกมาพร้อมคราบน้ำเหลืองที่มึงแอ๊บวั๊ยตั้งแต่เกิดได้หรอก!!!อีสาระเล* ทำเป็นลบ ทำเป็นลืมกำพืด แหมแอ๊บอยู่ได้แอ๊บไม่สิ้นไม่สุด และสุดท้ายเพื่อนกระเทยของมันก็โทรมาหามัน และ ให้ไปหามันที่อีกห้างนึง มันนี่รีบเชียว แทบจะออกจากที่นี่ให้เร็วที่สุด คงอดอาการแอ๊บไว้ไม่ไหวแล้วสิท่า) และเราก็เลยได้โอกาส บ๊าย บาย กลับ บ้าน ตรงบันใดเลื่อนและโบกมือแล้วยิ้ม พลางพูดเสียงเบาแต่ไม่ขยับปากว่า
กุกะมึงคงต้องลาจากกันอีกนานอีเชี่*...(กุคงไม่อยากสานสัมพันธ์เป็นมิตรกะมึงและมีมึงเป็นมิตรอีกต่อไป.....) แต่จริงๆก็ดูเหมือนว่าต่างคนต่างรู้นะว่ามันก็ไม่ชอบเราและเราก็ไม่ชอบมัน ต่างคนต่างเขม่นกันทั้งคู่อะไรแบบนั้นตั้งแต่แรกแล้ว คนเราความคิดมันคิดยังไงอ่ะมันก็แสดงออกทางกายออกมาหมดแหล่ะ
ความคิดส่งผล>เส้นประสาทส่งผล>ร่างกาย+น้ำเสียง+สีหน้า+บุคลิค+อารมณ์ แสดงออกมาทั้งหมด
สุดท้ายเราก็กลับไปมีเพื่อนเก่าๆที่ชอบทะเลาะกันเกือบ10ครั้ง ที่เข้าใจกัน และเป็นกลุ่มพวกที่หยุดหยักความคิดตัวเองไม่ได้เห็นเจออะไรต้องประมวลกำลังในสมองออกมาหมดแบบโนอันลิมิเต็ดไอเดียทั้งสร้างสรรค์และไม่สร้างสรรค์ ทั้งแสดงออกและไม่แสดงออก แต่หนักไปทางลบเสียมากกว่า กิจกรรมระหว่างเพื่อนเก่าเวลาว่างพวกเราจะชอบนินทาชาวบ้าน คอมเม้นรุ่นพี่ที่เก็กๆ จิกกะป้าตามตลาดปากจัดๆ วีนใส่พนักงานห้างและแกล้งพนักงานมินิมาร์ท(เฉพาะพวกโลว์เซอร์วิสเท่านั้น) และก็ใส่หน้ากากเข้าหาพวกแปลกประหลาดๆเข้าใจกันยากๆ สำหรับพวกเรา (และแสร้งทำเป็นว่าฉันเหมือนพวกเธอนะ ยินดีที่ได้รู้จักจ่ะ ต่อไปเหมือนเดิม แต่มันก็มีฟามสุขในแบบของพวกเราอ่ะทำไงได้เลือกเกิดไม่ได้แถมยังเลือกเพื่อนไม่ได้ด้วยอิก ก็ต้องหาความสุขตามยถากรรมของคนแต่ละคนไป มันช่วยไม่ได้ แต่ก็จะพยายามจะเป็นคนดีของสังคมเท่าที่จะพึงเป็นได้ ทำได้แค่นั้น)
สรุปเปลี่ยนอะไรเปลี่ยนได้แต่เปลี่ยนจิตใจเปลี่ยนนิสัยตัวเองนี่ยากจริงๆ ทางที่ดีควรฝึกให้เป็นคนมีจิตใจที่ดีตั้งแต่เด็ก คิดบวก ให้ติดเป็นนิสัยจะดีกว่า เป็นโรคประสาทคิดมากตอนโต++ ต้องมานอนกินยาALLRELAXวันละเม็ดสองเม็ด ทั้งชีวิต คงไม่ไหวอ่ะ มั๊ง
_________________