˹���á Forward Magazine

ตอบ

ไปที่หน้า 1, 2  ถัดไป
ความสุขของกะทิ:งามพรรณ เวชชาชีวะ/ความสุขที่แฝงตัวในความเศร้า
ผู้ตั้ง ข้อความ
ตอบโดยอ้างข้อความ
ตอบ ความสุขของกะทิ:งามพรรณ เวชชาชีวะ/ความสุขที่แฝงตัวในความเศร้า 


(ได้รับการแปล5ภาษา 6สำนวน)

หากใครกำลังเบื่อกับสภาพความเป็นอยู่ที่แก่งแย่งแข่งขันกันล่ะก้อ อย่าได้ทำสีหน้าเคร่งเครียด
หรือก่นด่ารัฐบาล หงุดหงิดฉุนเฉียวใส่กันเลย ลองเดินเข้าร้านหนังสือ หยิบๆเปิดๆดูว่า มีหนังสือเล่มไหนน่าอ่านบ้างจะดีกว่า มาเติมเต็มความรู้สึกที่ถูกความศิวิไลซ์มันฉกชิงไปจากเรากลับคืนมา

ถ้ายังหาหนังสือที่ถูกใจไม่ได้ ขอแนะนำนี่เลยครับ "ความสุขของกะทิ" ผมยอมรับว่าสะดุดตาเพราะมีโลโก้แปะหน้าปกว่า "เดอะซีไรท์อวอร์ด2549" ไอ้ค่าที่มันได้รับรางวัลมาก็ดึงดูดความสนใจได้อยู่ แต่ดูหน้าตาแล้วก็รู้ได้เลยว่า เป็นวรรณกรรมเพื่อเยาวชน
ช่วงนั้นกำลังไม่สบายใจ เลยอยากลองหาหนังสือที่กล่อมเกลาความเครียดออกไปบ้าง

ที่เข้าใจไปว่า เป็นวรรณกรรมเยาวชนมันก็ไม่ผิดนัก เพียงแต่เป็นวรรณกรรมเยาวชนที่แสดงความจริงของโลก และความเศร้าของมนุษย์ทุกคน เมื่อได้อ่านก็อยากจะบอกว่า
ไม่ผิดหวังเลย ไม่ผิดหวังจริงๆ เพราะหนังสือเล่มนี้ เปรียบเสมือนสาวงามผู้บริสุทธิ์ที่แฝงตัวอยุ่ในเมืองอันหยาบกร้าน ทั้งการเล่าเรื่องและภาษาที่ใช้ เรียกว่าสละสลวยมาก เข้าใจง่ายแต่เต็มไปด้วยคุณค่าทางอารมณ์ สร้างความสุขได้ทุกประโยค มีลูกเล่นให้ตัวละคร ดึงรอยยิ้มจากผู้อ่านได้

หนังสือแบ่งออกเป็นสามช่วง บ้านริมคลอง บ้านชายทะเล และบ้านกลางเมือง
ไม่ว่าบ้านไหนๆ ก็เปี่ยมไปด้วยเนื้อหาแสนน่ารักของกะทิ แต่ละช่วงตัวละครจะเหมือนเดิม
เพียงแต่จะมีเพิ่มมาก็ไม่กี่คน ตุณตาที่เป็นตัวละครหนึ่ง ผู้เขียนได้ใส่คาแรกเตอร์ของผู้สูงวัยที่มีการศึกษาสูง เป็นคนตลก มีอารมณ์ขันแฝงปรัชญา อ่านแล้วก็คิดว่า ผู้เขียนเข้าใจสร้างอุปนิสัยคนคนหนึ่งซึ่งน่ารักได้เพียงนี้เชียว เรียกว่าอ่านไปแล้วมันจับใจ และผ่อนคลายมาก

"ความสุขของกะทิ" ไม่ใช่วรรณกรรมที่มีแต่ความสุข แต่เป็นวรรณกรรมที่แสดงให้เห็นสัจธรรมของโลกมนุษย์ กะทิซึ่งเติบโตมาด้วยการขาดแม่ อยู่กับคุณตาคุณยายที่บ้านริมคลอง ใช้ชีวิตแบบเรียบง่าย มีความสุขแบบชาวชนบทคนหนึ่ง แต่ใครจะรู้ว่าจริงๆแล้ว ชีวิตของกะทิ ช่างน่าสงสารยิ่งนัก ซึ่งแม่ของกะทิ ต้องฝากกะทิไว้กับตาและยายก็ด้วยเหตุผลที่สุดแสนจะเศร้า
กะทิได้แต่รอวันที่แม่จะกลับมา วันที่แม่จะไปส่งกะทิที่โรงเรียน หรือได้ทานอาหารฝีมือของแม่
กะทิรอวันแล้ววันเล่าเพื่อจะได้พบแม่ แล้ววันหนึ่งกะทิก็ได้พบ แต่......

เศร้ามากพอที่อยากจะให้ทุกคนไปหามาอ่าน ความเป็นจริงของมนุษย์ไม่ได้โหดร้ายเสมอไป
แต่ความจริง สัจธรรมต่างๆสอนให้มนุษย์โตขึ้น รู้จักนำมันมาปรับใช้ให้ดีขึ้น
กะทิก็ไม่ต่างจากพวกเราสักเท่าไหร เพียงแต่กะทิโชคร้ายที่ต้องสูญเสียแม่ไป2ครั้ง แต่ในความโชคร้ายนั้นก็ยังมีความโชคดีอยู่เสมอ เพราะคนรอบข้างกะทิ ต่างให้ความรักความอบอุ่นชนิดที่ล้นเหลือส่งมาถึงคนอ่านทีเดียว

สุดท้ายอยากบอกว่า ผมอ่านเรื่องนี้แล้ว พาลให้นึกไปถึง หนังสือเรียนภาษาไทยสมัยประถม เรื่องมานะ มานี ปิติ ชูใจ เพราะการใช้ภาษาที่สวยงามเข้าใจง่าย การบรรยายคุณลักษณะของคนรึสถานที่ ก็มีความละเอียดและชวนยิ้มไปตลอดเรื่อง เพราะหากเราได้สัมผัสชีวิตแบบนั้นจริงๆ คงจะมีความสุขไม่น้อย ผมคิดว่า ถ้า(ถ้านะครับ)วันไหนมีลูกขึ้นมา หนังสือเล่มนี้คงเป็นหนังสือที่ผมจะให้ลูกของผมอ่านเป็นแน่แท้ มันควรค่าแก่ชีวิตผ้าขาวครับ



เกี่ยวกับผู้เขียนและ "ความสุขของกะทิ"

งามพรรณ เวชชาชีวะ เกิดที่ลอนดอน สำเร็จการศึกษาประกาศนียบัตรการแปลชั้นสูงจากบรัสเซลส์ เป็นเจ้าของและบรรณาธิการนิตยสารเพื่อนใหม่ ปัจจุบันเป็นกรรมการผู้จัดการบริษัทซิล์คโรดพับบลิเชอร์ เอเยนซี จำกัด เป็นตัวแทนลิขสิทธิ์วรรณกรรมให้นักเขียนทั่วโลก มีผลงานแปลจากภาษาอังกฤษ ฝรั่งเศส และอิตาลีกว่า 15 เรื่อง



บทแปลภาษาอังกฤษ 'The Happiness of Kati' โดยพรูเดนซ์ บอร์ทวิก (Prudence Borthwick) ชาวออสเตรเลีย จากหนังสือวรรณกรรมเยาวชน 'ความสุขของกะทิ' ของงามพรรณ เวชชาชีวะ ได้รับรางวัลที่ 2 จากการประกวดงานแปล John Dryden Translation Competition ซึ่งจัดโดยสมาคมวรรณคดีเปรียบเทียบแห่งอังกฤษ (British Comparative Literature Association) นับเป็นผลงานจากเอเชียชิ้นแรกที่ได้รับรางวัลจากการจัดประกวดที่เริ่มขึ้นตั้งแต่ พ.ศ. 2538 การประกวดนี้ดำเนินการโดย ศูนย์การแปลวรรณกรรมแห่งอังกฤษ มหาวิทยาลัยอีสต์แองเกลีย (British Centre for Literary Translation - University of East Anglia) รับพิจารณาผลงานแปลจากทุกภาษาทั่วโลก ทั้งงานบทกวี บทละครและวรรณกรรมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นงานเก่าหรืองานร่วมสมัย แต่จะต้องเป็นงานที่ยังไม่ได้รับการตีพิมพ์โดยพิธีมอบรางวัลมีขึ้นในวันที่ 12 - 14 กันยายนที่ผ่านมา ในกาประชุม 'Literature Travels' ซึ่งจัดขึ้นที่มหาวิทยาลัยวูลฟ์แฮมตัน (University of Wolverhampton) ประเทศอังกฤษ

ล่าสุด สมาคมห้องสมุดเด็กในสหรัฐอเมริกา (The Junior Library Guild) คัดเลือก 'The Happiness of Kati' เป็นหนังสือแนะนำให้กับบรรณารักษ์ทั่วประเทศ ทุกปี สมาคมนี้จะคัดเลือกต้นฉบับ 252 เรื่องจาก 1,500 เรื่อง เพื่อแนะนำแก่สมาชิก และหนังสือที่ผ่านการคัดเลือกจะได้รับความสนใจจากนักวิจารณ์และการประกวดรางวัลวรรณกรรมต่างๆ อีกด้วย




แก้ไขล่าสุดโดย more more more เมื่อ Tue Oct 31, 2006 4:31 pm, ทั้งหมด 1 ครั้ง

_________________
......................................................
ดูข้อมูลส่วนตัว ส่งข้อความส่วนตัว
ตอบโดยอ้างข้อความ
ตอบ  
เสียรม' ซีไรค์ เดี๋ยวนี้....

อยากให้เป็นเรื่องหนักไปดีกว่า ลุงปลื้มกว่า


ดูข้อมูลส่วนตัว ส่งข้อความส่วนตัว
ตอบโดยอ้างข้อความ
ตอบ  
หนังสือเล่มนี้ดีมากๆ มาคอนเฟิร์ม


_________________
ดูข้อมูลส่วนตัว ส่งข้อความส่วนตัว ส่ง Email MSN Messenger
ตอบโดยอ้างข้อความ
ตอบ  
ลุงนีล เทนเนอร์ พิมพ์ว่า:
เสียรม' ซีไรค์ เดี๋ยวนี้....

อยากให้เป็นเรื่องหนักไปดีกว่า ลุงปลื้มกว่า



แต่ผมกลับเห็นด้วยกับกรรมการปีนี้นะครับที่ยกรางวัลให้ป้างามพรรณไป
เพราะในยุคที่คนบ้าระห่ำ เอาแต่แต่งนิยายหรือสร้างวรรณกรรม
ไซไฟ แฟนตาซี ชวนหัวชวนไข้

หรือเน้นเนื้อเรื่องแรงๆ แบบพวกอ่านไปวิตกไปจริตไป
ถามว่าดีมั๊ย มันก็ดีนะครับ เพราะอ่านแล้วตื่นเต้น บางเรื่องเน้นเนื้อหาเพื่อสังคม
การเมือง เสียดสี อะไรต่างๆ มันก็โออยู่

และผมกลับคิดเหมือนกรรมการว่า ความสุขของกะทิ คือวรรณกรรมสรรสร้างความสวยงามให้จิตใจอย่างแท้จริง เพราะวรรณกรรมใช้ภาษาง่าย แต่แฝงความละมุนของความหมายอย่างเรื่องนี้
หายากแล้วนะครับ สมควรนำไปเป็นหนังสืออ่านนอกเวลาให้เด็กประถมอ่านอย่างยิ่ง



_________________
......................................................
ดูข้อมูลส่วนตัว ส่งข้อความส่วนตัว
ตอบโดยอ้างข้อความ
ตอบ  
ไร้สาระ เดี๊ยนอ่าน ผู้หญิงคนนั้นชื่อบุญรอด ยังให้แง่คิดกว่าตั้งเยอะ


_________________
ดูข้อมูลส่วนตัว ส่งข้อความส่วนตัว
ตอบโดยอ้างข้อความ
ตอบ  
ทวารหนัก พิมพ์ว่า:
ไร้สาระ เดี๊ยนอ่าน ผู้หญิงคนนั้นชื่อบุญรอด ยังให้แง่คิดกว่าตั้งเยอะ



ถ้าจะมารีพลายแบบ จิกๆกัดๆ เอาสนุกสนานชุ่มหัวใจหัว(โรค)จิตล่ะก้อ
ขอบอกว่า ไม่เจ็บ แข็งแรงโว้ยยย ไม่สน

แต่

ถ้ามารีพลายเพราะเป็นความคิดเห็นจริงๆ ก็จะยอมรับความคิดเห็น

ป.ล.ได้อ่านจริงๆรึยังเหอะ อย่าว่าแต่ความสุขของกะทิเลย บุญรอดอ่ะ อ่านมาจริงอ่ะ
เราเคยอ่านและก็ว่ามันเป็นนิยายที่ดีจริงๆ



_________________
......................................................
ดูข้อมูลส่วนตัว ส่งข้อความส่วนตัว
ตอบโดยอ้างข้อความ
ตอบ  
เดี๊ยนมีสิทธิ์จะรีพลายอะไรก็ได้นะยะ และก็มิได้พูดคำหยาบคาย หล่อนอย่าหลงตัวเองว่าเดี๊ยนจะกัดหล่อนสิ ริจะเป็นนักวิจารณ์ก็ต้องฟังคนอื่นติ ไม่ใช่จะหวังคำชมอย่างเดียว ไม่สวยแล้วจะเสร่ออีกนะเธอ


_________________
ดูข้อมูลส่วนตัว ส่งข้อความส่วนตัว
ตอบโดยอ้างข้อความ
ตอบ  
ทวารหนัก พิมพ์ว่า:
เดี๊ยนมีสิทธิ์จะรีพลายอะไรก็ได้นะยะ และก็มิได้พูดคำหยาบคาย หล่อนอย่าหลงตัวเองว่าเดี๊ยนจะกัดหล่อนสิ ริจะเป็นนักวิจารณ์ก็ต้องฟังคนอื่นติ ไม่ใช่จะหวังคำชมอย่างเดียว ไม่สวยแล้วจะเสร่ออีกนะเธอ


ปรกติก็รับฟังเสมอนะ

เว้นเทอไว้คนนึง



_________________
......................................................
ดูข้อมูลส่วนตัว ส่งข้อความส่วนตัว
ตอบโดยอ้างข้อความ
ตอบ  
อ่านแล้ว ชอบเรื่องนี้นะ อ่านแล้วเศร้าดี ไม่ได้เศร้าแบบตรงๆเหมือนหนังสือทั่วไปด้วย เหมือนการเขียนที่ทำให้รู้สึกเศร้าอ่ะ

ดูข้อมูลส่วนตัว ส่งข้อความส่วนตัว ส่ง Email
แสดงเฉพาะข้อความที่ตอบในระยะเวลา:
ตอบ หน้า 1 จาก 2
ไปที่หน้า 1, 2  ถัดไป
คุณไม่สามารถสร้างหัวข้อใหม่
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
คุณไม่สามารถแก้ไขข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลบข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลงคะแนน
  


copyright : forwardmag.com - contact : forwardmag@yahoo.com, forwardmag@gmail.com