˹���á Forward Magazine

ตอบ

ไปที่หน้า ก่อนหน้า  1, 2, 3, 4, 5, 6, 7, 8  ถัดไป
พูดถึงLight&Darknessกันหน่อยมั้ย (อัพเดท#5)
ผู้ตั้ง ข้อความ
ตอบโดยอ้างข้อความ
ตอบ  
ก่อนจะจบการอัพเดทในวันนี้เท่าที่จับทางดูแล้วคิดว่าเพลงแถมในงานรวมฮิตของอีติ๊นี่เปรียบเสมือนลายแทงขุมทรัพย์ที่จะนำพาเราๆให้คาดเดาทิศทางงานชุดนี้กันอย่างสนุกสนานเชียวนะคะ ส่วนตัวคิดว่าทั้ง4แทร็คแบ่งPartต่างๆที่จะมีให้เห็นในงานชุดนี้ได้ค่อนข้างชัดเจนเลยทีเดียว

1. Keep Gettin' Better

กับส่วนของอิเล็คโทรพ็อพเต้นรำที่ผสานลูกเล่นของแกลมร็อคและบีทดิสโก้มึนๆตึ๊บๆแบบ Goldfrapp เชื่อว่ามีให้เห็นกันแน่นอนหากแต่เป็นภาคที่แข็งกว่ามากๆ ฟังเพลงนี้ครั้งแรกแล้วนั่งงกันยังไงดิฉันว่าของจริงยิ่งกว่าแน่นอนค่ะขอเตือน

2. Dynamite

เป็นตัวแทนที่ดีในส่วนของเพลงเต้นรำที่จะแสดงให้เห็นถึงการอุทิศให้แก่สีสันและศิลปะแบบ POP Art ล้ำๆเก๋ๆ สั้น ง่าย หวานและติดหูแน่นอน คงจะได้ยินซาวนดืของอีพวก M.I.A/Major Lazor/LeTigre อะไรกันในส่วนที่เล่นกับสีสันนี่แหละ

3.Genie 2.0

พวกเพลงที่จะออกแนวแทรนซ์/เทคโนเป็นอิเล็คโทรนิคอวกาศจัดๆแบบแฟชั่น เซ็กซี่ซึ่งPartนี้จะแสดงให้เห็นถึงนิยามของ Futuristic ได้อย่างดีที่สุด คิดว่าน่าจะเป้นพาร์ทที่คริสทิน่าเล่นกับซาวนดฺของตัวเองและโปรดิวซ์เซอร์รับเชิญมากที่สุด อู๊ยยยย จะออกมายังไงเนี่ย สงสัยว่าอีพวกเลดี้ทรอนต้องเข้ามามีบทบาทสูงในช่วงนี้ชัวร์

4. You Are What You Are

ในส่วนพวกอิเล็คโทรนิคดาวน์เทมโพพวกดีพเฮ้าส์เทคโนลอยละล่องอวกาศจัดติ๊สท์จัดแบบพวก Goldfrapp/Santigold อะไรพวกนี้อ่ะค่ะ เอาจริงๆคงจะไม่ชืดไปกว่านี้แล้วล่ะแต่คงจะเป็นอะไรที่ติ๊สท์แตกและตีความยากพอสมควร

ดูข้อมูลส่วนตัว ส่งข้อความส่วนตัว
ตอบโดยอ้างข้อความ
ตอบ  
รีพลายบนเป็นแค่การคาดการณ์เล่นๆนะคะไม่ได้เรียบเรนียงอะไรจริงๆแล้วมีอะไรพูดถึงเยอะกว่านี้มาก ไว้ว่างๆจะมาต่อ อันนั้นแค่อ่านเป็นไกด์เรียกน้ำย่อยไปก่อนนะคะเพื่อนๆ



แก้ไขล่าสุดโดย Armand D'Angouleme เมื่อ Fri Oct 09, 2009 11:48 pm, ทั้งหมด 1 ครั้ง
ดูข้อมูลส่วนตัว ส่งข้อความส่วนตัว
ตอบโดยอ้างข้อความ
ตอบ  
ถ้าออกมาในแนวที่โปรดิวเซอร์ทำให้ตัวเองแต่ละคนนี่ งานอีติ๊จะแข็งมากๆ แต่ในทางกลับกัน ยอดขายก็อาจจะน้อยไม่ตีตลาดเช่นเดียวกัน ต้องรอดูว่าอีติ๊มันจะเลือกออะไร (แต่ขอเ่ดาว่าอีติ๊เลือกไม่ตีตลาดแล้วทำให้ตลาดมาสนใจมันแบบอัลบั้มที่แล้วนะครับผม!!!


_________________

April fighting! + angel Sojin�
ดูข้อมูลส่วนตัว ส่งข้อความส่วนตัว
ตอบโดยอ้างข้อความ
ตอบ ไม่จิงนะที่ว่าติน่าไม่มีตีมตัวเอง 
มาดอนน่าเปลี่ยนแปลงตัวเองตลอดเวลาแต่เธอแถบไม่เคยจะเสียธีมของตัวเธอเองเลย (อาจจะเว้นงานล่าสุดไว้อ่ะเนอะ) ขณะที่คริสทิน่าเปลี่ยนแบบเหมือนกับหาตัวเองไม่เจอหรือแย่ไปกว่านั้นเจอสิ่งที่ตัวเองเหมาะอยู่แล้วแต่เปลี่ยนเพื่อหนีตัวเองเพื่อจะได้มีอะไรใหม่ๆต่อกรกับเขี้ยวเล็บและความเชี่ยวกรากของวัฏจักรดนตรีพ็อพและเป็นกระแสเสมอๆ ก็ดีแต่ระวังจะหมุนไม่ออกซักวัน จะบอกอะไรไห้นะ มาดอนน่านั้นแหละตัวเสียธีมอย่างชัดเจนที่สุด อัลบั้มในยุคแรกๆๆๆของมาดอนน่าดีมาก แต่จะบอกว่า ต้นยุค 90 มาดอนน่า ทำเสียกับอัลบั้ม bedtime storie มากๆๆๆ ช่วงนั้นเป้นช่วงที่ babyface ครองเมือง ยุค boy2men วิทนี่ย์ และมาราย เธอทำอลับ้ม เหมือนกับหนีน้ำไปเรื่อยๆๆๆ โดยการดึง babyface มาทำจนรู้สึกได้เรื่อยว่าเธอกลัวการ ดับเป้นเหมือนกัน ทั้งอัลบั้มดำปี๋ ทั้งอัลบั้ม rnbสุดๆๆๆๆซึ่งไม่เข้ากับมาดอนน่าเลย โอเคอาจจะทำไห้เธอมี take a bow ขึ้น ที่1 และ secret แตะถึงที่3ก็จิงแต่มันก็ไม่ส่งผลถึงยอดขายอะไรเลย ขาย/ได้แย่มากๆๆนะ 2ล้าน ในช่วงที่ยังไม่มี mp3นะ เธอเอาเพลง bedtime storie มาตัดอีก แล้วก้เจ็งสุดๆๆ เพลงไม่เข้าพวกขาดเป้นตัวเธอสุดๆๆๆๆบอกได้เลยงานมาดอนน่าดีแค่ยุคแรกๆๆเอง จิงๆๆก็เป้นแฟนเพลงเธอแบบบูชากันเลยนะ มีทุกซิงเกิ้ลแต่ช่วงหลังๆๆงานเธอน่าเบื่อจิงๆๆเหมือนกับว่าหมดมุขแล้ว เธอเริ่มน่าเบื่อตั้งแต่อัลบั้ม music ซึ่งหาความเป้นมาดอนน่าไม่เจอ การเอากีต้าร์ โฟลค์ มาใส่ อีเลคโทรมันช่างน่ารำคาญจิงๆๆเคยได้ยินว่า ขนาดray of light ที่เปนชิ้นงานระดับมาสเตอร์พีช ของเธอ ตัวอัลบั้มยังขายแทบไม่ออกเลย นักวิจารญืยังบอกเลย ขนาดได้กล่องก็คือ แกรมมี่ อัลบั้มกัลับไม่กระเตื้องยอดขายเลย มันเหมือนว่า มาดอนน่าชักเริ่มจะน่าเบื่อแล้วแปลกนะ มาดอนน่ามักขายไม่ได้ในบ้านของตัวเอง คืออเมริกา คนเชิดใส่อัลบั้มเธอกันจนหมด ติน่าความเป้นตัวเธอนะเหรอ ก็คือการทดลองอะไรไหม่ๆๆ ข้อเสีย คือคนอาจจะมองว่าไม่มีจุดยืน แต่ในทางกลับกัน คนก็รอคอยในการกลับมาในคร้งไหม่ๆๆของเธอกันจ้าละหวั่น จุดยืนของติน่าคือการลองของแปลก แฟนเพลงจะเป้นคนแบบฟังเพลงหลากหลาย อาจจะไม่ใช่ บียอนที่แฟนเพลงคือ คอ rnb ล้วนๆๆๆ มาราย ก็เป้นแบบ rnb แบบนุ่มนวลแต่จะไม่สามารถดึงฐานแฟนเพลงในฐานอื่นๆๆได้เลย แต่เหมือนว่าติน่าดึง ฐาน เพลงpopเป้นหลัก แต่จะเดินไปทางไหนก็แล้วแต่อัลบั้มที่เธอคิดจะทำ ปลดเปลื้อง ก็จะค่อนข้าง popที่ใส่ซาวของโซล บลู เข้าไป btb ก็ทำpopในแบบงานยุคเก่า ที่มีเครื่องสายแซกโซโฟน เครื่องดนตรีสด ผสานกับเครื่อง มิกเพลงไหม่ๆๆเลยออกมาอย่างที่เห็น และครั้งนี้ก็จะเปน pop ที่ออกไปทางอิเลค โทรนิค ซาวเสียง สังเคราะห์ แต่สุดท้ายมันก็ยังคงยืนอยู่บนความเป้น popอยู่ดีนั้นละ เราว่าติน่าขายออกนะ ใครว่าเธอขายอัลบั้มไม่ออก ปลดเปลื้อง ก็เห็ฯๆๆกันอยู่ว่าขายได้ระดับไหน 4-5 ล้านในอเมริกา เนียก็ไม่ใช่เรื่อง่ายๆๆนะสำหรับอัลบั้มที่ไม่ค่อยจะตลาดเท่าไรนัก เมื่อเทียบกับนางๆๆคนอื่นๆๆๆๆ btb ก็ยังขายได้ในระดับ 2-3ล้านในอเมริกา แต่อย่าลืมว่าเธอขายอัลบั้มในแพคคู่ ซึ่งขายในราคาเกือบ 2เท่า ของศิลปินคนอื่น แต่ก้ยังขายได้ในระดับ2-3ล้าน แถมตลาดโลก เธอก็ขายรวมกันได้ 5ล้านนะ ยอดขายที่ว่าน้อยๆๆกัน แต่เงินเข้ากระเป๋าเธออื่อซ่า นะและก็ เชื่อว่าถ้าเธอเปิด โชว์ในครั้งไหม่นี้ ยอดขายตั๋วเธอก็ต้อง ขายดีถล่มถลายแน่นอน เพราะครั้งที่แล้วเพลงน่าเบื่อมาก ทั้งโชว์ แต่ก็ยังติดอันดับ โชว์ทำเงิน นะคนทำเพลงตลาดสุดๆๆ แต่กลับมียอดขายในระดับ คนทำเพลงที่ไม่ขายเอาเสียเลยเนีย มันน่าคิดนะ


_________________
ดีคับผม
ดูข้อมูลส่วนตัว ส่งข้อความส่วนตัว ส่ง Email MSN Messenger
ตอบโดยอ้างข้อความ
ตอบ  
paradizer พิมพ์ว่า:
ถ้าออกมาในแนวที่โปรดิวเซอร์ทำให้ตัวเองแต่ละคนนี่ งานอีติ๊จะแข็งมากๆ แต่ในทางกลับกัน ยอดขายก็อาจจะน้อยไม่ตีตลาดเช่นเดียวกัน ต้องรอดูว่าอีติ๊มันจะเลือกอะไร (แต่ขอเ่ดาว่าอีติ๊เลือกไม่ตีตลาดแล้วทำให้ตลาดมาสนใจมันแบบอัลบั้มที่แล้วนะครับผม!!!


จริงๆแล้วชอบคำที่ว่าคริสทิน่าจะทำให้ตลาดหันมาใฃสนใจตัวเธอนะคะเป็นอะไรที่เจ๊คิดว่าตรงกับทิศทางที่คริสทิน่าต้องการจะเล่นกับตลาดยุคนี้มากๆสร้างความเด่นและจุดขายจากความต่าง ซึ่งเรียกศรัทธาและหลายสิ่งได้ไม่น้อยทีเดียว Very Happy

ดูข้อมูลส่วนตัว ส่งข้อความส่วนตัว
ตอบโดยอ้างข้อความ
ตอบ Re: ไม่จิงนะที่ว่าติน่าไม่มีตีมตัวเอง 
thongthana พิมพ์ว่า:
มาดอนน่าเปลี่ยนแปลงตัวเองตลอดเวลาแต่เธอแถบไม่เคยจะเสียธีมของตัวเธอเองเลย (อาจจะเว้นงานล่าสุดไว้อ่ะเนอะ) ขณะที่คริสทิน่าเปลี่ยนแบบเหมือนกับหาตัวเองไม่เจอหรือแย่ไปกว่านั้นเจอสิ่งที่ตัวเองเหมาะอยู่แล้วแต่เปลี่ยนเพื่อหนีตัวเองเพื่อจะได้มีอะไรใหม่ๆต่อกรกับเขี้ยวเล็บและความเชี่ยวกรากของวัฏจักรดนตรีพ็อพและเป็นกระแสเสมอๆ ก็ดีแต่ระวังจะหมุนไม่ออกซักวัน จะบอกอะไรไห้นะ มาดอนน่านั้นแหละตัวเสียธีมอย่างชัดเจนที่สุด อัลบั้มในยุคแรกๆๆๆของมาดอนน่าดีมาก แต่จะบอกว่า ต้นยุค 90 มาดอนน่า ทำเสียกับอัลบั้ม bedtime storie มากๆๆๆ ช่วงนั้นเป้นช่วงที่ babyface ครองเมือง ยุค boy2men วิทนี่ย์ และมาราย เธอทำอลับ้ม เหมือนกับหนีน้ำไปเรื่อยๆๆๆ โดยการดึง babyface มาทำจนรู้สึกได้เรื่อยว่าเธอกลัวการ ดับเป้นเหมือนกัน ทั้งอัลบั้มดำปี๋ ทั้งอัลบั้ม rnbสุดๆๆๆๆซึ่งไม่เข้ากับมาดอนน่าเลย โอเคอาจจะทำไห้เธอมี take a bow ขึ้น ที่1 และ secret แตะถึงที่3ก็จิงแต่มันก็ไม่ส่งผลถึงยอดขายอะไรเลย ขาย/ได้แย่มากๆๆนะ 2ล้าน ในช่วงที่ยังไม่มี mp3นะ เธอเอาเพลง bedtime storie มาตัดอีก แล้วก้เจ็งสุดๆๆ เพลงไม่เข้าพวกขาดเป้นตัวเธอสุดๆๆๆๆบอกได้เลยงานมาดอนน่าดีแค่ยุคแรกๆๆเอง จิงๆๆก็เป้นแฟนเพลงเธอแบบบูชากันเลยนะ มีทุกซิงเกิ้ลแต่ช่วงหลังๆๆงานเธอน่าเบื่อจิงๆๆเหมือนกับว่าหมดมุขแล้ว เธอเริ่มน่าเบื่อตั้งแต่อัลบั้ม music ซึ่งหาความเป้นมาดอนน่าไม่เจอ การเอากีต้าร์ โฟลค์ มาใส่ อีเลคโทรมันช่างน่ารำคาญจิงๆๆเคยได้ยินว่า ขนาดray of light ที่เปนชิ้นงานระดับมาสเตอร์พีช ของเธอ ตัวอัลบั้มยังขายแทบไม่ออกเลย นักวิจารญืยังบอกเลย ขนาดได้กล่องก็คือ แกรมมี่ อัลบั้มกัลับไม่กระเตื้องยอดขายเลย มันเหมือนว่า มาดอนน่าชักเริ่มจะน่าเบื่อแล้วแปลกนะ มาดอนน่ามักขายไม่ได้ในบ้านของตัวเอง คืออเมริกา คนเชิดใส่อัลบั้มเธอกันจนหมด ติน่าความเป้นตัวเธอนะเหรอ ก็คือการทดลองอะไรไหม่ๆๆ ข้อเสีย คือคนอาจจะมองว่าไม่มีจุดยืน แต่ในทางกลับกัน คนก็รอคอยในการกลับมาในคร้งไหม่ๆๆของเธอกันจ้าละหวั่น จุดยืนของติน่าคือการลองของแปลก แฟนเพลงจะเป้นคนแบบฟังเพลงหลากหลาย อาจจะไม่ใช่ บียอนที่แฟนเพลงคือ คอ rnb ล้วนๆๆๆ มาราย ก็เป้นแบบ rnb แบบนุ่มนวลแต่จะไม่สามารถดึงฐานแฟนเพลงในฐานอื่นๆๆได้เลย แต่เหมือนว่าติน่าดึง ฐาน เพลงpopเป้นหลัก แต่จะเดินไปทางไหนก็แล้วแต่อัลบั้มที่เธอคิดจะทำ ปลดเปลื้อง ก็จะค่อนข้าง popที่ใส่ซาวของโซล บลู เข้าไป btb ก็ทำpopในแบบงานยุคเก่า ที่มีเครื่องสายแซกโซโฟน เครื่องดนตรีสด ผสานกับเครื่อง มิกเพลงไหม่ๆๆเลยออกมาอย่างที่เห็น และครั้งนี้ก็จะเปน pop ที่ออกไปทางอิเลค โทรนิค ซาวเสียง สังเคราะห์ แต่สุดท้ายมันก็ยังคงยืนอยู่บนความเป้น popอยู่ดีนั้นละ เราว่าติน่าขายออกนะ ใครว่าเธอขายอัลบั้มไม่ออก ปลดเปลื้อง ก็เห็ฯๆๆกันอยู่ว่าขายได้ระดับไหน 4-5 ล้านในอเมริกา เนียก็ไม่ใช่เรื่อง่ายๆๆนะสำหรับอัลบั้มที่ไม่ค่อยจะตลาดเท่าไรนัก เมื่อเทียบกับนางๆๆคนอื่นๆๆๆๆ btb ก็ยังขายได้ในระดับ 2-3ล้านในอเมริกา แต่อย่าลืมว่าเธอขายอัลบั้มในแพคคู่ ซึ่งขายในราคาเกือบ 2เท่า ของศิลปินคนอื่น แต่ก้ยังขายได้ในระดับ2-3ล้าน แถมตลาดโลก เธอก็ขายรวมกันได้ 5ล้านนะ ยอดขายที่ว่าน้อยๆๆกัน แต่เงินเข้ากระเป๋าเธออื่อซ่า นะและก็ เชื่อว่าถ้าเธอเปิด โชว์ในครั้งไหม่นี้ ยอดขายตั๋วเธอก็ต้อง ขายดีถล่มถลายแน่นอน เพราะครั้งที่แล้วเพลงน่าเบื่อมาก ทั้งโชว์ แต่ก็ยังติดอันดับ โชว์ทำเงิน นะคนทำเพลงตลาดสุดๆๆ แต่กลับมียอดขายในระดับ คนทำเพลงที่ไม่ขายเอาเสียเลยเนีย มันน่าคิดนะ


แหมๆๆๆๆ รีพลายคุณน้องนี่อ่านมันส์ดีนะคะรัวไม่นับสับไม่ยั้งแต่ชอบนะคะเป็นรีพลายที่ยึดมั่นในมุมมองความคิดของตัวเองได้แข็งแกร่งดีแม้ว่าจะมีส่วนที่ไม่เห็นด้วยอยู่บ้างก็ตาม ก่อนอื่นก็ขอพูดถึงเรื่องนอกประเด็นในแง่ของยอดขายที่คุณน้องยกมาก่อนแล้วกันในส่วนของคริสทิน่าส่วนตัวขอบอกนะคะว่าภูมิใจโดยเฉพาะ Back To Basics ที่เนื้องานเป็นอะไรที่หลุดกระแสมากๆหากขายได้ระดับ5ล้านในยุคนี้นี่ไม่ใช่ขี้ๆทีเดียว อย่างที่หลายคนว่าแหละนะคะว่าถึงจะนอกกระแสแต่ถ้าทำเพลงดีแล้วตลาดย่อมกลับมาหาคุณแน่นอน สำหรับมาดอนน่าช่วง Bedtime Story นี่ต้องยอมรับนะคะว่าเป็นช่วงที่อีเจ๊ต้องเก็บเกี่ยวบารมีอีกครั้งในทศวรรษใหม่ส่วนยอดขายนี่รวมทั้วโลก15ล้านนี่ไม่ถือว่าขี้เหร่นะคะแต่อาจจะเกี่ยวกับเรื่องของตัวซิงเกิ้ลมากกว่าที่เพลงของอีเจ๊แม้จะต่อยอดสู่ความเป็นอาร์แอนด์บีจากงานก่อนหน้านี้แต่ถ้าได้ฟังจริงๆนี่เพลงของมาดอนน่าชุดนี้ค่อนข้างดิบและเป็นศิลปะมากๆเกินตลาดอ่ะค่ะแต่ตลาดกลับต้อนรับถึงระดับ10กว่าล้านนี้สำหรับคนที่ไม่ขายเลยในช่วงนั้นมันก็น่าคิดอย่างที่คุณน้องว่าจริงๆ สำหรับคุณพี่คิดว่าดีมากๆด้วยซ้ำในช่วงที่ใครๆก็ครหามาดอนน่าว่าหมดยุคของเธอแล้วแต่เธอก็สามารถที่จะทะยานมาสู่ทศวรรษที่สามล่อจะเข้าทศวรรษที่4ได้นี่ สำหรับคุณพี่ขอปรบมือให้เลยทีเดียว

ในเรื่องของธีมเอกลักษณ์ของคริสทิน่าในฐานะที่เป็นสาวกของเธอคุณพี่ก็เห็นอยู่ชัดเจนเช่นเดียวกับคุณน้องแหละนะคะว่าเธอมี หากแต่เราต้องทำใจอ่ะนะคะเพราะผู้ฟังที่เขาคิดไม่เหมือนกับเรา เห็นไม่เหมือนกับเรา สัมผัสได้ไม่เหมือนกับเราโลกนี้มันมีเยอะ เพราะว่าคนทั้งโลกไม่ได้มาติดตามการนำเสนอของคริสทิน่าจนเก็ททะลุปรุโปร่งหมดทุกคนนี่คะ ส่วนตัวก็เข้าใจอ่ะนะคะว่าคุณน้องอาจจะรับไม่ได้สำหรับทัศนคติที่ขัดแย้งในบางจุด ประมาณว่า "เอ๊ะ กูก็เห็นอยู่เนี่ยว่าอีติ๊มันมีธีมทำไมคนอื่นไม่เห็น" ตรงนี้คุณพี่ก็ไม่รู้ว่าจะพูดยังไงค่ะเพราะคิดว่าคุณพี่ไม่เคยอธิบายแฟนๆรีวิวหลายคนจนปากฉีกเหรอคะว่าคริสทิน่ามีดีและมีจุดแข็งอะไรบ้าง? เอาเป็นว่าเราเปลี่ยนความคิดคนทั้งโลกให้เขามารับรู้ในมาตรฐานเดียวกับเราไม่ได้หมดหรอกนะคะทางที่ดีในฐานะสาวกที่ยุติธรรมคงต้องปล่อยไปตามสบายและรับฟังอ่ะค่ะ เชื่อว่าจะทำให้คุณน้องสบายใจขึ้นได้อีกเยอะทีเดียวนะคะวิธีนี้


ดูข้อมูลส่วนตัว ส่งข้อความส่วนตัว
ตอบโดยอ้างข้อความ
ตอบ Re: ไม่จิงนะที่ว่าติน่าไม่มีตีมตัวเอง 
thongthana พิมพ์ว่า:
มาดอนน่าเปลี่ยนแปลงตัวเองตลอดเวลาแต่เธอแถบไม่เคยจะเสียธีมของตัวเธอเองเลย (อาจจะเว้นงานล่าสุดไว้อ่ะเนอะ) ขณะที่คริสทิน่าเปลี่ยนแบบเหมือนกับหาตัวเองไม่เจอหรือแย่ไปกว่านั้นเจอสิ่งที่ตัวเองเหมาะอยู่แล้วแต่เปลี่ยนเพื่อหนีตัวเองเพื่อจะได้มีอะไรใหม่ๆต่อกรกับเขี้ยวเล็บและความเชี่ยวกรากของวัฏจักรดนตรีพ็อพและเป็นกระแสเสมอๆ ก็ดีแต่ระวังจะหมุนไม่ออกซักวัน จะบอกอะไรไห้นะ มาดอนน่านั้นแหละตัวเสียธีมอย่างชัดเจนที่สุด อัลบั้มในยุคแรกๆๆๆของมาดอนน่าดีมาก แต่จะบอกว่า ต้นยุค 90 มาดอนน่า ทำเสียกับอัลบั้ม bedtime storie มากๆๆๆ ช่วงนั้นเป้นช่วงที่ babyface ครองเมือง ยุค boy2men วิทนี่ย์ และมาราย เธอทำอลับ้ม เหมือนกับหนีน้ำไปเรื่อยๆๆๆ โดยการดึง babyface มาทำจนรู้สึกได้เรื่อยว่าเธอกลัวการ ดับเป้นเหมือนกัน ทั้งอัลบั้มดำปี๋ ทั้งอัลบั้ม rnbสุดๆๆๆๆซึ่งไม่เข้ากับมาดอนน่าเลย โอเคอาจจะทำไห้เธอมี take a bow ขึ้น ที่1 และ secret แตะถึงที่3ก็จิงแต่มันก็ไม่ส่งผลถึงยอดขายอะไรเลย ขาย/ได้แย่มากๆๆนะ 2ล้าน ในช่วงที่ยังไม่มี mp3นะ เธอเอาเพลง bedtime storie มาตัดอีก แล้วก้เจ็งสุดๆๆ เพลงไม่เข้าพวกขาดเป้นตัวเธอสุดๆๆๆๆบอกได้เลยงานมาดอนน่าดีแค่ยุคแรกๆๆเอง จิงๆๆก็เป้นแฟนเพลงเธอแบบบูชากันเลยนะ มีทุกซิงเกิ้ลแต่ช่วงหลังๆๆงานเธอน่าเบื่อจิงๆๆเหมือนกับว่าหมดมุขแล้ว เธอเริ่มน่าเบื่อตั้งแต่อัลบั้ม music ซึ่งหาความเป้นมาดอนน่าไม่เจอ การเอากีต้าร์ โฟลค์ มาใส่ อีเลคโทรมันช่างน่ารำคาญจิงๆๆเคยได้ยินว่า ขนาดray of light ที่เปนชิ้นงานระดับมาสเตอร์พีช ของเธอ ตัวอัลบั้มยังขายแทบไม่ออกเลย นักวิจารญืยังบอกเลย ขนาดได้กล่องก็คือ แกรมมี่ อัลบั้มกัลับไม่กระเตื้องยอดขายเลย มันเหมือนว่า มาดอนน่าชักเริ่มจะน่าเบื่อแล้วแปลกนะ มาดอนน่ามักขายไม่ได้ในบ้านของตัวเอง คืออเมริกา คนเชิดใส่อัลบั้มเธอกันจนหมด ติน่าความเป้นตัวเธอนะเหรอ ก็คือการทดลองอะไรไหม่ๆๆ ข้อเสีย คือคนอาจจะมองว่าไม่มีจุดยืน แต่ในทางกลับกัน คนก็รอคอยในการกลับมาในคร้งไหม่ๆๆของเธอกันจ้าละหวั่น จุดยืนของติน่าคือการลองของแปลก แฟนเพลงจะเป้นคนแบบฟังเพลงหลากหลาย อาจจะไม่ใช่ บียอนที่แฟนเพลงคือ คอ rnb ล้วนๆๆๆ มาราย ก็เป้นแบบ rnb แบบนุ่มนวลแต่จะไม่สามารถดึงฐานแฟนเพลงในฐานอื่นๆๆได้เลย แต่เหมือนว่าติน่าดึง ฐาน เพลงpopเป้นหลัก แต่จะเดินไปทางไหนก็แล้วแต่อัลบั้มที่เธอคิดจะทำ ปลดเปลื้อง ก็จะค่อนข้าง popที่ใส่ซาวของโซล บลู เข้าไป btb ก็ทำpopในแบบงานยุคเก่า ที่มีเครื่องสายแซกโซโฟน เครื่องดนตรีสด ผสานกับเครื่อง มิกเพลงไหม่ๆๆเลยออกมาอย่างที่เห็น และครั้งนี้ก็จะเปน pop ที่ออกไปทางอิเลค โทรนิค ซาวเสียง สังเคราะห์ แต่สุดท้ายมันก็ยังคงยืนอยู่บนความเป้น popอยู่ดีนั้นละ เราว่าติน่าขายออกนะ ใครว่าเธอขายอัลบั้มไม่ออก ปลดเปลื้อง ก็เห็ฯๆๆกันอยู่ว่าขายได้ระดับไหน 4-5 ล้านในอเมริกา เนียก็ไม่ใช่เรื่อง่ายๆๆนะสำหรับอัลบั้มที่ไม่ค่อยจะตลาดเท่าไรนัก เมื่อเทียบกับนางๆๆคนอื่นๆๆๆๆ btb ก็ยังขายได้ในระดับ 2-3ล้านในอเมริกา แต่อย่าลืมว่าเธอขายอัลบั้มในแพคคู่ ซึ่งขายในราคาเกือบ 2เท่า ของศิลปินคนอื่น แต่ก้ยังขายได้ในระดับ2-3ล้าน แถมตลาดโลก เธอก็ขายรวมกันได้ 5ล้านนะ ยอดขายที่ว่าน้อยๆๆกัน แต่เงินเข้ากระเป๋าเธออื่อซ่า นะและก็ เชื่อว่าถ้าเธอเปิด โชว์ในครั้งไหม่นี้ ยอดขายตั๋วเธอก็ต้อง ขายดีถล่มถลายแน่นอน เพราะครั้งที่แล้วเพลงน่าเบื่อมาก ทั้งโชว์ แต่ก็ยังติดอันดับ โชว์ทำเงิน นะคนทำเพลงตลาดสุดๆๆ แต่กลับมียอดขายในระดับ คนทำเพลงที่ไม่ขายเอาเสียเลยเนีย มันน่าคิดนะ


มาต่อถึงจุดที่คุณพี่ไม่เห็นด้วยในฐานะที่ส่วนตัวก็เป็นสาวกของมาดอนน่าพอๆกับที่เป็นสาวกของอีติ๊นะคะ คือการแสดงความเห็นมันก็เป็นความเห็นในแบบของคุณน้องดีอ่ะนะคะซึ่งคุณพี่ยอมรับแต่ไม่คิดว่าจะเห็นด้วยหรอกนะคะ ส่วนตัวคิดว่ามาดอนน่ารักษาธีมของตัวเองได้ดีนะคะอันนี้ไม่เกี่ยวกับเรื่องของตลาดหรือยอดขายมันเกี่ยวกับที่การเปลี่ยนแปลงภาพลักษณืและแนวการนำเสนอในบางจุดที่ทำให้เอดูมีเสน่ห์ไม่ซ้ำซากหากแต่เปลี่ยนแล้วภาพของมาดอนน่าที่ทุกคนเคยสัมผัสมันยังทรงพลังและไม่เคยหายไปไหนน่ะค่ะ อีกประเด็นคือคุณพี่อาจจะมองต่างออกไปเพราะคิดว่างานของมาดอนน่าชุดหลังๆนี่พัฒนาขึ้นและดีกว่าชุดแรกๆมาก ในแง่ของเนื้องานไม่เกี่ยวกับความสดและความเป็นพ็อพไอค่อนช่วงยุค 80

สำหรับงานชุด Bedtime... นี่มาดอนน่าก็ปูทางความเป็นอาร์แอนด์บีมาตั้งแต่ Like A Prayer แล้วนี่คะ ในเรื่องของเนื้องานก็อย่างที่ได้บอกไปนะคะว่าค่อนข้างดิบและเป็นศิลปะเอาจริงๆความดำนี่สูงกว่าพวกอัลบั้มที่เขามาจากโซนเออร์บันแท้ๆบางคนอีกนะคะนอกจากนี้เจ๊ยังต่อยอดไปที่ความเป็นทริพฮอพและอิเล็คโทรนิคประกอบกับภาษาเชิงกวีที่เข้าถึงยากตลอดจนซิงเกิ้ลที่ตัดนี่ไม่ตลาดเลย จึงไม่น่าแปลกใจค่ะที่อาจจะไม่ Success เท่าที่ควรถ้าเทียบกับยุคแรกๆ โฮะๆๆๆๆๆ แม้ว่าจะไม่เป็นที่พูดถึงในหมู่มากแต่นับว่าเป็นชิ้นงานที่ต่อยอดความเป็นมาดอนน่าได้ดีเลยทีเดียว

มาที่ Ray Of Light ส่วนตัวไม่แปลกใจค่ะที่ขายยากเนื่องจากเนื้อหาค่อนข้างเป็นสัจธรรม เล่นสำบัดสำนวนและเข้าถึงได้ยากมากๆเอาความนอกกระแสในช่วงนั้นนี่ที่ว่าเรโทรอย่างBack To Basics ยังนับว่าพ็อพอยู่มากเมื่อชนกับงานชุดนี้ที่มาแบบอิเล็คโทรนิก้า เทคโนและแอมเบี้ยนท์ค่อนข้างจัด แต่ในแง่ของเนื้องานส่วนตัวขอยกให้เป็นหนึ่งในงานอิเล็คโทรนิคจากศิลปินหญิงสายพ็อพที่ดีที่สุดช่วงปลายยุค90เลยทีเดียว ซึ่งจะว่าขายไม่ออกก็ไม่ถูกนะคะเพราะมันออกไปแล้วประมาณ14ล้านแผ่นทั่วโลกถ้าจำไม่ผิด ที่ว่าขายไม่ออกนี่มาตรวัดคุณน้องมาจากอะไรล่ะค่ะ อย่าพูดว่าวัดจากตลาดอเมริกานะคะเพราะจะเสียชื่อแฟนคลับคริสทิน่าที่ค่อนข้างมีวิสัยทัศน์มาก คนที่เขาฟังเพลงแบบฉลาดกันจริงๆเขาไม่สนความสำเร็จจากตลาดอเมริกากันแล้วล่ะหนูว่าจะขายได้เท่าไร

สำหรับ Music นี่มองผิวเผินอาจจะเป็นงานที่ลวกนะคะแต่เอาจริงๆแล้วคิดว่าเท่ห์นะ มีไม่กี่คนหรอกนะคะที่จะจับโฟล์ค คันทรีย์ ทริพฮอพมาชนกับอิเล็คโทรนิคแล้วจะลงตัวในระดับนี้ แต่อันนี้แล้วแต่รสนิยม ทัศนคติตลอดจนภูมิทางดนตรีอ่ะค่ะ เพราะคนที่ไม่ชอบก็ใช่ว่าจะไม่มี

ในส่วนของความเป็นตัวมาดอนน่าสัมผัสได้ทุกอัลบั้มอ่ะค่ะ เพราะความเป็นมาดอนน่ามันสื่อสารกันที่จิตวิญญาณไม่ใช่ดนตรีเป็นแกนเช่นเดียวกับความเป็นคริสทิน่า อยู่ที่ว่าคนที่ฟังจะสามารถหลอมทัศนคติของตนเองไปกับภาคดนตรีใหม่ๆที่เธอสื่อรึเปล่าหรือว่าจะยึดติดอยู่กับความเป็นพ็อพยุค80ที่ดังและติดชาร์ต ซึ่งนั่นไม่ใช่บรรทัดฐานของแฟนคริสทิน่าอย่างคุณพี่แน่ๆ


ดูข้อมูลส่วนตัว ส่งข้อความส่วนตัว
ตอบโดยอ้างข้อความ
ตอบ  


อันนี้ต้องขอบคุณ คุณน้องทองธนานะคะที่พูดถึงงานชุด Ray Of Light ขึ้นมาก จริงๆไม่ได้มีอะไรเกี่ยวกันหรอกค่ะและไม่คิดจะยกมาเปรียบเทียบ หากแต่งานชุดนี้เป็นงานอิเล็คโทรนิก้าจากศิลปินหญิงสายพ็อพที่ส่วนตัวคิดว่าดีที่สุดในช่วงปลายยุค90เลยทีเดียว ซึ่งส่วนตัวน่าคิดนะคะว่า Light&Darkness นี่ผู้ร่วมงานเริ่ดขาดนี้จะสามารถถูกอกถูกใจผู้ฟังจนถึงขั้นที่ได้รับการยกย่องให้เป็นอัลบั้มอิเล็คโทรนิคจากศิลปินพ็อพหญิงที่ดีที่สุดปลายยุคสองพันรึเปล่า

มาถึงตรงนี้เราจะมาคาดเดากันในส่วนของ ภาคเนื้อหา ค่ะว่าทิศทางของงานชุดนี้จะมีภาคเนื้อหาที่เป็นไปได้ในทิศทางไหนบ้าง สำหรับ Ray Of Light นี่เป็นแง่ของสัจธรรมชีวิตใช่มั้ยคะ ดูจากผู้ร่วมงานของ Light&Darkness แล้วคิดว่าภาคเนื้อหานี่น่าจะผสานอิทธิพลระหว่าง

1.เรื่องของความรักและความสมบูรณ์ของชีวิตในปัจจุบันของคริสทิน่าเอง ตลอดจนด้านทุกข์ระทมจากประสบการณ์ที่พบพาน

2. จาก M.I.A และ Le Tigre เรื่องของความอยุติธรรมทางการเมืองและสังคมตลอดจนสิทธิสตรีน่าจะมีให้เห็น ซึ่งสิทธิสตรีนี่คริสทิน่าเล่นแบบแรงๆมาตั้งแต่ Stripped แล้วน่ะค่ะ

3. จาก Goldfrapp ในแง่ของภาษาที่สวยและล้ำประดุจบทกวีในมหากาพย์อิเล็คโทรนิค

4. จาก Santigold คงจะเห็นอะไรที่มันแบบอาร์ทๆอ่ะนะคะ เป็นอะไรที่แบบติ๊สท์จัดเข้าใจยากคนธรรมดาไม่พูดกัน

5. จาก Ladytron นอกจากสิทธิสตรีแล้วคงได้ใส่ความเป็นแฟชั่นและเนื้อหาแบบที่ มักจะเล่นกันในแวดวงอินดี้ของอิเล็คโทรนิคแบบอังกฤษสุดเดช

แต่เอาจริงๆเนื้อหาคิดว่าอีติ๊กับเจ๊ลินดาน่าล่อกันเองแค่สองคนแต่ดูจากผู้ร่วมงานแล้วเป็นไปไม่ได้เลยที่จะไม่รับเอาแรงบันดาลใจจากภาคเนือ้หาของท่านๆเหล่านั้นมาใส่ไว้ด้วย หึหึหึหึ


ดูข้อมูลส่วนตัว ส่งข้อความส่วนตัว
ตอบโดยอ้างข้อความ
ตอบ  
แหมมมมมๆๆๆๆๆๆๆๆ เขียนไปเขียนมานี่ประดุจว่าตัวเองเป็นโปรดิวซ์เซอร์อีติ๊เลยเนอะ แต่ก็สื่อในสิ่งที่ตัวเองจะคิดออกและจินตนาการออกมาได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้อ่ะค่ะ Smile Very Happy Smile Laughing Cool

ดูข้อมูลส่วนตัว ส่งข้อความส่วนตัว
แสดงเฉพาะข้อความที่ตอบในระยะเวลา:
ตอบ หน้า 3 จาก 8
ไปที่หน้า ก่อนหน้า  1, 2, 3, 4, 5, 6, 7, 8  ถัดไป
คุณไม่สามารถสร้างหัวข้อใหม่
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
คุณไม่สามารถแก้ไขข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลบข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลงคะแนน
  


copyright : forwardmag.com - contact : forwardmag@yahoo.com, forwardmag@gmail.com