สำนักงานควบคุมโรค เผยข้อมูลกลุ่มชายรักชายในชนบทใช้น้ำยาล้างจาน ซันไลต์ แทนสารหล่อลื่นร่วมเพศทางทวารหนัก แจงเพราะหาง่าย-ราคาถูก ชี้สุดอันตราย ระบุหลายคนติดเชื้อในท่อปัสสาวะขึ้นมา เตือนหากโรคลุกลามจะเป็นโรคที่รักษาหายยากมาก พร้อมเผยตัวเลขกลุ่มชายรักชายป่วยเอดส์พุ่งพรวด เพราะมีความเชื่อผิดๆ คิดว่าร่วมเพศทางทวารหนัก-ปากไม่ติดเอดส์
ปัญหาความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ และความคิดผิดๆ ของกลุ่มชายรักชายที่มีเพศสัมพันธ์ในลักษณะสุ่มเสี่ยงอันนำไปสู่การติดเชื้อของโรคต่างๆ ยังเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง แม้หลายฝ่ายจะพยายามประชาสัมพันธ์ และให้ความรู้ถึงการมีเพศสัมพันธ์อย่างระมัดระวัง ล่าสุดมีรายงานจากอาสาสมัครโครงการพัฒนารูปแบบการป้องกันโรคเอดส์ในกลุ่มชายรักชายว่า พบพฤติกรรมการมีเพศสัมพันธ์ของกลุ่มชายรักชายใน จ.ขอนแก่นที่ทำให้เกิดความสุ่มเสี่ยงต่อการติดเชื้อในโรคเพศสัมพันธ์ได้ง่ายมากขึ้น
เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 22 สิงหาคม กลุ่มงานควบคุมโรค สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดขอนแก่น ร่วมมือกับกลุ่มงานควบคุมโรค 3 จังหวัด ได้แก่ อุดรธานี ภูเก็ตและกรุงเทพฯ จัดอบรมนำเสนอผลการดำเนินงานให้ชุมชน ในโครงการพัฒนารูปแบบการป้องกันโรคเอดส์ในกลุ่มชายรักชาย ที่โรงแรมโฆษะ จ.ขอนแก่น
นางวัลภา ปรางค์ธวัช หัวหน้ากลุ่มงานควบคุมโรค สสจ.ขอนแก่น กล่าวว่า ขณะนี้สถานการณ์เชื้อเอชไอวีกำลังแพร่กระจายในกลุ่มชายขายบริการหรือกลุ่มชายรักชายจำนวนมาก และจากสถิติในปีที่ผ่านๆ มาตัวเลขผู้ติดเชื้อพุ่งสูงขึ้นและยังไม่มีวี่แววว่าจะลดลง เนื่องจากการให้บริการทางเพศระหว่างชายกับชายนั้น ผู้ซื้อบริการและผู้ขายบริการเกือบ 100% ไม่มีการป้องกันขณะร่วมรักแต่อย่างใด โดยบุคคลกลุ่มนี้มีความคิดที่ผิดๆ ว่าการร่วมรักกันระหว่างชายกับชายทางทวารหนักหรือทางปากนั้นจะไม่ทำให้ติดเชื้อเอชไอวี ซึ่งความเชื่อที่ผิดๆ เหล่านี้ ทำให้ตัวเลขของการแพร่กระจายของเชื้อเอชไอวีพุ่งสูงขึ้นทุกปี
อย่างไรก็ตามจากสถิติการสำรวจของกรมควบคุมโรคพบว่า ตั้งแต่ปี 2003-2007 กลุ่มชายรักชายที่เป็นเด็กอายุระหว่าง 12-20 ปี ร้อยละ 22.2 ติดเชื้อเอชไอวีและมีแนวโน้มพุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากเด็กๆ กลุ่มชายรักชายที่ขึ้นมาใหม่ๆ เหล่านี้มีความรู้น้อยในเรื่องการป้องกัน บางคนก็เรียนรู้จากเพื่อน บางคนก็เรียนรู้จากหนังสือ และไม่กล้าขอคำปรึกษาจากแพทย์หรือสาธารณสุขเลย ซึ่งถือว่าสถานการณ์น่าเป็นห่วงมาก
นางวัลภากล่าวอีกว่า เมื่อแนวโน้มกลุ่มเสี่ยงชายรักชายติดเชื้อเอชไอวีเพิ่มจำนวนมากขึ้น งานควบคุมโรค สสจ.ขอนแก่น จึงร่วมมือกับกลุ่มงานควบคุมโรค จ.อุดรธานี ภูเก็ต และกรุงเทพฯ ร่วมกันทำโครงการพัฒนารูปแบบการป้องกันโรคเอดส์ในกลุ่มชายรักชายขึ้นมา เพื่อป้องกันและลดการแพร่กระจายของเชื้อเอชไอวีในกลุ่มชายรักชาย โดยโครงการได้ขอความร่วมมือจากอาสาสมัครกลุ่มชายรักชายทั้งในเขตพื้นที่ จ.ขอนแก่น และใกล้เคียงสมัครเข้ามาอบรมและร่วมกันปฏิบัติงานจริงกับเจ้าหน้าที่ ในการแนะนำความรู้เรื่องวิธีการร่วมรักที่ป้องกันการติดเชื้อเอชไอวีให้ เพื่อชายกลุ่มเสี่ยงเหล่านี้จะได้แนะนำและบอกต่อๆ กันไป
ด้านนายธนพงษ์ โกยุทพงศธร อาสาสมัครโครงการพัฒนารูปแบบการป้องกันโรคเอดส์ในกลุ่มชายรักชาย กล่าวว่า ขณะนี้การทำงานในพื้นที่กำลังได้รับผลตอบรับจากเพื่อนๆ กลุ่มชายรักชายเป็นอย่างดี หลังจากที่ได้พูดคุยกับพวกเขาและให้ความรู้การป้องกันการติดเชื้อเอชไอวีขณะร่วมรัก ซึ่งเพื่อนๆ เหล่านี้ก็เริ่มมีการป้องกันขึ้นอย่างเห็นได้ชัด หลังจากที่ผ่านมาแต่ละคนไม่เคยป้องการเลยขณะมีเพศสัมพันธ์
"ขณะเดียวกันหลังลงพื้นที่พบปัญหาใหญ่ที่น่าเป็นห่วงมากก็คือ กลุ่มชายรักชายตามหมู่บ้านและชนบทหันมาใช้น้ำยาล้างจาน แทนสารหล่อลื่น เพราะหาง่าย ราคาถูก และสะดวก ซึ่งถือว่าเป็นความเชื่อผิดๆ ที่กลุ่มชายรักชายไม่รู้และกำลังใช้น้ำยาล้างจานแทนสารหล่อลื่น และพบว่าหลายคนที่ใช้แล้วเกิดการติดเชื้อในท่อปัสสาวะขึ้นมา หากลุกลาม และรักษาไม่ทันก็เป็นโรคที่รักษาหายยากเช่นกัน ซึ่งหลังรู้ถึงปัญหาก็ได้มอบสารหล่อลื่นให้ใช้แทน เพื่อป้องกันการเจ็บป่วย" นายธนพงษ์กล่าว
นายชาติวุฒิ วังวล ผู้ประสานงานศูนย์ความร่วมมือไทย-สหรัฐด้านสาธารณสุข กล่าวว่า จากการสำรวจสถิติอัตราความชุกของเชื้อเอชไอวีในกลุ่มชายรักชายตั้งแต่ปี 2003-2007 เป็นต้นมา พบว่า ปี 2003 กลุ่มชายรักชายติดเชื้อเอชไอวีร้อยละ 17.3 ในปี 2005 พบว่าชายรักชายติดเชื้อเอชไอวีร้อยละ 28.3 และล่าสุดปี 2007 ชายรักชายติดเชื้อเอชไอวีร้อยละ 30.7 ซึ่งแสดงให้เห็นว่าถ้าหากไม่มีการยับยั้งและป้องกัน อนาคตคงจะมีชายรักชายติดเชื้อเอชไอวีเพิ่มจำนวนมากขึ้น
_________________