ในยุคใหม่ซะละ คือกะหรี่หลายๆตัวมีการใส่ใจในภาคเนื้อหา และใส่ความเป็นตัวเองลงไปเยอะมากกว่ายุคเก่าๆ ที่ทุกอย่างถูกโปรดิวเซอร์ฉาบให้เป็นคนนั้นคนนี้
ละที่สำคัญคือ lyrics ไปจนถึงเพลงประเภท self-view , self-acceptance ที่มันถูกนำเสนอมาในรูปแบบอื่นๆ
อย่างสมัยก่อนพอใครจะแต่เพลงถึงตัวเองคือมีสองอย่าง คือคร่ำควญ กับวีนๆเหวี่ยงๆนางร้ายไปเลย
แบบ ก็กูเป็นอย่างเงี้ยร้ายๆมึงจะทำไม รึไม่ก็ฟูมฟาย ร่ายยาว
ละพอเราพูดถึงเพลงชะนี่ 1 สิ่งที่แยกออกจากอีดอกพวกนี้ไม่ได้คือเรื่อง ผช ไม่ว่าจะเป้นแนวเพ้อควย หรือด่าผช ต้องมี ผู้ชายเลวชั่วเหี้ย กดขี่ผู้หญิง เมมินิซึ่มแบบวร้ายๆเฟียซๆ แต่แบบ ในยุคนี้มันเปลี่ยนไปเยอะอยู่หนาแม่
ตอนนี้ที่ผ่านหูผ่านตา คือมีอยู่ 3 เพลง
คือ
1. Anit-Hero ของอีเทย์ คือแม่ง พูดถึงตัวเองได้ดีมากๆ วาทะศิลป์ การเปรียบเปรย กัดตัวเองเบาๆ เล่าความรู้สึกแบบไม่ต้องพากพิงถึงใึคร
2. Flowers กับ Used to be young
เพลงแรกคือ จะมีเพลงที่ empower มนุษย์ที่ไหนทำได้ดีกว่าเพลงนี้ในปี 2023 ป่ะะะ คือมันไม่ใช่เพลงให้กำลังใจแบบเลี่ยนๆเว่อๆ แต่มันเป็นเพลงแบบ ง่ายๆ ก็แค่ทำงี้ทำงั้น รักตัวเอง จบ ไม่ฟูมฟาย ไม่ร้าย แต่ก็เชิ่ดได้เบาๆ ส่วนอี I used to be young คือแม่ง มาสเตอร์พัซเพลงช้าอีไหมละมะ นี่ฟังละร้องไห้ตามเลย คือมัน emotional มากๆทุก verse ทุกท่อน มันเป็นความรู้สึกแบบ อิ่มเอมใจ ยอมรับตัวเอง grow up จริงๆ และด้วยความที่กเทยหลายคนเองก็ผ่านร้อนผ่านหนาว ผ่านการด่าแหกหีอีไหมสมัยเป็นบ้าใน Bangerz มาแล้ว พอมาเจอเนื้อเพลงนี้ ทั้งเราทั้งอีไหมเองก็เติบโต เพลงนี้จึงแบบ โอย ที่สุดของที่สุด แอบชมอีกอย่าง เนื้อเพลงอีนี่มีสัมผัส ซึ่งหาได้ยากมากๆๆๆๆในเพลงสมัยนี้ คือ นึกจะใส่คำอะไรก็ใส่ ไม่ต้องคลองจองมันแล้ว
3. Thank you, Next อีอาหรี่ผู้เกือบจะมาก่อนการ เพลง break-up ที่ดีที่สุึดเพลงนึง เริ่ดเชิด แต่ไม่ได้ฝากรอยแผลให้ใคร โฟัสตัวเอง ไม่ฟูมฟาย ตีความได้หลากหลาย






