
ก็หลังจากจุกจากรีวิวคุณนายติ๊ไปก็แอบหายหน้าไปซักระยะนะคะเพราะเขียนอะไรเยอะๆยาวๆไม่ค่อยไว้ ก่อนอื่นต้องขอบอกคนอ่านทุกท่านที่ส่งอีเมลล์มาว่าอีเมลล์พวกคุณนี่ดิฉันอ่านหมดนะคะแต่ไม่ได้ตอบก็แค่นั้นคือส่วนตัวเป็นคนชอบอ่านไปเพลินๆมากกว่าแถมถ้าจะให้ตอบทุกคนนี่ก็คง....ไม่ไหวเนอะ ^ ^ รวมถึงเรื่องรีวิวที่ค้างไว้รีเควสต์ที่ติดอยู่แล้วก็100อันดับที่ปักหมุดนี่ช่วงกลางๆเดือนหน้าก็จะทยอยๆลงมาแล้วกันนะคะ อันนี้สัญญาแต่อย่าเอาอะไรด้วยมากมายเพราะถ้าใครติดตามบอร์ดรีวิวมาจะรู้ว่าแนสทิน่านี่เป็นนักรีวิวที่บ้าๆบอๆลมเพลมพัดคิดจะตั้งกระทู้ก็บ้าตั้งแม่งคนเดียวยาวเหยียดพอตั้งแล้วไม่มีอารมณ์ยกเลิกมันดื้อๆเลยก็มีบทที่คิดจะหายไปก็หายไปซะงั้น ดังนั้นทำใจซะเน้ออออออออ!!!! หึหึหึ
แต่อันนี้รับผิดชอบจนหมดจริงๆแน่นอนค่ะเพราะตอนนี้เป็นอะไรที่อยากจะเขียนถึงแม่มาลัย "มารายห์ แครีย์" มากๆ ด้วยความที่พวกดิว่าตัวแม่ๆขวัญใจดิฉันเขาก็ได้รับเกียรติลงอะไรใหญ่ๆเป็นไฮไลท์กันไปหมดแล้วอย่างเจ๊แม่มาดอนน่านี่ก็เป็นMusic Cassanovaคนแรก คริสทิน่าก็ได้ลงเป็นรีวิวใหญ่ประจำปียาวเหยียดที่ปักหมุดให้คุณๆอ่านกันตาเหลือกอยู่ บริทนีย์ก็เคยเป็นแกนหลักของรีวิวอัลบั้ม12ดิว่าเมื่อคริสมาสต์ของ2ปีที่แล้วไปแล้ว เจโลกับไคลีย์ดิฉันก็จับเอาอัลบั้มล่าสุดของชีๆมานั่งคาดการณ์มั่วๆสั่วๆกันอย่างเมามันส์.....แล้วแม่มาลัยล่ะ? (เออ ไม่เคยทำอะไรเป็นไฮไลท์ถึงนี่หว่า) ดังนั้นก็เลยหาเรื่องเขียนถึงซะเลยนะคะเพราะมีคนอ่านหลายท่านเคยขอให้จัดอันดับ10เพลงโปรดของศิลปิน......วันนี้ก็เลยถือโอกาสประเดิมแม่มาลัยสุดที่รักเป็นคนแรกเลยแล้วกันนะคะ หึหึหึ

10 . The One : Charmbracelet
ไล่จากอันดับ10สำหรับดิฉันขอยกให้ The One เพลงจากงานชุด Charmbracelet ของเธอที่ภาพรวมเป็นงานอาร์แอนด์บีเนือยๆแม้จะสว่างใสบริสุทธิ์และอบอุ่นหากแต่ก็ค่อนข้างจะเป็นงานแบบร้อยเนื้อทำนองเดียวคือมันดูเหมือนๆกันไปหมดกลืนๆกันไปหมดจนอาจจะกลายเป็นงานที่ดูน่าเบื่อซึมเซาสำหรับบางท่านอีกทั้งยังหาแทร็คที่แข็งโดดเด่นถึงขั้นเป็นไฮไลท์จริงๆได้ไม่มากนักถ้าเทียบกับงานชุดอื่นๆเสียด้วย หนึ่งในเพลงที่เป็นหน้าเป็นตาของงานชุดนี้ก็มี The One เพลงนี้แหละแม้จะเป็นพ็อพอาร์แอนด์บีนวลๆใสๆแต่เด้นเด้งด้วยบีทฮิพฮอพกระฉึกกระฉักพอโยกได้หวานๆและการเล่นเมโลดี้ที่ดูละเมียดละไมประณีตเหนือชั้นกว่าหลายๆแทร็คอย่างเห็นได้ชัดนอกจากนี้แม่มาลัยยังขโมยซีนทุกสิ่งอย่างด้วยการขุดวิทยายุทธ์ในการอิมโพรไวซ์เสียงระรัวเร็วที่ฟังแล้ว แหมมม งวดนี้มาออกแนวสวยแกมเซ็กซี่เจิดจรัสมากกว่าหลายงวดที่ออกมาแล้วแหลมแสบโสตพาลให้ปวดขี้เป็นไหนๆ สำคัญที่สุดคือเป็นหนึ่งในเพลงที่คิดว่าท่อนคอรัสเพราะที่สุดเท่าที่เคยฟังจากมารายห์มาเลยทีเดียว

Angels Cry : Memoirs Of An Imperfect Angel
ยังอยู่ในอันดับที่10นะคะ สำหรับเพลงนี้ก็อยู่ในงานชุดล่าสุดของเธอซึ่งถ้าจำไม่ผิดน่าจะเป็นซิงเกิ้ลล่าสุดของงานชุดนี้ด้วยที่เป็นเวอร์ชั่นรีมิกซ์แล้วดึงนีโยมาดูเอ็ทด้วยน่ะค่ะแต่ส่วนตัวกลับชอบออริจินัลเวอร์ชั่นมากกว่ากลับเพลงแนวมิดเทมโพพ็อพอาร์แอนด์บีซึ่งก็เป็นโลโก้ของมารายห์มาตั้งแต่อัลบั้ม The Emancipation Of Mimi หลังจากที่ประสบความสำเร็จอย่างสวยงามจาก We Belong Together นะคะ และถึงแม้ว่าเพลงนี้จะไม่พ้นที่จะถูกครหาว่าเป็นได้แค่เงาที่เดินย่ำตามสูตรสำเร็จของ We Belong....แต่สำหรับดิฉันค่าสำหรับจิตใจเพลงนี้มีอะไรมากกว่าเพลงท็อปชาร์ตนั้นมากด้วยภาคเนื้อหาที่แต่งออกมากรีดใจคนที่เคยมีประสบการณ์ที่ต้องลาจากกับคนที่รักมากๆรวมถึงเป็นการลาจากแบบยเจ็บปวดรวดร้าวทุกข์ระทมสุดๆได้อย่างมีวาทะศิลป์จนน่าขนลุกโดยเฉพาะท่อนที่ว่า ....we used to touch the sky And Lightning don't strike The same place twice When you and I said goodbye I felt the angels cry เล่นเอาดิฉันถึงกับบ้าไปเลย เป็นหนึ่งในการใช้อุปลักษณ์ในการรังสรรค์เนื้อหาที่สวยงามและสะท้อนออกมาเป็นรูปธรรมที่สุดของมารายห์เลยทีเดียว อย่างไรก็ตามแม้ว่าสำหรับดิฉันเนื้อเพลงจะดูเศร้าๆไปนิดแต่ก็ยังมีมุมที่อบอุ่นชวนให้คิดถึงบรรยากาศเก่าๆและความรู้สึกดีๆที่เคยมีกับหลายๆคนที่รัก ถึงแม้ว่าทุกวันนี้อาจจะไม่ได้แม้แต่จะเป็นเพื่อนกันแต่เมื่อย้อนกลับไปมองชีวิตเวลาที่มีพวกเขาอยู่ก็ปฏิเสธไม่ลงนะคะว่า.....มันเคยสวยงามขนาดไหน

Stay The Night : The Emancipation Of Mimi
อันดับ10ตัวสุดท้ายเป็นเพลงจากงานชุด The Emancipation Of Mimi ซึ่งถ้าจำไม่ผิดรู้สึกว่าคานยี เวสต์จะเป็นคนโปรดิวซ์ให้ด้วยนะคะ ก็สำหรับแทร็คนี้ก็เป็นโอลด์สคูลพ็อพอาร์แอนด์บีละเมียดละไมพริ้วๆกึ่งบัลลาดเหยาะลูกเล่นโซลหวานๆลงไปได้อย่างน่ารักโรแมนติคเซ็กซี่เหลือใจ เป็นแทร็คที่ส่วนตัวต้องขอออกปากว่าเสียดายเนื่องจากบารมีโหงวเฮ้งในตัวสูงส่งถึงขั้นจับวางเป็นซิงเกิ้ลส่งท้ายสวยๆได้เหมาะเจาะกว่าเพลงจำพวก Mine Again หรือ Fly Like A Bird เป็นต้น (เพลงหลังนี่ดีมากๆนะคะไม่ใช่ไม่ดี แต่เอาไปเป็นบีไซต์หรือเก็บไว้เป็นไฮไลท์ในอัลบั้มจะเหมาะกว่า) เป็นอีกหนึ่งงานที่ส่วนตัวไม่เคยคาดคิดว่ามารายห์จะทำออกมาและจะทำออกมาได้ดีขนาดนี้

9.It's Like That : The Emancipation Of Mimi
อันดับที่9เป็นซิงเกิ้ลเปิดตัวจากอัลบั้ม The Emancipation Of Mimi กับเพลง It's Like That ที่เป็นงานพ็อพอาร์แอนด์บีเต้นรำติดฮิพฮอพตามสไตล์มารายห์ที่ไม่ธรรมดาแม้ว่าในแง่ของเครดิตในความเป็นมาสเตอร์พีซอาจจะเทียบกับ Honey หรือ Heartbreaker ไม่ได้ แต่ส่วนตัวแทร็คนี้ชนะใจ2เพลงดังดังกล่าวไปตรงความที่มีฮุคที่แรงและโครงสร้างที่แข็งแกร่งชัดเจนกว่าหลายช่วงตัวมากๆแถมเป็นการขุดลูกบ้าของทั้งมารายห์และแขกรับเชิญมาชนิดเต็มสตรีมทั้งแร็พ อิมโพรไวซ์ แผด หอนแม่เล่นครบครันหมด นับว่าเป็นแทร็คเปิดตัวในระดับGreatest Comebackที่สมศักดิ์ศรีที่สุดสำหรับมารายห์เลยทีเดียว แม้ว่าอันดับเพลงบนฝั่งบิลบอร์ดจะไปได้สวยสุดแค่ท็อป20แต่เมื่อพิจารณาจากที่เธอตกลงไปถึงขีดสุดกับช่วง2อัลบั้มก่อนหน้านี้ ก็ต้องนับว่าเพลงนี้เธอได้สร้างมาสเตอร์พีซสวยๆขึ้นมาสำหรับทศวรรษนี้อีกเพลงเลยทีเดียว

8. There's Got To Be A Way : Mariah Carey
อันดับถัดไปนี่ย้อนกลับไปที่งานชุดแรกของมารายห์เลยนะคะ ซึ่งก็เป็นงานที่ซิงเกิ้ลทั้ง4ซิงเกิ้ลที่ตัดออกมาเนี่ยประสบความสำเร็จบนบิลบอร์ดชาร์ตถึงอันดับหนึ่งทุกเพลงเลยทีเดียวหากแต่ส่วนตัวแอบเสียดายค่ะที่เพลงดีๆอย่าง There's Got To Be A Way เพลงนี้ซึ่งก็เกือบจะได้เป็นซิงเกิ้ลที่5อยู่แล้วสุดท้ายก็กลับไม่ได้ตัดโปรโมต ซึ่งส่วนตัวเท่าที่ฟังแล้วเป็นเพลงที่มีภาษีและพลังในตัวสูงมากๆชนิดที่ถ้าตัดออกมาฟาดอันดับหนึ่งตัวที่5ก่อน Emotions ได้ชนิดสบายๆแน่นอนด้วยภาคเนื้อหาแนว Inspiration ที่ทรงพลังกรีดลึกลงไปถึงจิตวิญญาณ (แปลเอาเองนะคะดิฉันขี้เกียจแปลค่ะ เด่วจะกลายเป็นรีวิวยาว) รวมถึงในเรื่องของดนตรีที่นับว่าเป็นหนึ่งในธีมที่ดีของทศวรรษ90ได้เลยทีเดียว เสียดายที่โลกไม่ได้รู้จักเพลงดีๆเพลงนี้อย่างกว้างขวางเท่าที่ควรจะเป็น


7.Looking In : Daydream/Butterfly : Butterfly
สำหรับอันดับที่7เป็นการครองอันดับร่วมกันของ Looking In อัลบั้ม Daydream กับไทเทิ่ลแทร็คจากงานชุด Butterfly สำหรับเพลงแรกเป็นบัลลาดของมารายห์ที่เศร้าที่สุดเท่าที่เคยฟังมาเลยทีเดียวด้วยภาคเนื้อหาที่ลึกและเชือดเฉือนว่าด้วยปลอบประโลมจิตวิญญาณของตนจากความทุกข์ระทมจากการแสวงหาจุดยืนของศักดิ์ศรีและความแข็งแกร่งภายในตนเองภายใต้มรสุมจากสภาพสังคมที่เชี่ยวกรากและอำมหิตที่ต้องเผชิญ ในขณะที่แทร็คหลังจะออกแนวInspirationเชิงโซลและกอสเพลตามแบบฉบับบัลลาดบริสุทธิ์สว่างๆสไตล์มารายห์ที่เราๆรักและคุ้นเคยดี เป็นสองเพลงที่ชอบหยิบมาฟังเวลาเครียดๆและหดหู่ท้อแท้เนื่องจากพอฟังแล้วทุกตัวโน๊ตที่เปล่งออกมาจากดนตรี เสียงโซลของเธอและเนื้อหาทุกตัวอักษรให้แง่คิดอะไรที่ลึกและเยอะมากๆ จนเปรียบเสมือนการหล่อหลอมเราให้มองโลกในมุมใหม่ที่สว่างและแกร่งขึ้นอีกครั้ง


6. Vision Of Love : Mariah Carey/Without You : Music Box
สองเพลงนี้เรื่องความสุดยอดและการเป็นที่ยอมรับนี้ก็คงไม่ต้องไปพูดอะไรถึงมากมายแล้วมั้งคะ ก็ต้องนับว่าเป็นสองเพลงระดับบรมครูที่มีอิทธิพลต่อชีวิตการฟังเพลงของดิฉันมากๆเป็นสองเพลงที่ทำให้ไม่เพียงแต่รู้จักและรักมารายห์หากแต่รวมไปถึงเป็นสองเพลงทีทำให้รักดนตรีสากลมาจนถึงทุกวันนี้ เป็นสองซิงเกิ้ลระดับตำนานของโลกอย่างแท้จริง
แก้ไขล่าสุดโดย Armand D'Angouleme เมื่อ Wed Jul 28, 2010 8:09 pm, ทั้งหมด 11 ครั้ง