ก็เป็นหลอดลมอักเสบค่ะ ไม่สบายมาประมาณ 5 วันได้แล้วค่ะ แล้วหนูก็ไม่ได้ไปหาหมอ เพราะมัวแต่ทำงาน แล้วได้มาหาหมออีกทีก็คือเป็นหนักแล้ว จนต้องเข้าโรงพยาบาลไป 4-5 วันเลยค่ะ คุณหมอบอกว่าเหมือนเราไอเยอะมากมันก็เลยติดเชื้อที่ปลายประสาทหู ทำให้น้ำในหูไม่เท่ากันทำให้หันหน้าเร็วไม่ได้ ซึ่งคุณหมอก็กำชับว่าอย่าเครียดอย่าคิดมาก ให้นอนเยอะๆ พักผ่อนให้เพียงพอ อย่าทำงานหนักมาก แล้วก็อยากให้งดใช้เสียงปรี๊ดๆ บ้าง เพราะมีช่วงนึงที่เราใช้เสียงมากเกิน มันก็จะทำให้อักเสบได้ แต่ตอนนี้ก็โอเคแล้ว เพราะดีขึ้นค่ะ''
ผู้สื่อข่าวถามต่อว่าการสั่งห้ามใช้เสียงกรี๊ดจะมีผลกระทบต่อบทบาทการแสดงของสาว ''กุ๊บกิ๊บซี่'' หรือไม่เนื่องจากที่ผ่านมาเธอมักจะได้รับบทนางร้ายมาตลอด ซึ่งเรื่องนี้ดาราสาวยืนยันว่าไม่น่ามีผลกระทบอะไร
''ริทเพิ่งออกจากโรงพยาบาล อาการก็คือเราใช้เสียงเยอะทำงานทุกวันแล้วก็ไม่ได้พักผ่อน มันก็เลยทำให้อาการมันหนักขึ้นเรื่อยๆ คือล่าสุดก่อนเข้าโรงพยาบาล 2 วันก็มีงานทั้ง 2 วันก็ต้องเดินทาง เลยทำให้ไม่ได้พักผ่อน ใช้เสียงมาก พอเสร็จงานก็เข้าโรงพยาบาลเลย ซึ่งอาการมันเกี่ยวกับทางหลอดลมครับ เพราะว่าอาจจะมีสิ่งแปลกปลอมเข้าไปด้วย คือตัวริทเป็นภูมิแพ้แล้วก็แพ้อะไรง่ายอยู่แล้วด้วยก็เลยทำให้เป็นหลอดลมอักเสบ คุณหมอก็แนะนำให้ถนอมเสียง ต้องหาเวลาพักผ่อนเยอะๆ แล้วก็กินยาตามที่หมอสั่ง ตอนนี้อาการก็ยังไม่หายร้อยเปอร์เซ็นต์ ถามว่ากังวลไหม ริทก็กังวลนะครับ ถ้ามันยังเป็นๆ หายๆ คือตัวริทก็เป็นคนที่ไม่ค่อยแข็งแรง ก็เป็นห่วงตัวเองเหมือนกัน
ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวยังได้ซักถามต่อว่าช่วงที่ต้องอยู่ในโรงพยาบาลเพื่อนชายคนสนิทอย่างหนุ่ม ''มาริโอ้'' มาเยี่ยมบ้างไหม ซึ่งเรื่องนี้ดาราสาวบอกว่า หนุ่มโอ้นั้นมาเยี่ยมเธอเป็นประจำ ก่อนเปรยว่า คนเราเห็นใจกันก็ตอนเจ็บไข้ได้ป่วยนี่แหละ
''ก็ไปค่ะ ก็ไปดูแล ก็เห็นใจตอนนี้แหละ (หัวเราะ) เขาก็พยายามหาเวลาไปดูแลเรา เขาก็ไปหาเราบ่อยนะคะ คือถ้ามีเวลาว่างเขาก็จะมาเสมอ ยังไงก็ฝากขอบคุณไปด้วยค่ะ''
อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวยังได้อัพเดตความสัมพันธ์ระหว่างดาราสาวกับหนุ่ม ''มาริโอ้'' ณ ตอนนี้เป็นอย่างไรบ้าง ซึ่งกุ๊บกิ๊บซี่เผยว่า
''ถ้าเกิดเป็นแบบนี้ตลอดมีแน่นอน อย่างตอนนั้น ริทไปคอนเสิร์ตที่ร้อยเอ็ด ตอนนั้นการโชว์ของเราก็ไม่เต็มร้อย พอมาที่สุพรรณฯ ก็ไม่เต็มร้อยเข้าไปใหญ่ แต่ช่วงนี้ก็พยายามดูแลตัวเองให้ดี กินอาการเสริม ดูแลร่างกายให้แข็งแรงอยู่เสมอครับ แฟนคลับให้กำลังใจดีมาก มีทวิตเตอร์มา ก็ฝากบอกทุกคนไม่ต้องเป็นห่วงริท โอเคดีขึ้นและทำงานต่อได้แล้วก็ขอบคุณทุกๆ กำลังใจที่ส่งมาให้เรียกว่าทำให้ริทหายไว้ขึ้น'' ริท กล่าว
''ก็โอเคแล้วนะคะ แต่ก็ยังไม่เต็มร้อย ก็ยังไม่มีใครพูดอะไรต่อจากตรงนั้น คือตอนนี้ที่เรายังคุยกัน ไม่ได้กลับมาดีกันแล้วเริ่มนับหนึ่งใหม่นะ เพราะความเป็นเพื่อนของเราไม่ได้หายไปไหนเลย แต่เราคงจะเริ่มนับหนึ่งใหม่ในความสัมพันธ์แบบอื่นมากกว่า''
แก้ไขล่าสุดโดย Jessay เมื่อ Thu Apr 14, 2011 7:43 pm, ทั้งหมด 1 ครั้ง
_________________
