:::เกริ่นนำ:::
David Archuleta (เดวิด อาร์ชูเลต้า) หนุ่มน้อยหน้ามนแก้มยุ้ย ที่ไขว้คว้าไล่ล่าความฝันมาตั้งแต่เด็กๆ และประกวดมาแล้วหลายเวที จนในที่สุดก็ได้มาแจ้งเกิดในรายการประกวดสุดฮิตอย่าง American Idol โดยที่ตัวเขาเองคว้าอันดับ รองชนะเลิศ ประจำ ซีซันที่ 7 โดยเป็นรอง David Cook ที่ชนะในปีนั้น หลังจากจบการประกวดเขาก็ได้ปล่อยซิงเกิ้ลแรกในชีวิตกับเพลง Crush ที่ทะยานขึ้นอันดับ 1 บนชาร์ต iTunes และ Debut อันดับ 2 บน Billboard Hot 100 โดยเป็นรอง Disturbia ของ Rihanna ที่คว้าอันดับ 1 ไป แต่ดูเหมือนเส้นทางก็ยังไม่สวยหรูนักกับสตูดิโออัลบั้มแรกที่ใช้ชื่อเดียวกับตัวเขาเอง David Archuleta ที่ Debut อันดับที่ 2 (อีกแล้ว) บน Billboard Top 200 ชาร์ตอัลบั้มของบิลบอร์ดโดยเป็นรอง สาวน้อยขวัญใจอเมริกันชนอย่าง Taylor Swift กับอัลบั้ม Fearless ด้วยความที่หน้าตาหล่อ น่ารัก กับงานเพลงฟังสบายๆ ก็ทำให้พ่อหนุ่มอาร์ชูเลต้า โด่งดังอย่างไม่อยากรวมถึงได้ไปเป็นแขกรับเชิญในซีรีย์วัยรุ่นสุดฮิตอย่าง Hannah Montana โดยในปี 2009 เขาก็ปล่อยอัลบั้มคริสมาสออกมาและเริ่มโด่งดังเรื่อยๆ รวมไปถึงแทบเอเชียบ้านเราที่โด่งดังมาก แถมเจ้าตัวเองก็ชอบอาหารไทยมากโดยเฉพาะผัดไท
ปี 2010 ได้ปล่อยอัลบั้มลำดับที่ 2 อย่าง The Other Side of Down ที่เป็นเพลงป็อปสนุกๆ แม้ในอเมริกาจะไม่เปรี้ยงนัก แต่ในเอเชียก็ทำให้พ่อหนุ่มอาร์ชีย์ขึ้นแท่นเป็นหนุ่มหน้าใสขวัญใจสาวแท้สาวเทียมอย่างมากจนต้องปล่อย Asia Tour Edition ออกมาและทัวร์คอนเสิร์ตในเอเชีย แม้ช่วงปลายปีที่แล้วเจ้าตัววางแพลนจะมาจัดคอนเสิร์ตที่ไทย แต่ก็ต้องมีอันยกเลิกไปเพราะเหตุน้ำท่วม ซึ่งเป็นที่น่าเสียดายแทนแฟนๆ หลายคนในประเทศไทย ความดังในเอเชียของอาร์ชีย์นั้นเริ่มดังมากในประเทศฟิลิปปินส์ จนทางนู้นเสนอให้ไปเล่นเป็นตัวเอกในละครโทรทัศน์ที่นู้นและออกอัลบั้ม Forevermore อัลบั้มที่คัฟเวอร์เพลงดังๆของ ฟิลิปินส์ ออกมาวางขาย ให้แฟนๆหายคิดถึง แต่แล้วก็มีเหตุการณ์ที่ทำให้แฟนๆต้องเศร้าไปตามๆกัน กับการประกาศ ว่าตัวเองต้องไปทำภารกิจในเผยแพร่ศาสนาคริสต์นิกาย Mormon เป็นเวลา 2 ปี แต่ก่อนที่เขาจะไปนั้น เขาก็ได้เข็นอัลบั้มใหม่ ที่เป็นเพลง Cover เพลงโปรดทั้งหลายของเขา รวมถึงมีเพลงใหม่ที่เจ้าตัวแต่งอยู่ในอัลบั้มนี้ด้วย โดยเหมือนกับว่าให้อัลบั้มนี้กับแฟนๆ ฟังไปก่อน แล้วรอเขากลับมา BEGIN. เริ่มต้นใหม่อีกครั้ง ในปี 2014
BEGIN. อัลบั้มนี้เป็นอัลบั้มส่งท้ายก่อนที่ David Archuleta จะไปปฏิบัติภารกิจ เป็นเวลา 2 ปี โดยอัลบั้มนี้เจ้าตัวให้เลือกเพลงมา Cover และแต่งเพลงใหม่ 1 เพลงในคอนเซ็ปต์ที่ว่า เป็นเพลงที่ให้แรงบัลดาลใจกับผู้คนและเข้าถึงความรู้สึกพวกเขาได้ โดยในอัลบั้มนี้ได้มีเพลงดังๆ มากมายที่เจ้าตัวเลือกมาคัดเลือก
1. Beautiful (Christina Aguileara)
ตัวเพลงยังคงเมโลดี้เปียโนหลักของต้นฉบับไว้ดีเยี่ยมรวมทั้งยังรักษาอารมณ์ของเพลงไว้ได้อย่างครบถ้วน และบีทกลองที่หนักขึ้นและดิบขึ้นให้ความรู้สึกว่าเป็นไลฟ์สดๆ
2. Somewhere Only We Know (Keane)
เพลงนี้รักษาดนตรีของต้นฉบับไว้ครบถ้วนทุกอย่างแต่แอบมีหยดเครื่องสายเพื่อเสริมพลังให้เพลงดูขลังและอลังการขึ้นมาอีกหนึ่งระดับ
3. Everybody Hurts (R.E.M.)
เพลงนี้อาร์ชีย์เปลี่ยนให้เมโลดี้ให้หวานขึ้นด้วยไลน์เปียโนกับเครื่องสาย จุดเด่นของเพลงนี้ของเป็นการถ่ายทอดอารมณ์ผ่านน้ำเสียงที่ทำให้เรารู้สึกสะเทือนอารมณ์และทราบซึ้งไปกับความหมายดีๆของเพลงนี้ได้เป็นอย่างดี
4. Don't Give Up (feat. Libby Linton) [Gabriel & Kate Bush]
เพลงนี้ยังคงอารมณ์ความเป็นบัลลาดร็อคของออริจอนอลได้อย่างดีเยี่ยม อีกทั้งงานนี้ยังมีนักร้องหน้าใหม่มาร่วมร้องด้วยอย่าง Libby Linton ที่ขอบอกว่าเสียงเธอหวานและนุ่มชวนฝันมากๆ
5. Angel (Sarah McLachlan)
เวอร์ชั่นนี้ยังคงรักษาความเป็น Adult contemporary ได้อย่างดีเยี่ยมแถม อาร์ชีย์เองเวลาร้องเพลงแนวนี้ก็เพราะมากๆอยู่แล้ว
6. Bridge over Troubled Water (Simon & Garfunkel)
เพลงนี้เป็นเหมือนจุดพีคของอัลบั้มกันเลยทีเดียวกับน้ำเสียงที่ใส่อารมณ์เข้าไปอย่างเต็มที่ของอาร์ชีย์
7. Broken (Original Song)
บัลลาดซึ้งๆกับเมโลดี้เปียโนหวานๆ กับเนื้อหาให้กำลังใจ ซึ่งเพลงนี้อาร์ชีย์ยังแต่งเองอีกด้วย
8. True Colors (Cyndi Lauper)
เพลงนี้เดินบีทกลองเพิ่มความเป็น Pop/Rock ให้กับเพลงและอีกสิ่งนึงที่ดีของเพลงนี้คือเสียงของอาร์ชีย์เองก็คงต้องบอกว่าฟังลื่นหูกว่าต้นฉบับ
9. Pride (In the Name of Love) [U2]
เพลงชื่อดังของ U2 ที่อาร์ชีย์เอามาทำเป็น Pop/Rock สนุกๆ
10. Be Still, My Soul (Sibelius)
เพลงนี้เป็นเพลงสวดสรรเสริญของชาวคริสเตียน ที่อาร์ชีย์เลือกเพลงนี้มาคัฟเวอร์ปิดอัลบั้ม
โดยภาพรวมแล้วอัลบั้มนี้หามาฟังเพลินๆก็ได้อยู่ หรือหยิบมาฟังในวันไหนที่ท้อแท้หมดกำลังใจ
หลายๆเพลงในนี้ก็เป็นเพลงให้กำลังใจอยู่แล้ว ก็เผื่อว่าเพลงเหล่านี้จะช่วยส่งเสริมกำลังใจให้กับทุกคนที่ฟัง แม้ว่าจะไม่ค่อยได้ปรับเปลี่ยนดนตรีจากต้นฉบับซึ่งอาร์ชีย์เองก็คงอยากให้เพลงมันคงอารมณ์ความขลังของต้นฉบับเอาไว้ ซึ่งส่วนตัวมองแล้วก็คัฟเวอร์ออกมาได้ดีและไพเราะมากๆ
MV เพลง Everybody Hurts ในเวอร์ชั่นของ David Archuleta
แถม รูปจาก Booklet สวยๆ
แก้ไขล่าสุดโดย Disney Boy เมื่อ Mon Oct 29, 2012 1:11 am, ทั้งหมด 2 ครั้ง
