Jessica Simpson - In the Skin
รอบนี้เป็นรีวิวอีดิทจากรีวิวเดิม ชิ้นที่2 หลังจากเคยเขียน Teenage Dream: The Complete Confection มาแล้ว ซึ่งเป็นการเขียนใหม่หมดเช่นเดียวกัน งานเขียนชิ้นนี้ รีเลือก In the Skin ของพ็อพสตาร์อดีตภาพลักลักษณ์ Virgin Girls Next Door เจสสิก้า ซิมพ์สัน มารีวิวใหม่อีกครั้ง ก่อนอื่นขอเกริ่นหน่อย จากที่เป็นขาจรเจสซิมพ์มาตลอด จนกลายเป็นแฟนเพลงนาง ที่ติดตามมาทุกอัลบั้ม เห็นการเปลี่ยนแปลงมากมาย รู้สึกทั้งสมเพชและสงสารในชะตาชีวิตในสายอาชีพการงานของนาง เพราะตลอดเวลาในวงการสายดนตรีและบันเทิง เป็นที่รู้กันว่าชีจะดังในหมู่ข่าว Gossip ฉาวโฉ่มากกว่างานเพลง (แม้แต่งานวาไรตี้หรือบรรดาซีรีย์ที่นางเล่น) เป็นพวกสาวบลอนด์ชอบทำตัวโง่ๆ อาทิ ฉากล้างรถสุดอัปปรีย์ในมิวสิควิดีโอเพลง These Boots Are Made for Walkin' ทำให้โดนด่าทั่วบ้านทั่วเมืองยันปัจจุบันก็ยังไม่มีผู้ใดสามารถลืมความต่ำตมของเอ็มวีนั้นได้ หรือข่าวฉาวผัวๆเมียๆ ไม่ว่าจะเป็นกรณี Talk of The Town ข่าวหย่าร้างกับสามีคนแรก นิค ลาเช่ จากวง 98 Degrees หรือ โทนี่ โรโม่ ควอร์เตอร์แบ็กชื่อดัง แถมเสียงพังช่วงอัลบั้ม A Public Affair ที่สำคัญยังโดนจับไปเปรียบเทียบกับน้องสาวในไส้อย่างนังแอชลีอยู่บ่อยครั้ง ส่วนในแง่ผลงานเพลงของชีก็เงียบเป็นเป่าสากหลังจากโดนวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักกับอัลบั้มล่าสุดที่ฉีกไปทำแนวคันทรีอย่าง Do You Know ที่ดับอนาจ ไม่ได้ผุดไม่ได้เกิด (อัลบั้ม Happy Christmas ล่าสุดก็เงียบซะจนนึกว่าไม่เคยมีอยู่ในโลก) จนล่าสุดอ้วนฉุเป็นหมีควาย ซึ่งทั้งหมดทั้งมวลนี้ก็ช่วยฉุดกระชากให้ชื่อเสียงของนังเจสซิมป์ก็fadeลงอย่างห็นได้ชัดเจน จนโดนเหล่าคลื่นลูกเก่า ลูกใหม่แซงกันไปหลายขุม ทำให้ลืมไปว่าในอดีตเธอคือหนึ่งในตัวแทนทีนควีนที่จะขับเควี้ยวแย่งตำแหน่ง No.1 ของวงการเพลงพ็อพฝ่ายหญิงในยุคบอยแบนด์ เกิร์ลกรุ๊ฟครองเมือง เป็นคู่แข่งที่น่ากลัวของเจ้าหญิงเพลงพ็อพ บริทนี่ย์ สเพียร์สฺ และ กระหรี่ติ๊นา อากีเลรา ที่ทั้ง4นาง(รวมทั้งอีแมนดี้) มักถูกจับเปรียบมวยกันตลอดว่าใครจะฮอตฮิตเป็นตำนานมากกว่ากัน และที่สำคัญในจะได้สดุดีจากติ่งและเหล่าแฟนคลับให้ได้รับตำแหน่งราชินีเพลงพ็อพต่อจากเสด็จป้าเหี่ยวฟ้า มาดอนน่า คนต่อไป แต่ใครจะคิดล่ะว่าหนึ่งในทีนดิว่าที่มีพลังเสียงแปดปรอทในยุคมิลเลเนียมจะตกอับกลายป็นพ็อพปสตาร์ฉาวโฉ่จนเงียบฉี่อย่างทุกวันนี้
In the Skin : 90%
หนึ่งในสตูดิโออัลบั้มของนาง ซึ่งเป็นสตูดิโออัลบั้มลำดับที่3 ซึ่งถือเป็นหนึ่งในอัลบั้มที่นางประสบความสำเร็จอีกอัลบั้มหนึ่งไม่แพ้ Sweet Kisses ก็ว่าได้ ด้วยยอดขายที่มากกว่า7ล้านก็อปปี้ส์ทั่วโลก (ในเมกาขายได้มากกว่า4ล้านก็อปปี้ส์) และครองชาร์ตtop20อัลบั้มขายได้ได้ในหลายๆประเทศโดยเฉพาะในอเมริกาบ้านเกิดที่ติดที่14ในชาร์ตอัลบั้มประจำปี2004อีกด้วย
รูปแบบลักษณะแต่ละแทร็คในอัลบั้มนี้ ส่วนใหญ่จะยืนพื้นด้วยงานทีนพ็อพผสมพ็อพร็อคอ่อนๆ อาร์แอนด์บี โซลบัลลาดแนวดิว่าแนวสไตล์ถนัดของอีเจส ตลอดทั้งซาวด์เพลงแบบภารตะและงานอคูสติกฟังสบายๆ ถือว่าเป็นอัลบั้มที่ครบตรงสูตรสำเร็จเพลงพ็อพอัลบั้มหนึ่งที่ฉาบอยู่บนพื้นฐานงานทีนพ็อพที่คงสไตล์อีเจสได้สบบูรณ์เลยก็ว่าได้
จุดเด่นและจุดด้อย
หลังจากฟังครบทุกอัลบั้มแล้ว ปฎิเสธไม่ได้ว่า อีนี้ไร้การพัฒนาในการทำงานสายดนตรีมากๆ ถึงจะปฏิวัติภาพลักษณ์ไปทำงานคันทรี่ย์ก็ยังออกมาเสร่อ (แม้ว่าเนื้องานจะใช้ได้ก็ตาม) เพราะภาพลักษณ์ของนางก้าวล้ำนำหน้าผลงานและฝีมือนางอยู่เสมอ (อยู่ดีๆไม่ว่าดีจากสาวใสๆเวอร์จิ้น อินโนเซ้นต์ อยากจะทำภาพลักษณ์ให้ดูร่านดีนัก ถึงจะทำให้ดังเวอร์ แต่ก็เป็นดาบสองคม ทำให้คนเลิกสนใจงานหร่อนแล้วหันมาสนใจว่าเอ็มวีหน้าจะแหกอะไรโชว์อีกแทน ก็สมน้ำหน้าไปตามระเบียบนะค่ะ)
อืมมมม ด่าไปซะเยอะ แต่ไม่ได้หมายความว่าอีเจสซิมพ์จะเป็นพวกศิลปินสมองขี้เลื้อย ไร้ฝีมือซะทีเดียว เอาแค่ด้านทักษะการร้องและพลังเสียงช่วงพีคๆ อีนี้กินขาดหมดทุกนาง ไม่เว้นแม้แต่อีหรี่ติ๊นา นางเป็นตัวแทนอีหมีหรือป้าเตารีดรุ่นดิว่าได้สบายเลย ถ้าใครยังคิดถึงเพลงพลังเสียงสุดพลังอย่าง I Wanna Love You Forever หรือ Your Faith In Me ก็สามารถหาฟังพลังเสียงแปดปรอทแบบนั้นได้เหมือนกันจากอัลบั้มนี้อย่างเพลง Angels หรือ Take My Breath Away ที่เป็นเพลงคัฟเวอร์มาอีกที
แต่สิ่งที่ชอบที่สุดในอัลบั้มนี้ จนถึงกลับมาเขียนใหม่ และกล้าเอ่ยปากว่า นี้แหล่ะ เป็นงานระดับมาสเตอร์พีซบนเส้นทางสายดนตรีตลอดชีวิตของอีเจสเองเลยทีเดียว นั้นก็คือ ความหมดจดของแต่ละแทร็คที่เรียบเรียง ถ่ายทอด และเรียงร้อยออกมาได้สวยงามที่สุด และไม่ถูกจับยัดไปเปรียบเทียบเป็นเงาของใครอีก ไม่ว่าจะเป็นงานคัฟเวอร์ งานบัลลาด งานทีนพ็อพ ทุกอย่างคือเพลงและตัวตนของเจสสิก้า ซิมพ์สันที่ไม่ใช่ตัวแทนของใครอีก
ส่วนจุดด้อย ใครขาแนวดิว่าอาจจะค่อนข้างฟังได้เรื่อยๆ แต่สำหรับใครไม่ชอบสไตล์ฟังเอื่อยๆเรื่อยๆแบบพวกดิว่าแก่ๆใกล้เกษียร ก็จะกลายเป็นอัลบั้มที่น่าเบื่อเว่อร์ๆ
Singles of In the Skin
Sweetest Sin : 3.5/5
ถ้าไม่ติดกับภาคเนื้อหากระหรี่ที่ไม่ช่วยจรรโลงสังคมกับเอ็มวีหนังเรตอาร์สิ้นคิด ที่สัจแต่จะร่วมเพศกันท่าเดียว ตัวเพลงนี้กลับเป็นงานที่สวยงาม ดูดีแบบงานทีนพ็อพอาร์แอนด์บีที่เป็นสมัยนิยมขึ้น พร้อมภาพลักษณ์สุดสวาท กับเสียงร้องแน่นๆ แหบพร่าสไตล์การร้องยุคหลังของอีเจสเอง ตัวเพลงก็เป็นงานพ็อพกึ่งเก่ากึ่งใหม่ เป็นงานที่อยู่ช่วงรอยต่อของงานยุคบับเบิ้ลกรัมพ็อพรุ่งเรือง ยุคบัลลาดดีว่าผสมกับดนตรีพ็อพอาร์แอนด์บีช่วงต้นยุคมิลเลเนียม กับกีต้าอคูสติกเบาๆ หวานๆที่ชวนเคลิ้มไปกับบาปแสนหวานของเพลงนี้ได้
With You : 4/5
ซิงเกิ้ลลำดับที่2ของอัลบั้ม ที่กลับสู่ภาวะปกติ ด้วยงานทีนพ็อพอาร์แอนด์บี บีทง่ายๆ เนื้อหาสดใสปนตอแหลนิดหน่อยตรงกันข้ามกับซิงเกิ้ลแรกโดยสิ้นเชิง ตัวเพลงเป็นงานทีนพ็อพอาร์แอนด์บี ติดกลิ่นโฟล์คอ่อนๆ โดยนำเสนอด้วยการริฟกีต้าร์เป็นสไตล์อาร์แอนด์บี ผสมกับซาวด์สังเคราะห์หน่อยๆ ตามสูตรงานทีนพ็อพในยุคนั้น เป็นแทร็คที่แฟนเพลงและแฟนคลับนาง รวมทั้งตัวรีเองค่อนข้างชอบ เพราะฟังง่ายและไพเราะ เหมาะสมที่จะมาเป็นซิงเกิ้ลที่สุด เพราะช่วยส่งเสริมภาพลักษณ์ในความเป็นงานพ็อพลูกผสมชั้นดีได้ลงตัว
Take My Breath Away : 4.5/5
ซิงเกิ้ลที่3ในอัลบั้ม ที่ตัวเพลงนี้เอง เคยป็นเพลงประกอบภาพยนต์ในยุค80 เรื่อง Top Gun ที่ถูกคัฟเวอร์ใหม่ในรูปแบบงานโอล์ดสคูลที่คงสไตล์ยุค80ไว้ผสมกับพ็อพบัลลาดอาร์แอนด์บีอดัลท์คอนเทมโพรารี่ ผสารเสียงออเครสต้าคลอสวยงาม โชว์เนื้อเสียงโซลหวานๆและทรงพลัง ซึ่งทำได้ดีไม่แพ้เวอร์ชั่นออริจินอลน่ะ แต่กลับนำเสนอในแบบเจสซิมพ์และคงความเป็นเพลงของเจสซิมพ์ไว้ในเนื้องานได้ดี แบบไม่กลัวโดนเวอร์ชั่นเก่ากลบเลยแม้แต่น้อย การร้องและถ่ายทอดทำได้เหมาะสม ไม่มากเกินไป ขอชมเลยว่าหร่อนฉลาดในการเลือกเพลงนี้มาคัฟเวอร์และทำมันได้ดีมาก เพราะเวอร์ชั่นออริจินอลทำได้ดีมากๆอยู่แล้ว อย่างดีก็ทำได้ดีเสมอตัว แต่อีเจสกลับทำให้น่าฟังในสไตล์อีเจส เป็นเพลงของเจสเอง เริ่ดเว่อร์
Angels : 2/5
เป็นซิงเกิ้ลปิดอัลบั้ม และหนึ่งในเพลงคลาสสิคที่ถูกคัฟเวอร์จากศิลปินมากหน้าหลายตา โดยเจ้าของเพลงนี้คือ Ray Heffernan ส่วนเวอร์ชั่นคัฟเวอร์ที่ดังที่สุดเป็นของ Robbie Williams โดยเวอร์ชั่นอีเจสนี้ ได้ทำมาในลักษณะงานที่พ็อพกว่างานของร็อบบี้มาก (เวอร์ชั่นแรกไม่เคยฟังนะ เอาเวอร์ชั่นของร็อบบี้เป็นบรรทัดฐานเลยละกัน ของร็อบบี้จะโซลและเข้มกว่า) เป็นงานพ็อพโซลหวานๆซอล์ฟๆกว่าถ้าเทียบกับของร็อบบี้ วิลเลี่ยมส์ คือจริงๆสำหรับรีแล้ว ไม่ว่าของใครก็ไม่ค่อยปลื้มเพลงนี้อยู่แล้ว แต่อีเจสทำได้หนักกว่าคนอื่น คือมันไม่เพราะเลย อีดอก สักแต่แหกปากจนฟังไม่รู้เรื่อง เสียงก็อู้อี้ขึ้นจมูก ทำให้เพลงนี้ดับอนาจเช่นนี้แล
แก้ไขล่าสุดโดย nini เมื่อ Wed Dec 05, 2012 10:42 pm, ทั้งหมด 4 ครั้ง
_________________