ความรู้สึกก่อนดู : อยากดูมาก เพราะเรื่องนี้ถือเป็นหนึงในหนังที่รอคอยของ Darth Veder เลยก็ว่าได้ เนื่องจาก ทั้ง 2 ภาคที่ผ่านมา นอกจากจะมีเนื้อเรื่องที่แปลกแหวกแนวแล้ว ยังมีฉากการตายที่สยดสยองต่าง ๆ น่า ที่ควรได้รับคำชมด้วยประการทั้งปวง ในการสรรหาการตายที่พิสดาร และคาดไม่ถึง ! อีกอย่างเนื้อเรื่องมีการพัฒนาจากภาคแรกไปสู่ภาค 2 ได้อย่างน่าติดตาม ว่า ผู้ที่โกงความตายออกมานั้นถือเป็นเหมือนการเกิดรอยแตกของบัญชีความตาย นั้นคืออาจทำให้ผู้อื่น โกงความตายต่อไปเป็นถอด ๆ อีก ดังนั้นความตายจึงต้องอุดรอยรั่วของบัญชีทั้งหมด ด้วยเหตุการณ์รถชนกันกระหน่ำ ซึ่งเป็นฉากเปิดเรื่องในภาค 2 แต่นางเอก ( คิมเบอร์รี่ ) ก็ดันมีนิมิตเห็นเหตุการณ์ล่วงหน้าอีกจนได้ จึงทำให้ความตายต้องมาตามทวงทีละคนอีกตามเคย แต่ ! มันเป็นการทวงความตายที่สมควรตายไปตั้งแต่ทีแรกแล้ว การทวงจึงต้องทวงย้อนหลังจากที่เห็นในนิมิตของนางเอก เนื้อเรื่องดังกล่าวถือเป็นการพัฒนาไปสู่ภาค 2 ได้ดีเยี่ยม แถม หากใครตั้งใจดู ก็อาจคิดได้ว่า สิ่งที่นางเอกทำนั้นสามารถ ช่วยเธอโกงความตายได้ตลอดไปหรอ ?
ความรู้สึกระหว่างดู : เมื่อมีภาค 3 ตามมา นอกจากจะคาดหวังฉากการตายที่สยดสยองแล้วนั้น ยังหวังเป็นอย่างยิ่งอีกที่จะทราบว่าเนื้อเรื่องมีการพัฒนาไปในรูปแบบใดอีก และพวกเขาจะสรรหาการโกงความตายในรูปแบบใดอีก และมันจะช่วยพวกเขาได้มากเพียงใด ยังคิดอีกว่าน่าจะมีการเฉลย ว่าเหตุใดบุคคลเหล่านั้นทำไมพวกเขาจึงสามารถเห็นการณืล่วงหน้าได้ สัปเหร่อผิวดำทำไมถึงรู้ดีเรื่องความตายนัก เขารู้อะไรมากกว่านั้นอีก
....แต่สิ่งที่ Final Destination 3 ได้นำเสนอออกมากลับเป็นหนังที่มีเนื้อเรื่องย่ำอยู่กับที่ ไม่มีการเฉลยเรื่องดังกล่าวแม้แต่น้อย ไร้ซึ่งสิ่งแปลกใหม่ ทุกอย่างไม่มีอะไรอยู่เหนือการคาดเดา เพียงมานั้งดูพวกเขา โกง และ ควาย และ สมควรตายไปให้หมด อย่างไม่ต้องให้เดา ถือเป็นความผิดหวังในระดับ สูงสำหรับผม
ข้อดีที่ยังต้องชม : ฉากการตายที่ยังทำให้เราต้องนั่งหลังติดเก้าอี้ เอามือปิดปาก เสียวไปยังกระดูกก้นกก ถึงแม้ว่าจะน้อยกว่าภาคที่แล้วอยู่หลายขุมก็เหอะ มันก็ถือเป็นการตายที่น่ากลัวสูง อยู่ทีเดียว ไม่ว่าจะป็น ย่างสด , ยิงตำปู , ใบพัดเครื่องยนต์ ต่าง ๆ นา ๆ
ตรงนี้ซิสมควรโดนด่า : เนื้อเรื่องที่ไม่มีการพัฒนาแม่แต่น้อย เป็นการเอาของเก่ามาเล่าใหม่แบบหน้าด้าน ๆ แถมแย่กว่าภาคแรกด้วยซ้ำไป มันจึงเป็นภาคต่อที่ถือเป็นการก้าวถอยหลังลงหลุมและไม่สมควรออกมาโกงความตายอีกเลย ตั้งแต่ฉากนิมิตของนางเอก ซึ่งถือเป็นฉากเปิดเรื่อง เที่ยบไม่ได้กับฉากรถชนในภาค 2 แม้แต่ปลายก้อย พอเหตุการณ์ที่ตามมาก็ไร้ความแปลกใหม่ จึงทำให้ความน่าติดตามของเนื้อเรื่องลดลงถึงขีดต่ำสุด ได้แต่เพียงนั่งรอดูฉากการตายของตัวละครโง่ ๆ อวดดี ที่ตายกันไปทีละคน ทำให้คนดูไม่เบื่อไปมากกว่านี้ นั้นแหละเป็นข้อดีข้อเดียวในเรื่อง และตัวละครแต่ละตัวนอกจากจะโง่แล้ว ยังอวดดี จึงไม่สมควรที่จะรอด แม้แต่น้อย ต่างกับภาคที่แล้วที่เขาใจเลือกตัวละครมาโกงความตาย อย่างมีความคิดและน่าสงสารซึ่งมันเพิ่มเติมความเข้มข้นได้ดีทีเดียวยกตัวอย่าง หญิงแก่ ไร้สามี แล้วลูกยังมาตาย กับ หญิงวัยทำงานที่ชีวิตกำลังรุ่งเรื่อง พอในภาค 3 ก็มีแต่วัยรุ่นอวดดีอย่างที่บอก และโง่ บรม โดยเฉพาะนางเอกและพระเอก .....
สรุป : เรื่อง Final Destination 3 เป็นเพียงหนังแนวเดิมที่มีฉากสยอง ๆ เป็นจุดขาย และดาราหน้าตาดีเป็นไม้ประดับ อยู่ในเนื้อเรื่องสบาย ๆ เหมือนหนังหลอกเด็ก เทียบไม่ได้กับภาคที่แล้วแม้แต่ปลายก้อย ดูเอาเสียว ๆ แก้เบื่อช่วงปิดเทอมไปวัน ๆ แค่นั้นพอ
ความชอบ : 2 เต็ม 5
เกรด : C
_________________
คุยหนังภาษาหมา