ผู้รู้ IT AGIAN
ตลอดในวงการเพลง10 กว่าปีที่ผ่านมา เธอผู้สร้างบทบาทสำคัญต่อวงการเพลงป๊อบไว้มากมาย เป็นสตรีผู้ผันแปรวงการเพลงป๊อบให้ปั่นป่วนในยุค 2000 บางทีนั่นก็คือสาเหตุที่ทำให้บริทนีย์ไม่ว่าจะยังไงก็ยังรักษาสถานะ ซูปเปอร์สตาร์ผู้มีอิทธิพลคนนึงของโลกไว้ได้ แม้ตัวเทอจะลงไปสู่จุดตกต่ำแค่ไหน แต่ทันทีที่เธอกลับสู่วงการก็เป็นเรื่องที่เซอไพรซ์กับวงการเพลงทุกครั้งไป
และแล้วปี 2011 เธอก็มีอัลบั้มใหม่ออกมาใช้ชื่อสวยหรูว่า "FEMME FATALE" ได้ออกมาภายใต้คอนเสร็ป Sexy and Strong. Dangerous yet my sterious Cool yet confident ! สร้างความตื่นเต้นให้กับแฟนเพลงอีกครั้งโดยการขึ้นอันดับ 1 Itune Single Chart ถึง 20 ประเทศหลังจากปล่อยขายเพียงแค่วันเดียว จากเพลง Hold It Against Me ซึ่งสัปดาห์นั้นถูกเปิดออกอากาศทางสถานีวิทยุในอเมริกาอย่างถล่มทลาย!!
อัลบั้มนี้บริทนีย์มีการพัฒนาตัวเองจาก Blackout มายัง Circus สู่ "FEMME FATALE" ได้อย่างลงตัวมีความชัดเจนแล้วดูมีเอกภาพที่สุดจากสองอัลบั้มที่กล่าวมา บริทนีย์คงจับไต๋ตัวเองได้ว่าทำเพลงบัลลาดยุคไดโนเสาใกล้สูญพันธุ์แบบนังมารายคงไม่สำเร็จลุล่วงไปได้สำหรับเธอ ชีจึงเน้นไปที่เพลงแดนซ์แบบเต็มตัวตอบโจทย์ขาแดนซ์ยุคใหม่ได้ดียิ่งนัก!! บริทนีย์ยุคนี้ไม่ได้อยู่อย่างสบายๆแบบยุคก่อน เพราะนักร้องแนวเดียวกันนี้ออกมาราวกับดอกเห็ด ทั้งเลดี้ กาก้า เคชช่า เคที่ รวมถึงจัสติน บีเบอร์ ทำให้บริทนีย์ต้องกระเสือกกระสนอยู่พอสมควร เพลงในอัลบั้มนี้จึงถูกรังสรรค์ขึ้นเพื่อแดนซ์มันส์อย่างเดียวโดยไม่คำนึงถึงอันดับบนชาร์ตและกล่อง จะว่าไปอัลบั้มนี้มีเพลงแดนซ์ในหลายๆแบบมากกว่าที่หลายๆคนคิด หน้าเสียดายบางคนก็ส่ายหัวบ๊ายบายให้กับอัลบั้มนี้ไปแล้ว เหอะๆ
ยังไงก็ตามถ้าคุณชอบเพลงแดนซ์อัลบั้มนี้คุณจะไม่ผิดหวัง เพราะทีมโปรดิวเซอร์
ผู้ดูแลภาพรวมอย่าง Max Martin Dr. Luke และ Billboard ได้เสกอัลบั้ม FEMME FATALEนี้ขึ้นให้อยู่ภายใต้คำจำกัดของแนวเพลง "แด๊นซ์ อิเลคโทรป๊อป" ให้ออกมาอย่างลงตัวที่สุด
Till The World Ends(4/5)
ขอบ่นก่อนเลยซิงเกิ้ลที่ 2 ไหนๆก็จะปล่อยเพลงเอาใจตลาดแล้ว แอบเจ็บใจทำไมบริทถึงเลือกเพลงนี้ออกมาทั้งๆที่อัลบั้มนี้มีเพลงที่เรียกกระแส้กระแสได้กว่านี้อีก แต่เอาเหอะมันเก๋ใช่เล่นที่ไหนหล่ะ?
เพลงนี้ระดมไปด้วยโปรดิวเซอร์ยอดฝีมืออย่าง Max Martin เจ้าเก่า Dr. Luke โปรดิวเวอร์คู่บุญนังเคชช่า และอีกคนที่มีชื่อในวงการว่า Billboard ซึ่งเก่งในการทำซาวด์ใหม่ๆ อ่านแล้วก็ถึงกลับร้องอ๋ออออ ไม่แปลกใจเล้ยยย ที่หน้านังเคชช่าจะลอยมาแต่ไกล
ยิ่งท่อนตรง โหว่ว โอะ โอ โอ โอ โอ้ว โอ ช้านก็ตกใจนึกว่ามันเป็นเพลงเทศกาลบอลโลกรึป่าวฟังแล้วมันปลุกใจยังไงชอบกล ส่วนตัวว่าเป็นเพลงอิเลคโทรป๊อปที่ลงตัวมากๆเพลงหนึ่งของอัลบั้มนี้เลยนะคะ มีจังหวะเบสไลน์ได้ชัดเจน จนน่าตบมือให้แรงๆ เนื้อเพลงถึงจะไม่มีอะไรแปลกใหม่จนไม่อยากพูดถึง แต่ชีทำออกมาได้ดีในระดับที่คนด่าไม่ได้ ถึงแม้ว่ามันจะไม่ได้แปลกใหม่อะไร..
คะแนน ★ ★ ★ ★
Hold It Against Me(4/5)
ดีสโก้ ตึ้บๆ เหมือนเดินแฟชั่นโชว์ ฟังแล้วเอียนค่ะ แต่ท่วงทำนองที่สวยงามไม่รีบไม่เร่งแบบจังหวะก็ทำให้มันน่าฟังแล้วไพเราะเสนาะหู
ยอมรับว่าฟังครั้งแรกต้องอุทาน อุ๊ยตายยยย ชีคิดถูกใช่มั๊ยคะที่มาแนวนี้? แอบหวั่นๆนะคะ
แต่ตั้งแต่บริทกล่อมประโยค
If I said my heart was beating loud....... ก็บอกกับตัวเองว่า ช้านชอบเพลงนี้แหละ แบบว่ามันใช่!! เสียงบริทมาเต็มค่ะ การร้องเปลี่ยนไปเยอะพอสมควน ชอบท่อนที่ร้องว่า Imma be a little hazy
แต่ฟังกำลังเพลินก็ ว๊ายยยยยยยย รำคานท่อนเบรคแดนซ์จัง ขึ้นมาทำให้ตกใจนึกว่าเพลงอีจุ๋มที่ไหนแทรกมา อ๋อ ที่แท้ก็ช่วงพักครึ่ง แบบ ชิ๊ส์ เอาออกไปได้มั๊ยคะ?! พลิซซซซซ
บริทนี่ย์ ยกระดับเพลงเต้นรำธรรมดาๆเพลงนี้ให้ดูมีหีบห่อเป็นที่ต้องตาต้องใจได้ลงตัวไม่ยืดเยื้อกระชับรัดกุม คือจะบอกว่าเปนเพลงที่ง่ายก็ได้ แต่ก็ไม่ได้ง่ายแบบเพลงป๊อบสูตรสำเร็จนะจ๊ะ
คะแนน ★ ★ ★ ★
Inside Out(4/5)
หลังจากที่ครื้นเครงจนเกือบจะปวดหูไปกับเพลงเร็วๆเร่งบีทกันไป ก็ต้องโล่งใจค่ะที่แทร็คนี้เป็นเพลงพักหูชั้นดี เพราะเปนเพลงที่ลดจังหวะลงมาหน่อย Inside Out ผ่านการสังเคราห์แสงสีเสียงโดย Dr. Luke , Max Martin และ Billboard เช่นกัน แต่ถือว่าทำออกมาได้น่าสนใจกว่า Till The World Ends
ย้วยยานแต่เก๋เปรี้ยวคือคำจำกัดความของเพลงนี้สำหรับเราค่ะ เสียงสังเคราะห์ย้วยยานที่ทำไมต้องยานขนาดนี้ก็ไม่รู้ แต่ก็ถูกปรุงแต่งใส่เทคนิคลงไปไม่ให้เพลงดูน่าเบื่อ ส่วนตัวชอบเพลงนี้มากๆแล้วคิดว่าเป็นเพลงที่ดีมีชั้นเชิงที่สุดจนน่าจะตั้งไว้เปนแทรคแรก ติดตรงเนื้อหาเดิมๆที่ยังง๊ายยย มันก็ดู "อ่อน" เลยต้องจำใจหักคะแนนไปตามระเบียบ
คะแนน ★ ★ ★ ★
I Wanna Go(5/5)
ป๊อพเจืออิเล็คทรอนิก้า มีกลิ่นอายดิสโก้ยุค 80 ปนอยู่เล็กๆ จังหวะทำนองชั่งติดหูนึกถึงตอนสมัยที่ RCA เปรี้ยงๆ ที่เต้นจนฟลอร์แตก เป็นเพลงที่ปลดปล่อยและคนร้องได้อารมณ์ที่สุด บริทใส่จริตจกร้านความแรดร่านลงบนท่อน ....Shame On Meeeee วี้ๆๆๆๆๆ ว๊ายยยย ฟังแล้วช้านรู้สึกเปนอีตัวอยู่ตามซ่องจังเลยอ่ะ แม้จะมีกลิ่นเพลงอย่าง Hung Up ของสตรีหมายเลขหนึ่งของวงการอย่ามาดอนน่า ทำให้เป็นที่ถกเถียงกันในวงสนทนา แต่ทว่ามันมีเทคนิคที่เหนือกว่าแล้วตอบโจทย์เพลงป๊อบแดนซ์ได้ดีกว่า?
/ me กรีดอายไลเนอร์ พร้อมใจง่ายควักดาวในกระเป๋าให้เพลงนี้ 5 ดวงสวยๆ ค่ะ
คะแนน ★ ★ ★ ★ ★
How I Roll(3/5)
หอบแฮ่กๆกันไปนะคะ ฟังแล้วนึกว่าชีโดนผัวบีบคอ โอ๊ะโอ่ เพลงนี้น่ารักฟังแล้วสบายหูจัง ตลอดจนบางท่อนอย่าง Shimmy shimmy oh, shimmy oh shimmy eh ทำให้นึกถึงเพลงการ์ตูนชินจังไปได้ซะนี่
สดใสจนแทบลืมไปว่าชีอายุจะย่างเข้า 30 แล้วนะคะ การร้องเหมือนเด็กท่องหนังสือใหม่ๆ ทำนองไปแบบเรียบๆ ในแบบอิเล็คโทรพ็อพหวานๆใส่เทคนิคลงไปบ้างให้ดูน่าสนใจ มีเสียงรัวกลองตบแต่งให้เพลงนี้ฟังได้ตลอดจนจบเพลงโดยไม่เปลี่ยนแทรคหนี ถือเป็นเพลงพักเบรกอีกเพลงนึงของอัลบั้มนี้
คะแนน ★ ★ ★
(Drop Dead) Beautiful(3/5)
ใครจะว่าเริดแต่ช้านว่าไม่ (Drop Dead)Beautiful เป็นแทร็คที่รกไปด้วยเทคนิคโปรแกรมตบแต่งเสียงจากคอมพิวเตอร์จนน่าหงุดหงิด อี Drop Dead ที่ร้องย้ำหนะ คงจะคิดว่าเก๋แล้วสิ? จัสตินทำไปตั้งแต่ Sexy Backแล้วจ้า ฟังแล้วตลก แล้วบริทวานคนใช้ส่วนตัวมาร้องแทนชีรึป่าวก็ไม่รู้ได้ เพราะเสียงที่ถูกสังเคราะห์ตลอดแทบทั้งเพลงกลบเสียงจริงซะมิด แต่อ่านลิสต์ทีมโปรดิวเซอร์แล้วไม่แปลกใจทั้ง Benny Blanco, Ammo, JMIKE จนถึง Billboard ก็มาทางนี้จริงๆ แด๊นซ์ บวก พ็อพอิเล็คโทรนิคติดอาร์แอนด์บีเทคโนออโต้จูนเกลื่อนกลาด รกสกปรก ส่วนตัวไม่เห็นว่ามันมีความน่าสนใจตรงไหนนอกจากเสียงสังเคราะห์ที่รกรุงรัง 3 ดาวเท่านั้นแหละยะ
คะแนน ★ ★ ★
Seal With a Kiss (2/5)
เพลงนี้ดูธรรมดาสไตล์บริทนี้บริทนีย์นะคะ ฟังแล้วก็ไม่ได้โดดเด่นอะไรแทบจะไม่ได้นึกว่ามีเพลงนี้อยู่ในอัลบั้ม แต่มันก็ไม่ได้ชั่วร้าอะไรนะคะ เหมือนแค่เอามาใส่ให้มันเต็มอัลบั้มไปอย่างงั้นๆ
คะแนน ★ ★
Big Fat Bass featuring will.i.am(4/5)
เพลงนี้ได้ Produced อย่าง will.i.am ก็ วิลไอแอมจริงจริ๊งงง ซึ่งทำออกมาช็อคแฟนเพลงบริทนีย์ที่สุดในอัลบั้มนี้แล้วมั้งคะ เป็นเพลงเต้นรำ แบบ The Black Eyed Peas ชัดเจน แต่ will.i.am ก็ไม่ทำให้เสียชื่อหรอกนะคะ ระดมใส่ลูกเล่นปรับเปลี่ยนคีย์ให้มีความน่าสนใจแทบไม่ซ้ำกันทั้งเพลง จนฟังแล้วจะกลายเป็นเพลงลูกทุ่งยังไงชอบกลๆ แต่ฮีก็รีงสรรค์โดยการเอาแนวหลายๆแบบมาลองมาเล่น ประดิษฐ์ดัดแปลงใส่จนเสร็จลุล่วง จากพ็อพ แดนซ์ ธรรมดา ไปเป็น อาร์แอน บี ฮิพฮอพ สารพัดนู่นเลย เก๋ค่ะ
คะแนน ★ ★ ★ ★
Trouble for Me (2/5)
นวบหนาบๆอ่ะเพลงนี้ ดูหนึบๆ ดึ๋ยๆคงกะเก๋หละสิ ฟังยังไงก็ไม่เหมาะกะเธอเลย ทั้งกับเสียงดนตรีโดยเฉพาะกับเสียงที่ดูบูดๆเบี้ยวๆ แถมถูกautotune กลบรัศมีทั้งเพลงฟังแล้วอรมณ์ชวนฉุดรั้งบอกไม่ถูก กำลังจะส่ายสะโพกตามดนตรีก็มา ดึ๋งๆๆๆๆ พาอารมณ์หยุดชงักซะนี่ เห้อออ
คะแนน ★ ★
Trip To Your Heart (3/5)
ว๊ายย มาอีกแล้วเพลงน่ารักๆ ฟังแล้วรื่นหู หงุงหงิงๆ เป็นที่สุด เมโลดี้สวยมากน่ารักชวนให้ฝันดี ขณะเดียวความหวานของเสียงร้องก็ทำให้เพลงดูน่าฟังการร้องแบบเบาๆดนตรีลอยๆ ดูน่าสนใจอยู่พอตัว นึกไปถึงอัลบั้มเก่าๆของเธอเลยซึ่งเธอทำออกมาได้ไม่เลวเลย เป็นเพลงไว้สำหรับนั่งหน้าสวยทำตาแป๋วจิบน้ำส้มได้ดีเสียฉิบ สรุปลงตัวดีนะคะเพลงนี้ ชอบๆ
คะแนน ★ ★ ★
Gasoline(2/5)
เป็นเพลงที่ร้องตามแล้วตลกปากตัวเองเป็นที่สุด เพลงนี้ปราศจากการโปรดิวเซอร์อย่าง Max Martin ทำให้รู้สึกว่ามันดูห่างความเป็นบริทนีย์ไปพอสมควร ดูลึกลับเหมือนหนังสยองขวัญและหดหู่ ฟังแล้วเพลีย ตอนฟังครั้งแรกคิดว่ามันเป็นแทร็คที่จืดที่สุดในอัลบั้มรึป่าว เซอร์ไวเวอร์รอบแรกก็ต้องยกให้เพลงนี้แหละ แต่กลับเป็นว่าร้องเพลงนี้ติดปากเหมือนกันนะ หุหุ ท่วงทำนองก็โยกย้ายได้พองาม ติดอยู่ที่ว่ายิ่งฟังเรื่อยๆก็กลายเป็นเปื่อยๆไปในที่สุด
คะแนน ★ ★
Criminal(5/5)
ทำนองตอนแรกนึกว่าเผลอไปเปิดหนังโป๊จีนขึ้นมา เสียงเป่าอะไรอ่ะดูลึกลับปนสยิวชอบกล ถือเป็นเพลงที่เธอบรรจงตั้งใจและทำออกมาได้อย่างลงตัวมากถึงมากที่สุดเพลงนึงจากเพลงบัลลาดทั้งหมดของบริทนีย์เลยทีเดียว
มีความน่าสนใจอยู่มาก เนื้อหาที่ชั่งเด็ดดวงแสบสัน ทำให้ต้องคิดว่าเธอกำลังจะพูดอะไรถึงคุณอดีตสามีตัวแสบรึปล่าว? พร้อมส่งสานต่อให้คุณแม่ของเธอได้รับรู้ผ่านบทเพลงว่า mama, I'm in love with a criminal And this type of love isn't rational, it's physical Mama, please don't cry, I will be alright....
แต่อย่าไรก็ตาม เธอไม่แคร์มันแล้ว!!
คะแนน ★ ★ ★ ★ ★
โดยรวมอัลบั้มนี้ถือเป็นอัลบั้มที่บริทนีย์ได้แสดงออกถึงอะไรหลายๆอย่างในตัวเธอออกมาเพิ่มขึ้น มีศักยภาพเพียงพอที่จะรั้งตำแหน่งควีน ออฟ ป๊อพ บนโลกคนนึงเอาไว้ได้ต่อไป ทุกแทร็คมีความชัดเจนมากถึงมากที่สุดจนสามารถชีนิ้วได้เลยว่าจะตัดซิงเกิ้ลไหนดี เพราะมันก็ได้หมด อัลบั้มนี้ถือเป็นอัลบั้มคลับแดนส์ที่ดีและมีภาพลักษณ์ที่ชัดเจนอัลบั้มนึงเลยทีเดียว คนฟังสามารถรับรู้ได้ว่าอัลบั้มนี้คือแนวอะไร จะไปทางไหน แล้วจะชอบมันรึมั๊ย? อย่างไรก็ดีมันมีความสมบูรณ์แบบในตัวของมัน แม้จะไม่ได้หมายความว่าดีที่สุด อย่างน้อยๆอัลบั้มนี้ก็เป็นโจทย์ที่ตอบได้ว่า เหตุใด 1+2 จะเท่ากับ 3 หรือทำไมอัลบั้มนี้มีคะแนนแค่ 10 ในขณะที่คนอื่นได้กัน 20 -30 -40 บลาๆๆ
อัลบั้ม FEMME FATALE ให้ 4/5 ดาวค่ะ
คะแนน ★ ★ ★ ★
badboy_narakmark
FEMME FATALE : BRITNES SPEARS
[size=1][/url]
อัลบั้มล่าสุดลำดับที่ 7 ของม่ายสาวพราวเสน่ห์(ตรงไหน ดูไงก็นังบริทสุดโทรมยุดี) แต่ก็คงปฎิเสธไม่ได้ว่าแฟนคลับเธอเยอะเหลือเกิน หลังจากห่างหายไปจากวงการเพลงประมาณเกือบ 2 ปี(ไม่รวมรวมฮิตอีสามนะ) วันนึงติ่งทั้งหลาย แฟนคลับมีระดับรู้ผิดรู้ถูก หรือแฟนคลับงี่เง่าปัญญาอ่อนติ่งนรกแดกก็ตื่นจากผวงเมื่อข่าวแว่วว่าเจ้าหญิงแห่งวงการเพลงป็อบกำลังจะกลับมาอย่าเป็นทางการ และติ่งระเบิดอีกครั้งเมื่อซิงเกิลแรก เหี้ยม(Hold It Against Me) หลุดมาให้สดับ และแตกจนระเบิดอีกครั้งเมื่อ MV ออกมายั่วน้ำลายและทำออกมาได้ดีพอสมควร ท่ามกลางตัวแม่ยุคใหม่ 2GA และตัวแม่ที่กำลังกลับมาอย่างภาคภูมิอย่าง J.Lo ไม่ต้องตกใจกระทู้นี้จะไม่มีการเอาใครมาตีกัน แต่...ก็ปฎิเสธไม่ได้ และติ่งอ่านไว้ว่าอย่างี่เง่าเพราะอัลบั้มนี้บริทมีกลิ่นไอของศิลปินอื่นๆติดมาจริงๆ แต่...แหกตาดูคนแต่งสิครับ จะได้เลิกปัญญาอ่อนเสียที อีดอก!
Till The World Ends (4.5/5)
เอาซีดี(หรือmp3) ลงเครื่องเล่นเพลงแน่นอนนี่คือแทร็คแรก ส่วนตัวผมไม่เก่งด้านดนตรีอะไรมากมาย รู้แค่ว่าชอบไม่ชอบ เพลงนี้เป็นเพลงที่ติดหูง่ายที่สุดเพลงนึงในอัลบั้ม ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ เด็กอายุไม่กี่ปีสามารถฮัม โอ่ โอ โอ๊ะ โอ๊ะ โอ๊ะ โอ๊ โอ ได้อย่างไม่ต้องสอน ภาคดนตรีถ้าจะบอกว่าเหมือนแคชช่าก็คงไม่แปลกใจ แต่ส่วนตัวติดใจท่อนฮุคที่จับยัดมาหลายท่อนดี และถ้าโปรโมตดีๆ(ไม่แบบที่ทำตอนนี้อ่ะนะ) ผมเชื่อว่าเพลงนี้ไปไกลแน่ครับ เพราะมันสูตรสำเร็จความดังเลยล่ะ ถึงบางคนจะบอกว่าทำเพลงลงคลอง แต่ผม ไม่แคร์ ก็ชอบจะทำไมล่ะ
Hold It Against Me (3.5/5)
ซิงเกิลแรกที่ปล่อยออกมาและไปติดอันดับ 1 ซึ่งทำให้แฟนคลับชื่นใจ อย่างน้อยอีบริทก็ไม่แป้ก ดีใจด้วยครับ ผมเองก็ดีใจ ส่วนตัวเพลงนี้ชอบ แต่น้อยกว่าเพลงที่แล้ว ด้านมิติของเพลงเพลงนี้ใส่มาเยอะครับทั้งท่อนฮุคและเบรคแดนซ์ทำออกมาได้ดีทีเดียว แต่ยังไง๊ยังไงมันก็ดูขี้ไม่สุด มีเซ็กส์ไม่ถึงจุดสุดยอดอยู่ดี เฮ้อ...เพลีย
Inside Out (4/5)
มันต้องนี่สิครับ เพลงนี้ผมชอบตั้งแต่หลุดมาไม่กี่วิ เดินมาด้วยดนตรี ติ่ง ติ๊ง ติง ติ่ง แต่สังเคราะห์นะ เก๋ดีดนตรีมีชั้นเชิง แต่ก็ไม่ได้เลิศไรมากหรอก กับเสียงชอร์ตๆหน่อย มาสะดุดอีกทีกับท่อนฮุค Common... อีบริทแผดสังเคราะห์ซะติ่งกระจาย แหมมันเริ่ดตรงนี้ กับเสียงติดๆขัดๆ เหมือนเป็นเพลงจังหวะกลางๆ แต่เต้นแบบกระตุกๆท่าทางจะเริ่ด ก็...ชั๊นเต้นมาแล้วในกระจกห้องน้ำในสภาพเปลือย ดูมะล่ะ555+
I Wanna Go(5/5)
ตกใจไหมครับ คะนนเว่อไป อีฝรั่งบอกเพลงนี้อ่อนที่สุด จะเอาอุนจิโยนใส่หัวอีรีให้ สำหรับผมไม่เลยครับ ดาษไหม ดาษครับ เกลื่อนไหม เกลื่อนครับ ธรรมดามะ เหมือนจะธรรมดาครับ แต่ดนตรีชวนเต้น เพลงธรรมดาอีบริทหยิบมาร้อง+กับเสียงของมันที่ต้องพิจารณาว่าดีไม่ดี แต่เสือกฟังเพลิน ใครจะสน แทร็คนี้เก๋กับเสียงผิวปากสังเคราะห์(ขนาดเสียงดนตรีมันยังสังเคระห์ เสียงมันล่ะ จะเหลือมะ)มีแอบหัวเราะแรดๆในเพลงด้วย บีทน่าเต้น ไม่ต้องพูดไรอีก ผมว่าหลายคนชอบ จบแมะ!
How I Roll(3.5/5)
เสียงยังกับคนป่านะอีหอก555+ ตอนมานี่ฮาดี ชอบครับ ถือว่าทำออกมาได้ดี ดีที่มันไม่ใส่มาเยอะทั้งเพลง มีหมดสำหรับเพลงนี้ แรด ฮา หรือ แอ๊บแบ๊วอย่าง บ่อมๆๆๆ น่ารักครับ การใช้เสียงก็ยังทำได้ดี ท่อนสลับ หญิง ชาย ก็เพราะดี ส่วนตัวชอบครับ เพราะผมชอบดูอาราเล่ ฟังอีบริทบ่อมๆแล้วสบายหูดี มีเสียง ฟองลูกโป่ง ปุ๊ดๆๆๆด้วยแหละ ว๊าวๆ ชอบจัง อาราเล่มากๆ อุนจิ(โยนใส่หัวอีรี อีกละ!)
(Drop Dead) Beautiful Feat.Sabi(3/5)
งงมะอีซะไบแพรนี่มันใคร นั่นสิได้ข่าวว่าเด็กปั้นนังบริท หรือก็เอามาจับยัดใส่ลงเพื่อโปรโมตชี ฉลาดนะครับค่ายที่จับใครมิรุมาร้องกับอีบริทที่เข้าถึงยาก เจ๋งได้อีก เพลงนี้เดินมาแบบมันส์แต่ก็เนิบ(ยังไงวะ) แต่ส่วนตัวไม่ไรมากครับ เพลินดี แต่เฉยๆ เหมือนเพลงใครไม่รู้ หุหุ
Seal It With A Kiss(3/5)
ดนตรีตอนเริ่มมีความหวังว่ามันจะแดนซ์ซ่องแตก ไม่ก็ล้ำไปถึงโลกหน้า แต่พอฟังจริงๆ อ้าว...ไรของเมิง แต่ก็ชอบครับ อาจจะไม่ได้ล้ำไรมากมาย แต่ท่อนฮุคโอเค เพลินดี ฟังได้เรื่อยๆ จะตั้งใจฟัง ฟังบนรถ นั่งขี้ มีเซ็กส์ เอาไปฟังเหอะเพลินดี ทำออกมาได้ดีไม่เสียชื่ออีบริทครับ แถมมีช่วงเบรคแดนซ์ดนตรีหลอนๆ ก็แปลกดีนะชอบ
Big Fat Bass Feat.Will.i.am (4/5)
ตอนแรกแอบผิดหวังเพราะตั้งความหวังไว้มาก แต่ฟังไปฟังมามันโอเคเลยล่ะครับ เริ่มต้นด้วยเสียงเฮียแก แล้วก็เล่นกับบีทตัวเองนิดนึงโดยการค่อยๆให้หนักขึ้นเรื่อยๆถือว่าเก๋ครับ ดนตรีโอเคเลยล่ะเพลงนี้ โอเคตรงไหน ตรงฟังดีๆหมอลำบ้านเรามากครับ เหมือนหมอลำ จริงๆนะฟังดีๆ แล้วก็ดนตีที่ทำออกมาคล้ายๆวงตัวเอง กับดนตรีออกแนวเกมโชว์บ้านเรา(อีวิวไอแอม หล่อนแอบมาบ้านช๊านเหรอ ไมมันคุ้นๆ มันแลดูหมอลำ) แต่ก็เก๋ดีครับที่มิกซ์เสียงอีบริทออกมาแปลกดี ส่วนตัวตัดได้ไหม ตัดได้ครับสำหรับหมอลำฝรั่งเพลงนี้ แต่ดังไม่ดัง อีกเรื่องเนอะ
Troble For Me(2.5/5)
จริงๆมันไม่แย่อะไรหรอกเพลงนี้ เสียงก็ทำออกมาดี แต่ดนตรีก่อนถึงท่อนฮุค ผมรำคาญครับ รอให้ฟังนานๆคงจะชอบ แต่ท่อนกลางโอเค แต่เกลียดดนตรีบ้านี่ เลยหักแหลก แล้วใครจะทำไมฮ๊า!!!
Trip To Your Heart(4/5)
จริงพิมพ์ทีแรกให้แค่ 3.5 แต่พอท่อนฮุคมา เออให้อีกนิด 4 ท่ายากอย่างสวยๆ มาด้วยดนตรีติดๆขัดๆแต่ไม่รำคาญอย่างเพลงที่แล้ว ทำออกมาได้ดีครับเพลงนี้ โดยเฉพาะท่อนกลาง หวานมาก เสียงสวยจริงๆ แลดูล่องลอยนิดๆแต่เพราะดี ทำได้ดีเลยล่ะ อีกหนึ่งเพลงที่อยู่ในอัลบั้มได้ แต่ตัดคงไม่ได้ แต่...คล้ายๆเพลงสวรรค์บนดินของอัลบั้มแบล็กเอ้ามะ ช่วงนึงอีบริทร้อง เหมือนมากๆ แต่ชอบ อิอิ
Gasoline(2.5/5)
โอ๊ย มันไม่ได้แย่นะ แต่ไม่ค่อยชอบอ่าครับ ผมฟังแล้วมันเหนื่อยๆ มันฟังแล้วหายใจไม่ถนัด จะเป็นลม เก๋นะหลบเสียงแต่ ไม่เอาอ่าแบบนี้ ติ่งบริทบางคนจะบอกว่าหูผมไม่ถึง ไม่แคร์ อย่างน้อยผมก็แฟนบริทแบบมีระดับ ไม่แคร์คนที่ด่าบริทเหมารวมว่าแฟนเป็นติ่ง เพราะผมมั่นใจมีดีพอ แบร่ๆๆๆๆ เออ...แต่เพลงนี้ไม่คิดไรมากก็เพลินดีนะ
Criminal(5/5)
อาชญากรแห่งรัก แปลไทยแบบนี้ละกัน มันเริ่ดมาก พอคุณฟังดนตรีเริ่ม ผมมั่นใจว่าหลายคนจะนึกถึงซามูไรป่ะ หนังญี่ปุ่น จีนๆ แบบ เศร้าๆ แต่มันไม่ได้บันลาดอะไรนะครับ โยกได้ เปิดในร้านเหล้าทางทางจะเพลินมาก ชะนีอกหักรักคุด นั่งจิบไปฟังไป แหมมันเก๋จริงๆขอบใจบริทที่ทำเพลงนี้ออกมา ทำออกมาได้ดีมากครับ ผมชอบเพลงนี้ที่สุด และมั่นใจว่าคนไทยเกินล้านคนที่ฟังอัลบั้มนี้ชอบเพลงนี้ครับ เว่อมะ เออ เว่อ5555+
สรุป(4/5) ให้แบบลำเอียงนิดๆ555+
ส่วนตัวผมชอบอัลบั้มนี้ครับ แม้ว่าบางคนจะบอกว่ามันห่วยบ้างล่ะ มันเหมือนคนโน๊นคนนี้บ้างล่ะ แต่ผมกลับมองเห็นการพัฒนาของบริทนี่ บางคนหนักหน่อยถึงกับบอกว่าเป็นเศษเพลงจากศิลปินคนอื่น มันก็เจ็บนะได้ยินแบบนั้นจิตใจคนเป็นแฟนคลับ แต่...ผมก็มองย้อนกลับไปที่แฟนคลิบเน่าๆของบริทที่ทำตัวสวะ ต่ำตม ไม่แหกตามองบ้านเมือง ส่วนตัวแล้วถ้าทำได้ อยากให้เค้าคิดได้ แล้วจะสนทำไมใครว่าอีบริททำเพลงเหมือนใคร แล้วจะโกรธทำแมวอะไรเวลาคนอื่นที่ท้วงติง ในเมื่อตัวคุณเองยังเคยเอาศิลปินอื่นมาสับเลย แล้วใจเขาใจเรา อย่าสนใจครับ รักศิลปิน รักที่เขาเป็นแบบนั้น ก็เสพเพลงของเขาไป สนใจอะไร ในเมื่อฟังแล้วเราเองมีความสุข นั่นแหละที่เรียกว่า แฟนคลับที่ดี และแฟนคลับที่ดีต้องไม่ทับถมใครครับ![/size]
Princess
Britney Spears - Femme Fatale [75 / 100]
ขอเกร่นก่อนว่า เจ็บปวดมาก เมื่ออัลบั้มนี้ออกมาก่อน วางขายจริงๆ
เพราะใจจริงอยากฟังกับแผ่น CD จริงๆมากกว่าเพื่อนเก็บรายละเอียดต่างๆ T T.
แต่เมื่อหลุดมาแล้วก็ฟังซะเหอะ !!!!! ส่วนตัวแปลกใจกับวิธีการเรียงแทรค ที่เหมือน นนน กันซะ!!
ตั้งแต่ BO ถึง CC และจบที่ FF!!
และบางคนอาจงงว่า .. ทำไมให้น้อยขนาดนี้ ...อาจเพราะ ความหวังตอน Snippet !! มันเจ๋งจริงๆ ..
แต่เมื่อภาพรวมของ Look ออกมา ไม่ได้น้อยใจ หรืออะไร แต่ก็ไม่ได้ทำให้ตื่นเต้นแบบ ว๊า วว ว ว !
แต่ยอมรับว่า คราวนี้
บริททำเพื่อน "Britney Army" ที่ติดตามมาตั้งแต่ อัลบั้มแรก แล้วก็ดูการเปลี่ยนแปลงของบริทไปทีล๊ะน้อย ๆ
และก้าวกระโดดมาได้อย่างน่าแปลกใจ ตั้งแต่ In The Zone -Blackout -Circus ..
ภาพรวมของตัวเนื้องาน ถึงจะดูแตกต่างกันไป เพราะ โปรดิวเซอร์ คนละคน แต่ก็ครอบคลุมถึงกันได้อย่างดีเยี่ยม
แต่ภาพรวมก็ยังเป็น บริทนี้ - บริทนี่ .....พ๊อพ จัด อิเล็กโทรนิคจ๋ าา า !
เนื่องจาก บริทเองได้ปูทางแนวเพลงมาตั้งแต่ BO + CC จึงทำให้เกิดอัลบั้มทรงพลังอย่าง Femme Fatale!
เป็นอีกอัลบั้มของปีที่น่าจะชนกับ กาก้า เคที่ เจโลได้เป็นไหน ๆ ....
ขอบอกตรงๆ ว่า ฟังอัลบั้มนี้ Bo-CC วนเวียนไปในหัวไปมา ๆ จริงๆค่ะ
-------------------------------------------------
Till The World Ends!
เทรคแรกที่น่าจะบอกแนวทางของทั้งอัลบั้มได้อย่างชัดเจน เพราะ Ke$ha ดีจริงๆ
ครั้งแรกที่ฟัง แน่นอนว่า กลิ่นของแม่นาง สัญลักษณ์ ดอลล่าห์ คนนี้มาแรกมาก!!
แต่เมื่อฟังไป หลายครั้ง การเล่นตัวดนตรี เบสหนัก ๆ เล่นตลบอบอวลไปมา
ชอบการนำเสนอของเพลงนี้ค่ะ อย่างที่ได้รีวิวไปแล้วว่าฉลาดที่หาท่อน สวยๆให้ติดหูกัน
เป็นท่อนที่ไม่มีอะไร แต่กลับติดหูอย่างน่าประหลาด เหมือนกับที่เพลงได้บอกไปว่า ...
Keep on dancing 'till the world ends
แค่ฟังท่อน OH oh oh Ho Ho Ho Ho Ho Oh Wo Wo Wooo... แน่นอนค่ะ เต้นได้ทั้งวันทั้งคืน ..
ไม่น่าเชื่อนะค๊ะ ว่าอิทธพลจาก แม่ตัว $ จะแรงขนาดนี้!!!!
Hold It Against Me
แทรคที่ซิวอันดับ1 ไปครองอย่างสวยๆ ...ตัวเพลงยากที่จะฟังค่ะ ท่อนติดหูก็ไม่ได้ชัดเจน
ซึ่งถ้าไปชอบจริง ฟังเพลงนี้ ไปไม่รอดค่ะ!!!!!!!!!!!
แต่เรื่องบีท ..หนักกว่า TTWE แน่นอนค่ะ ดนตรีเต้นรำ พ๊อพเก๋ๆ และยังมีท่อน Bridge ที่ส่งต่อได้อย่างทรงพลัง
เพลงนี้ถือเป็นเพลงเปิดตัวกลับมาได้อย่างไร้ข้อกังขา อาจเพราะท่อน Would You Hold It Against Me?
ซึ่งแน่นอนว่า แฟนๆบริท ต้องตอบ ...Yes, I would อย่างแน่นอน!!!
เพียงแต่ถ้าไปเปิดผับ ...ขอ Mix เจ๋งๆ เป็นพอค่ะ
Inside Out
เพลงกระตุก ๆ ... มิติเพลงเริศค่ะ สิ่งที่บริทได้ปูทางมา จาก BO ทำให้เราเข้าใจเพลงนี้ได้อย่างดีค่ะ
เพียงแต่ ความ Dark ดิบ เถื่อน อาจไม่เท่า ..
เมื่อมาถึง Hook แอร๊ ย ยย ย ย ขอบอกว่าเริศค่ะ ที่เบรคอารมณ์ แต่เพิ่มความน่าสนใจของเพลงได้อย่างฉลาด
และแยบยล! ... ไม่ทำให้เพลงดูน่าเบื่อจนเกินไป เพราะถ้าฟังดูดีๆ ภาคดนตรี ดำเนินได้น่าเบื่อในช่วงแรกๆ ของเพลงค่ะ
แต่เพราะได้ So ,,,Come on นี่แหละค่ะ เพลงถึงรอดมาได้ (และแน่นอนค่ะ Circus ตุๆเลยทีเดียว!)
I Wanna Go
แอร๊ ย ยย ย แทรคเก๋ ๆ อิเล็กโทรนิค เหวี่ยง ๆ เหมือนจะยำที่เดิม แต่ก็ไปไกลค่ะ
การร้องของบริท เปลี่ยนไป เพราะสังเคราะห์ หรือ!!?? ตัวเธอเองค๊ะ เป็ดเชียว ..
การร้อง หยุดๆ เร่งๆ ขอบอกว่าเริศดีค่ะ ตรงตามสูตรของดนตรีเต้นรำของยุคนี้
ดนตรีช่วงท่อนกลาง
Shame on me
To need release
Uncontrollably
ขอบอกว่าเจ๋งค่ะ เจ๋งมากกก !! ยิ่งได้ท่อน Hook
I-I-I wanna go-o-o all the wa-ay-ay
เต้นลืมตายเลยค่ะ ...
คิดถึงเวลาอยู่ในผับ แสงสี เลเซอร์ กลิ่นควันบุหรี่ เสื้อผ้าหญิงชาย ขวด Red-Label บนโต๊ะ
เพลงนี้พร้อมขยับด้วย บีทหนักๆ และการล่นซน น่ารัก ๆ ด้วนดนตรีท่อนจบเก๋ๆ
How I Roll
แอร๊ ยย ย บีทหนัก ได้โล่ เสียงสังเคราะห์ เต็มๆ และการร้องของบริทนี่ย์ ที่เปลี่ยนไปอีกรูปแบบ ..
การโต้กันไปมาของตัวดนตรี มีมิติดีค่ะ เล่นไปมาไม่น่าเบื่อเท่าที่ควร และตัวดนตรี เตะหูอย่างไม่น่าเชื่อ
ท่อนกลาง เป็นอีกเพลงที่ วนเวียนอยู่ในหัวเหมือนคนเมายาได้อย่างไม่น่าเชื่อ
อาจเพราะเสียงต่ำๆ วนเวียนเหมือนคนบ่นอะไรซักอย่างหนึ่ง แน่นอนค่ะ เพลงนี้ต้องมีคนเข้าถึงได้ง่ายๆ และน่าจะชอบกันเยอะ
เพลงที่ไม่มีอะไร เรียบ ๆ ไม่มีอะไรมาเบรคให้ประหลาดใจมากนักแต่ได้ใจไปเต็มๆค่ะ!
เป็นเพลงน่ารักอีกเพลงหนึ่งที่พึ่งจะหาเจอจากสาวคนนี้!!
(Drop Dead) Beautiful
ส่วนตัวเกลียดเสียงบริทแบบนี้มั้งค๊ะ!!! เสียงเป็ดๆ สังเคราะห์ เสียงซินธ์ อะไรว่ากันไป !!!
เพลงป๊อบ อิเล็คโทรนิกเก๋ๆ มั่วๆ แรงๆ ป่วงๆ อย่างที่ไม่เคยเจอในเพลงของ Britney พาลนึกถึง แม่สาว $ อีกแล้ วว ว !
ยอมรับว่าเก่ และ ตลาดจ๋าาาา อย่าบอกใครเลยค่ะ แต่แม่นาง Sabi ก็ไม่ได้ทำให้ตัวเองโดดเด่นกว่าแม่บริทค่ะ ดูกลมกลืน ดี
เพลงนี้ กินง่าย กลื่นง่ายค่ะ!
Seal It With A Kiss
แอร๊ ยย ย ย ย ! อะไรเนี๊ยะ! ปนไปปนมา มั่วว วว .. มาก!
Intro มานึกว่าจะเก๋แค่ไหน ..แต่ก็Circus ดี ๆนี่เองค่ะ!! ไม่มีอะไรประทับใจเท่าไหร เพราะมันตลาดจ๋า และไม่ค่อยสะดุดหูเท่าที่ควร
อาจเป็นแทรคที่กดข้ามไปเลยทีเดียวค่ะ (อาจเพราะแต่ล๊ะเพลงที่นำเสนอมา เจ๋งๆ ทั้นนั้นนิค๊ะ พอมาเจอเพลงนี้ เอ๋!!!!!!!!!!!!!!?)
Big Fat Bass
แอร๊ ยยยยยยยยย ย ย ย ย เพลงนี้ขอกรี๊ดค่ะ คงเป็นเพลงที่ชอบที่สุดของอัลบั้มนี้ การวางซาวด์ดนตรี การเล่นเสียง อะไรต่างๆที่ทำออกมาเจ๋งค่ะ
ชอบการเล่นกับบีสแบบ สุดๆ อย่างในเพลงนี้ แก้วหูเต้นเลยค่ะ เป็นเพลงที่ มิติเพลงอาจเรียกว่าดีที่สุดเลยอ่า าา ห์ ทุกอย่างลงตัวอย่างไม่น่าเชื่อ !!
ชอบค่ะ ไม่เลี่ยนเลย ยย ย ครบสูตรค่ะ!!! และกลี่น BEP มาเต็มๆ แต่ชอบค่ะ เพราะยังไง บริทก็ยังดึงความเป็นบริทมาได้อย่างแน่นอนทีเดียวค่ะ
Trouble For Me
เริ่มต้นด้วยดนตรีสก๊อยๆ แต่กลับทำให้ประหลาดใจเพราะมัน ...พ๊อพดีจัง ดนตรีเหวี่ยงๆ สก๊อยๆ ได้ใจดีค่ะ
อิเล็กโทรนิคที่เล่นมา ยอมรับว่า เจ๋งดีค่ะ ยังพอมีเสียงติดหูให้ได้ยิน แต่ไม่ติดใจเท่าที่ควรค่ะ บางทีพาลๆ ไปคิดถึง The Time ของ BEP ได้ทีเดียว วว
ส่วนผสมของดนตรีเต้นรำ + ทอนองสก๊อยสมัยก่อน ..ชอบดีค่ะ
Trip To Your Heart
Intro ขึ้นเจ๋งค่ะ ....แต่พอขึ้น Verse เอ๋!!???????????? .อะไรยังไง เหมือน อารมร์ Circus ดีๆนี่เองค่ะ การดำเนินของตัวเพลง มีส่วนที่ให่อารมณ์ เหมือน She Wolf ค่ะ
ช้าๆ เนิบๆ เหมือนจะอ่อน แต่ก็กลับแข็งแรงค่ะ เป็นเพลง จังหวะกลางๆที่ได้อามรณ์ พอสมควรเลยค่ะ
Gasoline
เดี๊ยนเกลียดแทรคนี้ค่ะ .....!! ไม่มีอะไรให้ตื่นตาพอควรค่ะ ปวดหู อะไรดีล่ะ!!??
แต่เป็นเพลงที่น่าจะได้ฟังเสียงบริทแบบ เต็มๆ จริงๆก็คราวนี้แหละค่ะ ยอมรับว่าภาคการร้อง และเสียงบริทได้ใจเต็มๆ ค่ะ แต่ภาคดนตรี ขอเมินนะค๊ะ!
Criminal
เริศศศศศศศศ ค่ะเพลงนี้ เป็นบัลลาดมีจังหวะเพลงหนึ่งค่ะ แต่ที่แน่ๆ เสียงบีทเริศศศ เชียวค่ะ ท่อนHook ติดหู และทำให้เคลิบเคลิ้มได้โดยไม่ต้องเร้าอะไรให้มากนัก!!
ไม่ได้ และท่อนเบรดก็เริสค่ะ ทุกอย่างลงตัว
เป็นเพลงที่ ขยับตามได้อย่างสนุกสนานดีค่ะ
---------------------
น่าแปลกใจกับการนำเสนอของสาวคนนี้ Britney Spears เพราะน้อยครั้งที่บริทจะนำเสนอเพลง เมนสตรีมที่มีท่อน"ติดหู" หรือจังหวะที่วนเวียนอยู่ในหัว ได้อย่างไม่น่าเชื่อ!
ต้องบอกว่าโชคดีที่ บริทเองได้ใช้เทคโนโลยีเสียงสังเคราห์ที่ทำให้เพลงดูมีมิติได้อย่างน่าสนใจ ซึ่งนานๆ ทีบริทจะมีท่อนติดหู ---ย้อนกลับไปก็ 3 นู่นนน แหนะค่ะ
ส่วนคอนเซ็บก็ตามที่บอกว่า Femme Fatale - และก็เป็นผู้หญิงในแบบนั้นจริงๆ ,,,ไม่น่าเชื่อว่า สาว Britney คนนี่จะทำเพลงที่ดูโตขึ้นได้อย่างไม่น่าเชื่อ (ก็จะ 30 แล้วนิค๊ะ!!)
ไม่ได้ไปเหวี่ยงแรงๆ เหมือนตอนสาวๆ แต่ก็ยังหนักแน่นในการทำเพลง พ๊อพ ตลาดจ๋า ตบกับลูกไล่ ทั้งกาก้า Ke$ha เคที บลา บลา บลา
--ภาพรวมของอัลบั้มนี้ Femme Fatale ไม่ได้ไปไกลกว่าที่คิด แต่กลับแปลกใจในตัวงานคนตรี ที่บริทเองนำเสนอออกมาได้อย่างไม่น่าเชื่อ ว่าบริทจะทำอะไรที่ไม่เหมือนตัวตนของบริทซะเท่าไหร!!??
แต่ก็เพราะบริทยังคงความเป็ย บริท ที่สามารถทำเพลงต่างๆ ได้อย่างน่าอัศจรรย์ และทำให้เป็นเอกลักษณ์ ที่คนอื่นจะทำไม่ได้!!
เพียงเสียดายว่า บริทน่าจะละเลงซาวด์ดนตรีแบบเมนสตรีมที่ หลายๆคนชอบทำกันนักให้ดูมีลูกบ้ากว่านี้ ...คงจะดี!!??
No Matter What They Say -You'r Legend !!!!!!!!!
Ninespears
กรี๊ดดดด ออกตัวก่อน ไม่เคยรีวิวเลยอ่าส์ ขออันนี้อัลบั้มแรกละกัน
Femme Fatale อัลบั้มสตูชุดที่ 7 ของศิลปินสาวแม่ลูก 2 วัย 29 ปีนามว่า Britney Spears หลงัจากหายไป 2 ปี กับสตูอัลบั้ม แต่ยังแบบทิ้งเพลงฮิตอย่าง "3" ให้หายคิดถึง กับการกลับมาครั้งนี้มันจะไม่มีคำว่าได้บารมี Comeback ต่อไป ขอเรียกการกลับมาครั้งนี้ว่าเป็นการ Return Femme Fatale อัลบั้มนี้คุมบังเหียกการผลิดโดย Dr.Luke โปรดิวเซอร์มือดีคนนึงของวงการที่ทำเพลงฮิตให้กับหลากหลายศิลปินขึ้น BB Chart กันเป็นว่าเล่น ซึ่งก็เคยร่วมงานกันมาก่อนหน้านี้กับ บริทมาแล้วในอัลบั้ม Circus ก่อนที่จะมาร่วมงานกับนิวเจนรุ่นใหม่ๆอย่าง เคสช่า เคที่ ไมลี่ เป็นตัน และอีกคนที่ถือว่าเป็นโปรดิวหลักของอัลบั้มนี้ Max Martin โปรดิวเซอร์คุ่บุญที่ปลุกปั้นทำให้บริทดังระเบิดโลกมาตั้งแต่อัลบั้มแรก ยันอัลบั้ม 3 และพึ่งเรียกมาใช้บริกาอีกทีก้เมื่อตอนอัลบั้ม Circus และยังพี่งทำเพลงฮิตอันดับ 1 ล่าสุดก็คือ3
จุดเด่น: การกลับมาครั้งนี้ Britney ได้เคยให้สัมภาษณ์ไว้จาก V Mag ว่าอัลบั้มนี้ทิศทางของซาวค์ชีต้องการให้เป็นอัลบั้มที่เหมาะกับปาร์ตี้ในคลับ ทุกๆคนเมื่อได้ฟังจะต้องขยับแข้งขยับขาโยกตัวไปกับเพลงในทุกๆ แทรคในอัลบั้ม ซึ่งแน่นอน 12 เพลง มันตอบโจทย์ทุกอย่างที่ Britney วางไว้อย่างไม่หลุดคอนเสร็ป "ด้วยการนำความเป็นตัวบริท+กับซาค์ดนตรีแดนส์คลับในปัจจุบัน" อัลบั้มนี้ชีฉีกออกจากวัฐจักรเดิมๆที่แฟนฐานเดิมที่ยังเฝ้าแนวเพลงที่ออกเสต็ปจ๋า คงต้องเสียใจ เพราะชีฉีกออกไปทำแนวแดนส์เรียกได้ว่าเต็มตัวแล้ว หลังจากชิมลางปูทางไว้ตั้งแต่อัลบั้ม INZ ตัวอย่างเช่นแทรคโบนัสหรือแทรคที่ชีไม่เคยพรีเซ้นอย่าง Boy And Girl,Over To U Now, Trouble, heaven on earth, freakshow, Body And Soul ถ้าใครเป็นแฟนคลับบริทจิงๆ และฟังเพลงของนางยันโบนัสแทรคจะสัมผัสได้เลยว่า ในซาวค์ของแต่ละเพลงทุกเมโลดี้ที่ร้อง มันมีความเป้นบริทนี่ย์ที่ผสมผสานแนวคลับแดนส์ปัจจุบันได้อย่างลงตัว กับแนวกระแสดนตรีปัจจุบันได้อย่างลงตัว และแน่นอนความพิเศษมันคงจะไม่ได้เพลงแดนส์เกลื่อนๆ RCA รีมิกซื เสี่ยวๆ แน่นอน อัลบั้มนี้ยังยืนพื้นหลักด้วยดนตรี Dubstep ที่เหล่าโปรดิวชีประกาศมาตั้งแต่ต้นปีที่แล้วว่าอัลบั้มนี้จะยืนพิ้นด้วยแนวนี้ ซึ่งแนวนี้ชีก็ลองทำมาแล้วละใน BO ถ้าชัดเจนก็ freakshow กับ toy soldiers เพียงแต่ไม่ได้พรีเซ้นในวงกว้างนัก ผสมผลสานกับ อิเลคโทรนิคป็อบที่บริทเริ่มทำมาตั้งแต่ ITZ ซึ่งนั้นมันจึงเพิ่มความพิเศษให้เพลงในอัลบั้มนี้มีชั้นเชิงกว่าเพลงตลาดเกลื่อนๆ ในปัจจุบัน ด้วยซาวด์ และ ความเป็น Britney นั่นละที่ทำให้อัลบั้มนี้ดูมีอะไรมากขึ้น การจัดเรียงเพลงแต่ละแทรคถือว่าทำได้ดีเพราะมันไม่ทำปวดหัวมีพักอารมณ์บ้าง แต่ไม่กระชากเสียจนเปลี่ยนฟิวจนอารมร์เสียเรียกได้ว่าฟังได้เรื่อยๆ แบบจน 12 แทรค แล้ววนมาอีกรอบก็ไม่เบื่อ
จุดด้อย ว่ากันด้วยเรื่องจุดด้วย ส่วนตัวคิดว่าบางเพลงยัด ออโต้ทูน หนักไปหน่อยจนบางครั้งจำแทบไม่ได้ว่าเสียงบริททำให้เสน่ห์ เสียงที่มีความเป็นบริทนี่ย์เอกลักษณ์บางเพลงน้อยลงอาทิพวกเสียงหลบ กระเซ้า อ้อนๆ แบบ Toxic หรือเพลง 3 เราแทบหาไม่เจอเลยในอัลบั้มนี้ อีกเรื่องก็คงเป็นซาวค์บีทหนักๆ นั่นละ ถ้าใครยังคงติดกับซาวค์เดิมๆที่มีความเป้นบริทนี่ย์แบบก่อนอาจจะรับไม่ได้กับหลายๆ แทรคในอัลบั้มนี้ เพราะแทบจะไม่มีเพลงไหนเป็นแนวออกเสต็ปได้เลยซักเพลง ส่วนมากจะเป็นแนวแดนส์ซะส่วนใหญ่ อีกอย่างภาพลักษณ์มันไม่ได้ซัพพอทอัลบั้มงะ ถ้าปรับลุคให้แรงและเปรี้ยงสมกับซาวค์ในอัลบั้มมันคงจะทำให้ส่งเสริมเพลงมากขึ้น แหมม อัลบั้มออกจะเปรี้ยวจัดจ้าน แต่แบบชูตแค่ปกนี่ก็เอิ่มม จืดไปไหมค่ะ และอีกหลายๆ ชูตที่ตามมา ถ้าไม่บอกอัลบั้มนี้เป็นอัลบั้มแดนส์ จะนึกว่าเป็นนักร้องคันทรี่ มันก็สวยนะ แต่มันไม่เหมาะกับอัลบั้มงะ
Till The World Ends 4.5/5 แม้เห็นชื่อคนแต่ แม่ เคสช่าเจ้าาแม่คลับแดนส์ปัจจุบัน จึงไม่สงสัยเลยว่าทำไม๊ทำไม เพลงนี้จึงเห็นหน้าชีลอยไปลอยมาทั้งเพลงเรียกได้ว่าไม่ฟิทก็เหมือนมาฟิทละว้า แต่เดี๋ยวก่อนจะว่ามันกลืนความเป็นบริทได้ไม่หมดซะทีเดียว ช่วงท่อนเมทก่อนถึงฮุค เรายังสัมผัสสไตล์ของบริทได้อยู่นะพล่านให้นึกถึง piece of me+Unusual You ของบริทและท่อนฮุคที่มีความเป็นเคช่าอยู่ในเพลง แบบ We R Who We R ไว้ในเพลงได้อย่างลงตัว เหมาะแล้วที่เอาไว้แทรคแรกเพราะมันเหมือนเพลงเปิดงานเหมือนเป็นการบอกว่าเอาละได้เวลาปาร์ตี้แล้วทุกคน พร้อมจะแดนส์ให้สุดเหวี่ยงไปจนกว่าโลกจะแตกหรือยังจ๊ะ
Hold It Against Me 4/5 ซิงเกิ้ลเปิดตัว เสียงบีทตึ้มๆ มันช่างเด่นและน่าจนจำกว่าเสียงร้องนัก แต่ทว่าเพลงนี้เราได้ฟังเนื้อเสียงบริทแบบเต็มๆ เรียกได้ว่าการเปิดตัวเพลงนี้ถือว่าฉีกจากอัลบั้มก่อนๆ พอสมควรที่ไม่ได้เน้นฮุค แต่นั้นบีทสไตล์ยูโรแดนส์ ผสานกับซาวค์แบบ Dubstep อย่างนัวและเบรคเอี้ยงง ด้วยเบรกดาวห์ ที่จะพูดได้ว่าเป็นซิงเนอร์เจอร์ของบริทอีกอย่างนึง ทำให้เพลงดูมีอะไรที่มากว่าเพลงแดนส์เกลื่อนๆดาษๆ ทั่วไป ส่วนตัวคิดว่าคิดดีแล้วที่เลือกเพลงนี้ ติดหูและทรงพลังเรียกกระแสได้ดีพอตัว
Inside Out 3.5/5 เบรกอารมณ์ด้วยบีทเบาลงมาหน่อยแต่ไม่เสียงฟิวถือเป็นการพักเหนื่อพักหูกับซาวค์ หนักๆ 2 เพลงแรก เพลงนี้มีส่วนผสม R&B, hip hop เนิ่มๆสไตล์ My Love ของ Justin Timberlake ชอบการใช้เสียงบริทนะ ดูดุดันมีพลังดีท่อนฮุคนี่ถือเป็นหมัดเด็ดของเพลงนี้ที่แผดเสียงแหลมจี๊ดด เข้าไปแสร้งซึมทุกโซนประสานเรียกได้ว่าจำได้ก็เพราะอีกท่อนเนี่ยะละ เนื้อหาดอกมาก มีท่อนเพลงจาก BOMT มาใส่ซะด้วย "Hit me one more time, its so amazing" เนื้อหาประมาณว่า บริทต้องการจะเฉคหัวแฟน {เอาละเราเลิกกันสักที พอกันที ออกไปให้พ้นจากชีวิตช้านน ได้ละ (แต่ พล่ามไล่มาซะนาน) พอเห็นเธอคุกเข่าจับแขนวิงวอนขอร้องก็ฉันเองก็ใจอ่อนทนไม่ไหว เลยจัดไปสักที (คงไม่ต้องบอกว่าทำอะไรฮ่าๆ)}
I I I Wanna Go 5/5 อ่าส์นางเอกอีกเพลงของอัลบั้มนี้ เพลงนี้ความพิเศษมันอยู่ที่ซาวค์ยูโรแดนส์+อิเลคโทรนิคแดนส์ เฮ้าส์ + กับท่อนฮุคที่ฟังแล้วติดหูมากๆ มันให้อารมณ์แบบ อยากจะแดนส์กับเพื่อนสาวเต้นไปชายตาเหล่ผู้ชายแบบสวยๆ มีเสียงผิวปากเพิ่มความเก๋ให้เพลงดูเพราะมากยิ่งขึ้นฟังไม่น่าเบื่อดี ซึ่งถามว่าแปลกไหม ก็คงไม่แปลกอะไรหรอ เพราะน้าไข่ชีก็ทำแนวนี้ออกมาบ่อยๆ แต่ความพิเศษมันอยู่ที่ว่า Britney ร้องไงละ มันถึงพิเศษเพราะมันแปลกสำหรับชีที่ไม่เคยทำแบบเต็มรูปแบบขนาดนี้ ซึ่งจะวางไปขีก็วางแนวยูโรแดนส์มาตั้งแต่ Breathe on Me, heaven on earth แล้วละ
How I Roll 4.5/5 น่ารักนะเพลงนี้ฟังได้เรื่อยๆแต่ไม่น่าเบื่อเสียงเป่าน้ำบุ๋มๆ มันดูใสๆ แต่ไม่แบ๊วแบบป็อบโง่ๆ ส่วนตัวฟังเพลงนี้ชวนให้นึกถึงเพลง "Soda Pop" ในอัลบั้มแรก เพียงแต่ว่าเพลงนี้มันมีชั้นเชิงในภาคดนตรีมากกว่า ฟังแล้วมันนึกถึงอารมณ์ยุค 60 งะ เสียงกรับๆ นี่มันเครื่องดนตรีอะไรไม่รู้จักแต่มันความเก๋แบบแปลกที่หาฟังไม่ค่อยได้ในยุคนี้ มีเสียงผู้ชายเพิ่มเสน่ห์ให้เพลงนี้ (บางคนว่าน่ารำคาญแต่เรากลับคิดว่าถ้าไม่มีเสียงผู้ชายเพลงนี้จะจืดลงไปเลยงะ) ชอบสไตล์การร้องเพลงนี้นะกึ่งร้องกึ่งแรฟ แบบกระซิบกระซาบดูแรดๆดี เพิ่มความพิเศษด้วยแซมด้วยท่อนเบรกเบาพอเก๋ เล่นกับสำบัดสำนวนพอสมควรเพลงนี้เหมือนกับว่า {ถ้าอยู่ในงานปาร์ตี้เพลงนี้ก็เหมือนวิ่งออกมาจู่จี้กับชายหนุ่ม 2 ต่อ 2 ในมุมอับแล้วก็มานั่งจีบหยอดคำหวานเปรียบเปรย นู้น นี่ นั่น เธอเปรียบเหมือนอย่างงั้นอย่างงี้ สุดท้ายแล้วก้ลงเอย ด้วยขอมีเซ็กส์ตามระเบียบ}ฮ่าๆ ฟังแล้วอยากจะเปิด glamorous ของเฟอร์กี้ต่อเลยเข้าฟิลกันได้สุดริด
Beautiful (drop dead) 3/5 เพิ่มบีทขึ้นมานิดหลังจากแนวน่ารักๆ แต่ไม่ถึงขนาดแดนส์กระจายพอขยับโยกแบบอาร์แอนบีฮิฟฮอฟมีจังหวะ ต๊ายย ถือว่ากล้าพอตัวที่ดึงนักร้องหน้าใหม่ Sadi เป็นเจ๊ดัน ฉันรักเธอ มากๆ สวนกระแสนักร้องหลายๆนางที่ จะเลือกยัย นิกกี้ ตามกระแสตลาดเพื่อดึงเพลงให้ฮิต แต่บริทกล้าเชิดใส่เอานักร้องหน้าใหม่ที่ไม่มีใครรู้จักแม้แต่หน้ามาก่อน ถามว่ารู้สึกยังไง ต้องบอกว่าเฉยๆ ไม่ได้ดี แต่ก็ไม่ได้แย่ มันอารมณ์แบบ Botton ของ PCD ไม่ได้บอกว่าเหมือนนะ แต่อารมร์เดียวกัน
Seal It With A Kiss 2.5/5 ป็อบจ๋ามากส่วนตัวคิดว่าเพลงนี้ละ บริทนี่ย บริทนี่ย์ ที่สุดของอัลบั้มละ ป็อบจ๋ามากๆ แต่ก็ไม่ถึงขนาดสะอินสะเอียนเพลงยังมีบีทอิเลคโทรนิคพองาม เพียงแต่คิดว่ามันไม่น่าอยู่ในอัลบั้มนี้ที่ภาครวมบีทหนักๆ เล้ยยย ถ้าเอาไว้ในอัลบั้ม CC เพลงนี้จะเป้นเพลงที่แข็งแรงเพลงนึงของอัลบั้มเลยละแต่พอมาอยู่อัลบั้มนี้มันคือแทรคที่อ่อนที่สุด จะว่าเอาไว้พักหูก่อนที่จะไปฟังบีทหนักๆ แทรคต่อไปก็ได้
Big Fat Bass 4.5/5 เอาละได้เวลาเร่งบีทอีกครั้งเพลงนี้ ส่วนตัวคิดไว้ตั้งแต่แรกแล้วละถ้าได้ตาวิลมาทำมันจะต้องเป้น BEP แน่ๆ เหอๆ เพราะเท่าที่ฟังจากงานที่ไปทำให้คนอื่นก้เป้นแบบนั้นแทบทุกคน เพลงนี้จึงทำให้จิตนาการบริทเป็นยัย เฟอร์กี้ในบันดล ว่าไปซาวค์เพลงนี้หลายช่วงของเพลงมีหลากหลายอยู่นะ อัดมาทั้ง เบส กลอง เปียโน อิเลคโทรนิคแดนส์โปรแกรมมิ่งหนักๆ ตึ้มๆอัดนัวเป้นยำรวมมิตรเผ็ดร้อน จัดจ้าน แปลกจังที่แฟนคลับบริทหลายคนผิดหวัง แต่ฉันกับรู้สึกว่าเพลงนี้เจ๋งดี และเป้นแทรคนึงที่แข็งแรงที่สุดในอัลบั้ม
Trouble For Me 3/5 ท่อนเริ่มชวนให้นึกถึง freakshow พอสมควร จะบอกว่าเพลงนี้แต่งเสียงบริทซะแถบจะจำไม่ได้ว่าเอิ่มม เสียงบริทนี่ย์หรอวะ เสียงไม่น่าแต่งออโต้ทูนมากขนาดนี้เลย เหมือนกับว่าถูกเอาตีนเหยียบคอแล้วร้อง มันร้องเหมือนคนหายใจไม่ออกงะ ถ้าร้องเสียงธรรมดาเพลงจะน่าฟังกว่านี้นะ ส่วนภาคดนตรีก็โอเคไม่ได้ดีมาก แต่ก็ ไม่ได้น่าเกลียดจนเกินงาม
Trip To Your Heart 4.5/5 ต้องบอกเลยว่าแทรคนี้เหมือนเป็นการผสมเอาเพลงTrouble+Phonography ใน CC มายำรวมกันแต่เพิ่มความพิเศษด้วยซาวค์ล่องลอยสไตล์แดนส์เฮ้าส์เบาๆ เพลงน่ารักกุ๊กกิ๊ก แต่แฝงด้วยเสน่ห์จากเสียงร้องที่เซ็กส์ซี่ เหมือนกระซิบของบริททำให้เพลงนี้น่าฟังขึ้นเยอะเลย
Gasoline 3/5 อีกแทรคที่เฉยๆแต่ทำไมแฟนคลับนอกชอบจัง ถึงขนาดเชียร์ให้เป้น ซิงเกิ้ล ส่วนตัวรู้สึกเฉยๆ ไม่มีอะไรให้รุ้สึกพิเศษกับเพลง ฟังได้เรื่อยๆ พอโยกๆ หรือเป็นเพราะเนื้อหาที่ {เปรียบเทียบเมื่อผู้ชายเป็นไฟ แล้วผู้หญิงเป็นน้ำมัน เมื่อสัมผัสร่างกายชีแล้วจะทำให้ตัวฉันเร้าร้อนไปทั่วร่าง}
Criminal 5/5 ต๊ายย แทรคปิดประนึงเป็นการบอกว่าปาร์ตี้จบแล้วจ้า ส่วนคิดว่าเพลงนี้เป็นบัลลาดที่ดีที่สุดเพลงนึงของบริทนะ มันไม่ใช่บัลลาดสูตรสำเร็จแบบตลาด จะจำกัดแนวดนตรียังไงดีละแบบเอาซาวค์หนังคาวบอยมา+กับR&B แล้วใส่สไตล์การร้องป็อบแบบฉบับบริท เอาจิงๆ ถ้าไม่ได้สนใจเนื้อหาเพลงฉันจะนึงถึงบริทนี่ย์ใส่ชุดกิมโมโน ยืนกางร่มรอสามีท่ามกลางหิมะตก อะไรเทือกนั่นฮ่าๆ แต่ความหมายนี่แบบ น่ารักเชี่ยะ ประมาณว่า {ผู้ชายคนนี้ไม่มีอะไรดีเลย น่าที่การงาน ชีวิต นิสัย ฐานะ เรียกได้ว่าห่วยสุดๆ แต่แม่จ๋าหนูรักเขาค่ะ ฉะนั้นแม่ไม่ต้องห่วงหนูนะ ถึงเขาจะเลวไม่ใช่คนเพอร์เฟค แค่ไหนหนูก็ยังรักเขา เขาสักชื่อหนูไว้บนแขนด้วยนะคะ หนูไม่สนใครจะว่าว่าไง เพราะหนูรักเขา} ฮ่าๆ คำสารภาพบาปของเด็กแว้น
รออีก 5 เพลง
บทสรุป
ต้องบอกเลยอัลบั้มทำให้รู้สึกกลับมาภูมิใจในตัวบริทอีกครั้งหลังจากมันลดลงจาก Circus ที่ไร้พลัง กลับมาคร่าวนี้มันทำให้สัมผัสถึงพลังในเพลงบริทอีกครั้ง เรียกได้ว่า Hold It Against Me ว่าดีแล้ว พอฟังทั้งอัลบั้ม ทำให้รู้เลยว่ายังมีแทรคดีๆน่าสนใจอยู่ในอัลบั้มอีกเยอะ
อัลบั้มนี้เหมือนเป็นการนำเอาซาวค์เก่าๆที่บริทนี่ย์ปูทางมาแล้วมาอัดผสมกับซาวค์กระแสของตลาดหลักในปัจจุบันได้อย่างที่เรียกว่าก็เป็นตัวบริทในยุคนี้ แต่ชีฉีกจากการเป็นแดนส์เสต็ปมาเป็น แดสน์เต็มขั้น ด้วยรูปแบบดนตรีคลับแดนส์ในปัจจุบัน มีทิศทางที่แน่นอน และเนื้อหาที่โตขึ้นกับสโลแกนที่วางไว้ Sexy and Strong,Dangerous yet mysterious,Cool yet confident! จะเรียกได้ว่าอัลบั้มนี้คือส่วนผสมระหว่างมันมีความดิบ แบบ BO แต่ไม่มากเกินไป+ฟังง่าย แบบ CC แต่มันมีความหนักแน่นมากว่า +กับมีความหลายหลายในอัลบั้มแต่ละแทรคแบบ ITZ แน่นแนว่าบารมีเก่ากับชื่อ Britney Spears ก็ช่วยให้อัลบั้มนี้ดูโดดเด่นน่าสนใจในระดับนึง แต่ชีก้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าชีไม่ได้ต้องการย้ำอยู่กับที่ บริทพยายามเอาความเป็นตัวเองสอดแทรกเข้ากับกระแสดนตรีเมนสตรีได้เสมอ ไม่ได้แต่จะหวังเพียงบารมี เจ้า ญ เพลง ป็อบที่บรรดาสื่อตั้งให้ ชีทดลองสิ่งใหม่ๆ และนำเอามารวมกับความเป็นบริทได้อย่างลงตัว
ส่วนตัวแล้วไม่ห่วงเรื่องคุณภาพของเพลงอัลบั้มนี้เท่าไหร่เพราะมันดีในระดับที่เรียกว่างานคุณภาพได้ แต่เป็นห่วงเรื่อง ค่าย ทีมงาน และก็ตัวบริทเองแล้วละว่าจะดันและพรีเซ็นต์ อัลบั้มดีๆ แบบนี้ให้ไปได้ไกลแค่ไหน เพราะเท่าที่ดูแบบง่อยมากกับแผนโปรโมท แอบปวดใจเล็กๆ หุหุ ส่วนตัวก็ไม่ได้คาดหวังว่ามันต้องประสบความสำเร็จมากถล่มสถิติ รางวงวัลมากมาย ถ้าได้ก็ยินดีดีใจด้วย ไม่ได้ก็เฉยๆ แต่ฉันแค่หวังที่จะเห็นจิตวิญญาญ ของบริทคนเดิม เรียกกลับมาสัก 50% ก็ยังดี ส่วนแผนโปรโมท เกือบจะ 3 เดือน ต้องของบอกไว้ ณ ตรงนี้ว่า ท่าดีทีเหลว ห่วยแตก ขนาดอัลบั้มหลุด ทีมงานมันยังไม่ทำอะไรเหมือนไม่สน ไม่รู้ อู้ยย พูดแล้ว เดี่ยวยาว
เอาเป็นว่าอัลบั้มนี้เป้นอัลบั้มที่จะทำให้คุณสัมผัสบริทในรูปแบบใหม่ๆ ที่ก็ยังแอบมีแซมความเป็นบริทแต่จะจัดจ้านขึ้น Femme Fatale จะเป้นอัลบั้มแดนส์ชั้นดีอีกอัลบั้มนึง ที่ 12 แทรค เปิดไปฟังไม่น่าเบื่อ ฟังแล้วแล้วจะอยากจะกลับมาฟังแทรค วนไปวนมาได้แบบไม่น่าเบื่อ และทำให้คุณฟังแล้วสนุกเพลิดเพลินซาวค์ดนตรีที่บริทนำเสนอผ่านตัวโน๊ตและเมโลดี้ที่จับต้องได้สัมผัสได้ถึงพลังของผู้ ญ ที่ถือว่าเป็นมีอิทธิพลในวงการเพลง ป็อป และเป้นไอค่อนคนนึงที่เราเฝ้าติดตามผมงานมาตลาด 13 ปี อัลบั้มนี้ไม่ผิดหวังแน่นอนค่ะ ถ้ากำลังมองหาอัลบั้มแดนส์คุณภาพ ภาครวมอัลบั้ม ให้ 4/5 (หัก 1 โทษฐานสะเพร่าให้อัลบั้มหลุด และแผนโปรโมทที่ง่อยๆ)
ในฐานนะแฟนคลับบอกตรงว่า ภูมิใจในบริทนี่ย์กับอัลบั้มนี้มากๆ ค่ะ และคิดว่าอัลบั้มนี้เป้นอัลบั้มที่ดีที่สุดรองจาก ITZ
และขอทิ้งท้ายรีวิวด้วยประโยคที่ Britney เคยทวิตก่อนอัลบั้มจะออกเมื่อช่วงปลายเดือน ธันวาคมปีที่แล้ว
"I've poured my heart and soul into this album over the last 2 years. I've put everything I have into it."
ฉันทุ่มเททั้งหัวใจและจิญวิญญาญลงในอัลบั้มนี้มากกว่า 2 ปี ฉันใส่ทุกสิ่งทุกอย่างที่ฉันมีลงไป
"This album is for you, my fans, who have always supported me and have stuck by me every step of the way! I love you all!."
อัลบั้มนี้สำหรับคุณ แฟนเพลงของฉัน ที่คอยสนับสนุนฉันเสมอมาและคอยติดตามฉันในทุกๆทาง ฉันรักพวกคุณทุกคน
นางมารหอหลวม
95%
เริ่มต้นปี2011 มา ก็มีศิลปินที่ต่างออกอัลบัม ออกซิงเกิ้ล ออกห่าออกเหวมาให้ฟังกันมากมาย แน่นอน กระแสที่แรงที่สุดคงมาจากผู้หญิงที่ขึ้นชื่อว่าเป็น Princess Of Pop มานานแสนนาน(แต่ในใจเดี๊ยนยกให้ชีเป็น GOD OF POP ไปนานแล้วล่ะ กรั่กๆๆ) ผู้หญิงที่เดี๊ยนว่าคนมากกว่าครึ่งค่อนโลกต้องรู้จักอย่างแน่นอน ผู้หญิงที่มีชื่อว่า Britney Spears....
จากเด็กสาวที่ชื่นชอบการร้องเพลง การเต้น มาสู่การเป็นดวงดาวที่เจิดจรัสที่สุดดวงหนึ่งของวงการที่เต็มไปด้วยแสงสีเสียงอย่าง Hollywood นั้น นางได้ผ่านพบทั้งจุดสูงสุดในวงการ จนถึงจุดที่ตกต่ำที่สุด ต่างก็เจอมาหมดแล้ว ตอนนี้นางก็แค่รักษาสถานะของตัวเองเอาไว้ไม่ได้ต้องการไปไต่เต้าแข่งขันกับใครเลยล่ะค่ะ แต่วันนี้ประเด็นที่ Hot ที่สุด คงจะเป็นประเด็นการกำเนิดของอัลบัมใหม่ Come Back สู่วงการอีกครั้ง(Come Back คือการบอกว่ากลับมาอยู่ในวงการอีกครั้ง ไม่จำเป็นว่าต้องห่างหายไปนาน แค่ออกอัลบัมใหม่ก็คือการ Come Backค่ะ) กับอัลบัมใหม่ที่มีชื่อแสนจะเก๋ไก๋อย่าง Femme Fatale และนางได้เฟิร์มกับนิตยสารฉบับหนึ่งว่า The Bich Is Back And Better Than Ever ซึ่งดิชั้นก็ "เห็นด้วย" มากๆ ค่ะ
(การรีวิวเพลงที่ 1 และ 2 จะขอก๊อปมาจากรีวิวอันเก่านะคะ)
เปิดอัลบัมนี้มากับเพลง Till The Ends World(4/5) เริ่มต้นเพลงมากับ เสียงที่ชวนให้เราโยกตามได้อย่างไม่ขัดเขิน เสียงนังบริทขึ้นมาเหมือนชั้นเพิ่งตื่น โอ๊ย ว๊ายย ชั้นพร้อมละ ชั้นแต่งตัว สวยๆ เริ่สๆ แล้วตัดเข้าท่อนฮุคแบบซะงั้นไปเลยค่ะ ฟังมาถึงตอนนี้ ว๊าย เริ่ด ภาคดนตรีที่ได้รับอิทธิพลมาแบบตรงๆ จากเคชช่า กอปรกับเสียงบริทที่ชวนออกมาแด๊นสนั่นฟลอว์กันไปเลยค่ะ แล้วก็ถึงท่อนเด็ดของเพลงที่ร้องว่า "OH oh oh Ho Ho Ho Ho Ho Oh Wo Wo Wooo..." ว๊ายย มันเริ่ดมากค่ะ เหมือนชั้นจะแด๊นร้องให้กระจาย ฟลอว์แตกระเบิดกันไปเลยค่ะ แอร๊ยยยยยย จนถึงฮุค 2 ชีมาพร้อมกับ เนื้อฮุคใหม่ มีการเล่นกับการหยุดเพลง เบาเพลง กระตุกเสียงร้องให้ดูมีสเน่ห์ขึ้นไปอีก อ๊ายยยยยยยย ท่อนหลังๆ แด๊นมันส์มากค่ะ คิดภาพดูสิ ชั้นเต้นอยู่กลางฟลอว์ แล้วโยกแบบงามๆ สวยๆ ไม่ใช่เต้นแร้งเต้นกามั่วนะคะ อิชั้นเต้นแบบมีคลาสค่ะ มันแทบจะเรียกได้ว่าเพอร์เฟคสำหรับชั้นแล้วละคะ แต่จะอะไรก็ไมได้นะคะ ขอหักคะแนนไป 0.5 เพราะเสือกไปรับอิทธิพลของอีเคชช่ามากเกินไปค่ะ แต่โดนรวมถือว่าเป็นเพลงแด๊นที่โชว์ความเก๋ได้เริ่ดอีกเพลงนึงเลยค่ะ
ต่อมากับซิงเกิ้ลที่ 2 อย่าง Hold It Against Me (5/5) ซิงเกิ้ลแรกที่เลือก วันปล่อย ณ อเมริกา ในวันที่ 11/1/11 อย่าง Hold It Against Me นั้น ก่อนหน้านี้ก็มีคลิป Demo หลุดมา หลายคนบ่นเป็นเสียงเดียวกันว่า มันห่วยมาก! แต่หลังจากซิงเกิ้ลจริงได้ออกมาให้เราได้สดับรับฟังกันแล้วนั้น ดิชั้นไม่มีอะไรจะพูด นอกจากคำว่า "เริ่ด" ค่ะ เพลงเปิดด้วยเสียงดนตรีว่า กูมาแล้วค่ะ บีทหนักๆ ตึบๆๆๆ ไปเรื่อยๆ พร้อมกับเสียงร้องที่นิ่งๆ เอื่อยๆ อ่อยๆ ตามสไตล์อีบริทค่ะ มันช่างเข้ากันมากๆ เพลงช่วงแรกออกมาแนวๆ นิ่งๆ ไปเรื่อยๆ แต่หลังจากนั้นสิคะหมัดเด็ดอีบริทค่ะ เพราะชีมาพร้อมกับเสียงดนตรีที่เพิ่มพลังแบบเต็มขั้นไปเรื่อยๆ จนถึงช่วงโซโล่ของเพลง ให้อารมณ์แบบเต้นแรงๆ สะบัดแรดๆ เดินร่านๆ อยู่ในผับมากๆ ค่ะ แอรียยย เริ่ดมากๆๆๆ แล้วดนตรีก็ดับไป พร้อมเสียงสังเคราะห์มา แล้วก็เสียงอีบริทที่บอกว่า "If I said my heart was beating loud
If we could escape the crowd somehow" แล้วก็กลับมาพร้อมเสียงขั้นจังหวะ แล้วก็เริ่มแด๊นแบบแรงๆ แรดๆ ไปได้เลย่คะ กรี๊สสสสสสสสส มันช่างเว่อและแรดมากกกกกกกกก ขอโทษนะคะ เพลงนี้ตบปากอีพวกบอกว่าเพลง 3 ง่อยๆ เพลง Womanizer เน่าๆ ท่อนฮุคห่วยๆ ร้องไปร้องมา ตายห่าหมดค่ะ เพราะพวกมึงจับท่อนฮุคเพลงนี้ไม่ได้ค่ะ อย่างว่านะคะ เฮตเตอร์ยังไงก็เป็นเฮตเตอร์วันยันค่ำ แล้วคิดหรอคะว่าแฟนคลับอย่างพวกดิชั้นจะแคร์ โฮ๊ะๆๆๆๆๆๆๆ ว๊าย นอกเรื่องค่ะ
เพลงที่ 3 ที่เคยหลุดมาเป็นพวกคลิปเสียงเล็กๆ ก่อนมาแบบเต็มเพลงอย่าง Inside Out(5/5) เริ่มต้นด้วยเสียงเกลากีต้าร์สุดคลาสสิค และขึ้นต้นมากับเสียงบริทที่รัวๆๆๆ ร้องมาว๊ายยๆ เก๋มากกกกก แต่พอขึ้นท่อนฮุคเท่านั้นแหละ คุณพระ มันเริ่ดจริงอะไรจริงค่ะ So Come Onnnnnnnnnnnnnn แอร๊ยยยยยยยย แบบว่าเรียกได้ดุดันและเริ่ดมาก เพลงเหมือนบ่นไปเรื่อยๆ แต่พอขึ้นท่อนฮุคสามารถดึงความเป็นตัวบริทและตัวคอนเส็ปอัลบัมที่บอกว่ามันแรงและดุดันออกมาได้อย่างแตกทลายค่ะ เป็นอีกหนึ่งแทรคเด็ดประจำอัลบัมนี้ หลายๆ คนอยากให้ชีตัดเป็นซิงเกิ้ลที่ 3 มากๆ ค่ะ ส่วนตัวชอบมาก เสียงสังเคราะห์หรือไม่ ฉันไม่สน แต่รู้ว่ามันเริ่ดจริงๆ ค่ะ
ต่อกับเพลงที่ 4 นั่นก็คือ I Wanna Go (5/5) เริ่มต้นกับเสียงห่าเหวไรไม่รู้ แต่มันเริ่ดมากกกกกกก เสียงชบริทใช้ได้ เซ็กซี่ แล้วพอถึงท่อน Shame On Me ก็ใส่ความแรด จริตจกร้านความแรด ความร่านเข้าไปอีก 38 ริกเตอร์เลยค่ะ เพลงนี้เหมือนว่า วันนี้ชั้นจะไปแรด ไปร่าน ไปแรดตลอด แล้วท่อนเพลง III Wanna Go OO เนี่ย มันเริ่ดจริงอะไรจริงค่ะ แต่แน่อีกอย่างหนึ่งคือ พอเพลงจริงออกมาเต็มเพลงแบบนี้ก็เหมือนเป็นการเหยียบหน้าแบบแรงๆ ใช้ส้นสูงตบหน้าไปหลายๆ ฉาดกับพวกที่บอกว่าเหมือน Hung Up เจ๊แม่ ให้ตายคาที่ได้เลยค่ะ อื้มมม..บริท หร่อนแน่มากค่ะ ส่วนตัวชอบมากกกกกกกก แทรคเด็ดสุดๆ ฟังได้บ่อยๆ เรื่อยๆ ค่ะ เปิดเวลาไปเปิดสยามหรือเดินสวยๆ ในบ้านก็ได้ แรดได้ไม่แพ้กันค่ะ อ้อ ชอบท่อนดนตรีเพลงนี้มาก ตีโจทย์คลับแด๊นห่าเหวคอนเส็ปอัลบัมได้แตกกระจายเช่นเคยค่ะ
เพลงที่หลายคนชอบชื่นชมอีกเพลงกับ How I Roll (3.5/5) ต้องขอชมว่าดนตรีเพลงนี้น่ารักมากกกกกกกก เสียงเหมือนเกมส์ยิงลูกโป่งด้วยอะ ความฉลาดของชีที่หยิบเพลงนี้มาทำให้เข้าเสียงแบบน่ารักๆ ของบริทเองด้วย่คะ แต่ขอบอกว่าฟังแล้วนึกถึงเพลง Mmm Papi ของอัลบัมที่แล้ว แต่อันนี้ดูมีชั้นเชิง มีความเก๋ไก๋ที่แตกต่างไปมากค่ะ เสียงผู้ชายแอบน่ารำคาญบ้าง แต่ก็เข้าได้ดีค่ะ ตอนจบชอบเหมือนมีเสียงเปียโนเข้ามาด้วยอะ เก๋ดีค่ะ แต่โดยรวมยังไม่ประทับใจเท่าซิงเกิ้ลก่อนหน้าค่ะ
(Drop Dead) Beautiful featuring Sabi(4/5) เพลงนี้ตอนแรกเหมือนเสียงอะไรที่ดูล้ำๆ แล้วตามด้วยบีทที่มาพรอ้มกับเสียงอีบริท เสียงแบบฉันไม่แคร์มากค่ะ แอร๊ยยยยยยยยย แต่โดยส่วนตัวไม่ค่อยชอบเท่าไหร่ แต่ก็โอเคกว่าเพลงที่แล้วเพราะบีทหนักกว่า ติดหูกว่าค่ะ พอมาถึงท่อนใย Sabi นี่แรดดีนะ เสียงชีดูเก๋ดี แร๊พได้เริ่ดและแรดมากดีค่ะ ชอบนะคะ แต่ยังไม่สุดอะ แอร๊ยยยยยยยยยยยยย
ต่อกับอีกเพลงที่เดี๊ยนชอบตอนที่เป็นคลิปออกมามาก Seal It With A Kiss(4.5/5) เริ่มต้นกับเสียง Woo Hoo Hoo Hoo แรดดีค่ะ ต่อกับเพลงที่แบบไปเรื่อยๆ เพลงนี้ดูเรื่อยๆ ดีค่ะ แต่แฝงไปด้วยความหนักหน่วงของบีทที่เริ่ดดี แล้วพอถึงท่อนฮุคนี่เก๋อะ เพิ่มจังหวะมา เสียงบริทก็แรดดี เจ๋งดีค่ะ
เพลงต่อไปทีได้ตาวิลมาร่วมอย่าง Big Fat Bass(4.5/5) ตอนแรกไม่ชอบเลยอะ เสียงอีวิลอะ น่ารำคาญมาก แต่พอมีเสียงเปียโนขึ้นมาอะ แอร๊ยยย ชอบมากกกกกกกก เสียงบริทก็ดูแต่งดีนะ ไม่ค่อยเหมือนสีชี แต่พอบอกว่า You can The Bass มา มันเก๋อะ พอขึ้นท่อนจริงๆ เข้ามาแอร๊ยยย เสียงบริทเก๋มากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก ชอบมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกก แอร๊ยย แบบไม่ไหวแล้วอะคะ ชอบจริงอะไรจริง ฟังไปแล้วกระดิกขาตามแบบสวยๆ ได้สบายอารมณ์มากค่ะ ถึงจะรำคาญเสียงตาวิลบ้าง แต่ดนตรีกับเสียงบริทเริ่ดมากกกกกกกก ชอบๆๆๆๆๆๆๆๆ
Trouble For Me(4.5/5) เพลงนี้เริ่มต้นแบบธรรมไปหน่อย แต่เสียงบริทน่ารัก และดูเป็นบริทนี่ย์ดีค่ะ ชอบท่อนฮุคของเพลงนี้ง่ะ ดูสวยใส เก๋มากกกกกกกกกกกกกก ชอบค่ะ แบบว่า คุณน่ะเป็นปัญของชั้นนะย้ะ ชิส์ อะไรงี้ สะบับบ็อบใส่ผู้ชายเก๋ๆ สวยๆ โดยรวมชอบเพลงนี้นะ ไม่รู้ทำไมหลายคนไม่ชอบ แต่เดี๊ยนชอบค่ะ แอร๊ยยย เริ่ดๆๆๆๆ
Trip To Your Heart(5/5) บัลลาดแบบสวยๆ มีเสายงบีทเข้ามาแซมเพิ่มจังหวะการโยกได้เริ่ดๆ ดูเป็นความชาญฉลาดของเพลงนี้จังเลยค่ะ ใช้เสียงบีทแรงๆ กับเสียงบริทที่น่ารักๆ ท่อนฮุคก็เก๋มากๆ ชอบสุดๆ ค่ะ ฟังไปยิ้มไป น่ารักอะ I'll fly away on a trip to your heart ท่อนนี้เก๋อะ ชอบๆ แล้วต่อด้วยท่อนแบบ Trip To ur... อารมณ์เหมือน Heaven On Earth เลยอะ ชอบมากกกกกกกกกกกก ดูเป็นบัลลาดที่มีสมองดีค่ะ ลูกเล่นอื่นๆ ชอบหมดเลย
Gasoline(6/5) แอร๊ยยยยยยยยยย เริ่มต้นได้เริ่ดมาก แล้วอัพเสียงเริ่ดแรงๆ แต่เด็ดสุดคงเป็นท่อนฮุคที่บอกว่า Yeah! Spark and it's like Gasoline. I start pumping like a machine... เนี่ยแหละค่ะ แอร๊ยยย ชอบอะ เริ่ดมาก พอจบท่อนฮุคก็อัพเสียงดนตรีให้ดูมีอะไรเยอะขึ้น ดูแรดขึ้น มีท่อนโซโล่ตอนหลังเสียงอีบริทก็กระเส่า พูดได้แรดมากกกกกกก เสียงดนตรี เสียงบริท เนื้อร้อง เข้ากันได้อย่างลงตัวมากๆ ค่ะ อีกแทรคเด็ดประจำอัลบัมเลยค่ะ เพลงนี้เด็ดดวงมากกกกกกกกก
ปิดอัลบัมแบบสแตนดาดด้วยเพลง Criminal (6/5) เริ่มด้นกับเสียงเศร้าของไวโอลิน(??) ต๊ายยยย เหมือนหนังจีนเลยค่ะ เสียงบริทก็แบบมาเต็มมากกับความเป็นบริท เข้ากับารมณ์ของเพลงที่สื่อถึงความเป็น Criminal ได้อย่างดีค่ะ จบอัลบัมได้เก๋มาก เหมือนแบบในหนังที่นางเอกตายตอนจบ ปิดอัลบัมได้ลงตัวมาก ท่อนบริจตอนสุดท้ายก็เก๋มากๆๆ สุดยอดจริงเพลงนี้ เริ่ดมากกกกกกกกกกกกก มันดูเข้ากันมากๆ ค่ะ
สรุป: อัลบัมนี้คงต้องบอกว่ามันคืออัลบัมที่เจ๋งที่สุดในความคิดของเดี๊ยน ตั้งแต่ต้นๆ กลางๆ เดือน มกราคม ที่ซิงเกิ้ลแรกออก เดี๊ยนคิดแล้วว่ามันคือส่วนผสมของความหนังหน่วงในแบบของ Blackout และความติดหูติดตลาดอย่าง Circus มันเป็นส่วนผสมที่ออกมาได้อย่างลงตัวจริงๆ ค่ะ แต่เหนือสิ่งอื่นใด อย่างที่เจ๊ไนน์บอกคือ บริทตีโจทย์ควาเมป็นคลับแด๊นที๋โยกได้สบายๆ แบบแตกกระจายค่ะ ทุกเพลงในอัลบัมหยิบมาตัดซิงเกิ้ลได้ทุกเพลงเลยจริงๆ ความเป็นหลาดและความหนักหน่วง ความเก๋ไก๋จากเสียงของบริททำให้ทุกเพลงมีมนต์ขลังแบบพิเศษในแบบที่เดี๊ยนรู้สึกได้ค่ะ ชีสามารถหยิบเอาความเริ่ดของ Blackout กับความง่ายๆ ของ Circusม าใช้อย่างลงตัวค่ะ เสียงของชีเล่นได้แบบน่ารัก สวย เริ่ด หรูหรา ไปจนถึงตวาดใส่ได้หมดค่ะ
หลายคนบอกว่าบริทอยู่ได้เพราะแฟนคลับ เดี๊ยนก็คงไม่เถียงหรอกค่ะ เพราะมันก็เรื่องจริง ศิลปินทุกคนมีแนวทางมีอะไรที่คล้ายกัน บริทไไม่ทำจเป็นต้องเปลี่ยนแปลงตัวเองทำแนวอื่นหรืออะไรทั้งสิ้น ชีอาศัยความรักและความศรัทธาในเพลงป๊อปของจิตวิญญาณแห่งควาเมป็น Pop Icon ของตัวเอง ใส่ของไปในผลที่สร้างสรรค์ออกมา อัลบัมนี้ชีใช้เวลากว่า 2 ปีในการสร้างสรรค์มันออกมา เลือกเพลงเข้า เลือกเพลงออกอัลบัมเป็นว่าเล่น เพื่อต้องการความลงตัวที่สุดสำหรับอัลบัมที่ 7 ที่ชีคอนเฟิร์มว่าเป็นการทำงานที่ดีที่สุดของตัวเอง ในความคิดว่าชีคงมีความเป็นผู้ใหญ่ขึ้นมากๆ ค่ะ แล้วการทำงานของชีพัฒนาไปตามอายุของชีมากขึ้นด้วย เดี๊ยนคงไม่แคร์ถ้าใครจะบอกอัลบัมนี้เป็นการพัฒนาลงหรือยิ่งทำยิ่งเน่า เพราะเดี๊ยนเคารพในการตัดสินใจของบริทและเคารพในผลงานที่ชีทำมาเพื่อแฟนๆ ของชี ดิชั้นรักและพร้อมจะอยู่เคยงข้างชีเสมอค่ะ และถึงตอนนี้ ดิชั้นคงกล้าเรียกได้อย่างเต็มปากว่าชีคือ GOD OF POP จรีงๆ ค่ะ เพราะชีทุ่มจิตวิญญาณของชีที่มีต่อเพลงป๊อปที่ชีรักและศรัทธาใส่ไว้ในอัลบัมนี้หมดแล้วละคะ
LONG LIVE GODNEY LEGEND SPEARS
Nini
หลังจากสตูดิโออัลบั้มล่าสุดCircus และ ทัวร์สุดยิ่งใหญ่ในปี2009อย่างThe Circus Starring Britney Spears Tour ซึ่งก็เป็นวลาเกือบ3ปี โดยก่อนที่เจ้าหญิงจะทรงผ่อนคลายพระวรกายอย่างจริงจัง ชีก็ได้ปล่อยรวมฮิตที่2 The Singles Collection มาให้เหล่าบรรดาแฟนคลับได้เสพสุขจนบรรลุขั้นนิพพานกันชั่วคราวก่อนจะที่ต้องรอกันจนเหงือกแห้งเหงือกบานกันต่อไป จนในที่สุด ต้นปีของทศวรรษใหม่ คริสต์ศักราช2011 เจ้าหญิงบริตนีย์ก็ได้ตื่นจากการบรรทมที่ยาวนาน และคลอดสตูดิโออัลบั้มลำดับที่7 ที่ชีบอกว่าล้ำที่สุดในชีวิตการเป็นศิลปินมาค่อนทศวรรษ
Britney Spears - Femme Fatale : 3/5
Femme Fatale ผู้หญิงที่เสน่ห์และต้องเป็นที่ตรึงตราตรึงใจผู้ชาย ชื่ออัลบั้มใหม่ที่ถูกถ่ายทอดออกมาด้วยศิลปะของภาษาฝรั่งเศสที่ถูกขนานว่าเป็นภาษาที่ไพเราะที่สุดในโลก และมีความหมายในเชิงอุปนัยมากกว่าชื่ออัลบั้มที่แล้วมา ซึ่งกำลังจะได้ฤกษ์วางแผงในวันที่29มีนาคมนี้ ซึ่งถือเป็นความโชคดีของตัวรีเองและบรรดาคนในบอร์ดforwardmagที่ได้ฟังก่อนใครตั้งแต่วันที่11 แต่อย่างไรก็ตามก็อย่าลืมซื้อของจริงกันด้วยนะค่ะ ขอพูดถึงอารมณ์ตอนที่ได้รับอัลบั้มนี้ตอนแรกสียหน่อย เมื่อวานเครื่องตัวเองก็แอบแฮงค์รุนแรงมาก นึกว่าจะไม่ได้ฟังวันนั้นเสียแล้ว แต่พอโหลดได้ก็ดีใจมากๆ มือสั่นไปหมดเลย ก็ลืมไปเลยน่ะว่าเคยคาดหวังกับอัลบั้มนี้มากแค่ไหน ณ ตอนนั้นขอให้ได้ฟังแค่นั้น เรื่องอื่นก็ไม่แคร์แล้ว เพียงขอให้ได้ฟังอัลบั้มนี้จริงๆซักที เป็นฟีลที่ดีใจมากฟีลนึงเลยก็ว่าได้น่ะ ถ้าโอเวอร์แอคติ่งกว่านี้อีกหน่อยก็ร้องไห้ไปแล้วอ่ะ +5555 มันเป็นความรู้สึกแบบว่า จะมีศิลปินกี่คนบนโลกที่มีอิทธิพลกับตัวเราเองได้มากขนาดนี้ แล้วบริตนี่ย์ สเปียร์สฺก็คือคนๆนั้นนั้นเอง
ก่อนจะพูดถึงภาพรวมในอัลบั้มนี้ ต้องขอเกริ่นเล็กน้อย หลังจากที่ความสำเร็จถล่มทลายของ Hold It Against Me ซิงเกิ้ลแรกจากอัลบั้มที่สร้างปรากฎการณ์มากมายตั้งแต่วินาทีแรกที่ปล่อยดาวน์โหลดและปล่อยตามคลื่นวิทยุ ไม่ว่าจะยอดแอร์เพลย์ ยอดขาย การพูดถึงในคนหมู่มาก ทั้งfacebook twitter นี้ยังไม่รวมMVที่ค่อยเซอร์ไพรส์แฟนคลับด้วยบรรดาทรีเซอร์ทั้ง13ตัวจนเป็นที่กล่าวขวัญกันอย่างยิ่งใหญ่ในทวิตเตอร์ จนบรรดาติ่งกาก้าพากันทนไม่ไหวพิมข้อความซ้ำจนเครือข่ายลบเพราะนึกว่าแสปม ก็คิดดูเอาละกันว่ามีแต่คนพากันอิจฉา ยังไม่พอ ซิงเกิ้ลนี้ยังเป็นซิงเกิ้ลที่4 ที่สามารถขึ้นสูงสุดในอันดับ1บนbillboard hot100ด้วยการเดบิ้วในวีคแรก และขึ้นอันดับ1บนพื้นที่หลายประเทศทั่วโลก ที่สำคัญเธอเป็นศิลปินหญิงคนแรกที่คว้าอันดับ1บนชาร์ตนี้ถึง3ทศวรรษติด คือ ...Baby One More Timeในช่วง1990s Womanizerและ3ในช่วง2000s ก่อนจะเป็น Hold It Against Meในช่วงทศวรรษ2010เป็นต้นไป หลังจากนั้นจึงได้ฤกษ์ปล่อยซิงเกิ้ลลำดับที่2อย่างTill The World Ends ในวันที่4 มีนาคมที่ผ่านมา ก่อนจะได้ที่20บนbillboard hot100โดยการเดบิ้วภายในวีคแรกที่ปล่อยโหลดเท่านั้นในสัปดาห์ที่ผ่านมา จึงแทบไม่ต้องกังวลเรื่องยอดขายว่าจะร่วงหรือแป๊กเลยก็ว่าได้ เพียงแต่ว่าสัปดาห์แรกจะถึงล้านแผ่นมั๊ย? ต้องเอาใจช่วยและสนับสนุนของแท้กันนะค่ะ
Femme Fatale เป็นการกลับมาร่วมงานกับโปรดิวเซอร์คู่บุญอย่างแมกซ์ มาตินอีกครั้ง หลักจากทั้งคู่ได้ร่วมงานกันครั้งล่าสุดในแทร็คไตเติ้ลของรวมฮิตล่าสุดThe Singles Collection ก็คือเพลง3นั้นเอง โดยครั้งนี้แมกซ์ มาตินได้เป็นหัวเรือใหญ่คุมบังเหียนอัลบั้มนี้ แต่คราวนี้ฮีไม่ได้มาโชว์เดี่ยวแต่พ่วงมาด้วยโปรดิวเซอร์สุดฮอต ดร.ลุค ให้มาช่วยผลักดันและบังคับทิศทางอัลบัมนี้ โดยนำสไตล์ของทั้งคู่มาร่วมด้วยช่วยกันเจียระไนอัลบั้มนี้ให้สมบูรณ์ที่สุด โดยมีโปรดิวเซอร์คนอื่นๆร่วมงานด้วยในบางแทร็คบ้างปะปลาย มาถึงรูปแบบของอัลบั้มนี้ก็เน้นความเป็นคลับแดนซ์ ปาร์ตี้มากขึ้น โดยคงสไตล์นำเสนอแบบเมนสตรีมป็อปแดนซ์สูตรสำเร็จของบริตนี่ย์ โดยเจือความเป็นเออบันมิวสิคกลายๆ ก่อนผสมด้วยซาวด์เทคโนแดนซ์อย่าง อิเล็กโทรนิก้า อินดัสเตรียล แทรนซ์ ดิสโก้ แม้กระทั้งเทคโนเฮาส์ โดยขนทั้งโปรแกรมมิ่งและซาวด์สังเคราะห์มาแต่งเสริมเติมแต่งให้กลายเป็นเพลงกะเทยซ่องแตก แบบนันสต็อปโดยแทบไม่ต้องรีมิกซ์กันเลยทีเดียว ทั้งซาวด์และบีทตึบๆทึบๆแบบสาดพุ่งพล่านฟุ้งกระจายเต็มไปหมด แม้กระทั้งเพลงบัลลาดช้าๆเองก็ตาม
จุดเด่น
การที่แม็กมาตินและดร.ลุคมาเป็นผู้โปรดิวเซอร์หลักคุมบังเหียนและดูแลภาพรวมอัลบั้มนี้ ทำให้แต่ละแทร็คในอัลบั้มนี้ไม่แตกต่างกันมาก จนขนาดสามารถจิ้มแทร็คไหนแล้วก็ดูไม่ต่างจากแทร็คก่อนคืออารมณ์ประมาณนั้น ทำให้อัลบั้มนี้เป็นอัลบั้มนึงที่มีความเป็นเอกภาพสูงมาก มากว่าตอนback outเสียด้วยซ้ำ และลูกเล่นส่วนใหญ่ในอัลบั้มนี้ค่อนข้างจะหนักไปทางคลับแดนซ์เมนสตรีม จึงไม่น่าจะเจาะตลาดตอนนี้ยากเกินไปนัก
จุดด้อย
จริงๆจุดด้อยของอัลบั้มก็อยู่ที่เลือกดร.ลุคมาดูแลภาพรวมนั้นแหล่ะ แต่ขอไม่พูดถึงก็แล้วกัน แต่จุดสำคัญที่เป็นข้อด้อยมากที่สุดก็คือ อัลบั้มนี้ขาดปัจเจกความเป็นตัวตนบริตนีย์มากที่สุด แบบที่back outชิดซ้ายไปเลยทีเดียว และอีกข้อนึงที่คิดว่าจะไม่ได้เจอแล้วในอัลบั้มนี้แต่ก็ยังเจอก็อีก ก็คือแทร็คกะโหลกกะลาไร้สาระแบบตัดขายไปแข่งกับพวกศิลปินเกรดบีได้เลย จริงๆชื่อเสียงระดับบริตนี่ย์ สเปียร์ ณ เวลานี้ขอพูดได้เต็มปากเลยว่าชีเป็นศิลปินดังที่สุดของโลกเลยก็ว่าได้ การที่จะมาต้องทำเพลงเกรดบีแข่งกับศิลปินรุ่นลูกนี้ไม่น่าเหลือให้เห็นแล้ว เพราะชีไม่ใช่พวกเจโล หรือกาก้า ชีดังจนไม่รู้จะสรรหาความดังตรงไหนบนโลกนี้มาเพิ่มได้อีกแล้ว แต่ก็อย่างว่า เดี๋ยวนี้แกรมมี่ยังแคร์คุณภาพน้อยกว่าความดังเลย จึงก็ไม่แปลกใจอะไรมากนัก แต่ถ้ามองในมุมกลับกัน ส่วนตัวคิดว่าน่ะ เหมือนอัลบั้มนี้บริตต้องการเรียกศรัทธาจากอดีตแฟนคลับเก่าๆที่เคยหมดศรัทธาไป รวมถึงพวกเจเนอเรชั่นใหม่ ที่กำลังบูชาลัทธิกาก้า สวิฟท์ เคชช่า อีแขอะไรเทือกนั้นกลับมา เพราะว่าตอนตัดHold It Against Meนั้น อัลบั้มนี้ยังคงไม่เรียบร้อยเกิน70%อย่างแน่นอน เพราะทั้งชูตโปรโมตอัลบั้มที่มีเพียงรูปเดียว รวมถึงเพลงต่างๆอยู่ในสภาวะก่ำกึ่งที่จะคัดเข้าหรือเอาออก อาจเพราะต้องรอฟีดแบ็กจากซิงเกิ้ลแรก ซึ่งมันก็กลายเป็นเพลงที่ประสบความสำเร็จมากมายมหาศาล ทำให้บริตพอกำหนดทิศทางอัลบั้มที่ตรงเป้าหมายของตลาดได้นั้นเอง แต่ก็นั้นล่ะ ระดับเจ้าหญิงเพลงป็อปไม่น่าจะต้องมาเอาใจตลาดขนาดนั้นอยู่ดี
Till The World Ends : 2.5/5
ไตเติ้ลแทร็คประจำอัลบั้มFemme Fatale ที่มีภาษีเป็นถึงซิงเกิ้ลลำดับที่2ของอัลบั้มนี้อีกด้วย ป็อปเมนสตีมเจือความเป็นอิเล็กโทรนิก้าแบบพวกคลับแดนซ์ ติดสำเนียงพวกแทรนซ์แบบดนตรีรีมิกซ์ เดินบีทอาร์แอนด์บีกรุยกราย ฟุ้งไปด้วยโปรแกรมมิ่งและซาวด์สังเคราะห์แบบเสียงเกมส์กดเลเซอร์ ผสมกับซาวด์ออโต้จูนตามถนัดของดร.ลุก ซึ่งเพลงนี้ก็ได้อีเคชช่ามาเขียนให้อีกต่างหาก ก็เลยไม่น่าแปลกใจใดๆทั้งสิ้น ที่เพลงนี้ได้กลายเป็นเพลงบอลโลกฟีฟ่าอะไรเช่นนี้
Hold It Against Me : 4/5
ลีดซิงเกิ้ลที่สร้างปรากฎการณ์มากมายมหาศาลในชีวิตการเป็นเป็นศิลปินของบริตนี่ย์ สเปียร์ ก่อนอื่นต้องชมเพลงนี้ก่อนเลยว่ากล้าที่จะฉีกแนวซิงเกิ้ลเปิดตัวแบบเดิมอยู่บ้าง ทั้งเรื่องการเดินบีทได้หนักหน่วงถึงใจและกระชับ ก่อนจะตัดเข้าฮุคแบบยูโรบีทแบบยังพาราด็อกกันอยู่กับอิเล็กโทรนิกจัดจ้าน และมีเซอร์ไพรส์ท่อนเบรคแดนซ์ให้ได้ฮาก๊ากไปตามๆกัน ส่วนตัวก็เคยรีวิวเพลงนี้ไปแล้วจึงไม่ขอพูดถึงรายละเอียดเพิ่มเติมอะไรอีก แต่พอเจอหลายๆแทร็คในอัลบั้มนี้แล้ว แทร็คนี้จึงดูดีผิดหูผิดตากันเลยทีเดียว ที่สำคัญเอ็มวีก็ทำได้ดีมาก ถ้าไม่ติดฉากควันภูธรขึ้นแบบฉากท้ายสุด ก็จะน่าประทับใจมากกว่านี้อีก แต่กระนั้นก็เพิ่มอีก0.5เป็น4ไปเลยก็แล้วกัน
Inside Out : 2.5/5
ฟังครั้งแรกแอบนึกว่าเน็ตหลุด หุหุ บัลลาดโปรแกรมมิ่งที่ตกแต่งซะไม่เหลือเค้าดั้งเดิมของดนตรี ก่อนปรับแต่งเสียงให้แผดแบบออโต้จูนซะน่ากลัวกันเลยทีเดียว ส่วนตัวตอนแรกฟังตัวอย่างครั้งแรกก็ไม่ชอบเลยเพราะฟีลเดียวกับOut from Underอย่างกับถอดแบบกันมา แต่พอฟังจนจบแล้วถึงบอกได้ว่าทำได้ดีกว่าเพลงนั้นอยู่เสียบ้าง แต่ข้อเสียหลักๆเลยก็คือปรับแต่งซะจนลดความสดของดนตรีหายไปเยอะมาก จนกลายเป็นบัลลาดแบนๆแกนๆ รวมถึงฟีลที่ต้องการจะสื่อของเพลงนี้ก็ดูเลื่อนลอยเกินไป แต่ก็ยังดูดีกว่าหลายๆแทร็คในอัลบั้มนี้อยู่ดีนั้นแหล่ะ
I Wanna Go : 1.5/5
ตอนที่ฟังตัวอย่างเพลงนี้ พร้อมคำรีวิวบอกเล่าของคนที่ได้ฟังเพลงนี้เต็มๆแล้ว ครั้งแรกที่ฟังตัวอย่างเหมือนจะมีท่อนแซมเพิ้ลhung upอีป้ามะดันอยู่บ้าง ซึ่งก็คิดว่าอาจมาในแบบยูโรแดนซ์อะไรอย่างนั้น แต่สิ่งที่ขัดแย้งกัน คือคำบอกเล่าในรีวิวนั้นที่บอกว่าเพลงนี้ซาวด์อ่อนมากขนาดเทียบกับเพลงAbout You Nowของหมูหวานเลยทีเดียว ซึ่งพอได้ฟังเต็มเพลงแล้วบอกตรงๆ ยอมให้เหมือนอีเหี่ยวฟ้ายังดีเสียกว่า มันจะไปเหมือนได้ไงล่ะค่ะ อีhung upยังดีกว่ามากมายนัก ยูโรแดนซ์ผสมsynthesizer ติดจังเกิ้ลดรัมแอนด์เบส ที่นอกจากซาวด์จะอ่อนจนเป็นป็อปบับเบิ้ลกรัมอยู่แล้ว ยังมั่วและไร้ทิศทางจนไม่รู้ว่าเพลงนี้จะสื่อห่าอะไรออกมา เป็นเพลงที่ฟังแล้วกล้าพูดได้เลยว่าเฟลและเสียอารมณ์มากๆ
How I Roll : 4/5
อินโทรขึ้นมาตอนแรกแอบตกใจน่ะ ว๊ายย!!! ตกลงจะไม่มีซักเพลงที่ทำให้ชอบได้เลยใช่มั๊ยนี้?? แต่พอฟังไปสักพักแล้วถึงบางอ้อ!!~ รายละเอียดต่างๆที่ซ่อนเอาไว้ก็เริ่มปรากฏเด่นชัดขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งรายละเอียดไลน์ดนตรีเพลงนี้ ถือได้ว่าค่อนข้างดีทีเดียว ถึงจะแอบรกๆไปเสียหน่อย แต่ก็ออกมาดูดีเป็นพิเศษ พอดูชื่อโปรดิวเซอร์เพลงนี้ แล้วแหม!! จะใครเสียอีก ก็Blooshyนี้เอง ซึ่งเพลงดังๆอย่างเพลงที่ได้แกรมมี่อย่างtoxicหรือเจ้าของVMA2008 ถึง2รางวัลอย่างpiece of meก็ได้ตานี้มาโปรดิวซ์ให้ นี้ยังไม่รวมเพลงโปรดส่วนตัวอย่างunusual youอีกนะนี้ ฟังครั้งแรกแล้วอาจจะแปลกหูไปเสียหน่อย แต่พอฟังเรื่อยๆแล้วเป็นแทร็คนึงที่ดีใช้ได้เลย อาร์แอนด์บีโปรแกรมมิ่ง ติดสำเนียงออโต้จูน ตบท้ายด้วยเสียงสังเคราะห์แบบพวกBeat Boxโปร่งๆ แต่แอบมีข้อเสียนิดนึงคือเสียงบริตดูลอยๆไปหน่อย แล้วคอรัสก็แย่งซีนไม่ถูกที่ถูกเวลามากนัก แต่ก็เป็นแค่ยีนต์ด้อยเล็กๆน้อยๆที่อภัยให้ได้นะน่ะ โดยรวมจัดว่าดีมากค่ะ
(Drop Dead) Beautiful : 1/5
ถ้าถามว่าเกลียดเพลงไหนที่สุดในอัลบั้มก็เลือกเพลงนี้แหล่ะ ถึงจะกะโหลกกะลาพอๆกะI Wanna Go แต่อันนี้เลวร้ายกว่าเพลงนั้นนิดหน่อย แล้วเสียงหัวเราะที่ซาบินี้ก็สยองมากๆ สรุปว่าเป็นเพลงที่ไม่ก่อเกิดแรงบันดาลใจให้พูดถึงอะไรเลย ขอข้ามไปแทร็คอื่นแล้วกันค่ะ
Seal It With A Kiss : 2.5/5
ความคิดเห็นส่วนตัวมองว่าเพลงนี้ทำได้ดีปานกลาง คือมันไม่ได้ดีมากขนาดเป็นแทร็คที่น่าสนใจ หรือเลวร้าย อุบาทว์ หรือเสร่อจนรับไม่ได้ คือภาพรวมของเพลงนี้มันดูกั๊กๆไปเสียหน่อย แล้วทิศทางกับอารมณ์ก็ไม่ค่อยส่งกันเท่าที่ควร ทำให้ถ้าเทียบกับเพลงอื่นๆที่จัดว่าค่อนข้างดีในอัลบั้มนี้ เลยจัดอยู่ในหมวดที่ไม่ค่อยน่าสนใจเท่าที่ควรเหมือนเพลงที่ถูกลืมจากอัลบั้ม ตัวเพลงเองก็เป็นอิเล็กโทรนิกป็อปร็อคจืดๆชืดๆ แต่ถ้าอัพบีทให้แน่นกว่านี้คิดว่าน่าจะเป็นเพลงที่ใช้ได้เลยทีเดียว
Big Fat Bass : 3/5
ครั้งแรกตอนรู้ว่าวิลไอแอมจะมาเป็นโปรดิวเซอร์ให้ก็แอบหวังว่ามันต้องดีและเจ๋งมากๆ พอๆกับต้องสำคัญขนาดได้ตัดเป็นซิงเกิ้ลโปรโมตแน่นอน แต่พอได้ฟังแล้วเสียของมากๆ เหมือนB.E.P. ver.บริตนี่ย์อะไรแบบนั้นเลย จริงๆถ้าอยากได้เพลงพี้ยาซ่องแตกเอาแค่อีเคชช่ามาคนเดียวก็ได้ ไม่ต้องเอาถึงอีวิลไอแอมมาช่วยก็ได้ ส่วนตัวเพลงนี้เองก็เป็นเออบัน ฮิฟฮฮฟสไตล์ถนัดของB.E.P.ผสมจังหวะดิสโก้คลับแดนซ์พี้ยามันส์ตามผับ บาร์ หรือพวกรถบั๊ม โดยเลือกนำเสนอด้วยแนวดนตรีอย่างอินดัสเตรียลทั้ง กีต้าไฟฟ้า เบสไฟฟ้า กลองโปรแกรมมิ่งที่กระหน่ำแบบกลัวออกมาแล้วจะมันส์ไม่หนำใจ พร้องทั้งเสียงออโต้จูนที่แปลงซ่ะไม่เหลือเค้าความเป็นเพลงมนุษย์หลงเหลือ แม้เพลงนี้จะทำออกมาได้โหลมากๆแต่ก็พูดได้เต็มปากเลยว่ามันส์ใช้ได้ทีเดียว
Trouble For Me : 3/5
เพลงนี้ส่วนตัวก็จัดมาโอเคดีใช้ได้อีกเพลงนึงเลย แม้ว่าจะออโต้จูนเต็มสตรีมซ่ะจำเสียงนักร้องไม่ได้กันเลยทีเดียว ยูโรป็อปแดนซ์แบบอัฟบีทอาร์แอนด์บีทตึบๆทึบๆ เดินบีทด้วยกลองโปรแกรมมิ่งเทคโนจัดๆเจือดนตรีแบบพวกแทรนซ์และนิวเวฟไปหน่อยสไสตล์คลับแดนซ์แบบกรึ่มๆ ซึ่งออกมาเหมือนดูโหวงๆแปลกๆไปเสียหน่อย รวมทั้งฟังๆไปก็พอจินตนาการหน้าอีเคชช่าลอยมาบ้าง แต่ก็เป็นแทร็คที่โอเคระดับนึงเลย
Trip To Your Heart : 5/5
ไม่มีเหตุผลใดๆที่จะต้องกดข้ามไปแทร็คอื่นๆอีกต่อไป ตั้งแต่อินโทรขึ้นมาก็การันตรีได้ว่าเปรี้ยวแน่นอน ซึ่งได้แซมเพิ้ลจากtroubleโบนัสแทร็คในอัลบัมที่แล้ว ก่อนจะเลื้อยไปกับยูโรแดนซ์ติดสำเนียงเฮาส์เนิบๆ เลื้อยๆ เจือกลิ่นแทรนซ์บางๆ เพิ่มลูกเล่นจำพวกดนตรีแอมเบี้ยนให้deepสู่ขั้นนิพพานกันเสียเลยทีเดียว แบบที่เคยได้ลิ้มรสสัมผัสในHeaven on Earth ซึ่งเพลงTrip To Your Heartนี้ก็เป็นอีกเพลงนึงที่ได้Blooshyมาเป็นโปรดิวเซอร์ให้ แหม!! เริ่ดขนาดนี้ แต่งงานกับฉันเลยแม่ะ +555 ไม่เคยทำให้ผิดหวังจริงๆ แต่ช่วงนี้รู้สึกว่าบริตนี่ย์จะทำพวกยูโรแดนซ์ คลับเฮาส์บ่อยจัง ที่สำคัญกว่านั้นคือทำได้ดีมากๆทุกเพลง หรืออัลบั้มหน้าจะมาแบบคลับเฮาส์เลยจ้ะ?? หอกศรี
Gasoline : 2/5
ป็อปแดนซ์รากสำเนียงอิเล็กโทรนิก อาร์แอนด์บีซ้ำๆซากๆที่เห็นได้ทั่วไปตามพวกนักร้องเกรดบี รวมทั้งตามแทร็คต้นๆในอัลบั้มนี้ก็ด้วย ซึ่งไม่ได้ฉีกแนวแตกต่างอะไรจากเพลงต้นๆมากมายนัก ทั้งโปรแกรมมิ่งและออโต้จูน ดังนั้นเลยขอรีวิวแบบไม่แตกต่างอะไรกับแทร็คก่อนๆมากมายนักเหมือนกัน
Criminal : 5/5
กรี๊ดดดดดดดดดดด ชอบมาก เลือกยากน่ะถ้าให้เลือกชอบระหว่างTrip To Your Heartกะเพลงนี้ แม้บริตจะเคยทำเพลงสไตล์แนวๆนี้ทั้งคู่ แต่ส่วนตัวชอบเพลงนี้มากกว่านิดหน่อย อินโทรเสียงขลุ่ยเบาๆแต่บาดลึกถึงอารมณ์ เป็นแซพเพิ้ลแบบหนังคาวบอยหรือการ์ตูนซามูไรญี่ปุ่นตอนจบอะไรเทือกนั้น ตัวเพลงเองก็เป็นป็อปบัลลาดโปแกรมมิ่งกีต้าโปร่ง หวานๆเข้ากับกลองและเสียงสังเคราะห์ที่ส่งทั้งอารมณ์และตัวเพลงให้ออกมาสวยงามและไพเราะ เหมือนกับที่เคยทำให้เห็นในอัลบั้มที่แล้วอย่าง Quicksand ที่สงสัยจะแอบเสียดายเพลงนั้นอยู่ จริงๆInside Outก็ทำออกมาสไตล์นี้ เพียงแต่ทำออกมาไม่ดีเท่า ส่วนตัวแทร็คนี้อาจให้คะแนนเว่อร์ไปเสียหน่อย แต่ชอบมากจริงๆน่ะ ถือเป็นเพลงปิดอัลบั้มที่ดีทีเดียว
สรุป
ด้วยความหมุนเวียนไปกลไกตลาดและวัฏจักร ยุคเก่าไปยุคใหม่มา มีศิลปินต่างๆมากมายที่เกิดใหม่เป็นพายุดอกเห็ด ทำให้ศิลปินในอดีตมากมายก็ต่างล้มลุกคลุกคลาน ปากกัดตีนถีบเพื่อให้ตัวเองอยู่รอดในวงโคจร บ้างก็หลุดหายตายจากไปจากวงโคจร บ้างก็ยังพอประทังชีวิตหากินกับรวมฮิตเก่าๆ ซึ่งจะเหลือศิลปินอีกสักกี่คน ที่ผ่านมานานกว่า10ปีแล้วยังอยู่รอดจนเป็นที่ประจักษ์แก่คนรุ่นหลังให้ได้ชื่นชม สนใจและยึดถือเป็นตัวอย่าง ดังนั้นมันเป็นเรื่องยากมากที่ศิลปินคนหนึ่งจะดำรงคงอยู่ได้แม้ผ่านเวลามานานนับทศวรรษโดยไม่ผ่านอุปสรรคอะไรเลย แต่สิ่งที่ยากกว่าคือการทำให้ทุกคนบนโลกสนใจต่อผลงานได้สร้างสรรค์ผลิตออกมา แม้บางครั้งมันอาจจะไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบและคำชื่นชม สำคัญที่สุดแม้ว่าใครจะค่อนขอดต่อสิ่งที่ทำมากมายแค่ไหน ต้องพิสูจน์ให้เป็นที่ประจักษ์และได้รับการยอมรับให้จนได้
Femme Fatale แม้ว่ามันจะดูผิดคาดไปเสียบ้าง หรืออาจดร็อปลงบ้าง แต่มันก็ไม่ได้เฟลหรือฟล็อฟอะไรขนาดนั้น มันขึ้นอยู่ที่เทสต์ของแต่ละคนมากกว่า ส่วนตัวขอใช้คำว่าผิดคาดและนอยด์กับอัลบั้มนี้นิดหน่อย เพราะหวังไว้ค่อนข้าสูงมากๆกับคำโฆษณา แต่ออกมาจริงๆก็แอบเฟลนิดนึง แต่สิ่งที่ไม่ผิดคาดแน่นอนก็คือยอดขายอัลบั้มนี้ ที่พอถึงวันจริงๆ ติ่งศิลปินคนอื่นๆ อาจได้มีหนาวๆร้อนๆแน่นอน ถึงกระนั้นยังไงก็อยากให้ซื้อของจริงกัน ส่วนตัวคงไม่ถึงขนาดพรีออเดอร์อะไรขนาดนั้น แต้ก็ซื้อของจริงแน่นอน แต่ยังไงก็ช่วยสนับสนุนอัลบั้มนี้ด้วยนะค่ะ
สุดท้ายแม้อนาคตเธออาจจะไม่สามารถกลับไปเป็นNo.1ของโลกได้อีก แต่เชื่อเหอะว่าคนหลายล้านคนก็ให้เธอเป็นNo.1ในใจและจะยืนเคียงข้างเธอต่อไปไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ใช่แล้ว เราจะยืนเคียงข้างในฐานะแฟนคลับของเธอตลอดไป กับเธอคนนี้ บริตนี่ย์ สเปียร์...
_________________






) ว่ามะ?




