Hansel & Gretel (2/5)
หนังอีกเรื่องที่ดูเทรลเลอร์แล้วอยากดูมากๆ แต่พอมาดูเข้าจริงๆแทบระงับอารมณ์ขว้างป๊อปคอร์นใส่หน้าจอแทบไม่ทัน เพราะตั้งความหวังไว้สูงด้วยบวกกับตัวหนังที่ในความคิดส่วนตัวเห็นว่ามัน "แย่"มากๆ ชนิดไม่คิดว่ามันจะออกได้ถึงขนาดนี้ เข้าเรื่องค่ะ เดี๋ยวจะกลายเป็นเอาหนังเขามาด่าอย่างเดียว
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว มีสองพี่น้องฮันเซล และเกรเทลหลงไปอยู่ในกระท่อมแม่มดร้ายกลางป่า เด็กน้อยทั้งสองกำลังจะกลายเป็นเหยื่อแต่ก็สามารถรอดมาได้ด้วยมุขคลาสสิก ผลักยัยแม่มดยัดเตาเผาเป็นเครื่องสังฆโลกเลยเก๋ๆ และเหตุการณ์นั้นเป็นต้นมา ก็ทำให้สองหน่อนี้กลายร่างมาเป็นนักล่าแม่มดโดยสมบูรณ์
เนื้อเรื่องทั้งหลายก็เกิดจากนี้เมื่อฮันเซลและเกรเทลรับจ๊อบทวงเด็กที่เจอแม่มดลักพาตัวไปเอากลับมายังหมู่บ้านได้อย่างปลอดภัย รวมถึงอีกส่วนที่ปูเนื้อเรื่องมาให้สองศรีพี่น้องเป็นเป้าสายตาของนายอำเภอที่จ้องจะชิงดีชิงเด่นระคนหมันไส้ อารมณ์ประมาณสู้ทั้งคนสู้ทั้งผี
ทุกอย่างดำเนินไปโดยง่าย แบบที่คนดูสามารถคิดออก ปะติดปะต่อเรื่องยันตอนจบได้เลยตั้งแต่ 20 นาทีแรก ฉากทั้งหลายแหล่ดูแล้วยังไงๆก็เตี๊ยมไว้ ทั้งโปรดักชั่นที่ไร้ความสมจริงที่สุดในโลก อยากจะบอกว่าละครป่านางเสือช่องเจ็ดสียังทำมาดูดีกว่า บทบาทตัวละครที่นึกจะโผล่ก็โผล่มา นึกจะหายก็หายไป
ไหนๆเนื้อเรื่องก็ไม่เป็นอะไรที่น่าประทับใจแล้ว จุดขายสำรองอย่างฉากต่อสู้ก็ออกมาแย่พอกัน เพราะแม่มดของเรื่องนี้อ่อนแอยิ่งกว่าผีแพนเค้กหอแต๋วแตกซะอีก เรียกได้ว่าแค่จามรดหัว นังแม่มดทั้งหลายก็คงสลายกลายเป็นผงปลิวปลอยไปตามสายลม ซึ่งทำให้ดิชั้นหมดอารมณ์สุดขีดทันทีที่ฉากต่อสู้แรกจบไป ถ้าคุณกำลังถามหาความแฟนตาซี การต่อสู้แบบสนุกๆอย่างแวนเฮลซิ่ง ลอร์ดออฟเดอะริงล่ะก็ คุณได้ผิดหวังแน่นอน สิ่งที่คุณจะเห็นคือแม่มดที่ดูเฟกเหมือนกับแวมไพร์จากไทวไลท์ที่ดูแล้วขาดจินตนาการอย่างมากที่สุด และสิ่งที่ขัดใจดิชั้นมากที่สุดคือ แม่มดทั้งหลายช่างกระจอกงอกง่อยไร้น้ำมากๆ พวกหล่อนใช้เวทมนตร์ได้น้อยกว่าแม่มดน้อยโดเรมีหรือบินได้ต่ำกว่าแมลงวันซะอีก โอ๊ย จะเป็นลม
พอตัวโกงหลักเริ่มโผล่มา เนื้อเรื่องก็เริ่มเข้มข้นขึ้นบ้าง แต่ก็เป็นไปตามที่คาดเดาเกือบจะทุกประการ ไม่มีคำว่าหักมุม หรือคิดไม่ถึง จุดที่แย่ที่สุดคือตัวเอกแทบไม่ตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบเลย และความไม่สมจริงหลายประการทางด้านการวางบท ไทม์ไลน์ ที่ถามโถมเข้ามาเยอะมาก *คิดดูละกันค่ะ อีพระเอกเกาะไม้กวาดแม่มดไป แต่อีแม่มดไม่ทำร้ายอะไรเลย แถมยังใจดีมาปล่อยไว้ที่ต้นไม้แบบสวยๆให้ได้มีเวลารักษาตัวอีก แน๊ะ ! แล้วอีฉากที่ฮันเซลหาเกรเทลเจอ เป็นอะไรที่เตี๊ยมและน้ำเน่ามากๆๆ *
ตัวละครสนับสนุนเริ่มเพิ่มเข้ามาให้ความช่วยเหลือ แบบว่าทุกปัญหาแก้ได้ ไม่มีทางที่เราจะแพ้ อุ๊ยตาย นี่ชั้นดูอะไรคะวอล์ทดิสนีย์หรอ? (พูดก็พูด การ์ตูนเด็กยังทำได้ดีกว่า) ทุกตัวโผล่มาแบบนึกจะมาก็มา ไม่มีการปูเรื่องมาก่อนเลยว่าทำไมอีนี่มาอยู่ตรงนี้ อีนั่นทำไมไปอยู่ตรงนั้น
แม่มดที่เป็นตัวเอกของเรื่องไม่ค่อยได้แสดงด้านอะไรมากนัก เหมือนออกมาสู้ๆ สู้เสร็จก็ตายห่าอย่างเดียว แบนพอๆกับบทไฮดริกในดิสมีนวอร์นั่นล่ะ แถมในเรื่องชีจะเป็นแม่มดที่มีอำนาจมากที่สุดเลยนะจ้ะ แต่ถามถึงความเก่งของเธอน่ะเหรอ ไม่มีค่ะ เธอนำเสนอแต่ความทนมือทนเท้าที่มีต่อฮันเซลและเกรเทลเพื่อที่จะยืดเวลาให้แตะชั่วโมงครึ่งตามมาตรฐานหนังที่ควรเป็นแค่นั้น
การต่อสู้ปิดท้ายขอบอกว่า เห่ย และไร้รสนิยมมาก บรรยายไม่ได้ต้องไปดูเองถึงจะบรรลุ
นึกว่าหนังตลกนะคะ พูดจริงๆ อ่อ ! ใช่ ตอนไคลแม๊กซ์(เหรอ) จะมีเล่าถึมปูมหลัง อดีตของสองพี่น้องเสริมความน้ำเน่า แล้วก็ความจริงที่ว่าทำไมทั้งสองจึงเป็นนักล่าแม่มดมาได้จนบัดนี้ ด้วยอุปการะคุณจากนังแม่มดตัวโกงที่จู่ๆก็เดินเข้ามาเล่าให้ฟังซะดื้อๆ
พูดถึงนักแสดงไม่รู้ไปขุดมาจากไหน สำหรับตัวดิชั้นรู้สึกว่าบทบาท ภาพลักษณ์มันขัดกันหลายอย่างมากๆ อย่างพระเอกที่ดูแก๊แก่ มากพอที่จะเป็นพ่อด้วยซ้ำ นังแม่มดที่ดูไม่เฟียซ ไม่เซกซี่อะไรเลย เหมือนป้าแก่ๆจากอดัมแฟมิลี่ และที่อยากเป็นลมที่สุดคือแม่มดฝาแฝดหมอพรทิพย์ โอย แม่นึกว่าจอนนี่ เดปป์ ฯลฯ
ถ้าว่ากันตรงๆมันก็ไม่ได้แย่ติดลบอะไรขนาดนั้นค่ะ แต่ต้องโทษที่หนังทำพล๊อตเรื่อง วางโครงมาให้เดาง่ายบวกกับหนังเอาคนดูไม่อยู่ ทำให้ไม่เกิดความอิน เมื่อไม่อินแล้วมันจะสนุกได้ยังไง จริงไหมคะ สรุปแล้วเอาไป 2 เป็นคะแนนที่ค่อนข้างเกรงใจแล้วนะคะ ซึ่ง Imdb ให้ไว้ 6.1 ซึ่งถือว่าเมตตามากแล้วในความคิดดิฉัน