˹���á Forward Magazine

ตอบ

“สุสานนักเรียน ตอนที่1 (Part9+10)
ผู้ตั้ง ข้อความ
ตอบโดยอ้างข้อความ
ตอบ “สุสานนักเรียน ตอนที่1 (Part9+10) 


http://hysteriaculture.wordpress.com

http://www.facebook.com/hysteriaculture

“สุสานนักเรียน ตอนที่1 เสียงบรรเลงดนตรีไทยอาถรรพ์จากห้องนาฏศิลป์”

บทความ/นิยา่ยในเพจ Hysteria นี้ ถือเป็นลิขสิทธิ์แก่ผู้เขียน “นายมัลนร ล้ำสกุลวงศ์” (https://www.facebook.com/ArmandVladJekyllDangouleme8774 และเพจ http://www.facebook.com/hysteriaculture )เท่านั้น ห้ามทำซ้ำ ดัดแปลง คัดลอกส่วนหนึ่งส่วนใด หรือนำไปเผยแพร่โดยไม่ได้รับอนุญาติ

ฟารีดานอนกระสับกระส่ายอยู่ในห้องเธอ เด็กสาวเหงื่อไหลพรากพลางพร่ำเพ้อและร้องครางกับภาพที่เห็นในฝัน “ไม่ได้นะ ‘อนุรักษ์’ ลูกก็รู้นี่ว่าแม่มีลูกชายแค่คนเดียวและตระกูลเราตอนนี้ก็มีลูกที่เป็นหลานผู้ชายคนเดียวแล้วลูกมาเป็นแบบนี้แม่จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน!” ฟารีดาเห็นภาพที่อุไรกำลังใช้ไม้เรียวเฆี่ยนเด็กผู้ชายคนหนึ่งภายใต้ม่านน้ำตานั้นเด็กหนุ่มมีใบหน้าคมเข้มหล่อเหลาไม่เบาทีเดียว ฟารีดารู้สึกสงสารอนุรักษ์ขึ้นมาจับใจเมื่อเห็นเขาก้มลงไปหยิบจดหมายและภาพถ่ายที่ถูกอุไรฉีกเป็นชิ้นๆ ภาพตัดมาที่อนุรักษ์กำลังยืนกอดกับเด็กผู้ชายคนหนึ่งในห้องเรียนและทั้งคู่ต่างร้องไห้ “เราขอโทษจริงๆ ‘คิรินทร์’ เรารักนายที่สุดแต่แม่รู้เรื่องของเราทั้งคู่แล้วและท่านสั่งให้พวกเราหยุด” ฟารีดาเห็นอุไรเขวี้ยงขันน้ำอบและพานบายศรีใส่เด็กสาวในชุดนางรำคนหนึ่ง เด็กสาวล้มลงเนื่องจากอุไรโถมตัวไปถีบเธอเสียเต็มแรง “เลี้ยงเสียข้าวสุก ไม่ได้ดังใจกูเลย!!!” เธอกรีดเสียงพลางพุ่งเข้าตบตีและจิกผมเด็กสาวคนนั้นแบบที่เคยทำกับฟารีดา อีกชั่วอึดใจฟารีดามายืนอยู่ด้านข้างของอุไรที่กำลังกอดร่างๆหนึ่งที่นอนนิ่งไม่ไหวติงบนพื้น เธอตัวสั่นเทิ้มและกรีดเสียงร้องไห้แทบขาดใจ “อนุรักษ์ อนุรักษ์ โธ่ ลูก! ทำไมต้องเป็นแบบนี้ ทำไมต้องเป็นแบบนี้!!!!” เธอตะโกนอย่างเสียสติด้วยหัวใจที่แตกสลายของผู้เป็นแม่ ฟารีดารู้สึกสงสารอาจารย์ของเธอเธอเดินตรงเข้าไปหมายที่จะกอดจะปลอบใจแต่แล้วก็ต้องตกตะลึงตาเบิกโพลงกับภาพตรงหน้าของอนุรักษ์ที่ ณ ขณะนี้เครื่องหน้าที่เคยคมเข้มหล่อเหลาของเขาบิดเบี้ยวน่ากลัวเหมือนใบหน้าของยักษ์ ฟารีดากรีดร้องก่อนจะสะดุ้งตื่นขึ้นมา

ที่หอพักครู เลวรำพึงสะดุ้งตื่นขึ้นมาเช่นกันเพราะเสียงกรีดร้องของใครคนหนึ่งที่เหมือนกับดังก้องมาจากที่ไกลๆที่ไหนสักแห่ง หญิงสาวนึกทบทวนถึงสิ่งที่เกิดขึ้นในความฝันของเธอภาพของหญิงสาวในชุดนางรำที่กำลังร่ายรำอยู่ตรงกลางเรือนกลางน้ำพินิจพิจารณาใบหน้าของเธอแล้วหาได้ดูสยดสยองน่ากลัวเหมือนกับที่เธอเคยเห็นจากฟารีดาที่โรงพยาบาลไม่กลับกันเธอดูสวยงาม อ่อนหวานและน่าสงสาร เลวรำพึงภาพใบหน้าที่น้ำตาเอ่อนองของหญิงสาวได้เธอหันมามองเลวรำพึงพลางวิงวอนขอให้เธอช่วยปลดปล่อยให้เธอหลุดไปจากเรือนกลางน้ำที่จองจำกักขังดวงวิญญาณของเธอเสียที

เลวรำพึงลุกขึ้นมาเข้าห้องน้ำท่ามกลางเสียงดนตรีไทยปริศนาที่ดังก้องมาจากความมืดมิดของเซนต์มาบุสที่เธอคุ้นชินดี แต่แล้วหญิงสาวก็ได้ยินเสียงๆหนึ่งที่ฟังดูน่าสยดสยองกว่าเสียงดนตรีไทยชวนขนลุกนั่นมันเป็นเสียงกระซิบพึมพัมระรัวเร็วของผู้หญิงคนหนึ่งที่คล้ายๆกับว่าเธอกำลังสวดมนต์สรรเสริญพระเจ้าอยู่หากแต่มันแตกต่างไปจากความอบอุ่นสุขใจแบบที่เธอเคยได้ยินจากการสวดอ้อนวอนของพิธีมิสซาในโรงเรียน เสียงๆนี้ดูกราดเกรี้ยว เยือกเย็นและน่าสะพรึงกลัวเหมือนกับเสียงสวดพิธีกรรมบูชายัญของลัทธินอกรีต เลวรำพึงมองออกไปนอกหน้าต่างและพบกับเจ้าของเสียงสวดมรณะนั้นร่างสูงตระหง่านในชุดคลุมดำที่กำลังบริกรรมคาถาต่อหน้าพระจันทร์เต็มดวงที่ดูสุกสกาวจนน่าขนลุก ดูเหมือนว่าซิสเตอร์สากุลวดีจะรู้ว่าตัวเธอเองกำลังถูกจ้องอยู่ร่างของเธอหยุดชะงักแล้วหันมาสบตากับเลวรำพึงทำเอาเลวรำพึงถึงกับผงะถอยหลังแล้วล้มลงด้วยความอกสั่นขวัญแขวน สายตาที่อำมหิตเชือดเฉือนกับรอยยิ้มเยือกเย็นชวนขนลุกนั่นและเครื่องไม้หมายกางเขนกลับหัวสีแดงสดทำให้สากุลวดีดูห่างไกลจากความเป็นมนุษย์ในสายตาของเลวรำพึงมากยิ่งขึ้นไปอีก

เช้าวันอังคารที่โรงเรียนเซนต์มาบุสเปิดทำการเรียนการสอนตามปกติหลังจากที่เมื่อวานทางเจ้าหน้าที่ทำการตรวจสอบหลักฐานบริเวณหอประชุมจนได้ข้อมูลมากพอแล้วที่เหลือก็คงเป็นหน้าที่ของทางนิติเวชและฝ่ายสอบสวนก่อนจะทำการแถลงข่าว แน่นอนว่าแม้ผู้ปกครองส่วนหนึ่งยืนยันว่าจะให้ลูกๆย้ายโรงเรียนแต่ดูเหมือนว่าจะเป็นส่วนน้อยมากๆเพราะนักเรียนก็ยังคงแน่นขนัดซึ่งคงจะจริงอย่างที่นาเดียรายงานไว้ว่าหน้าเก่าๆยังอยู่กันครบ แอนดี้นั่งฟังประเด็นร้อนแรงของเหตุสะเทือนขวัญในหอประชุมด้วยใจเลื่อนลอยเขาพยายามจะมองหาคิรินทร์ที่โรงอาหารในขณะที่ฟารีดาก็ดูเหมือนจะครุ่นคิดอะไรบางอย่างไม่แพ้เขา “อ้าว!!! สองคนนี้เป็นอะไร?” คริสมาสต์เป่าน้ำแข็งใสทั้งแอนดี้และฟารีดาเพื่อปลุกให้ตื่นจากภวังค์ก่อนจะหยิบโคอาล่ามาร์ชกล่องใหญ่บึ้มมาเขย่า “นายทำอะไรอ่ะคริสมาสต์?” แอนดี้ถามพลางนั่งขำ “ฮู้ยย!!!! คุณชายแอนดี่นี่เชยแท้ เขากำลังฮิตกันครับท่านเขย่าโคอาล่าให้เป็นช็อคโกบอลอ่ะ” คริสมาสต์หยิบไอโฟนมาเปิดเพลงฮิพฮอพของ Snoop Dogg ศิลปินโปรดพลางเต้นไปเขย่าไปจนหอบ ท่ามกลางเสียงหัวเราะลั่นของคนทั้งโรงอาหาร “เป็นรึยังวะเนี่ย?” คริสมาสต์นั่งลงพลางหอบหายใจ “อู๊ยยย แค่นั้นไม่เป็นหรอกค่ะ เอามานี่!” นาเดียดึงโคอาล่ามารช์มาจากมือคริสมาสต์ “ถ่ายคลิปไว้นะคะเพื่อนๆ” นาเดียหัวเราะพลางเปิดเพลงแน่นอกของใบเตย อาร์สยามและออกลีลาเขย่าแบบร้อนแรงเรียกเสียงฮาได้อีกคำรบ ขณะที่ช็อคโกบอลพร้อมรับประทานฮาเวิร์ดและดีไซน์ก็เดินเข้ามาแล้วออกปากชวนทั้งโต๊ะถึงโครงการสารคดีสยองขวัญคืนนี้ซึ่งคริสมาสต์ดูเหมือนจะมีท่าทีสนใจขึ้นมาทันทีแต่ก็ต้องตอบปฏิเสธเมื่อเห็นสายตาของฟารีดากับแอนดี้ที่มองปรามมา “อ้าว คุณฟารีดาหลังจากผีออกก็เป็นเด็กดีไปแล้วเหรอคะ?” ดีไซน์พูดเชิงเยาะเย้ยแต่ฟารีดาแค่ยิ้มตอบอย่างท้าทาย “ถามจริงเธอไม่อยากรู้เหรอว่าในนั้นมีอะไรและมันทำให้เธอเข้าโรงพยาบาลได้ยังไง?” ฮาเวิร์ดพูดก่อนที่เสียงเพลงมาร์ชโรงเรียนจะดังขึ้น “ฉิบหาย!!!” คริสมาสต์หยิบช็อคโกบอลที่เหลืออยู่เกือบ90%เขมือบเข้าไปทั้งลูกทำเอาดีไซน์และฟารีดาต่างยี้ในความมูนมามของเขา

ช่วงคาบที่3-4ของวันนี้เป็นวิชาคหกรรมที่เด็กๆต้องเรียนกับมิสผกา “สวัสดีค่ะลูกๆทุกคน อย่างที่ทุกคนทราบกันดีนะคะว่านักเรียนระดับชั้นม.2,ม.3และม.5จะมีวิชาคหกรรมบรรจุอยู่ในหลักสูตรด้วย คาบแรกนี้มิสจะไม่ลงลึกอะไรมากแต่จะขอให้พวกเราแบ่งกลุ่มกันก่อนเป็นสักสี่กลุ่มๆละสิบคนและขอให้ทุกคนตั้งชื่อกลุ่ม เขียนรายชื่อสมาชิกกลุ่มและตั้งหัวหน้ากลุ่มมาให้ครูด้วยหลังจากนั้นฟรีค่ะอิสระเสรีเหนืออื่นใด หยิบหนังสือมาอ่านและหยิบการบ้านขึ้นมาทำได้ อ๋อ ใครจะอ่านการ์ตูนเล่นLineหรือเฟซบุ๊คส์ก็หลบให้ดีด้วยเพราะถ้าเกิดพ่ออธิการหรือซิสเตอร์คนไหนมาเห็นดิฉันขี้เกียจไปประกันทรัพย์สินให้พวกเธอนะคะ” มิสผกาพูดท่ามกลางเสียงเฮลั่นของนักเรียน

ระหว่างที่มิสผกากำลังเตรียมตัวทำอาหารกลางวันให้พ่ออธิการและซิสเตอร์อยู่นั้นฟารีดาเดินเข้าไปขอบคุณเธอ “มิสคะ หนูต้องกราบขอบคุณมิสจริงๆค่ะถ้าวันนั้นหนูไม่ได้มิสคงแย่” เด็กสาวยกมื้อไหว้ผกาที่หน้าบานแฉ่งขึ้นมาทันที “ตายจริงไม่เป็นไรค่ะคุณลูก! ว่าแต่หนูหายดีแล้วใช่มั้ยคะ?” ผกามองดูฟารีดาด้วยความเอ็นดูขณะที่เด็กสาวช่วยเธอหั่นผัก “ก็ดีขึ้นเยอะเลยค่ะอาจารย์ แต่ยังฝันน่ากลัวอยู่” ฟารีดาแกล้งพูดทำเป็นเหมือนกับตอบไปเรื่อยๆไม่ได้คิดอะไร “ฝันน่ากลัว! หนูฝันอะไรคะ?” ต่อมสอดรู้ของผกาทำงานขึ้นทันที “อ๋อ หนูฝันเห็นนางรำค่ะแล้วฝันเห็นมิสอุไรกับลูกชายที่ชื่ออนุรักษ์ เพ้อเจ้อนะคะเนี่ย มิสอุไรไม่มีลูกสักหน่อย” ฟารีดาพูดไปเรื่อยๆเหมือนกับคุยเล่นๆชิลล์ๆ “หวาย!!! ลูกรู้มั้ยคะว่ามิสอุไรเคยมีลูกค่ะ ชื่ออนุรักษ์ด้วย เป็นรุ่นพี่หนูเกือบสิบปีแต่ตายไปแล้วค่ะ” ผกาสวมวิญญาณขาเม้าท์ซึ่งเข้าทางฟารีดาพอดี “ตายแล้วน่ากลัวจังเลยค่ะมิส พี่เขาเป็นอะไรตายเหรอคะ?” ฟารีดาแกล้งถาม “ก็อนุรักษ์น่ะค่ะเขาไปลองของค่ะ ไปเล่นกับเพลงนาฏศิลป์ของสูงโดยที่ตัวเองนะคะยังมีบุญบารมีและประสบการณ์ไม่ถึง ก็เลยเหมือนกับ เอ่อ คล้ายจะถูกสาปน่ะค่ะ ก่อนตายนะคะตัวผอมแห้งเหลือแต่หนังหุ้มกระดูกแหนะค่ะแล้ว อู๊ยยย ครูไม่อยากจะเล่านะคะตอนพี่เขาตายน่ะเขาหันหน้ามามองแม่เขาแล้วหน้าเขากลายเป็นยักษ์ค่ะ!” ฟารีดาเกือบทำมีดหั่นผักหล่นเมื่อได้ยิน “อะไรนะคะ?” เธอรู้สึกตกใจเมื่อได้ยินข้อมูลที่ตรงจนน่าขนลุก “คือเรื่องนาฏศิลป์นี่เป็นศิลปะชั้นสูงที่ศักดิ์สิทธิ์และมีครูนะคะจะไปล้อเล่นไม่ได้แล้วเนี่ยนะพ่ออนุรักษ์ที่บุญบารมียังไม่ถึงเกณท์ดันไปต่อเพลงสูงสุดเองที่เรือนไทยกลางน้ำนี่ล่ะค่ะ…..” ฟารีดาฟังทุกเรื่องที่ผกาเล่าโดยละเอียด

ฟารีดาใช้เวลาตลอดพักเที่ยงในการนั่ง Search ข้อมูลจาก Google บนไอโฟน “รำไทย ไม่เจอ โขน ไม่เจอ นาฏศิลป์ไม่เจอ เฮ้อ!!!” ฟารีดาถอนหายใจก่อนจะมองไปที่เรือนกลางน้ำแล้วคิดคำๆหนึ่งขึ้นมาได้ “อาถรรพ์นาฏศิลป์” เธอพูดพลางพิมพ์ลงไป ก่อนที่จะมีรายชื่อเพลงครูนาฏศิลป์ไทยขึ้นมาซึ่งฟารีดาสะดุดกับชื่อๆหนึ่ง “เพลงตระองค์พระพิราพ” เธอกดเข้าไปอ่าน “พระพิราพคือร่างแบ่งภาคขององค์พระอิศวร…” ฟารีดาหายใจลึกๆพลางอ่านด้วยใจจดจ่อ “พระองค์ทรงเป็นบรมครูสูงสุดแห่งวงการนาฏศิลป์ไทย เพลงตระองค์พระพิราพถือว่าเป็นศาสตร์นาฏศิลป์ไทยขั้นสูงสุดคุณสมบัติของผู้ที่จะต่อเพลงนี้ได้ต้องมีอายุ30ปีบริบูรณ์ขึ้นไป ผ่านการอุปสมบทมาแล้วและได้เรียนรู้นาฏศิลป์ทั้งหมดก่อนที่จะสามารถเรียนเพลงนี้ได้” ฟารีดาอ่านเรื่องเกี่ยวกับเพลงตระองค์พระพิราพซ้ำไปซ้ำมาถึงสามครั้ง “สงสัยพี่อนุรักษ์คงจะต่อเพลงนี้เองโดยที่รู้เท่าไม่ถึงการสินะ” ฟารีดาพึมพัมกับตัวเองก่อนที่จะขึ้นชั้นเรียนเมื่อเสียงกริ่งดังขึ้น

อุไรที่กำลังจัดพานบวงสรวงครูตกใจเมื่อพานที่เธอเพิ่งตกแต่งอย่างประณีตกลับล้มลงมากองระเนระนาดที่พื้น “รู้สึกเหมือนกับจะมีเรื่องไม่ดีเกิดขึ้นเลยแฮะ” อุไรพูดด้วยน้ำเสียงไม่สู้ดีก่อนที่นักเรียนจะทยอยเข้ามาในชั้น

ตอนเย็นฟารีดา,แอนดี้,หลินและคริสมาสต์เข้ามาซ้อมรำเพลง “โหมโรงขวัญเมือง” ตามปกติ การซ้อมในวันนี้เต็มไปด้วยความสมบูรณ์แบบซึ่งอุไรรู้สึกปลาบปลื้มใจมากๆจนน้ำตาไหล “นี่แค่4วันเองนะคะ แต่ลูกๆทำได้ดีและเรียนรู้กันได้รวดเร็วมากๆเหมือนกับว่าซ้อมกันมานานเป็นเดือน” อุไรเช็ดน้ำตาพลางเข้าไปกอดนักเรียนทุกคน ฟารีดารู้สึกสงสัยในท่าทีที่แปลกไปของหลินเธอดูเยือกเย็น น่ากลัวและเก็บตัวผิดปกติเธอยังจำได้ดีถึงตอนที่หลินไปหาเธอที่โรงพยาบาล เด็กสาวรู้สึกสงสัยว่าบางทีนั่นอาจจะเป็นหลินตัวจริงก็ได้และหลินอาจจะกำลังถูกผีเข้า

“หลินเดี๋ยวหลิน” ฟารีดาวิ่งตามหลินออกมาแต่เด็กสาวก็หายวับไปราวกับควัน “อะไรกันเนี่ย?” ฟารีดาพูดขึ้นอย่างงุนงงก่อนจะหันไปเห็นแอนดี้และคริสมาสต์กำลังยืนประจันหน้ากับพวกฮาเวิร์ดในนั้นฮโยมินกับดีไซน์พยายามที่จะดึงฮาเวิร์ดไว้เช่นเดียวกับที่บรูโน่และคริสมาสต์ที่กำลังกันแอนดี้ออกจากฮาเวิร์ด ในขณะที่เพื่อนชายในห้องอีกสองสามคนที่สนิทกับฮาเวิร์ดยืนหัวเราะ “แม่ง กูชวนดีๆทำเล่นตัวไอ้ตุ๊ดเอ๊ย!” ฮาเวิร์ดเอามือเข้าไปดันหน้าแอนดี้ “นี่มันอะไรฮาเวิร์ด?!!!” ฟารีดาเขามากันแล้วผลักฮาเวิร์ดออกไป “ก็แค่จะชวนมาเล่นกันคืนนี้ มึงจะมาดีๆหรือมาด้วยน้ำตาวะแอนดี้?” ฮาเวิร์ดถามแบบนักเลง “คิดว่าเรากลัวเหรอ?!!! อายุเท่าไรกันแล้วทำไมต้องข่มขู่กันด้วย” แอนดี้ดูเหมือนจะของขึ้น “คริสมาสต์ บรูโน่ พวกมึงถอยไปเลยอย่าเสือกให้แม่งต่อยกับกูถ้ามึงแพ้ มึงต้องเป็นเบ๊กูนะโว้ย เอาป่าว?” ฮาเวิร์ดหักนิ้วตัวเองดังกร๊อบๆ

ก่อนที่แอนดี้จะตะโกนรับคำท้าก็มีมือๆหนึ่งมาบีบไหล่เขาไว้แอนดี้หันไปมองและพบคิรินทร์กำลังบีบไหล่เขาแน่นพลางส่ายหน้า “เฮ้ย! ใครวะแอนดี้ แฟนมึงเหรอ? แฟนแม่งน่ารักด้วยว่ะ กูว่าแล้วว่ามึงมันต้องถั่วดำแน่ๆ” แอนดี้โกรธจัดจนหน้าแดงแต่คิรินทร์เดินแหวกบรูโน่ คริสมาสต์และฟารีดาออกมา “มึงชอบมีเรื่องเหรอ? มากูจะต่อยกับมึงเอง” คิรินทร์เดินตรงเข้าใส่ฮาเวิร์ดที่ดูเหมือนกำลังประมาทเด็กหนุ่มกระโดดถีบเข้าที่กลางอกขอฮาเวิร์ดอย่างแรงจนเขาหงายท้องล้มลง “ตายแล้วฮาเวิร์ด!!!” ดีไซน์รีบวิ่งลงไปดูอาการแฟนหนุ่ม ในขณะที่เพื่อนชายกลุ่มนักเลงของฮาเวิร์ดทั้งสามคนพุ่งเข้าใส่คิรินทร์ แอนดี้ตกใจที่คิรินทร์สามารถหลบหลีกหมัดและเท้าของทั้งสามได้ไวอย่างเหลือเชื่อ เขาจับหนึ่งในสามทุ่มลงพื้นอย่างแรงจนสลบเหมือดในขณะที่อีกสองคนถึงกับต้องล่าถอยเพราะการเตะแรงต่อยที่หนักหน่วงเกินกว่าที่พวกเขาคาดการณ์จากคิรินทร์ ฮาเวิร์ดที่นอนจุกอยู่มองเพื่อนสนิทของเขาสองคนวิ่งหนีออกนอกโรงเรียนไป “ทีนี้มึงอย่าให้กูเห็นอีกนะว่ามึงหาเรื่องเพื่อนกูอีก เลวเหมือนไอ้เอ็ดเวิร์ดไม่มีผิด ถ้ากูรู้ว่ามึงทำแอนดี้อีกมึงเตรียมตัวเป็นแบบพี่มึงได้” ฮาเวิร์ดมองเข้าไปในแววตาของคิรินทร์ที่ดูอำมหิตและเอาจริงเอาจังก็ถึงกับกลัวเขาไม่เคยเจอใครที่ใช้สายตาแบบนักฆ่าในโรงเรียนนี้มองเขา “มึงรู้จักพี่กูได้ไง?” ฮาเวิร์ดที่จุกอยู่ตะโกนถาม “อยากรู้ก็ตามไปถามพี่มึงเองสิ” คิรินทร์หันมาตอบก่อนเดินกอดคอพาแอนดี้ไป “นั่นแฟนแอนดี้จริงๆเหรอ โอ๊ย ผิดหวังอ่ะน่ารักทั้งคู่เลย โฮๆ” ฮโยมินทำเสียงผิดหวัง “อีบ้านี่ก็พูดไป!!! รู้เหรอว่าเขาเป็นอะไรกัน” ฟารีดาเอ็ดก่อนจะเดินตามพวกแอนดี้ไปเช่นเดียวกับคริสมาสต์

“ไม่เป็นไรใช่มั้ย?” คิรินทร์ถาม “อืม” แอนดี้ตอบพลางซบหัวตรงไหล่ของคิรินทร์กลิ่นหวานหอมจากตัวเขาทำเอาแอนดี้ถึงกับใจเต้นไม่เป็นจังหวะ ฟารีดากับคริสมาสต์วิ่งมาพบกับภาพนั้นพอดี คิรินทร์หันกลับไปมองเพื่อนของแอนดี้ทั้งสองด้วยสายตาที่เย็นชา เย่อหยิ่ง ดุดันและไม่เป็นมิตรมากแม้แต่ฟารีดาที่ไม่เคยกลัวใครง่ายๆถึงกับหลบสายตาที่เหมือนตาของนกเหยี่ยวนี้ “เราขอเบอร์นายกับเฟซนายได้มั้ย?” แอนดี้พูดโดยไม่สนใจเพื่อนทั้งสอง “ได้สิ เราจดไว้ว่าจะให้นายตั้งนานละแต่เราไม่เล่นเฟซบุ๊คส์นะ” คิรินทร์หันมายิ้มให้แอนดี้ด้วยดวงตาที่เปลี่ยนไปอ่อนโยนจนใจเด็กหนุ่มแทบละลาย


ดูข้อมูลส่วนตัว ส่งข้อความส่วนตัว
ตอบโดยอ้างข้อความ
ตอบ  
“แอนดี้ เอ่อคือ…” คริสมาสต์เหมือนกับจะถามอะไรแอนดี้สักอย่างแต่ถูกฟารีดากระทุ้งสีข้างอย่างแรงระหว่างกำลังเดินไปที่เซ็นทรัลสีลม “เราไม่รู้เหมือนกัน” แอนดี้ตอบเหมือนกับเป็นเรื่องปกติ “เธอก็ต้องใช้เวลานะแอนดี้ยังไงฉันเข้าใจเธอและอยู่ข้างเสมอนะ เรื่องความรักไม่มีผิดมีถูกหรอก” ฟารีดาจับไหล่ให้กำลังใจ “แต่นายหมายความว่ายังไงที่ว่า ‘ไม่รู้’อ่ะ?” คริสมาสต์เกาหัวแกรกๆทำเอาฟารีดาส่ายหน้า “แกนี่นะคริสมาสต์ ไม่มีความละเอียดอ่อนเอาซะเลย!!! แอนดี้เขาก็หมายถึงว่ายังไม่ได้ตัดสินใจน่ะสิยะ ยังหาตัวเองไม่เจอว่าชอบแบบไหนเข้าใจรึเปล่า?” ฟารีดาแยกเขี้ยว “อ๋อๆแต่ไม่เป็นไรนะแอนดี้เรื่องนี้พวกเราสัญญาจะเก็บไว้เป็นความลับ” คริสมาสต์เข้ามาตบไหล่พลางกอดคอเพื่อนก่อนจะรีบถอยออกไป “แล้วแบบนี้จะคิดกับเรารึเปล่าเนี่ย?” คริสมาสต์แกล้งแหย่ทำเอาแอนดี้วิ่งไล่เตะ

ฮาเวิร์ดกับเพื่อนๆกำลังนั่งแอบรอเวลาที่จะปฏิบัติภารกิจถ่ายสารคดีผีที่เรือนนาฏศิลป์กลางน้ำคืนนี้ที่แถวโรงพละ “เฮ้อ สรุปก็เหลือพวกเราแค่4คน” ฮโยมินพูดกับดีไซน์และบรูโน่อย่างหวาดๆ ฮาเวิร์ดไม่ได้ฟังบทสนทนาของเพื่อนๆเลยตอนนี้เด็กหนุ่มกำลังนั่งสงสัยและครุ่นคิดถึงสิ่งที่คิรินทร์พูด “ไอ้หน้าตี๋นั่นมันรู้จักพี่เอ็ดเวิร์ดได้ไงวะแล้วมันรู้ได้ยังไงว่าพี่เอ็ดเวิร์ดตายไปแล้ว” ฮาเวิร์ดพยายามนั่งนึกจนบรูโน่สะกิด “เฮ้ย พร้อมแล้วว่ะไปเถอะ!!!”

“สวัสดีครับชาวเฟซบุ๊คส์ ยูทูบและโซเชี่ยลแคมผมฮาเวิร์ดจากโรงเรียนเซนต์มาบุสนะครับ ที่ผมยืนอยู่ตรงนี้คือเรือนไทยกลางน้ำที่ใช้เรียนนาฏศิลป์อันลึกลับของโรงเรียนของเรานะครับและที่นี่มีเรื่องเล่ามากมายเกี่ยวกับความลี้ลับไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่คนเห็นนางรำหน้าขาวนะฮะรำอยู่ตรงกลางเรือนช่วงดึกๆไหนจะยังเสียงดนตรีไทยสยองๆหลอนๆนะครับที่ดังขึ้นโดยเป็นปริศนา วันนี้เราจะพาพวกคุณมาร่วมหาความจริงกับเซเล็บสุดฮ็อตของชั้นม.5โรงเรียนเราดีไซน์และฮโยมินครับ” ระหว่างที่ดีไซน์และฮโยมินกำลังแนะนำตัวอยู่นั้นเสียงดนตรีไทยก็ดังขึ้นในอากาศทำเอาทั้งคู่หวีดร้องขึ้นมาด้วยความหวาดกลัว “ถ่ายไว้ๆนะเว้ย” ฮาเวิร์ดรีบบอกบรูโน่ “เอาล่ะครับเราจะไปร่วมค้นหาความจริงกันครับ follow me bitches!!” ฮาเวิร์ดบอกกับสองสาวที่รีบเดินตามเด็กหนุ่มไป “ผมไปสืบข้อมูลมานะครับว่าเรือนไทยเรือนนี้นี่อายุเกือบร้อยปีแล้วนะครับตั้งแต่ก่อตั้งโรงเรียนมา ทางโรงเรียนก็มีการตกแต่งใหม่เสมอๆนะครับจากอาคาคไม้สักธรรมดาก็ดูสวยสดงดงามอย่างที่เห็น อย่างตัวสะพานนี่ก็แข็งแรงทีเดียวครับ” ฮาเวิร์ดพูดขณะที่ดีไซน์และฮโยมินก็หันมายิ้มและโบกมือให้กล้อง

ฟารีดาที่แอบลอบเข้ามาในโรงเรียนอีกครั้งกำลังแอบมองพวกฮาเวิร์ดอยู่ก่อนที่จะค่อยๆย่องข้ามสะพานตามไป ฟารีดาแอบอยู่หลังเสาในขณะที่พวกฮาเวิร์ดกำลังพูดถึงตำนานนางรำที่มักจะมีคนเห็นมาร่ายรำตอนกลางคืน – - เลวรำพึงที่เดินกลับมาจากรับประทานอาหารเย็นที่ฟูจิจู่ๆก็เปลี่ยนทิศทางจากหอพักซิสเตอร์เดินตรงสู่เรือนนาฏศิลป์เมื่อภาพความฝันเมื่อคืนแว๊บผ่านเข้ามาในหัวเธอ

“ในห้องนี้นะครับเป็นห้องสำหรับเก็บอุปกรณ์พวกเครื่องดนตรีไทยนะครับ วันนั้นผมเผอิญได้เข้ามาห้องนี้กับ เอ่อ (เขาหันไปมองหน้าดีไซน์) กับเพื่อนกลุ่มหนึ่งโดยบังเอิญเพื่อที่จะหาที่มาของเสียงบรรเลงดนตรีไทยที่ได้ยินกันอยู่นี่นะครับ” ฮาเวิร์ดพูดพลางยิ้มให้กล้อง “ฮาเวิร์ดระนาดอันนั้นมันกลับมาเป็นแบบเดิมแล้ว” ดีไซน์กระซิบแฟนหนุ่มโดยที่ฮโยมินที่กำลังยืนอยู่ข้างระนาดอันนั้นถึงกับกระโดดถอยหนี – - ฟารีดาได้แอบเข้าไปในปีกซ้ายฟากห้องเรียนนาฏศิลป์ที่พวกเธอใช้ซ้อมรำไทยกัน เด็กสาวก้มกราบลงไปตรงหน้าหิ้งพระที่วางบายศรี “หนูไม่ได้มาลบหลู่หรือมาลองดีแต่หนูมาเพื่อต้องการจะรู้อะไรบางอย่าง เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ณ ที่แห่งนี้ใช่มั้ยคะที่ดลบันดาลใจให้หนูได้รับรู้รับทราบถึงเรื่องนี้ดังนั้นโปรดเปิดทางให้หนูได้รับรู้พบเจอคำตอบด้วย” ฟารีดาถึงกับสะดุ้งเมื่อรู้สึกถึงคนกำลังเคลื่อนไหวอยู่ด้านหลัง เธอหันไปแล้วเห็นผู้หญิงในชุดนางรำคนหนึ่งที่มีใบหน้าขาวโพลนกำลังร่ายรำอยู่ด้านหลังเธอ “หลิน!!!” ฟารีดาพูดขึ้นก่อนที่เธอจะอ้าปากค้างเมื่อเห็นน้ำตาของเพื่อนที่กำลังไหลออกมาโดยด้านหลังของเด็กสาวมีเงาสีดำขนาดใหญ่ที่เหมือนกับกำลังบังคับชักใยเพื่อนของเธออยู่

“ใต้ระนาดอันนี้นะครับเป็นที่ๆผมเห็นหัวกะโหลกซึ่งอาจจะเกี่ยวกับอาถรรพ์นี้ก็ได้” ฮาเวิร์ดพยายามจะแงะลูกระนาดออกมาแต่ก็ทำไม่ได้จึงจับมันทุ่มกับพื้นเต็มแรงจนแตกกระจาย “ไม่เห็นมีอะไรเลยนี่ฮาเวิร์ด!” ฮโยมินบอกกับฮาเวิร์ดด้วยความงุนงงก่อนที่บรูโน่จะล้มลงหน้าฟาดพื้นแล้วหมดสติไป “ไอ้พวกเด็กเหลือขอ กูนึกอยู่แล้วเชียวว่าพวกมึงต้องกลับมาอีก คิดว่าคนอย่างกูจะโง่ให้พวกมึงจับได้ซ้ำสองเหรอ แส่ไม่เข้าท่า!!!” ร่างของอุไรโผล่ด้านหลังบรูโน่ที่ถูกเธอเอาดาบแทงด้านหลังจนล้มลงไปนอนนิ่งไม่ไหวติงเลือดไหลนองเต็มพื้น “มิส!!!” ดีไซน์ดึงตัวฮโยมินถอยไปใกล้ๆฮาเวิร์ด อุไรกำลังเดินถือดาบที่ใช้ในการแสดงโขนย่างสามขุมตรงมาทางพวกเด็กทั้งสาม “หัวกะโหลกนั่นเป็นฝีมอของมิสใช่มั้ยคะ มิสฆ่าคน!!!” ดีไซน์ตะโกนใส่อุไร “ก็ใช่น่ะสิอีเด็กร่าน!!! มันเป็นเด็กที่กูเก็บมาเลี้ยงเองแหละ ทำไมกูจะฆ่ามันไม่ได้?!!! และวันนี้กูก็จะฆ่าพวกมึงซะด้วย” อุไรแกว่งไกวดาบอย่างบ้าคลั่งโดยที่ไม่ได้รู้ตัวเลยว่าคำพูดทั้งหมดนั้นบรูโน่ที่สติพอจะหลงเหลือได้กำลังบันทึกไว้อยู่ ก่อนที่เสียงกรีดร้องจากอีกห้องหนึ่งจะดังขึ้น ฮาเวิร์ดอาศัยเวลาเสี้ยววินาทีที่อุไรเผลอเขวี้ยงระนาดเอกที่อยู่บนพื้นใส่กลางหลังร่างที่ชราภาพของเธออย่างแรงจนล้มลง “ไปเร็วดีไซน์ ฮโยมิน” ฮาเวิร์ดตะโกนก่อนที่ทุกคนจะวิ่งอ้อมตัวอุไรหมายจะหนีออกไปด้านนอก “ฮาเวิร์ดๆ” บรูโน่จับขาเพื่อนชายไว้แน่น ฮาเวิร์ดพยายามจะพยุงบรูโน่ขึ้น “เอานี่ไป เอาออกไป ไปหามิสมาลินไปตามพวกซิสเตอร์มาช่วย” ฮาเวิร์ดยัดกล้องใส่มือดีไซน์ที่ยืนเก้ๆกังๆเพราะเป็นห่วงแฟนหนุ่ม “ไป!!!” ฮาเวิร์ดแผดเสียง ฮโยมินรีบมาดึงมีดีไซน์ให้วิ่งออกไป

“มิสคะ มิสช่วยพวกเราด้วยค่ะ!!!” ฮโยมินกับดีไซน์วิ่งออกมาพบเลวรำพึงระหว่างทางพอดี เด็กสาวทั้งสองเล่าเรื่องทั้งหมดให้เลวรำพึงฟังอย่างเร็วปรื๋อ “เดี๋ยวคุณสองคนรีบวิ่งไปตามซิสเตอร์มานะเดี๋ยวทางนี้ครูจัดการเอง!” เลวรำพึงบอกนักเรียนทั้งคู่ด้วยความเป็นห่วงก่อนจะรีบวิ่งตรงเข้าไปในเรือนนาฏศิลป์ซึ่งผิดวิสัยคนเห็นแก่ตัวขี้แกล้งอย่างเธอเป็นอย่างยิ่ง เธอไม่รู้ว่าเธอกำลังทำอะไรอยู่และเธอก็ไม่มีความจำเป็นที่ต้องมาเสี่ยงชีวิตเพื่อลูกเต้าเหล่าใครก็ไม่รู้ถึงขนาดนี้แต่อะไรนะที่ทำให้เธอรู้สึกอยากที่จะทำ

ในห้องเรียนหลินพุ่งตรงเข้าไปบีบคอฟารีดาด้วยพละกำลังมหาศาล ฟารีดาพยายามจะผลักมือเพื่อนออกไปแต่ก็ไม่สามารถที่จะแกะได้แม้แต่ปลายนิ้วก้อยของหลิน “มึงหลบหลู่กู มึงทำบายศรีกู กูหิวๆมึงรู้มั้ยว่าวันนั้นกูไม่ได้กินข้าวทั้งวันเลย” หลินพูดด้วยน้ำเสียงแหบห้าวของชายหนุ่มที่คุ้นหูเธอ ฟารีดาลืมตาขึ้นมองหน้าหลินแล้วเห็นเป็นภาพของขอทานคนที่เธอสะดุดล้มที่สีลมคนที่ขับเสภาชวนสยองขวัญนั่น เพียงแต่ครั้งนี้เขาไม่ใช่คนพิการหรือขอทานร่างในชุดขาวนั่นสูงใหญ่ดำทะมึน มือของมันกำลังกดลงบนหลอดลมของฟารีดาจนเธอแทบจะหายใจไม่ออก ฟารีดาที่กำลังจะหมดสติเห็นภาพของอุไรที่เพิ่งกลับจากงานศพของอนุรักษ์ในสภาพที่เศร้าโศกและดูขาดสติ เธอนั่งลงพลางมองไปที่หิ้งพระและบายศรีครูอย่างเคียดแค้นก่อนจะลุกขึ้นพังข้าวของเหล่านั้นเสียราบเป็นหน้ากอง “ชีวิตกูทุ่มให้กับนาฏศิลป์มาทั้งชีวิต แต่ทำไมลูกกูต้องตายด้วย!!!” เธอกรีดเสียงร้อง แต่แล้วอุไรก็ยืนขึ้นมองไปรอบๆด้วยความหวาดกลัว “มึงลบหลู่พวกกู พวกกูเป็นครูมึง พวกกูสร้างตระกูลมึง” เสียงดนตรีไทยปริศนาดังขึ้น ในขณะที่อุไรพยายามจะวิ่งหนีออกไปนอกห้องแต่เธอก็ต้องผงะเมื่อเห็นกับร่างของนางรำ คนสวมหัวโขน คนเล่นดนตรีไทยนับสิบตรงเข้ามารายล้อมตัวเธอ ก่อนที่ชายคนที่กำลังบีบคอฟารีดานั้นจะพุ่งเข้าใส่ตัวอุไรที่กรีดร้องเสียงหลง

ฮาเวิร์ดพยายามอย่างสุดกำลังที่จะลากร่างของบรูโน่ออกมาแต่ด้วยความที่บรูโน่เป็นเด็กร่างอ้วนใหญ่ความช่วยเหลือจึงเป็นไปอย่างลำบาก อุไรค่อยๆคว้าดาบโขนพยุงตัวขึ้นมาก่อนจะพุ่งเข้าหมายจะฟันเด็กทั้งสองแต่บรูโน่ผลักฮาเวิร์ดออกไปก่อนจะอาศัยแรงทั้งหมดโถมตัวเข้าพุ่งชนหญิงชราจนล้มลง “ฮาเวิร์ดไป มึงรีบออกไป!!!” บรูโน่ตะโกนใส่ฮาเวิร์ดที่ยืนน้ำตานองหน้าก็จะรีบวิ่งออกไป “หนูฮาเวิร์ด!!!” เลวรำพึงที่วิ่งมาด้วยความรวดเร็วเสียจนชนกับฮาเวิร์ด “มิสครับ ช่วยบรูโน่ด้วย บรูโน่มันอยู่ข้างใน มันโดนมิสอุไรเอาดาบแทงเลือดออกเต็มเลยครับ” ฮาเวิร์ดร้องไห้ “มิสว่าเราสองคนถ้าเข้าไปล่ะก็ต้องช่วยบรูโน่ออกมาได้แน่ๆ” เลวรำพึงบอกฮาเวิร์ดก่อนจะจูงมือเด็กชายวิ่งกลับเข้าไปด้านในอีกครั้ง เลวรำพึงฉวยถ้วยเบญรงค์ขนาดกำลังเหมาะมือเข้าไปด้วย

บรูโน่กำลังคลานหนีอุไรที่เดินย่างสามขุมตรงมาทางเขาพร้อมกับเอาดาบยันตัวที่กำลังจะล้ม เธอค่อยๆเงื้อดาบหมายจะสังหารเด็กชายด้วยสายตาที่เปี่ยมไปด้วยความแค้น “มิสอุไรหยุดเดี๋ยวนี้นะครับ อย่าทำอะไรเพื่อนผม!!!” ฮาเวิร์ดตะโกน อุไรหันมาทางฮาเวิร์ดแล้วหัวเราะชอบใจก่อนที่จะวิ่งตรงใส่เด็กหนุ่มหมายจะไม่ให้ครั้งนี้เขาหนีรอดไปได้แต่กลับถูกถ้วยเบญจรงค์ที่เลวรำพึงหยิบติดมือมาเขวี้ยงสวนซะแตกกระจายเต็มหน้า เลวรำพึงยืนมองร่างของอุไรที่นอนนิ่งไม่ไหวติงด้วยความตกใจก่อนจะรีบวิ่งเข้าไปพยุงบรูโน่ “ฮาเวิร์ดมาเร็ว มาช่วยครูหน่อย!” ฮาเวิร์ดที่ได้สติวิ่งตรงเข้าไปช่วยเลวรำพึงก่อนที่ทั้งคู่จะพยุงบรูโน่ออกไปนอกตัวเรือนได้อย่างปลอดภัย

ฟารีดาที่ถูกหลินบีบคอจนเกือบจะหมดสตินั้นตั้งจิตอธิษฐานต่อองค์พระพิราพว่า “ข้าแต่องค์พระพิราพบรมครูสูงสุดแห่งวงการนาฏศิลป์ไทย ลูกนางสาวฟารีดาขอกราบทูลขอขมาจากพระองค์ที่ลูกเคยล่วงละเมิดทำสิ่งไม่ดีในห้องนี้ไป ลูกกราบทูลขอพระเมตตาจากพระองค์โปรดช่วยลูกและเพื่อนลูกด้วยเถิดพระเจ้าข้า หากเราสองคนรอดไปจากสถานการณ์นี้ลูกขอสาบานว่าจะอุทิศตัวของลูกเพื่อเรียนรู้และสืบทอดรักษานาฏศิลป์ไทยให้เป็นมรดกสืบไป” สิ้นคำอธิษฐานของฟารีดา หลินก็กรีดร้องขึ้นมาเธอถอยออกห่างจากตัวของฟารีดาประดุจว่ามีไฟที่มองไม่เห็นเข้ามารายล้อมแผดเผาตัวเธอ ฟารีดาฉวยไอโฟนของตนขึ้นมาพลางเปิดMP3 “เพลงตระองค์พระพิราพเต็มองค์” ที่เธอโหลดมาวันนี้ ในขณะที่ร่างของหลินที่กรีดร้องเริ่มสงบลง “หลินๆ” ฟารีดาวิ่งเข้าไปดูอาการของเพื่อน

อุไรที่เพิ่งรู้สึกตัวพยายามเอามือยันกำแพงขึ้นเธอน้ำตาไหลพรากด้วยความเจ็บปวดพลางกุมใบหน้าของเธอที่เลือดไหลอาบ เธอพยายามที่จะเดินออกจากห้องไปแต่ไม่ว่าเธอจะทำอย่างไรก็ไม่สามารถเปิดประตูออกไปข้างนอกได้ “มิสอุไรครับ วันนี้เป็นทีของผมแล้ว!” เสียงเยือกเย็นด้านหลังดังขึ้น อุไรที่ตัวแข็งทื่อค่อยๆหันไปมองภาพเด็กชายรูปร่างกะทัดรัดที่ยืนอยู่ตรงหน้า ใบหน้าที่ขาวใสเรียบเนียนแบบลูกคนจีนนั้นมองมาที่อุไรอย่างเหี้ยมเกรียม เขาตรงเขาไปจิกผมอุไรแล้วเหวี่ยงไปกลางห้อง เพลิงแค้นที่คิรินทร์สั่งสมมานานลุกโชนขึ้นใบหน้าของเขาที่ดูหล่อเหลากลายเป็นบิดเบี้ยวแลดูวิปริตผมที่ได้รับการจัดแต่งทรงเป็นแฟชั่นอย่างดีของเขาปลิวไสวก่อนที่อุไรจะกรีดร้องออกมาอย่างน่าสยดสยอง

“บรูโน่ๆ!!! โธ่ลูก เป็นยังไงบ้าง?” มิสมาลินรีบเข้ามาประคองลูกศิษย์อีกแรง เธอตัวสั่นเทิ้มร้องไห้กอดบรูโน่ที่หน้าเริ่มซีดเผือด “ฮัลโหลๆโรงพยาบาลกรุงเทพคริสเตียนใช่มั้ยคะ? ดิฉันเป็นอาจารย์จากเซนต์มาบุสนะคะโปรดส่งรถพยายาลมาที่โรงเรียนโดยด่วนที่สุดด้วยค่ะเกิดอุบัติเหตุค่ะ ที่บริเวณเรือนนาฏศิลป์กลางน้ำนะคะ” เลวรำพึงที่ได้สติรีบโทรติดต่อรถพยาบาลในขณะที่มาลินบีบมือเธอแน่นเป็นเชิงขอบคุณ “ฮาเวิร์ดๆเป็นยังไงบ้าง” ดีไซน์โผเข้ากอดฮาเวิร์ดในขณะที่ฮโยมินกับซิสเตอร์เวโรนิก้ายืนกอดกันร้องไห้จนหน้าซีด “มิสอุไรอยู่ข้างในนะคะดิฉันยืนยันได้ว่าเธอจะฆ่าบรูโน่จริงๆ” เลวรำพึงรีบบอกก่อนที่ซิสเตอร์ทุกคนจะหวีดร้องเนื่องจากไฟที่ลุกโชนขึ้น

อุไรกรีดร้องและหัวเราะอย่างเสียสติท่ามกลางเปลวไฟที่กำลังรายล้อมเธอ “คิรินทร์มึงทำแบบนี้กับกูทำไม” เธอกรีดเสียงร้อง ในหัวของเธอคิดถึงวันที่ลูกชายของเธอตาย วันที่เธอตบหน้าทุบตีคิรินทร์ในฉันเรียน “เธออย่ามายุ่งกับลูกชายฉันอีกและงานชิ้นนี้ของเธอฉันไม่รับ” อุไรฉีกภาพการบ้านที่คิรินทร์อุตส่าห์ตั้งใจวาดทั้งคืนมาส่ง “เอากลับไปทำมาใหม่ถ้าไม่เสร็จภายในพรุ่งนี้ฉันให้ติดศูนย์” เธอขว้างเศษกระดาษวาดเขียนใส่หน้าเด็กหนุ่ม ภาพการทรมานเฆี่ยนตีเด็กสาวที่เธอรับมาเลี้ยงผุดขึ้นมากลางในบจของเธอ “สุมนท์ ป้าขอโทษ ป้าขอโทษ!!!” อุไรยกมือไหว้พลางคุกเข่าลงตรงกลางกองไฟ ภาพที่เธอจับหลานสาวกำพร้าคนนั้นล่ามโซ่ในช่วงวินาทีท้ายที่สุดของเด็กสาวคนนั้นผุดขึ้นมา “กูน่ะเกลียดแม่มึง ตอนเด็กๆมันแย่งความรักจากพ่อและแม่ไปจากกูหมด” อุไรที่ปล่อยให้หลานสาวอดข้าวพูดขึ้นอย่างเลือดเย็นก่อนจะกระหน่ำตีเด็กสาวจนหมดสติและทิ้งไว้ในห้องเก็บของจนเธอขาดใจตาย ด้วยความที่หวาดกลัวความผิดเธอชำแหละหลานสาวของเธอเป็นชิ้นๆและนำศพยัดลงใต้เครื่องระนาดเอกขนาดใหญ่แล้วร้อยลูกระนาดปิดอย่างดี อุไรอาศัยช่วงที่ทางโรงเรียนทำการโละเครื่องดนตรีเก่าๆมาจัดเก็บที่ห้องเก็บของแอบลอบเอาระนาดเอกของเธอเข้ามาเก็บที่โรงเรียนในบริเวณที่เธอเป็นคนดูแลอย่างมิดชิด เธอกรีดร้องด้วยความหวาดกลัวเมื่อเปลวไฟเข้าโถมท่วมตัวเธอภาพสุดท้ายที่เธอระลึกได้คือภาพที่เธอแอบไปขโมยชฎาประจำตระกูลนางรำของครอบครัวครูนาฏศิลป์ที่เกี่ยวดองกับตระกูลเธอมาจากโลงศพเพื่อที่จะได้มาครอบครองจนเป็นเหตุให้เกิดอาถรรพ์ขึ้นปกคลุมโรงเรียนและย้อนกลับเข้ามาทำลายตัวเธอในวันนี้

“ฟารีดา ข้างนอกไฟไหม้น่ะ เราจะทำยังไงกันดี?!!!” หลินร้องไห้ด้วยความหวาดกลัว ฟารีดายืนโซเซมองไปรอบๆอย่างอับจนหนทางในขณะที่เปลวไฟโลมเลียมาเกือบจะครึ่งห้อง “ว๊ายยย!!!” หลินร้องด้วยความหวาดกลัวเมื่อเห็นเพดานหน้าบานประตูถล่มลง “เอาฉันไปด้วยๆ” ฟารีดาเหมือนกับจะได้ยินเสียงร้องมาจากรอบตัวของเธอ เธอก้มมองระนาดเอกอันหนึ่งที่วางอยู่ใต้หิ้งพระและภาพที่เธอเห็นคือภาพของเด็กนางรำคนหนึ่งที่ถูกอุไรตบตี ฟารีดาใช้แรงทั้งหมดก้มลงไปอุ้มระนาดอันนั้นแล้วทุ่มไปยังหน้าต่างชนิดเต็มแรงจนมันลอยตกลงไปในน้ำก่อนที่จะคว้ามือหลินมากระโดดลงน้ำและขึ้นฝั่งอย่างปลอดภัยท่ามกลางความงุนงงของพวกซิสเตอร์ที่รีบเข้ามาช่วยพวกเธอกันพัลวัน

ผ้าม่านสีขาวบริสุทธิ์ค่อยๆเคลื่อนตัวขึ้นเผยให้เห็นเวทีวันไหว้ครูที่ตกแต่งอย่างงดงามท่ามกลางเสียงปรบมือดังสนั่นกึกก้องทั่วทั้งหอประชุม ขณะนี้เสียงดนตรีจากบทเพลงโหมโรงขวัญเมือง (ปี่พาทย์ไม้แข็ง) ได้เริ่มต้นขึ้น เพลงที่มีความหมายในการทูลขอความเป็นสิริมงคลให้โปรดบังเกิดขึ้นในชุมชนนั้นฉันก็หวังให้โรงเรียนและเพื่อนๆที่ฉันรักทุกคนมีความสุขและเรื่องร้ายๆจงอย่าได้เกิดขึ้นกับพวกเราทุกคนอีกเลย “แอนดี้ คริสมาสต์ไปเลยลูก” ซิสเตอร์เวโรนิก้าเป็นคนบอกคิวให้ตัวแสดงฝ่ายชายตัวแทนของห้องม.5/3ร่ายรำเข้าสู่เวที ฉันได้ยินเสียงปรบมืออันดังสนั่นและเสียงตะโกนให้กำลังใจจากห้อง5/3ที่ฉันรักทุกคน “หลิน ฟารีดาพร้อมนะลูก” ซิสเตอร์เวโรนิก้าถามทำเอาฟารีดาที่จมอยู่ในห้วงความคิดของตัวเองได้ลืมตาขึ้นและเปลี่ยนทุกสิ่งให้กลายเป็นพลังมหาศาล เธอก้าวเข้าสู่เวทีพร้อมร่ายรำอย่างสง่างามสะกดทุกสายตาผู้คน

“ปาเจรา จริยา โหติ…” บทสวดไหว้ครูดังขึ้น ในขณะเดียวกันที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง “อุไร” ที่กำลังนอนนิ่งไม่ไหวติงอยู่บนเตียง ร่างกายของเธอถูกไฟคลอกไปกว่า80%จนไม่สามารถขยับตัวไปไหนมาไหนได้ พังพืดเกิดขึ้นทั่วทั้งตัวของเธอ เธอยังคงต้องล้างแผลและทำกายภาพบำบัดทุกวัน หลังจากที่เธอหมดสติในเรือนนาฏศิลป์ที่ถูกไฟคลอกร่างของเธอก็เหมือนกับถูกใครสักคนเขวี้ยงออกจากกระจกและตกลงในน้ำอย่างมหัศจรรย์พอๆกับที่ระนาดเอกที่ฟารีดาเขวี้ยงออกมาที่ก็ลอยน้ำมาบรรจบกับเธอ คลิปวิดีโอของฮาเวิร์ดแม้ว่าจะถูกพ่ออธิการขอร้องไม่ให้เผยแพร่แต่ก็เป็นเบาะแสที่ดีที่ตำรวจจะใช้มัดตัวอุไรในฐานะผู้ต้องหาคดีฆาตกรรมหลังจากพบโครงกระดูกในตัวระนาดเอกจริงๆ ฮาเวิร์ด ดีไซน์และฮโยมินแม้จะถูกคาดโทษกันอย่างหนักแต่ก็ได้รับความดีความชอบจากตำรวจจนทำให้พ่ออธิการใจอ่อนอนุมัติ “ชมรม เน็ตไอดอลนักสืบรุ่นเยาว์ของเซนต์มาบุส” ภายใต้การดูแลของมิสมาลินและการคาดโทษทั้งหมดท้ายที่สุดก็ไม่พ้นการมาเรียนคำสอนในวันอาทิตย์เนื่องจากทำความดีความชอบให้แก่โรงเรียน ส่วนบรูโน่คนๆนี้อึดเกินทนแม้จะเสียเลือดไปมากจนเกือบแย่แต่ก็รอดมาได้และแข็งแรงดีในเวลาไม่ถึงสองสัปดาห์ – - “ให้แกตายมันยังน้อยไป มิสอุไร สิ่งที่แกทำกับฉันมันสะใจกว่าที่วันนี้แกต้องมานอนตายทั้งเป็นก่อนที่จะตายจริงๆแบบนี้” คิรินทร์ที่ยืนอยู่บนมุมมืดของหอประชุมยืนมองการรำของแอนดี้และเพื่อนๆกำลังยิ้มและปรบอย่างพึงพอใจ

“นาฏศิลป์คือมรดกอันล้ำค่าทางศิลปะวัฒนธรรมของไทย เป็นศาสตร์ชั้นสูงอันวิจิตรที่สะท้อนให้เห็นถึงความสมดุลย์ของการสร้างสรรและทำลาย ทุกวันนี้ฉันรักและเข้าใจในศาสตร์นี้ลึกซึ้งขึ้นกว่าเดิมและขอตั้งมั่นที่จะเป็นหนึ่งในคนรุ่นใหม่ที่จะร่วมยืนหยัดเพื่อสืบสานและธำรงไว้ซึ่งลมหายใจของศิลปะอันล้ำค่านี้ให้ดำเนินสืบต่อไปตราบจนจะสิ้นลมหายใจ” (ฟารีดา : Status Update)


ดูข้อมูลส่วนตัว ส่งข้อความส่วนตัว
ตอบโดยอ้างข้อความ
ตอบ  
โปรดติดตาม “สุสานนักเรียน ตอนที่2 สุภาพสตรีชุดขาวกับการจองจำมรณะบนชั้น8″



ดูข้อมูลส่วนตัว ส่งข้อความส่วนตัว
ตอบโดยอ้างข้อความ
ตอบ หลอน 
น่ากลัวจริงๆ

ดูข้อมูลส่วนตัว ส่งข้อความส่วนตัว ชมเว็บส่วนตัว
แสดงเฉพาะข้อความที่ตอบในระยะเวลา:
ตอบ หน้า 1 จาก 1
คุณไม่สามารถสร้างหัวข้อใหม่
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
คุณไม่สามารถแก้ไขข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลบข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลงคะแนน
  


copyright : forwardmag.com - contact : forwardmag@yahoo.com, forwardmag@gmail.com