
http://www.facebook.com/hysteriaculture
http://hysteriaculture.wordpress.com/2014/01/31/back-in-the-day-fiona-apple-the-idler-wheel-is-wiser-than-the-driver-of-the-screw-and-whipping-cords-will-serve-you-more-than-ropes-will-ever-do-indiealtervativeart-rockfusion-jazzexperiment/comment-page-1/#comment-587
Fiona Apple : The Idler Wheel Is Wiser Than The Driver of The Screw And Whipping Cords Will Serve You More Than Ropes Will Ever Do : Indie/Altervative/Art Rock/Fusion Jazz/Experimental (95% = 5/5)
(เคยเขียนไว้เมื่อปี2012วันนี้คิดถึงอัลบั้มนี้เลยขออนุญาติหยิบมาลงอีกทีนะคะ)
อีกหนึ่งอัลบั้มที่ส่วนตัวตั้งหน้าตั้งตานับวันรอคอยมากที่สุดประจำปีนี้กับ The Idler wheel สตูดิโออัลบั้มล่าสุด(ที่ชื่อเต็มๆยาวโคตรชนิดที่ถ้าทำสถิติโลกได้จะไม่แปลกใจ)ของสาวมากความสามารถอย่าง ฟิโอน่า แอ็พเพิ่ล ที่แม้ดิฉันสูบมาฟังอู้หูอ้าหามานานพอตัวแล้วไหนจะยังแปะลงนิตยสารมาสักพักใหญ่ๆพอดูแล้วแต่ก็เพิ่งจะหาฤกษ์หายามเขียนให้ท่านๆอ่านได้ก็อีวันนี้ล่ะค่ะ - โดนคนอ่านด่าขรมด่าเปิงไปถึงไหนต่อไหนแล้วนั่น!
พิจารณาภาพรวมของอัลบั้มเท่าที่เก็บข้อมูลแล้วขอบอกว่าเป็นงานที่มีเอกภาพและสะท้อนความเป็นฟิโอน่าออกมาได้อย่างครบถ้วนชัดเจน (เผลอๆจะมากกว่าTIDALอัลบั้มแรกซะอย่าง) ภาคดนตรียังคงเป็นอัลเทอเนทีฟฟังยากในแบบฉบับของฟิโอน่าที่มีรูปแบบในการนำเสนอเฉพาะตัวแบบสุดโต่ง(อินดี้)ที่อาจจะเล่นผู้ฟังขาจรให้อึ้งได้ด้วยความที่มันมีปัจเจกในตัวสูงล้นถึงขั้นอาจจะฟังไม่รู้เรื่องไหนจะยังโครงสร้างดนตรีทีค่อนข้างซับซ้อนเชิงทดลอง(EXPERIMENTAL)ที่ใส่ตั้งแต่สรรพสำเนียงแบบเวิลด์ไล่มาหาอาร์ทร็อคสไตล์อวองการ์ดออกแนวศิลปะสุดโต่งจนถึงฟิวชั่นแจ๊ซซ์ - จะว่าไปมันฟังง่ายขึ้นนะเพราะปกติไม่เคยจะสามารถฟังฟิโอน่าจนจบทั้งอัลบั้มได้
ถามหาจุดด้อยก็คงต้องถามกลับว่าคุณ เคยฟังฟิโอน่ามั้ย ถ้าไม่เคยก็เตรียมใจได้เลยว่ามีความเป็นไปได้สูงทีเดียวที่จะไม่ชอบอัลบั้มชุดนี้ด้วยความที่ภาคดนตรีเฉพาะทางมากๆชนิดที่พวกขาจรมาเจอก็คงถึ้งขั้นลงไปชักน้ำลายฟูมปาก ส่วนตัวคิดว่าฟังง่ายกว่างานของบีเยิร์คกับโทรี่ เอมอสนิดนัึและฟังยากกว่างานของซานติโกลด์หรือMIAหลายโยชน์อยู่ ต่อให้แม้แต่คุณจะคุ้นเคยกับงานของเธอดีก็ตาม The Idler wheel ก็ยังจัดว่าเป็นอัลบั้มที่ไม่ง่ายเลยสำหรับการฟัง ด้วยความที่เนื้อหาต้องอาศัยการตีความสูง ตัวงานค่อนข้างออกแนวศิลปะชั้นสึูฟังแล้วต้องจินตนาการตามยากจะจับต้องเดือนนึงจะฟังสักสองครั้งสำหรับบางท่านอาจจะคิดหนัก - ก็เหมือนกับให้เราเลือกหนังสือสักเล่มระหว่างหลักปรัชญากับกอสซิปสตาร์นั่นแหละค่ะ จะมีสักกี่คนที่จะไม่เลือกหยิบอย่างหลัง แม้แต่ดิฉันเองก็ขอหยิบพวกซุบซิบดารามาอ่านยังจะมันส์ซะกว่า
ที่แปลกใจก็คืองวดนี้ชอบหลายเพลงซะด้วยน่ะสิ ตั้งแต่Every Single Night (4.5/5) ซิงเกิ้ลแรกที่แลดูเรียบง่ายที่สุดในอัลบั้มแล้วกับโพรแกรมมิ่งกรุ๊งกริ๊งบางเบาคลอเคลียไปกับเสียงกระซิบกระซาบบางเบากึ่งบอสซาโนว่าบนสรรพสำเนียงเวิลด์ออกอเมริกันพื้นเมืองนิดๆ สำหรับคนชอบงานฟิวชั่นแจ๊ซซ์ไม่ว่าจะเป็นสแตนดาร์ด โมเดิร์น ครอสโอเว่อร์หรือบรอดเวย์ขอแนะนำ Valentine (5/5) กับ Johnathas (5/5) ที่นอกจากจะโชว์เนื้อเสียงและอินเนอร์ในการร้องแล้ว ยังโชว์กึ่นในแง่ของการเรียบเรียงได้อย่างดี
Anything We Want (4.5/5) โฉยกลิ่นอายหอมๆของวัฒนธรรมตะวันออกผสานกับเครื่องสายและเพียโนร็อคฉบับฟิโอน่าได้อย่างลงตัว มีเสน่ห์ดีทีเดียว ปิดอัลบั้มด้วย Hot Knife (5/5) งดงามประหนึ่งRepriseปิดม่านละครเวทีสุดอลังการไล่เลียงตั้งแต่บรอดเวย์ แจ๊ซซ์ แอฟริกันเร็กเก้แบบอะแค็พเพลล่าไปยันอาร์ทร็อค
อัลบั้มนี้อาจจะเป็นงานดีที่ฟังยากจนไม่น่าฟัง แต่เชื่อเถอะภายใต้ความซับซ้อนมีความสวยงามนอนรออยู่เสมอ