
http://www.facebook.com/hysteriaculture
http://hysteriaculture.wordpress.com/2014/01/09/back-in-the-day-spice-girls-spice-poprbdance-pop-92-4-55/
Spice Girls : Spice : Pop/R&B/Dance-Pop (92% = 4.5/5)
หากถามถึงศิลปินตะวันตกรายแรกที่เป็นแรงบันดาลใจอันยิ่งใหญ่ของบ.ก.เพจHysteriaคือใครหรือวงอะไร ส่วนตัวตอบโดยไม่ต้องคิดหรือตริตรองใดๆอย่างไม่อายเลยว่า สไปซ์เกิร์ล อย่างแน่นอนในฐานะที่เป็นวงเกิร์ลกรุ๊ปตะวันตกวงแรกที่ทำให้ดิฉันหลงรักการฟังดนตรีสากลโดยเฉพาะเพลงแนวพ็อพมาจนถึงทุกวันนี้ พวกเธอเป็นศิลปินที่เข้ามาในช่วงเวลาที่ชีวิตของดิฉันมีความสุขสมบูรณ์ถึงขีดสุดตลอดจนอิทธิพลหลายๆอย่างที่ได้รับผ่านทางดนตรีและภาพลักษณ์ทางการตลาดจากพวกเธอเป็นอะไรที่เรียกได้ว่ายังฝังหัวมาจวบจนวินาทีนี้แม้ว่าวงสุดที่รักวงนี้จะกลายเป็นอดีตไปนานมากแล้วก็ตาม ดังนั้นสำหรับอัลบั้มที่ดิฉันจะขอเลือกมาเป็นธีมประจำวันเกิดครบรอบ27ปีในอีกไม่กี่วันที่จะถึงนี้ชื่อของอัลบั้ม Spice สตูดิโออัลบั้มชุดแรกของเธอในช่วงปลายปี1996จึงเป็นชื่อของอัลบั้มเพลงชุดแรกที่เราคิดถึงในฐานะที่เป็นอัลบั้มเพลงพ็อพที่ทรงอิทธิพลสำหรับตัวดิฉันที่สุดตลอดกาล เป็นศูนย์รวมของความทรงจำดีๆในวันวานที่วันนี้อยากจะกลับมาเขียนอุทิศให้รวมถึงเอาฤกษ์เอาชัยไปในตัวว่าขอความสุขสมบูรณ์ในอดีตโปรดจงคืนกลับมาสู่ชีวิตของข้าในปีที่27นี้
ก่อนที่ชื่อของ5สาวSpice Girlsจะถือกำเนิดและสร้างสโลแกน Girl Power พร้อมกับดนตรีพ็อพในแบบฉบับของพวกเธอให้ดังระเบิดถึงขั้นเป็นปรากฏการณ์ที่สั่นสะเทือนอาณาจักรดนตรีตลอดวัฒนธรรมกระแสหลักไปทั่วโลกท่านเคยรู้กันมั้ยว่าก่อนหน้านี้ทั้ง5สาวที่ได้รับการคัดเลือกมา - วิคตอเรีย อดัมส์ (Posh Spice),เมลานี บราวน์หรือเมลบี (Scary Spice),เจอร์รี่ ฮัลลิเวล (Ginger Spice),เมลานี คริสโฮล์มหรือเมลซี(Sporty Spice)และสมาชิกที่แอดเข้ามาเป็นคนสุดท้ายอย่างเอ็มม่า บันทัน (Baby Spice)ที่เข้ามาแทนที่ มิเชล สเต็ฟเฟนสัน ที่ได้ขอถอนตัวออกจากโปรเจ็คก่อนจะมีการเปิดตัวอย่างเป็นทางการ - เคยจะมีชื่อวงที่สั้น เก๋และเรียบง่ายคมคายว่า Touch ก่อนที่จะเปลี่ยนมาเป็น Spice Girls ในภายหลัง (ขอบคุณสวรรค์!!!) ติดตามมาด้วยความสำเร็จจากซิงเกิ้ลเปิดตัวอย่าง Wannabe และอัลบั้ม Spice ที่ถูกยกประดับขึ้นหิ้งให้เป็นตำนานของดนตรีพ็อพประจำทศวรรษ90sเช่นเดียวกับที่ Spice Girls ได้รับการขนานนามให้เป็นตำนานเกิร์ลกรุ๊ปที่ประสบความสำเร็จสูงสุดของฝั่งสหราชอาณาจักรที่จวบจนทุกวันนี้ดิฉันก็ยังเชื่อว่ายังไม่มีวงเกิร์ลกรุ๊ปอื่นใดที่สามารถทะยานขึ้นมาเทียบเคียง
การที่สื่อมวลชนและนักวิจารณ์หยิบยกเอายุคGirl Powerของ5สาวสไปซ์เกิร์ลขึ้นไปเปรียบเทียบกับยุค Beatlemania ของวงระดับตำนานอย่าง The Beatles ก็นับว่าเป็นหนึ่งในสิ่งที่การันตีถึงความไม่ธรรมดาในคอนเส็ปท์ทางการตลาดและภาพลักษณ์ของพวกเธอทั้ง5ที่สามารถสยบบัลลังก์Pop Cultureไว้แทบเท้าได้อย่างเหนือชั้นในวินาทีนั้น อย่างไรก็ตามอีกสิ่งหนึ่งที่มองข้ามไม่ได้เลยเห็นจะเป็นงานดนตรีของพวกเธอในอัลบั้ม Spice สตูดิโออัลบั้มเปิดตัวที่แม้จะเป็นอัลบั้มพ็อพที่ดูเหมือนจะธรรมดาหากแต่ก็ได้รับการขนานนามว่าเป็นอัลบั้มที่ช่วยกรุยทางให้ดนตรี ทีนพ็อพ กลับมามีพื้นที่และกลายเป็นหนึ่งในภาคดนตรีที่เป็นไฮไลท์ประจำทศวรรษ90sซึ่งก็ต้องยอมรับว่าอิทธิพลของพวกเธอนั้นได้ช่วยเปิดทางให้ศิลปินพ็อพวัยรุ่นอีกหลายชีวิตได้โลดแล่นเข้ามาทำความฝันของตนเองให้กลายเป็นจริงในอุตสาหกรรมดนตรีเลยทีเดียว
โดยส่วนตัวไม่เคยมองงานพ็อพของสไปซ์เกิร์ลว่าเป็นงานพ็อพที่กะโหลกกะลาฉาบฉวยแต่อย่างใดเพราะถ้าตัดสินกันแบบลึกๆแล้วดิฉันคิดว่างานของพวกเธอมีพลังและความขบถหลายๆอย่างแอบซ่อนอยู่ภายในถึงแม้ว่าการนำเสนอของพวกเธอจะมาในรูปแบบของพ็อพที่หวานหูสมความเป็นพ็อพแต่ลูกเล่นและชั้นเชิงที่สอดประสานเข้ามาก็ต้องจัดว่าอัลบั้มSpiceนี้เป็นศูนย์รวมของงานเมนทสตรีมพ็อพที่ไม่ธรรมดา ตั้งแต่ซิงเกิ้ลเปิดอัลบั้มอย่าง Wannabe (5/5) ที่เขย่าบัลลังก์ดนตรีพ็อพไปทั่วโลกแถมยังขึ้นแท่นเป็นหนึ่งในซิงเกิ้ลที่ประสบความสำเร็จที่สุดตลอดกาลโดยวงเกิร์ลกรุ๊ป ซึ่งก็นับว่าเป็นการแนะนำตัวที่แตกต่างและฉีกออกจากการนำเสนอเพลงพ็อพรักๆใคร่ๆตามธรรมเนียมชนิดขาดสะบั้นด้วยการนำเสนอผ่านดนตรีพ็อพเต้นรำบนบีทอัพเทมโพสนานใจผสานความเป็นอาร์แอนด์บีจางๆยันแทรกเอารสชาติของฮิพฮอพที่เจ๊เมลบีกับเจอร์รี่ดวลการแร็พกันพัลวันมันส์หยดนั่นแลแต่พอเข้าท่อนคอรัสมันกลับกลายเป็นงานทีนพ็อพกระจ่างใสที่เก๋และติดหูอยู่ในที นอกจากนี้ยังแฝงไปด้วยด้วยเสน่ห์เฉพาะตัวและอารมณ์ขันน่ารักๆแบบพ็อพฝั่งสหราชอาณาจักรต้องมอบความดีความชอบให้แก่อัจริยภาพของโปรดิวซ์เซอร์ และฝ่ายการตลาดที่สามารถหยอดภาพลักษณ์ที่แตกต่างของทั้ง 5 สาวลงสู่เพลงนี้ได้อย่างกลมกลืน เป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยขับเคี่ยวให้เพลงพ็อพที่ไม่ธรรมดาเพลงนี้ก้าวไปสู่ความเป็นหนึ่งในสัญลักษณ์พ็อพยุค90s จนกลายเป็นปรากฏการณ์ทางดนตรีที่สะกดสายตาและกระชากใจคนทั้งโลกมาแล้ว ในขณะที่ Say Youll Be There (4.5/5) ได้ขยับความเข้มข้นทั้งภาคเนื้อหาที่ตอกย้ำสโลแกนGirl Powerของทางวงได้เด่นชัดขึ้นไปอีกระดับเช่นเดียวกับตัวเพลงที่ขยับเข้าสู่ความเป็นเออร์บันมากขึ้นโดยจับเอาความเป็นพ็อพเข้ามาขยำกับมิดเทมโพอาร์แอนด์บีและฟั้งค์ประสานด้วยเสียงซินธิ์หลอนๆเป็นแบ็คกรานด์ลอยละล่องไปทั่วทั้งเพลง โดยส่วนตัวแล้วชอบท่อนตะโกนปลุกใจช่วงกลางเพลงและการเบรคท่อนพรีคอรัสด้วยน้ำเสียงของวิคตอเรียที่ลงตัวและทำให้เพลงดูโดดเด่นขึ้นมากทีเดียว 2 Become 1 (5/5) งานพ็อพบัลลาดเมโลดี้เพราะๆที่นับว่าเป็นเพลงโลโก้สุดแสนจะอมตะอีกเพลงของทางวงพิสูจน์ได้จากความเป็นมิตรต่อคลื่นวิทยุเพลงพ็อพและอีซี่ลิสนิ่งต่างๆที่ทุกวันนี้ก็ยังถูกหยิบมาเปิดกันให้ฟังแบบไม่สนใจกาลเวลา ปฏิเสธไม่ได้ว่าเพราะจับจิต! อีกเพลงหนึ่งที่ขอยกให้เป็นเพลงโปรดตลอดกาลจากทางวงคงหนีไม่พ้น Who Do You Think You Are (5/5) ที่ตัดเป็นซิงเกิ้ลดับเบิ้ลเอไซด์คู่กับ Mama - ที่ส่วนตัวขอไม่เขียนถึงเนื่องจากไม่ค่อยปลื้มเป็นการส่วนตัว - พูดภาษากะเทยก็คงต้องบอกว่าเริ่ดซ่องแตกกระจุยกันไปข้างกับการทำดนตรีเต้นรำแรงๆอุทิศให้แก่จิตวิญญาณของยูโรพ็อพเต้นรำช่วงต้นยุค90sผสานกับอิทธิพลจากความเป็นฟั้งค์กี้ย์ดิสโก้สมัยทศวรรษ70sแล้วขอบอกว่ารากแตก ส่วนตัวขอยกให้เป็นเพลงเต้นรำที่ทรงพลังที่สุดตลอดกาลเพลงหนึ่งของสไปซ์เกิร์ล สำหรับเพลงอื่นๆในอัลบั้มที่ชอบแต่ไม่ได้ตัดเป็นซิงเกิ้ลส่วนมากจะออกไปสายอาร์แอนด์บีมากกว่า อาทิ Something Kinda Funny (4.5/5) อันนี้เป็นมิดเทมโพพ็อพอาร์แอนด์บีผสานกลิ่นอายของความเป็นโซลฟูลลอยๆส่วนตัวชอบการประสานเสียงในเพลงนี้มากๆดูนวลเนียนและเซ็กซี่ดีไม่หยอกชอบที่เมลซีกับเอ็มม่าทำหน้าที่เป็นแม่งานส่งรับกันได้ดี คือฟังตอนเด็กๆก็ไม่รู้หรอกค่ะว่าแบบนี้เขาเรียกว่าอะไรแต่พอโตมาแล้วประทับใจนะที่ได้ยินเพลงระดับนี้จากสไปซ์เกิร์ล Last Time Lover (4/5) ที่นำเสนอบนบีทดนตรีสุดร้อนแรงและสรรพสำเนียงสุดเซ็กซี่หยาดเยิ้มและแลดูทอดสะพานมากๆเป็นเพลงที่มีเมโลดี้ที่สวยแถมท่อนแร็พของเจอร์รี่และเสียงของเมลบีในเพลงนี้ยังฟินมากๆ ปิดอัลบั้มด้วย If U Cant Dance (4/5) เรียบเรียงดนตรีได้ดีทั้งพ็อพ เต้นรำ อาร์แอนด์บี ฟั้งค์และแร็พที่สอดประสานกันได้ลงตัว เสียงร้องในท่อนคอรัสช่างเปี่ยมจริตจก้านกันจริงๆ!
สุดท้ายนี้ไม่รู้ว่าดีหรือไม่ดีที่เวลามันเดินไปข้างหน้าเสมอแต่ความทรงจำของเราบางทีกลับหยุดอยู่กับที่ไม่ก็ชอบหนีกลับไปหาความหวานในวันวานจัง วันนี้ดีใจที่มีโอกาสได้หยิบอัลบั้มแรกในชีวิตที่ซื้อด้วยตัวเองมาเขียนรีวิวถึงอีกครั้งหลังจากที่เมื่อเกือบสิบปีก่อนดิฉันเคยเขียนถึงไปแล้วแต่ออกมาห่วยแตก - นี่แหละความต่างของมุมมองเมื่อตอนอายุ17กับ27ที่ผิดกันโดยสิ้นเชิง - สำหรับรีวิวชิ้นนี้ส่วนตัวขอสารภาพเลยว่า ไม่คิดว่ามันออกมาดีที่สุด เพราะในฐานะแฟนคลับตัวจริงของ Spice Girls ดิฉันคิดว่ารีวิวนี้ควรจะดีกว่านี้ ลึกกว่านี้และแน่นกว่านี้แต่ในสภาวะปัจจุบันดิฉันเขียนให้พวกเธอได้ดีสุดเท่าที่เขียนมาในรีวิวนี้จริงๆ อย่างไรก็ตามในฐานะที่เขียนเป็นของขวัญให้แก่วัย27ปีและความทรงจำที่ดีที่สุดของตัวเองที่ช่วงเวลานั้นมีเพลงจากวงเกิร์ลกรุ๊ปที่ชื่อ Spice Girls ดังก้องวนเวียนอยู่ในความรู้สึกตลอดเวลาทุกลมหายใจแล้วจะว่าไปแค่ได้มีโอกาสระลึกถึงความสุขเหล่านั้นแล้วระบายลงงานเขียน แค่นี้มันก็น่าจะเป็นของขวัญที่สวยงามที่สุดชิ้นหนึ่งสำหรับตัวเลข27ที่กำลังจะเข้ามาทักทายในอีกไม่กี่วันนี้แล้วกระมัง ขอบคุณนะ Spice Girls
(*ส่วนตัวตกใจเมื่อเทียบความรู้สึกกับรีวิวอัลบั้ม In Utero ของ Nirvana ที่เขียนไปเมื่อวานดิฉันกลับรู้สึกว่าตัวเองเขียนงานของวงป๋าเคิร์ทได้ไหลลื่นและเป็นธรรมชาติมาจากใจมากกว่าทั้งๆที่เพิ่งมาฟังเอาหลัง Spice Girls เป็นสิบปีแถมอัลบั้ม Spice นี่ดิฉันฟังตั้งแต่ปี1996แต่พอมาเขียนจริงๆแล้วแอบน้อยใจว่า ทำไมในใจเรามีข้อมูลแค่นี้ ไว้ไปว่ากันอีกทีตอน37แล้วกันอาจจะเขียนอีกรอบนะคะถ้ายังอยู่ถึง)