http://www.facebook.com/HysteriaCulture
http://hysteriaculture.wordpress.com/2014/02/24/jojo-lovejo-3-55-by-paradizer/
Jojo : #LOVEJO (3.5/5) By Paradizer
เอาเข้าจรืง ๆ ชื่อของ Jojo ในวงการเพลงทุกวันนี้เรียกว่าข้ามเส้นคาบดอกก็ไม่ผิด โอเคว่ายังมีคนรอผลงานเธอ แต่กว่าเธอจะตบตีกับค่ายเก่าเสร็จและมาเซ็นสัญญากับค่ายใหม่อย่าง Atlantic ก็ล่อไปถึง 8 ปี! คลื่นลูกใหม่ก็ถาโถมเข้ามา ยิ่งโดยเฉพาะสายป๊อปอาร์แอนด์บีที่มียัยหนู Ariana Grande เข้ามาอีก เรียกได้ว่าหนทางที่จะกลับมาเปรี้ยงตู้ต้ามของเธอคงต้องใช้ระยะเวลาพอสมควร
สำหรับ EP #LOVEJO งานชิ้นแรกที่ออกภายใต้ค่ายใหม่นั้น เอาจริงผู้เขียนเองก็ไม่ได้ติดตามหรอก แค่บังเอิญเปิดวิกิพีเดียแล้วเจอว่าออกใหม่แล้วนะ โอเค ลองไปหามาฟังก็ได้ ก่อนอื่นต้องสารภาพเลยว่าผลงานของโจโจ้ที่ยังติดหูผู้เขียนอยู่ที่วันนี้มีแค่ Leave (Get Out) กับ Too Little Too Late เท่านั้นจริง ๆ ยิ่งถ้าเป็นคุณ บ.ก. ด้วยแล้ว คุณเะอยิ่งไม่อีนังขังขอบกับอิหนุโจโจ้ ที่แม้ว่าจะเสียงดี แต่ก็เห็นด้วยกับคูณบ.ก.ว่าความน่าสนใจของตัว JoJo มันไม่ค่อยมียังไงไม่รู้
แต่สำหรับ EP ชุดนี้ เรียกได้ว่าทำให้ต้องหันกลับมามองแล้วลืมยัยหนูร้องเพลงแกน ๆ จริง ๆ ต้องขอขอบคุณเพลงที่หยิบมาร้องในอีพีชุดนี้ด้วย เพราะเป็นเพลงคัฟเวอร์ทั้งหมดทั้งสิ้น เปิด EP มาด้วยอินโทรออเครสต้าหลอน ๆ ลอย ๆ ก่อนจะเชื่อมเข้า Caught Up In The Rapture (3.5/5) ที่หยิบผลงานเก่าของป้า Anita Baker ที่เปิดเพลงมาเหมือนดนตรีจะคัฟเวอร์ตามต้นฉบับเป๊ะ ๆ ก่อนจะมีเสียงแทรกดขึ้นมาว่า รีมิกซ์ ซึ่งเอาเข้าจริง ๆ ก็ไม่ได้ต่างจากเดิมเท่าไหร่ แค่ปรับให้ทันสมัยมากขึ้น แต่ปฏิเสธไม่ได้นะว่า เพราะ และดูมีความแตกต่างมากกว่าเพลงฮิตไล่ผู้ชายของเธอทั้งหลายที่ดูจะอารมณ์เกรี้ยวกราด รอบนี้ยัยโจ้เลยออกมาบอกซะลเยว่าหวาน ๆ ฉันก็ได้ทำได้นะ!
มาที่ Take Me Home (3.5/5) ที่หยิบอิเลคโทรป๊อป-ร็อคของ Phil Collins มาหยอดบีทกระฉึกกระฉักแบบ R&B ก็เพราะใช้ได้ แต่ของเด็ดอยู่ที่ Glory (4/5) ที่หยิบเอาเพลงโอเปร่าของ Kathleen Battle มาขับกล่อม โดยเรียบเรียงให้มีความเป็นป๊อปอาร์แอนด์บีและกอสเปลแต่ก็ยังให้เกียรติแก่ต้นฉบับทุกกระเบียด และโชว์สกิลการร้องโอเปร่าได้ดีเลยทีเดียว
ามว่าข้อเสียของอีพีชุดนี้มีไหมถ้าวัดตามศักยภาพของอีพีที่คัฟเวอร์เพลงคนอื่นมาก็คงต้องตอบว่า มี ด้วยความที่ตัวเธอและทีมงานยังคงเคารพต้นฉบับเอาซะมาก ๆ (หรือเรียกได้ว่าแทบจะตัฟเวอร์ชนิดเหมือนเด๊ะ) แต่นั้นก็เป็นข้อดีนะเพราะถ้าเล่นมากแล้วออกมา เละ ก็คงจบไม่สวยเหมือนกัน อีกหนึ่งจุดที่อดเปรียบเทียบไม่ได้กับแม่หนู Ariana Grande ที่มาสายอารืแอนด์บีเหใือนกันแถมหวีดได้เหมือนกันอีก เอาเข้าจริง ๆ ถ้าวัดด้วยเนื้อเสียงเพียว ๆ JoJo ชนะขาดด้วยเนื้อเสียงและการคอนโทรลที่แข็งแรงกว่า กร้าวกว่า แต่ในขระเดียกวันการร้องแบบยึดตามหลักทฤษฎีว่า ตรงนี้ฉันต้องร้องแบบนี้นะ เอาล่ะตรงนี้ฉันต้องขึ้นสูง มันทำให้บางทีการฟังผลงานของเธอมันทำให้รู้สึกอึดอัด ซึ่งข้อนี้แม่หนู Ariana จะลื่นไหลกว่าค่อนข้างมาก ถึงตรงนี้ต่างคนต่างมีจุดดีจุดด้อยพอกัน ตลาดได้พอ ๆ กัน เพียงแต่ว่า JoJo มาก่อนนานมาก เลยทำให้ตอนนี้เธอต้องกับไปทำการบ้านอย่างหนักมาก ๆ แล้วว่ารอบนี้เธอจะงัดกลยุทธ์ไหนมาสู้กับคลื่นลูกใหม่มาแรงได้
