http://www.facebook.com/HysteriaCulture
http://hysteriaculture.wordpress.com/2014/03/05/ruben-studdard-unconditional-love-poprbsoul-85-45/
Ruben Studdard : Unconditional Love : Pop/R&B/Soul (85% = 4/5)
ค้างเติ่งมาตั้งแต่ช่วงวาเลนไทน์เดือนที่แล้วสำหรับอัลบั้ม Unconditional Love ของนาย รูเบน สตั๊ดดาร์ด ผู้ชนะรายการอเมริกันไอดอลซีซั่นที่สองที่ไม่รู้ว่าโลกหมุนไปจวบจนป่านนี้แล้วจะยังมีสักกี่คนที่จำหนุ่มเสียงโซลสุดทรงพลังท่านนี้กันได้อยู่ สำหรับเหตุผลที่เขียนรีวิวดีเลย์ไปหนึ่งเดือนนี่ไม่ใช่อัลบั้มของคุณพี่ไม่ดีไม่เพราะนะคะแต่เนื่องจากงานรีวิวตีกันจนล้นชนิดที่ดิฉันก็กระจายเขียนให้ไม่ทันจริงๆและโดยเหตุผลจำเป็นต้องเลือกเขียนศิลปินที่ชอบและศิลปินที่อยู่ในกระแสสนใจของผู้อ่านก่อนแต่ยืนยันค่ะว่างานของคุณพี่ชุดนี้เพราะจริงและดีจริงไม่งั้นคงไม่เก็บมาบอกต่อยันข้ามเดือนแบบนี้หรอก
ภายใต้ชายคาใหม่ของค่าย Verve Records รูเบนได้ยืดอกประกาศว่า Uncondition Love สตูดิโออัลบั้มชุดที่6ของเขาชุดนี้เป็นอะไรที่สาธารณชนคาดหวังจะฟังจากเขานับจากที่เขาชนะรายการอเมริกันไอดอลมากที่สุดอย่างแน่นอนโดยอัลบั้มนี้เป็นการนำเพลงรักอมตะบันลือโลกของศิลปินชื่อดัง อาทิ พอล แม็คคาร์ทนี่ย์,ดอนนี่ แฮทธ่าเวย์,บอนนี่ เรทท์,มาร์วิน เกย์และพีโบ ไบรสัน เป็นต้น มาคัฟเว่อร์ในแบบฉบับคอนเทมโพรารี่ย์อาร์แอนด์บี,โซลและอดัลท์คอนเทมโพรารี่ย์หวานๆตามถนัดโดยยังใจดีมีเพลงออริจินัลยัดมาให้ฟังกันถึงสองเพลงดังนั้นเรื่องของความไพเราะหายห่วง แต่พูดไปสองไพเบี้ยเดี๋ยวจะหาว่าเขียนอวยเข้าข้างศิลปินนี่ไม่ใช่นะคะเพราะนักวิจารณ์หลายสำนักพร้อมสื่อมวลชนคนดนตรีต่างเห็นพ้องต้องกันมอบคำชมให้อัลบั้มชุดนี้ว่าเนื้องานดีที่สุดตั้งแต่ตารูเบนออกเทปมาละแถมยังยืนยันด้วยการเปิดตัวสูงถึงอันดับที่46บนชาร์ตบิลบอร์ดและอันดับ7บนชาร์ตอัลบั้มอาร์แอนด์บีซึ่งนับว่าไม่ธรรมดาสำหรับศิลปินที่กระแสล้มพบไปนาน
โดยส่วนตัวแล้วแม้ดิฉันจะรู้สึกว่าเป็นแค่งานเพราะๆที่ฟังได้เรื่อยๆแต่ไม่ปฏิเสธนะคะว่าทุกเพลงประณีตมีหีบห่อและอยู่ในระดับเริ่ด แต่ถ้าให้หาเพลงที่โดดเด่นออกมาจนประทับใจจริงๆก็มี Close The Door (4.5/5) เป็นงานโอลด์สคูลโซลอาร์แอนด์บีเพราะๆตามแบบฉบับของงานโซลและอาร์แอนด์บีผิวสีแบบโมทาวน์ช่วงยุค60s-70s เสียงเครื่องเป่าสุดสุนทรีย์ให้กลิ่นอายสวิงโซลนิดๆในเพลงนี่ชนะเลิศมากๆฟังแล้วตัวลอยเลยไพเราะขาดใจ Love,Love,Love (4.5/5) เป็นอีกหนึ่งเพลงที่คอเพลงโซลช่วงยุค70sน่าจะชอบโดยเฉพาะแฟนๆของตำนานมาร์วิน เกย์นี่พลาดไม่ได้ They Long To Be (Close To You) (4.5/5) ก็จับเอาเพลงอมตะอฑิมหานิรันดร์กาลของโลกอย่าง Close To You จาก คาร์เพนเทอร์ มาปัดฝุ่นทำเป็นแนวคอนเทมโพรารี่ย์อาร์แอนด์บีบัลลาดโชว์พลังเสียงติดกลิ่นแจ๊ซซ์เล้าจ์นขมุกขมัวได้เฉียบขาดดีแท้ มาที่ My Love (4/5) ขึ้นต้นมาด้วยบีทกีต้าร์อคูสติคเท่ห์ก่อนจะสับรางมาเป็นงานดิสโก้และพ็อพโซลปลายยุค70sดูมีสีสันฉูดฉาดและกระฉึกกระฉักเกินภาพรวมของอัลบั้มที่เป็นงานบัลลาดเนิบนาบหยาดหยดแต่ชอบนะเพราะกว่าจะฟังมาถึงเพลงนี้ก็แทบหลับ สำหรับไทเทิ่ลแทร็ค Unconditional Love (4.5/5) เรียบเรียงดนตรีได้อย่างน่าสนใจบนความเป็นโซลอาร์แอนด์บีบัลลาดผสานสแตนดาร์ดแจ๊ซซ์พลิ้วๆพร้อมทั้งการนำเสนอเชิงกอสเพลชวนขนลุก เป็นบัลลาดที่ทรงพลังที่สุดในอัลบั้มนี้
ก็แปลกนะคะที่โดยรวมดิฉันกับเฉยๆกับอัลบั้มนี้ทั้งๆที่ภาพรวมไพเราะและมีพลังทีเดียวถึงส่วนมากจะเป็นงานคัฟเว่อร์ศิลปินท่านอื่นมาชนิดบานพะเรอเกวียนแต่ก็ทำออกมาชนิดเปี่ยมความเคารพและแลดูลงทุนมีวิสัยทัศน์และโปรดัคชั่นที่ดี เอาเป็นว่าเป็นงานดนตรีที่มีคุณภาพและฟังได้ระยะยาวตลอดทั้งปีทุกเทศกาลไม่เฉพาะเพียงวาเลนไทน์ซึ่งก็เป็นอีกหนึ่งอัลบั้มที่ขอเชิญชวนให้คอดนตรีหามาฟังตลอดจนมีไว้ครอบครองก่อนจะมาพบกับโปรเจ็คอัลบั้มคริสมาสต์ของคุณพี่รูเบนที่จะออกมาฮัลเลลูยากันช่วงปลายปีนี้
