วันนี้เป็นวันธรรมดาของใครหลายคน แต่หารู้ไม่ว่า วันนี้ คือ วันสตรีสากล ซึ่งเป็นที่ก่อตั้งมานานแล้ว ตั้งแต่ปี คศ.1957 และวันที่หนังเรื่อง Gulabi Gang(กูลาบิ แก๊งค์) ออกฉายที่โรงภาพยนตร์แล้วที่ประเทศอินเดีย ซึ่งก่อนหน้านี้ มีหนังสารคดีชื่อเดียวกัน ซึ่งเป็นต้นแบบและแรงบันดาลใจของภาพยนตร์เรื่องนี้ได้ออกฉายไปแล้วที่ประเทศมุมไบ
เสียงตอบรับของหนัง นำมาซึ่งการเคลื่อนไหวสังคม จึงเริ่มเกิดขึ้น ผู้คนทั่วโลกเริ่มหันมาสนใจในสิทธิสตรีของผู้หญิงกันมากขึ้น โดยเฉพาะผู้หญิงอินเดีย หรือผู้หญิงที่อยู่ประเทศที่มีการทารุณกรรมอยู่บ่อยครั้งจากผู้ชาย ที่สำคัญจากสามีของตนเอง หลายครั้งที่มีการตายของภรรยาเกิดขึ้น จนดูเหมือนเป็นเรื่องธรรมดาไปแล้วสำหรับคนที่นี่
Gulabi Gang เป็นกลุ่มศาลเตี้ยในบุนเดลขัณฑ์ รัฐอุตตรประเทศ ก่อตั้งโดยสัมปัต ปาล เทวี อดีตเจ้าหน้าที่สาธารณสุขอินเดียผู้เคยถูกบังคับให้แต่งงานตั้งแต่วัยเด็ก โดยชื่อของกลุ่มแปลว่าสีชมพู เพื่อสื่อถึงชุดส่าหรีสีชมพูที่ทางกลุ่มใช้เป็นสัญลักษณ์ในการประท้วง โดยกลุ่มยังเป็นที่จดจำจากอาวุธประจำกายอย่างท่อนไม้ไผ่ เพื่อนำไปทำร้ายสามีผู้ไม่ยอมหยุดข่มเหงภรรยาของตนเอง โดยหน้าที่สำคัญของกลุ่มมีตั้งแต่การยุติความรุนแรงต่อผู้หญิง, ขัดขวางการแต่งงานในวัยเด็ก, ต่อต้านการขูดรีดสินสอดจากฝ่ายหญิง และส่งเสริมการศึกษาในหมู่สตรี
นิสธา เจียน ผู้กำกับหญิงเจ้าของสารคดี กล่าวว่า เธอสร้าง Gulabi Gang ขึ้น เพราะสนใจพลังที่เกิดจากการร่วมตัวของกลุ่มสตรีที่ยากไร้, ขาดการศึกษา และมาจากวรรณะต่ำในอินเดีย ส่วนสัมปัต ปาล เทวี ซึ่งไปร่วมงานฉายรอบปฐมทัศน์ในมุมไบ กล่าวว่า กลุ่มของเธอไม่ได้ปกป้องแต่คนเพศเดียวกัน เพราะปัญหาครอบครัวมักมีสาเหตุมาจากความไม่เข้าใจของทั้งฝ่ายชาย และฝ่ายหญิง แต่ความล่มสลายของสถาบันครอบครัวจะส่งผลเสียต่อคนทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง
Gulabi Gang ยังเป็นแรงบันดาลให้กับหนังบอลลีวูดชื่อเดียวกันอีกเรื่องที่เตรียมออกฉายช่วงวันสตรีสากลซึ่งตรงกับวันที่ 8 มีนาคม 2557 เนื้อเรื่องเล่าถึงการเผชิญหน้าของผู้นำกลุ่มสตรีที่เรียกร้องความเท่าเทียมด้วยความรุนแรง กับผู้บังคับบัญชาหญิงที่ให้ความสำคัญกับกฎระเบียบของบ้านเมืองเป็นที่ตั้ง โดย มาธุรี ทีกษิต ดาราหญิงคนดังที่รับบทนำในเรื่อง ชี้ว่าปัญหาสตรีอินเดียถูกเอาเปรียบจนวันนี้ มีต้นเหตุอยู่ที่การขัดขวางสตรีจากการศึกษา หากพวกเธอมีโอกาสด้านการศึกษาเทียบเท่ากับที่ผู้ชายได้รับ สิ่งนั้นจะเป็นพลังให้พวกเธอสามารถยืนหยัดในสังคมได้ด้วยตนเอง