
http://www.facebook.com/HysteriaCulture
http://hysteriaculture.wordpress.com/2014/03/31/the-edm-kiss-me-once-cher-song-for-the-lonely-dance-popeurodancedisco-98-55/
สำหรับธีมประจำเดือนเมษายนของทางเพจนิตยสาร Hysteria ทางบ.ก.และแอดมินได้ตกลงกันแล้วว่าเราจะทำ The Dance Anthem Issue กันโดยจะมีคอลัมน์พิเศษนั่นคือ The EDM Kiss Me Once ที่เราจะมีการรีวิวซิงเกิ้ล,เขียนแนะนำสั้นๆไปจนถึงบทความแนะนำดนตรีและวิพากษ์วิจารณ์ถึงดนตรี Electronic Dance Music สาขาต่างๆ - สำหรับท่านผู้อ่านทาง FF Mag ที่สนใจลองเข้าไปอ่านในบล็อคหรือในเพจบนเฟซบุ๊คส์ดูได้นะคะเพราะอย่างบทความ,โฆษณาแนะนำสั้นๆเชิงRecommend (อย่างเพลง Freak ของ Steve Aoki,DiploและDeorro ที่ใช้เรียกแขกเมื่อวาน)ไปจนถึงบทความ18+เกี่ยวกับชีวิตกลางคืนคือจะไม่ได้เอามาลงโปรโมตใน FF Mag เหอๆ
อย่างเมื่อวานทาง Hysteria ลงเพลงเรียกแขกไปแล้ววันนี้ก็มาถึงเพลงเปิดฟลอร์กันบ้างด้วยความที่ธีมประจำเดือนนี้เกี่ยวกับดนตรีเต้นรำนะคะทางเราก็เลยมาในคอนเส็ปท์ของปาร์ตี้กลางคืนแบบเปิด ผับ กันในบทความวิจารณ์เพลงไปเลยซึ่งเพลงสำหรับอันเชิญองค์ประทับเป็นเพลงแรกนี่ดิฉันไม่เห็นว่าจะมีใครสมควรได้รับเกียรตินี้ไปกว่าย่า แฌร์ ดิว่าที่ดำรงชีวิตมาก่อนยุคประวัติศาสตร์ท่านนี้อีกแล้ว - ถือกำเนิดมาก่อนรากฐานของ EDM อีกกระมัง
เชื่อว่าสาวกของย่าหลายคนน่าจะชอบ Song For The Lonely ซิงเกิ้ลจาก Living Proof อัลบั้มชุดที่24ของย่าที่แม้ว่ากระแสตอบรับและคำวิพากษ์วิจารณ์จะออกมาค่อนข้าง #ไม่ค่อยมีชิ้นดี ด้วยความที่ตัวย่าอาจจะกำลังหน้ามืดกับความสำเร็จในอัลบั้ม Believe จนคิดว่าตัวเองจะเกาะกระแสยูโรแด๊นซ์แล้วทำมันออกมายังไงก็ได้หรือไม่ย่าอาจจะกำลังตื่นเต้นที่ตัวเองกระชากวัยมาทำเพลงรุ่นลูกรุ่นหลานแล้วได้รับการแห่แหนจนลืมมาฟังเพลงทั้งหมดในอัลบั้มก็ได้ว่ามันห่วยแตกขนาดไหน
อย่างไรก็ตามเพชรเม็ดเดียวในตมอย่าง Song For The Lonely เพลงนี้ก็สามารถสาดแสงเปล่งประกายเจิดจรัสฉายแววคุณภาพและความดีงามในตัวออกมาได้ชนิดที่หลายๆคนต้องยอมรับว่านี่คือบทเพลงที่ดีที่สุดเพลงหนึ่งในชีวิตของย่าแฌร์แถมยังเป็นหนึ่งโลโก้อมตะประจำตัวของราชินีท่านนี้อีกต่างหาก แม้ว่าโดยภาพรวมอาจจะเห็นได้ชัดว่าเป็นการย่ำรอยความสำเร็จของ Strong Enough กับงานจำพวกยูโรแด๊นซ์90sและดิสโก้ในแพ็ทเทิร์นเดียวกันเป๊ะๆหากแต่ขอชมในแง่ของความงดงามของภาคเนื้อหาที่แม้ว่าย่าอาจจะไม่ได้ตั้งใจมอบเพลงนี้ให้ชาวรักร่วมเพศแบบเฉพาะเจาะจงแต่กลับกลายเป็นว่าชาวเกย์พร้อมใจกันยกเพลงนี้ขึ้นบูชาบนหิ้งเป็นเพลงที่เท่าไรของย่าแล้วก็ไม่รู้ ฟังดูแล้วก็ไม่แปลกใจว่าทำไมย่าแฌร์ถึงเป็นศิลปินหญิงที่ชาวเกย์ยกย่องให้อยู่ในจำพวก เกิดมาเพื่อพวกเรา เพราะหลายสิ่งหลายอย่างที่นางสำแดงเดชออกมาในเพลงนี้มันเห็นได้ชัดเจนว่านางมีเคมีที่คอนเน็คกับชาวเพศที่สามในตัวสูงมากๆโดยเฉพาะอย่างยิ่งความทรงพลังจากท่อนคอรัสที่ฟังแค่รอบแรกแล้วก็ขอยอมศิโรราบให้เลยว่าบทย่าจะเจอเพลงที่เข้าปากย่าก็ทำออกมาได้ถึงมากๆชนิดที่พวกแด๊นซ์ซิ่งควีนโดยรากฐานอย่างมาดอนน่าหรือไคลี่ย์ก็มีหนาวไปเหมือนกัน
น่าเสียดายที่เครดิตของย่าแฌร์ในแวดวงของเพศที่สามเจเนอเรชั่นใหม่ๆไม่ค่อยเป็นที่พูดถึงเท่าไร อาจจะด้วยเรื่องของช่วงเวลาด้วยแหละที่มันไม่ใช่ยุคของย่าแล้วเหมือนกับอรีธ่า แฟรงคลิน,บาร์บร่า สไตร์แซนด์,ทิน่า เทอร์เนอร์,ไดอาน่า รอสและซินดี้ ลอเพอร์อะไรพวกนี้ที่กลายเป็นบรรดาชื่อที่ เอ๊าท์ แล้วในหมู่เกย์ (ขนาดมาดอนน่าเด็กยุคใหม่ยังไม่ค่อยสนใจ) อย่างไรก็ตามส่วนตัวแล้วยังนับถือย่าแฌร์ในความที่นางยังแลดูมีพิษสงพอที่จะขึ้นมาสร้างปรากฏการณ์ได้เป็นระยะๆแม้จะไม่เท่าอีเจ๊แม่,น้าไข่หรือนางมาลัยแต่อย่างน้อยดูจากฟอร์มของนางใน Dress To Kill Tour ทัวร์ล่าสุดของนางแล้ว ดีใจที่ย่าแฌร์แม่งยังไม่ยอมถอนสายบัวให้เด็กยุคใหม่ๆเว้ย!