
http://www.facebook.com/HysteriaCulture
http://hysteriaculture.wordpress.com/2014/05/18/coldplay-ghost-stories-alternative-rockexperimental-rock-92-4-55/
Coldplay : Ghost Stories : Alternative Rock/Experimental Rock (92% = 4.5/5)
สิ้นสุดการรอคอยของโลกทั้งใบเสียทีเมื่อในวันที่16 พฤษภาคม 2014ที่ผ่านมาวงร็อคที่เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในวงที่ดีและทรงอิทธิพลเป็นระดับแถวหน้าของฝั่งสหราชอาณาจักรอย่างก็Coldplayก็ได้ฤกษ์วางขายสตูดิโออัลบั้มชุดที่6ของทางวงซึ่งก็คงจะไม่เกินความเป็นจริงเท่าใดนักว่านี่คืออัลบั้มที่สาธารณชนคาดหวังและจับตารอคอยมากที่สุดชุดหนึ่งประจำปีนี้เลยทีเดียว
Ghost Stories ส่วนหนึ่งถือกำเนิดขึ้นบนแรงบันดาลใจขณะที่คุณพี่ คริส มาร์ทิน หัวหอกของทางวงกำลังประสบกับสภาวะชีวิตคู่ระส่ำระส่ายกับศรีภรรยา กวินเน็ธ พัลโทรว หงส์เหินจนเป็นขุมพลังที่ก่อให้เกิดอัลบั้มที่ว่าด้วยเรื่องราวของการปล่อยให้ความผิดพลาดและเงามืดในอดีต - Ghost - ตามมาส่งผลกระทบถึงสภาพชีวิตในปัจจุบันและลามไปถึงกำหนดทิศทางความเป็นไปในอนาคตซึ้งเท่าที่อ่านๆเนื้อหาดูแล้วภาพรวมเน้นหนักไปที่โลกทัศน์ของคำว่ารักยันค่าของชีวิตหลังจากสิ้นสุดคำว่ารักไปจนถึงเรื่องของ ศรัทธา ที่ทั้งหมดทั้งมวลยังสามารถใช้วาทะศิลป์ในการประพันธ์เพลงได้อย่างสุดแสนงดงามล้ำค่าและอัจฉริยะพอๆกับภาคดนตรี อัลเทอเนทีฟร็อค เย็นยะเยือกแต่สุกสกาวจับใจอันเป็นมนตร์เสน่ห์ของทางวงโดยคอนเส็ปท์ครั้งนี้เห็นว่าทางวงต้องการ stripped down,more acoustic collection หลังจากที่ประสบความสำเร็จอย่างสูงใน Mylo Xyloto อัลบั้มชุดก่อนหน้านี้ซึ่งก็เป็นงานร็อคเชิงทดลองที่ผสานโพรแกรมมิ่งของซินธิ์,อิเล็คโทรนิคเข้ากับบีทอคูสติคและอารมณ์ของงานสไตล์บริทพ็อพซึ่งนักวิจารณ์ต่างประเทศท่านยกย่องให้เป็นอัลบั้มที่เข้าใกล้เมนทสตรีมที่สุดตลอดกาลของทางวง ซึ่งขอสารภาพเป็นประการแรกเลยว่าตอนแรกน้องล่ะกลั๊ว กลัวว่าคุณพี่จะถอดเขี้ยวเล็บและลดตัวย่ำรอยความสำเร็จเดิมๆหลังจากที่ได้อ่านบทสัมภาษณ์ที่ไหนได้พอมาฟังจริงๆแล้วอิทธิพลของดนตรีเชิงทดลองแบบเอ็กซ์เพอริเมนทัลในชุดนี้ดูจะจัดจ้านเข้มข้นกว่าอัลบั้มทีแล้วเสียอีกมีตั้งแต่มิติของดนตรีอิเล็คทรอนิก้าที่หลอมรวมเข้ากับงานร็อค,กอสเพล,แอมเบี้ยนท์ไปยันงานเต้นระบำแบบโพรเกรสซีฟเฮ้าส์พอๆกับงานอคูสติคเนิบนาบซึ่งมาดูรายชื่อโปรดิวซ์เซอร์รับเชิญบางท่านอย่างทิมบาแลนด์หรือAviciiแล้วก็ไม่แปลกใจในความแปลกใหม่พอตัวที่ได้ยินจากอัลบั้มนี้ซึ่งในมุมมองของดิฉัน Mylo Xyloto ฟังง่ายกว่ามากและเปรียบเสมือนผลงานที่บูรณาการความเป็นทุกสิ่งของColdplayไว้แล้วบิดให้มันก้าวไปสู่ทิศทางของดนตรีทดลองแต่ Ghost Stories เป็นงานเอ็กซ์เพอริเมนทัลที่ก้าวไปสู่ของใหม่จริงๆมากกว่าเป็นงานเชิงทดลองเพื่อหาทิศทางสู่สิ่งใหม่ อารมณ์ยืนอยู่ระหว่างความสวยงามประดุจต้องมนตร์สะกดที่เราเคยสัมผัสจาก Parachutes ผลงานชุดแรกและอารมณ์บรรเจิดประดุจลอยละล่องออกไปในโลกใน X&Y คือเป็นการตกผลึกที่สวยงามจากตะกอนของร้าวฉานและบทเรียนชีวิตโดยแท้
ถึงกระนั้นก็คงต้องสารภาพกันตามตรงว่าในบรรดาอัลบั้มทั้งหมดทั้งมวลของColdplayผลงานชุดนี้เป็นอัลบั้มชุดแรกของพวกเขาที่ไม่ได้มีอิทธิพลใดๆต่อดิฉันเลยแม้แต่เล็กน้อย คือไม่ใช่งานไม่ดีนะคะ ดี!!! และดีมากๆแต่ไม่ได้มีความพิเศษต่อความรู้สึกใดๆถึงขั้นที่ดิฉันจะต้องกระวีกระวาดรีบมาเขียนวิจารณ์ให้ตั้งแต่วินาทีแรกที่ออกสู่สาธารณชนเหมือนอัลบั้มชุดที่แล้วซึ่งก็แปลกเพราะก่อนหน้านี้คาดไว้ว่าน่าจะชอบอัลบั้มนี้มากกว่านี้ อาจจะเพราะว่างานก่อนหน้านี้ของพวกเขามันขึ้นระดับเทพทั้งนั้นเลยกระมังมาGhost Storiesก็เลยซวยเพราะนี่ก็เลยจุดที่ดิฉันอินกับพวกColdplayมากๆไป2จะ3ปีละ ว่าแล้วขอกลับไปฟังอัลบั้ม Viva La Vida Or Death And All His Friends อัลบั้มที่ดิฉันชอบน้อยที่สุดของพวกเขาอีกทีแล้วได้ความว่าไงชอบอัลบั้มไหนมากกว่ากันระหว่างสองชุดนี้สรุปผลได้แล้วจะรีบมาบอก
เอาจริงๆเพลงที่ชอบมากๆก็สามซิงเกิ้ลที่ตัดมาทั้งหมดโดยเฉพาะ Magic (5/5) เพลงเปิดตัวที่ดำเนินเรื่องอย่างเรียบง่ายบนท่วงทำนองอคูสติคหากแต่สวยงาม ไพเราะและเข้มข้นทรงพลังมากๆฟังแล้วนึกถึงสมัย Parachutes อัลบั้มแรกของพวกกับงานบริทพ็อพเย็นยะเยือกเปี่ยมมนตร์สะกด ขอยกตำแหน่งซิงเกิ้ลที่ดีที่สุดแห่งปีให้ไปครอบครองเลย Midnight (4.5/5) ที่งดงามแพรวพราวบนภาคดนตรีเอ็กซ์เพอริเมนทัลหนาวเหน็บอ้างว้างผสานสรรพสำเนียงแอมเบี้ยนท์ลอยละล่องที่แค่ขึ้นต้นเนื้อเพลงมาว่า In the darkness before the dawn In the swirling of the storm When Im rolling with the punches and hope is gone Leave a light a light on ก็เล่นเอาดิฉันอยากจะก้มลงไปกราบทั้งวง มันต้องให้ได้แบบนี้ๆๆๆๆเส่ะ! นับว่าที่เคยปูพื้นกันอย่างดีตั้งแต่ Fix You ในอัลบั้ม X&Y ช่างไม่สูญเปล่า มาที่ A Sky Full Of Stars (4.5/5) ที่เห็นว่าได้Aviciiมาโปรดิวซ์ให้นับว่าแปลกหูดีที่ได้ยินColdplayขยับเข้าไปเล่นกับสายEDMและหยิบจับดนตรีโพรเกรสซีฟเฮ้าส์เก๋ๆเดิร์นๆแบบนี้มาใส่ไว้ในงานของตัว ชักสังหรณ์ใจแปลกๆแล้วสิ! สำหรับ Always In My Head (4.5/5) แทร็คเปิดอัลบั้มก็โดดเด่นด้วยเสียงคอรัสกอสเพลเชิงคอนเทมโพรารี่ย์คริสเตียนมิวสิคแขนงHymnsในช่วงอินโทรก่อนจะเข้าสู่มิติของงานสายอัลเทอเนทีฟร็อคและเอ็กซ์เพอริเมนทัลตามธรรมเนียมColdplayแท้ๆ Ink (4.5/5) นี่น่ารักมากๆสวิงสวายบนบีทเต้นระบำกระฉึกกระฉักคลอเคลียไปกับสารพันโพรแกรมมิ่งน่ารักๆก่อนจะหยอดกีต้าร์อคูสติคเพราะๆอารมณ์สว่างกระจ่างจ้าแบบที่เราได้ยินจางวงนี้บ่อยๆแต่มาตีให้เป็นงานเชิงทดลองได้ชนิดแยบยล เชื่อเถอะว่านี่ไม่คาดคิดจริงๆว่าจะได้ยินงานแบบนี้จากอัลบั้มนี้และขออำลาไปด้วย Oceans (4.5/5)กับงานอคูสติคเพราะๆและเสียงร้องอันเจิดจรัสของคุณพี่คริส มาร์ตินน่าจะถูกปากคนที่ชอบงานสไตล์ทริบิ้วท์ให้ปู่ จอห์นี่ย์ แคช แบบที่วงพี่คริสชอบทำเพียงแต่หนักทางสายทดลองมากขึ้
ถึงปากจะบอกว่าไม่ได้ทรงอิทธิพลต่อความรู้สึกเท่าเดิมแต่ส่วนตัวยืนยันเลยว่าGhost StoriesของColdplayไม่มีทางหนีพ้นหนึ่งในอัลบั้มที่ดีที่สุดของปี2014นี้โดยแน่นอน น่าเสียดายที่สำหรับเรางานก่อนหน้านี้ของพวกเขาระเบิดศักยภาพสูงสุดออกมาหมดแล้วชุดนี้จึงไม่ค่อยรู้สึกตื่นเต้นอะไรแม้ชั้นเชิงในการรังสรรค์ดนตรีของพวกเขาจะทะยานขึ้นไปอีกระดับอย่างเห็นได้ชัด