˹���á Forward Magazine

ตอบ

สุสานนักเรียน ตอนที่3 เล่ม2 (4)
ผู้ตั้ง ข้อความ
ตอบโดยอ้างข้อความ
ตอบ สุสานนักเรียน ตอนที่3 เล่ม2 (4) 


http://hysteriaculture.wordpress.com

hysteria

สุสานนักเรียน ตอนที่3 เรื่องเล่าสยองขวัญจากห้องน้ำนักเรียนชายที่ถูกปิดตาย เล่ม2 (4)

บทความ/นิยายในเพจ Hysteria นี้ ถือเป็นลิขสิทธิ์ แก่ผู้เขียน “นายมัลนร ล้ำสกุลวงศ์” ( http://www.facebook.com/ArmandVladJekyllDangouleme8774 และเพจ http://www.facebook.com/hysteriaculture)เท่านั้น ห้ามทำซ้ำ ดัดแปลง คัดลอกส่วนหนึ่งส่วนใด หรือนำไปเผยแพร่โดยไม่ได้รับอนุญาต

“เข้ามาค่า” เสียงของผกาดังขึ้นก่อนที่เด็กๆจะพากันเดินเข้าไปในห้อง “มิสเป็นยังไงบ้างคะ?” ดีไซน์เดินมาหามาลินข้างเตียงพร้อมกับจับมือที่มาลินยื่นให้มาบีบซะแน่นในขณะที่ผกากำลังรับไหว้พวกเด็กผู้ชาย “แล้วฟารีดาล่ะลูก?” มาลินถามเสียงแหบแห้ง “อ๋อ กำลังรอหลินเช็ดตัวอยู่ค่ะเดี๋ยวเขามาพร้อมกัน” ดีไซน์ยิ้มก่อนจะเปิดโจ๊กร้อนๆที่เธอเพิ่งซื้อมาเทใส่ถ้วยแล้วป้อนมาลิน “มิสครับพวกผมซื้อโจ๊กมาฝากมิสด้วยนะครับเดี๋ยวผมเทใส่ชามให้นะ” เสียงของคิรินทร์ดังขึ้นทำเอามาลินถึงกับสำลัก “อุ๊ย ร้อนเหรอคะมิส! ฮาเวิร์ดเอาน้ำมาให้มิสทีเร็วๆ” ดีไซน์หันไปสั่งแฟนหนุ่มในขณะที่ผกาที่กำลังหิวซ่กพูดขอบคุณคิรินทร์ไม่ขาดปาก “อร่อยมั้ยครับมิส?” แอนดี้กับคริสมาสต์เดินมามองมาลินอีกข้างหนึ่งของเตียง “ผมให้เขาปรุงแบบที่มิสชอบเลยนะ ใส่ขิงเยอะๆไม่ใส่ไข่ไงครับ” คิรินทร์เดินมายิ้มที่ปลายเตียงทำเอามาลินถึงกับหน้าเจื่อนไปเธอเผยอปากขึ้นเหมือนกับจะพูดอะไรออกมาแต่แล้วน้ำตาเธอก็ไหลเมื่อเห็นภาพของลูกชายยืนตัวพุพองไหม้เกรียมอยู่ข้างๆคิรินทร์ “เอ่อ ครูขอบคุณเธอมากเลยนะคิรินทร์ เธอนี่รู้ใจครูเสมอเลยนะ” มาลินพูดเสียงสั่นเครือ “อู๊ยยย พูดก็พูดเถอะนะจิ๋มฉันไม่ค่อยเจอเด็กสายวิทย์โรงเรียนเราคนไหนน่ารัก มีน้ำใจและมีสัมมาคารวะแบบคิรินทร์เลยนะ” ผกาพูดชมไม่ขาดปาก “ใช่ ในบรรดาเด็กสายวิทย์ทุกคนฉันรักเด็กคนนี้ที่สุดแล้ว” มาลินพูดด้วยสีหน้าเศร้าสลดซึ่งทำเอาคิรินทร์ถึงกับชะงักไปเพราะเขาสามารถสัมผัสได้ว่ามาลินได้พูดออกมาจากใจของเธอจริงๆ ก่อนที่ทุกคนจะหันไปมองหลินและฟารีดาที่เดินเข้ามา “หลินเป็นยังไงบ้างลูก?” มาลินถามด้วยความเป็นห่วง “ดีขึ้นแล้วค่ะมิสยังเจ็บแผลอยู่แต่ก็ไปเรียนไหวแล้ว ยังไงเย็นนี้ก็ต้องกลับมาล้างแผลที่นี่ค่ะ!” หลินหัวเราะแฮะๆ “เอาเป็นว่าวันนี้ครูขอฝากหลินในฐานะหัวหน้าห้องช่วยโฮมรูมแทนครูหน่อยนะ ครูอยากให้เราเลือกประธานสีกัน ฮาเวิร์ด ดีไซน์ แอนดี้ คริสมาสต์และฟารีดาออกไปยืนหน้าห้องช่วยหลินด้วยนะพวกเธอคุมพวกในห้องอยู่แน่นอนครูเชื่อ ส่วนเรื่องของหลินนี่ครูไม่ปล่อยไว้แน่ๆถ้าสืบรู้ว่าเป็นฝืมือใครในห้องจริงๆล่ะก็ครูรับปากว่าจะเอาตัวมาลงโทษให้ถึงที่สุดเลยแต่ขออย๋างหนึ่งพวกเธออย่าทำอะไรกันเองนะเรื่องนี้ครูฝากให้มิสผกาช่วยด้วยมีอะไรหรือสงสัยใครายงานมิสผกาได้เลย” มาลินบอกกับพวกเด็กๆ “ว่าแต่กาโต้เป็นยังไงบ้างนะ?” ผกาโพล่งขึ้นมาในขณะที่ฮาเวิร์ดรีบเหยียบขาคริสมาสต์ที่กำลังจะอ้าปากเช่นเดียวที่ดีไซน์และฟารีดารีบส่งสายตาห้ามปราม

“กาโต้มีเหตุผลหน่อยสิมิสอุตส่าห์มาเยี่ยมนะ!” ฟารีดาพูดเตือนด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่งซึ่งทุกคนในห้องรู้ว่า ณ ขณะนี้เธอพยายามที่จะควบคุมอารมณ์อย่างหนักทีเดียวหากแต่กาโต้ก็ยังคงนอนหันหลังให้ทุกคนโดยไม่สนใจที่จะพูดหรือคุยด้วยแม้แต่กับผกา “เอาเถอะๆ กาโต้จ๊ะ มิสเป็นห่วงนะขอให้หนูหายเร็วๆนะลูกจะได้รีบกลับไปเรียน” ผกาพูดด้วยน้ำเสียงเป็นห่วงระคนเสียใจ “งั้นพวกเราขอโทษแล้วกันนะที่มากวนเธอ” ดีไซน์พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาก่อนที่ทุกคนจะหันหลังเตรียมเดินออกจากห้อง “ผมขอโทษ!” เสียงของกาโต้หวดดังขึ้น เด็กหนุ่มยังไม่ยอมหันหลังกลับมามองเพื่อนๆและผกาแต่ภาพที่แอนดี้เห็นคือภาพของผ้าห่มที่สั่นเทิ้มซึ่งเดาได้ไม่ยากเลยว่ากาโต้กำลังร้องไห้อยู่ก่อนที่เสียงสะอึกสะอื้นจะดังออกมาให้ทุกคนได้ยิน ในสถานการณ์ที่คนในห้องต่างทำอะไรไม่ถูกผกาเป็นคนเดียวที่เดินเข้าไปนั่งข้างๆกาโต้ก่อนจะบีบไหล่เขาเบาๆ “ครูจะบอกว่าเรื่องนี้หนูไม่ได้ผิดและไม่มีใครผิดเลยแต่ครูขออย่างหนึ่งนะ สัญญากับครูได้มั้ยลูกว่าจะไม่ทำแบบนี้อีก! ชีวิตเรามีค่านะ มีค่ามากกว่าตัวเลขผลคะแนนจากกระดาษสอบที่วัดอะไรไม่ได้เลย ครูเห็นกาโต้มาตั้งแต่ม.1ครูรู้ว่าหนูเป็นเด็กดีและพ่อแม่หนูก็รักหนูมากทุกๆคนเป็นห่วงกาโต้มากๆนะคะลูก อย่าคิดจะทำร้ายตัวเองแบบนี้อีก!” สิ้นสุดคำพูดของผกาเด็กหนุ่มก็หันมาสวมกอดคุณครูของเขาพร้อมกับปล่อยโฮออกมาดังสนั่น แอนดี้แทบจะไม่อยากเชื่อสายตาเลยว่าผกาที่ดูขาดๆเกินๆประสาทๆมาตลอดในสายตาเขาจะมีมุมที่อ่อนโยนขนาดนี้ด้วยสิ่งนี้ทำให้เขารู้สึกรักผกามากขึ้นกว่าเดิมหลายเท่าตัวทีเดียว เด็กหนุ่มยืนมองภาพดีไซน์ที่ค่อยๆจูงมือฮาเวิร์ดเข้าไปสวมกอดกาโต้พลางยืนยิ้มด้วยความสุขใจในขณะที่คิรินทร์ยืนมองภาพนั้นด้วยสีหน้าที่ปราศจากความรู้สึกใดๆ

เลวรำพึงพยายามควบคุมลมหายใจให้แผ่วเบาพร้อมกับร่างกายไม่ให้สั่นเทิ้มเมื่อฝีเท้าของชายหนุ่มคนนั้นค่อยๆเดินใกล้เข้ามาเธอหรี่ตามองแล้วเห็นว่าเขากำลังลากท่อนเหล็กขนาดพอดีมือมาอย่างช้าๆ “แต่งตัวอย่างกับกะหรี่!” ชายหนุ่มเอาเท้าเขี่ยตัวของเลวรำพึงที่นอนตะแคงอยู่ให้หงายขึ้น “น่าเสียดายกูต้องรอให้มึงตื่นก่อนไม่งั้นก็คงไม่มันส์ ” เขาแลบลิ้นแพล็บๆพลางเลียปากอย่างหื่นกระหาย “ชอบเสือกเรื่องชาวบ้านอย่างมึงก็คงอยากรู้สินะว่าถ้าถูกทำให้เป็นขันทีทั้งบนทั้งล่างจะเป็นยังไง” เลวรำพึงพยายามปิดตาให้สนิทเธอคิดถึงสภาพของวิภาวีที่นอนดิ้นทุรนทุรายบนพื้นโรงอาหารพร้อมกับเผยให้เห็นอวัยวะเพศที่ถูกคว้านจนกลวงโบ๋และหน้าอกทั้งสองข้างที่ถูกตัดออกจนเตียน “คนพวกนี้นี่เองที่เป็นคนร้ายฆ่านักเรียนในโรงเรียนของเธอถึงสองคน” เธอคิดในใจก่อนที่จะฮึดรวบรวมกำลังพลิกตัวไปด้านข้างสุดแรงจนชายคนที่ยืนคร่อมตัวเธอนั้นเสียหลักล้มลง เลวรำพึงรีบตะกายขึ้นไปบนตัวของเขาพลางประสานมือทุบเข้าไปที่หัวของชายคนนั้นด้วยความยากลำบากเพราะว่ามันมัดข้อมือของเธอทั้งสองข้างล่ามมาผูกตรึงถึงข้อเท้า เลวรำพึงประสานมือทั้งสองข้างทุบหัวของมันกระแทกพื้นอย่างแรงก่อนขยับตัวขึ้นไปทับบนบ่าของมันคนนั้นพร้อมนำเชือกหย่อนๆที่ผูกระหว่างข้อมือกับข้อเท้าของเธอมาคล้องคอชายคนนั้นก่อนจะงัดอย่างแรงโดยไม่ฟังเสียงร้องโหยหวนทุรนทุรายเธอทั้งรัดทั้งจับหน้ามันกระแทกๆลงกับพื้นอย่างไม่ยั้ง
พลางใช้เชือกรัดงัดคอมันแต่แล้วหญิงสาวก็ต้องเป็นฝ่ายเพลี่ยงพล้ำเมื่อมันอาศัยความแข็งแรงของเพศชายง้างเชือกออกแล้วพลิกตัวกลับจนเธอเป็นฝ่ายนอนตะแคงที่พื้น ชายคนนั้นตะเกียดตะกายคว้าเหล็กข้างตัวขึ้นมาในขณะที่เลวรำพึงกลิ้งตัวหลบให้ห่างจากรัศมีของมัน หญิงสาวที่สามารถลุกขึ้นยืนได้แล้วนั้นกระโดดหลบหลีกในขณะที่มันกระหน่ำเอาท่อนเหล็กเฉียดฟาดเธอแล้วเฉียดเธอเล่าชายโฉดคนนั้นวิ่งมาดักเลวรำพึงตรงหน้าประตูโดยที่ไม่ปิดบังอาการหอบอย่างเห็นได้ชัดเลวรำพึงอาศัยโอกาสที่มันค่อยๆเงื้อท่อนเหล็กขึ้นพุ่งเข้าชนที่กลางตัวมันเต็มแรงจนมันหงายหลังกลิ้งตกบันไดไปนอนนิ่งไม่ไหวติงก่อนที่เธอจะค่อยๆไถลก้นตามลงไป เลวรำพึงล้วงกระเป๋าของชายคนนั้นก่อนจะพบมีดพกขนาดกะทัดรัดที่แสนจะคมกริบเล่มหนึ่งก่อนที่เธอจะค่อยๆบรรจงใช้มันตัดพันธนาการระหว่างข้อมือและข้อเท้าของเธออย่างใจเย็น เธอใช้เวลาสักพักใหญ่ๆจึงสามารถปลดปล่อยตัวเองให้เป็นอิสระได้หญิงสาวคว้าเศษตังค์และเงินในกระเป๋าสตางค์ของชายคนนั้นเธอมองหน้าชายคนนั้นอย่างพินิจพิเคราะห์ซึ่งก็ไม่ใช่คนที่คุ้นหน้าค่าตาเธอแต่อย่างใดเธอตรวจสอบทรัพย์สินในกระเป๋าลับของเธอและมือถือซึ่งยังคงอยู่ครบก่อนที่เธอจะคิดอะไรออกบางอย่าง เลวรำพึงค่อยๆเอื้อมมือมาถอดกางเกงของชายหนุ่มช้าๆก่อนที่จะต้องอ้าปากค้างกับภาพอันสุดแสนสยดสยองที่ปรากฏตรงหน้า

“สรุปว่ามติเป็นเอกฉันท์นะคะว่าประธานสีปีนี้คือ ‘ฟารีดา’” หลินและเพื่อนนักเรียนม.5/3ทั้งชั้นต่างปรบมือให้แก่ประธานสีประจำชั้นปีที่มีท่าทีเก้อเขินขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด “เอาล่ะค่ะถ้างั้นเย็นนี้คาบกิจกรรมกีฬาสีเราก็คงจะเริ่มกันที่แนะนำทีมงานของสีแดงประจำปีนี้ล่ะนะงั้นตอนนี้ดิฉันขอใช้สิทธิ์ประธานสีในการโหวตลูกทีมด้วยนะคะ” ฟารีดาหลับตาและพูดเสียงแข็งทื่อเร็วปรื๋อทำเอาดีไซน์ถึงกับสติแตกลงไปหัวเราะงอก่องอขิงที่พื้น “ดีไซน์อย่าสิ!” หลินรีบหันมาปราม “อย่างที่รู้ๆกันอยู่แล้วว่าผมเป็นคนรับผิดชอบเรื่องการแข่งกีฬาทุกประเภทก็ขอเสนอตัวเป็นที่ปรึกษาด้านการแข่งขันกีฬานะครับ” ฮาเวิร์ดที่เห็นว่าฟารีดาเกร็งจนพูดไม่ออกแล้วรีบเข้าไปยืนข้างๆแล้วพูดแทน “จริงๆนายก็น่าจะเป็นโฆษกของสีไปด้วยเลยนะนายพูดเก่งจะตาย” แอนดี้เสนอ “ดีเลยแอนตี้จะมารับตำแหน่งโฆษกของสีเราเขาจะได้ฝึกพูดให้เก่งๆ” ฮาเวิร์ดคว้าคอแอนดี้มากอดหมับ “เฮ้ยอะไรวะ?” แอนดี้ทักท้วงก่อนที่ทั้งคู่จะรีบกระโดดหลบมือกุ๊ยฉ่ายที่พยายามจะคว้าหมับเข้าที่เป้าของทั้งสองคน “แอร๊ยยย ผัวขาอย่ามายืนคู่กันแบบนี้สิค้า!!!!!” กุ๊ยฉ่ายดิ้นพราดๆๆๆอยู่ที่เก้าอี้เรียน “ดอกทองกูจับได้คนเดียวค่ะ!” ดีไซน์วิ่งเอาตัวเข้ามาบังฮาเวิร์ดด้วยความหึงหวงพลางแผดเสียงลั่น “ดีไซน์!!!! หน้าตาสวยๆอย่าพูดจาแบบนี้สิคะลูก ส่วนกุ๊ยฉ่ายผู้หญิงเขาไม่ทำแบบนี้นะจ๊ะไม่ดีรู้มั้ย” มิสผกาที่มายืนคุมห้องแทนตำหนิเด็กทั้งสอง “ว่าแต่กุ๊ยฉ่ายก็เป็นลีดกับบริทนี่ย์และคริสทิน่าไปแล้วนะคะ โฮะๆๆๆ” กุ๊ยฉ่ายลุกขึ้นมายืนพลางทำท่าลีดพร้อม “ดังนั้นกุ๊ยฉ่ายขอเสนอนาเดียให้เป็นประธานเชียร์ค่า” ทั้งปรบมือเฮลั่นให้นาเดียที่ลุกขึ้นกระโดดกรี๊ดกราด “แอร๊ยยยย อร๊ายยยยๆๆๆๆ หล่อนพูดจริงอ่ะฉันอยากทำๆ” นาเดียวิ่งมาหน้าชั้นแล้วกระโดดกระดิ้นกรี๊ดกร๊าดกับดีไซน์ด้วยความดีใจ “ปีนี้สีแดงคงมันส์” มิสผกาหัวเราะพลางหันไปคุยเม้าท์กับบริทนี่ย์และคริสทิน่า “เอาล่ะๆฮาเวิร์ดเป็นที่ปรึกษาและโค้ชกีฬานะคะ ดีไซน์หัวหน้าทีมเชียร์ลีดเดอร์ แอนดี้ เอ่อ เป็นMCไหวนะ และนาเดียเป็นประธานเชียร์รับผิดชอบเรื่องร้องเพลงและสแตนด์เชียร์ที่นี้ก็เหลือเหรัญญิกดิฉันขอเสนอหลินเพราะว่าเรื่องเก็บเงินห้องอะไรนี่หลินละเอียดและไว้ใจได้อยู่แล้ว มาถึงรองประธานสีบ้างล่ะเพื่อนๆมีใครเสนอรับหน้าที่นี้มั้ยคะ? ถ้าไม่มีดิฉันขอเสนอคริสมาสต์นะคะ” เสียงปรบมือดังก้องอีกครั้งจนคริสมาสต์ถึงกับยืนหน้าเอ๋อไปเลยทีเดียว “แฮะๆดีจัง” คริสมาสต์ยืนเกาหัวแกรกๆก่อนที่ทั้งห้องจะหันไปมองประตูห้องที่เพิ่งเปิดออก “ขออนุญาติเข้าห้องครับมิส เอ่อ อ้าว มิสผกา” เป็นบรูโน่ที่เดินสีหน้าเจื่อนๆเข้ามาในห้อง แอนดี้พิจารณาสีหน้าของบรูโน่ที่ดูซูบและโทรมลงไปผิดตาเขาดูเหมือนพักผ่อนไม่พอแถมเหมือนกับเพิ่งจะผ่านการร้องไห้อย่างหนักมามากกว่า “แล้วผมขอเสนอบรูโน่เป็นช่างภาพประจำทีมและเป็นMCเสริมคู่กับแอนดี้ครับ” ฮาเวิร์ดวิ่งเข้าไปกอดคอบรูโน่พร้อมลากมากลางห้องทันที

“จอดตรงนี้แหละครับ ขอพระเจ้าโปรดคุ้มครอง” ชายในชุดบาทหลวงสองคนเดินลงจากรถแท็กซี่บริเวณเคหะร้างย่านชานเมืองที่คริสตจักรของพวกเขาได้ซื้อไว้เพื่อจะมาสร้างเป็นโบสถ์และสถานอุปการะเด็กกำพร้า หลวงพ่อทั้งคู่ยืนมองรถแท็กซี่คันนั้นที่ขับไปไกลจนลับตาเพื่อให้แน่ใจว่าเขาจะไม่ย้อนกลับมาอีก “ป่านนี้บราเดอร์เก่งน่าจะฆ่าผู้หญิงคนนั้นไปแล้วกระมังครับหลวงพ่อ” บาทหลวงปิยะทัย ชายวัยกลางคนร่างผอมสูงหันมาถามบาทหลวงกิมช้วนชายชราที่เป็นหนึ่งในผู้อาวุโสสูงสุดของนิกาย “พ่อก็หวังว่าจะเป็นเช่นนั้น เสี้ยนหนามของศาสนจักรพวกนี้เราต้องกำจัดเพื่อพวกเราจะได้ทำหน้าที่ในการนำพาบุตรและธิดาขององค์พระเป็นเจ้าในยุคสุดท้ายนี้เข้ามาสู่หนทางแห่งแสงสว่างและตั้งตนในความบริสุทธิ์อันจะเป็นการป้องกันพวกเขาให้ออกห่างจากอันตรายของโลกยุคนี้ได้” กิมช้วนพูดด้วยน้ำเสียงเรียบนุ่มก่อนจะเดินนำเข้าสู่ตัวบ้านร้างหลังหนึ่ง “นี่มันอะไรกันนี่?!!!” บาทหลวงกิมช้วนอ้าปากค้างหลังจากที่เห็นสภาพของเก่งนอนสลบเหมือดไม่ได้สติขากับแขนของเขาทั้งสองข้างถูกมัดไพล่ไปด้านหลังเช่นเดียวกับข้อเท้าที่ถูกมัดเข้าติดกันและคอที่ถูกผูกโยงเข้ากับราวบันไดโดยที่ท่อนล่างของชายหนุ่มถูกถอดออกเสียจนล่อนจ้อนเผยให้เห็นสัญลักษณ์ของสมาชิกในนิกายที่เป็นรอยแผลเป็นขนาดใหญ่สีเขียวอมม่วงคล้ำเสมือนว่าเนื้อบริเวณนั้นถูกเลาะแล้วคว้านออกจนเพิ่งจะสมานตัวใหม่หมาดๆซึ่งมันยังคงดูอักเสบและบวมเป่งจนน่าสยดสยอง “บราเดอร์นี่มันอะไรกัน ตื่นขึ้นมาบอกพ่อก่อนว่ามันเกิดอะไรขึ้นแล้วนังผู้หญิงคนนั้นอยู่ไหน?” กิมช้วนเดินเข้าไปเขย่าตัวเก่งที่ยังคงนอนหลับไม่ได้สติในขณะที่ปิยะทัยมองไปรอบๆบริเวณด้านล่างก่อนที่จะเดินสำรวจหาร่องรอยของเลวรำพึง “อร๊ายยย!!!!” เลวรำพึงที่พุ่งออกมาจากที่ซ่อนบริเวณห้องใต้บันไดหวดเหล็กเข้าใส่ที่บริเวณศรีษะและใบหน้าของปิยะทัยไม่ยั้ง หญิงสาวหลับตาและกระหน่ำตีปิยะทัยไม่คิดชีวิตจนร่างของบาทหลวงโฉดผู้นั้นเลือดไหลอาบสยบอยู่แทบเท้าเธอก่อนจะขาดใจตายทันที เลวรำพึงที่ตีปิยะทัยจนแน่ใจว่าเขาตายสนิทแล้วหันไปมองกิมช้วนที่นั่งมองเธอตาค้างเหมือนกับจะทำอะไรไม่ถูกหญิงสาวเดินเข้าไปที่ร่างของบาทหลวงผู้แก่ชราก่อนจะหวดเหล็กเข้าไปที่บริเวณชายโครงของเขาจนทรุดฮวบ “พวกมึงจับกูมาทำไม? พวกมึงต้องการอะไร? ใครสั่งพวกมึงให้ทำแบบนี้? แล้วทำไมไอ้นั่นถึงไม่มีควย?!!!” เลวรำพึงอัดทุกคำถามใส่กิมช้วนระหว่างที่หวดฟาดเหล็กไปที่ขาทั้งสองข้างของชายชรา “ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้าโปรดปกป้องบริวารผู้บริสุทธิ์ของพระองค์” กิมช้วนร้องไห้ก่อนจะประนมมือสวดมนต์อ้อนวอนพระผู้เป็นเจ้า

“พระผู้เป็นเจ้าที่ไหนเขาจะมาช่วยไอ้พวกคนจิตใจวิปริตต่ำทรามผิดมนุษย์มนาอย่างพวกมึงฮะกูถามหน่อย?!!!” เลวรำพึงยืนเท้าสะเอวตวาดพลางมองกิมช้วนที่นอนงอก่องอขิงตัวสั่นเทิ้ม “มึงตอบกูมาดีๆกว่าว่าพวกมึงทำแบบนี้ไปทำไม?” เลวรำพึงตะคอก “ฆ่าพ่อเสียเถอะลูกพ่อยินดีอุทิศชีวิตนี้เพื่อกระทำกิจอันบริสุทธิ์ของพระองค์ให้ประสบความสำเร็จและวันนี้พระองค์จะมารับวิญญาณของพ่อไป” กิมช้วนสะอึกสะอื้นในขณะเดียวกันกับที่เสียงโทรศัพท์ของเก่งที่เลวรำพึงยึดมาดังสนั่นขึ้น “ฮัลโหลๆ ได้ความคืบหน้าว่าอย่างไรบ้างบราเดอร์?!” เสียงวางอำนาจของผู้หญิงคนหนึ่งที่เลวรำพึงคุ้นเคยดีดังขึ้น “คุยกับมันซะให้ฉันได้ยินไม่งั้นฉันจะบอกตำรวจเกี่ยวกับเรื่องศาสนจักรของพวกแก!” เลวรำพึงเอามึงบังเสียงพลางกระซิบกิมช้วนอย่างแผ่วเบาก่อนจะเปิดสปีคเกอร์โฟนให้กิมช้วนพูด “สวัสดีท่านแม่อธิการนี่พ่อเอง” กิมช้วนพูดเสียงสั่นในขณะที่เลวรำพึงอัดคลิปไว้ “ค่ะคุณพ่อไปถึงที่นั่นแล้วเหรอคะ? เก่งกับปิยะทัยไปไหนซะล่ะ?” เสียงของผู้หญิงปลายสายดูอ่อนลงเมื่อรู้ว่ากำลังสนทนากับกิมช้วน “เอ่อ อ่ะ อ่ะ เอ่อ เขาสองคนไปเดินสำรวจเคหะแถวนี้เพื่อหาที้ฝังศพผู้หญิงคนนั้นน่ะ” กิมช้วนตอบตะกุกตะกัก “สรุปคือมันตายเรียบร้อยแล้วใช่มั้ยคะคุณพ่อ” เสียงของปลายสายดูรื่นเริงยินดี “ใช่แล้วตายสนิทเลย เอ่อ แค่นี้นะ” กิมช้วนจงใจจะตัดบทแต่สากุลวดีชิงพูดขัดขึ้นมา “ดีแล้วค่ะนังปิยะวดีมันเป็นจิ้งจอกสองหน้า ถ้าเราเก็บมันไว้อาจจะเป็นภัยต่อศาสนจักรของเราในอนาคตลองมันได้สะกดรอยตามลูกมาแล้วล่ะก็ขืนปล่อยมันไปพวกคนที่เซนต์มาบุสก็คงจะจับตาลูกหนักขึ้นและแน่นอนว่ามันอาจจะยากต่อการสานกิจของพระองค์ในการนำพาบุตรและธิดาขององค์พระเป็นเจ้าหวนคืนสู่หนทางแห่งแสงสว่างอันเป็นชีวิตนิรันดร์” สากุลวดีพูดก่อนจะวางสายไป “แบบนี้นี่เองสากุลวดีถึงชอบลอบออกมาจากหอพักซิสเตอร์ตอนดึกๆนี่พวกแกล่อลวงเด็กนักเรียนให้ไปทำอะไรวิปริตแบบนี้เหรอ?” เลวรำพึงพูดในขณะที่หันกล้องไปทางเก่งดูเหมือนจะเริ่มขยับตัว “พวกแกทำแบบนี้ไปทำไมล่อลวงคนไปตัดหีตัดควยแบบนี้นี่พวกแกต้องการอะไร?” เลวรำพึงตวาดแต่กิมช้วนก็ยังคงเงียบ “ถ้าไม่ตอบฉันจะเอาคลิปนี้ไปให้ตำรวจ!” เลวรำพึงขู่ “เราทำกิจของพระผู้เป็นเจ้า เราทำกิจของพระผู้เป็นเจ้า อย่าไปแจ้งตำรวจเลยเราแค่…” เก่งที่รู้สึกตัวรีบตะโกนด้วยความหวาดกลัวแต่กิมช้วนคว้าเศษกระจกขนาดใหญ่ที่แตกกระจายบนพื้นมาแทงเข้าไปที่ลำคอของชายหนุ่มจนทะลุ “ยกโทษให้พ่อด้วยลูก!” กิมช้วนน้ำตาไหลก่อนที่จะตัดสินใจเอาเศษกระจกอันนั้นปาดคอตัวเองต่อหน้าเลวรำพึงที่ยืนมือไม้สั่นด้วยความตกใจ


ดูข้อมูลส่วนตัว ส่งข้อความส่วนตัว
ตอบโดยอ้างข้อความ
ตอบ  


ดูข้อมูลส่วนตัว ส่งข้อความส่วนตัว
แสดงเฉพาะข้อความที่ตอบในระยะเวลา:
ตอบ หน้า 1 จาก 1
คุณไม่สามารถสร้างหัวข้อใหม่
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
คุณไม่สามารถแก้ไขข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลบข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลงคะแนน
  


copyright : forwardmag.com - contact : forwardmag@yahoo.com, forwardmag@gmail.com