8 ปีในการฟังเพลงสากลของนาโอ ถือเป็นช่วงเวลาที่อาจจะยาวนานสำหรับบางคน หรืออาจะสั้นนิดเดียวสำหรับบางคนเช่นกัน แต่สำหรับเพลงไทยแล้ว ฟังมาตั้งแต่เด็กแล้วครับ และก็ยอมรับได้อย่างเต็มปากเลยว่า ไอดอล ของนาโอ ก็คือ คริสติน่า อากีร่า ที่นาโอเติบโตขึ้นมากับเพลงของเธอโดยแท้ ทุกเพลงของเธอที่ขึ้นมา นาโอร้องได้หมด โดยแทบไม่ต้องดูเนื้อเลย ดังนั้นแน่นอนครับ แนวหลักที่นาโอฟังเป็นประจำ มาตั้งแต่สมัยไหนแล้ว นั่นก็คือ Pop Dance เป็นหลัก โดยที่จะอิงกระแสอื่นๆไปบ้างนิดหน่อย แต่พื้นๆ คือทางนี้แน่นอน
Kylie Minouge Fever
ปลายปี 2001 ขณะที่กำลังนั่งเบื่อๆ อยู่กับรูมเมท เลยเปิดทีวีไปพลางๆ ก็พบหญิงสาวคนหนึ่ง กำลังขับรถออกมาจากที่ไหนสักที่ พร้อมกับซาวด์ที่ตอนนั้น สำหรับเราถือว่าแปลกมาก เทคโนแดนซ์ที่ล้ำหน้าไปไกล กับเนื้อเพลงง่ายๆ แค่ ลัล ลา ลา วนอยู่แค่นั้น แน่นอน เก๋ขนาดนี้ แล้วจะไม่ดูให้จบได้ไงหล่ะ แน่นอนที่สุด สาวร่างเล็กที่คุ้นหน้าเรามาก เราชอบไคลี่มาตั้งแต่อัลบั้ม Light Year แล้ว โดยเหตุก็เพราะพิธีปิดโอลิมปิกที่ซิดนี่ย์นั่นแหล่ะ เลยทำให้เราชอบมาก เริ่มตามเธอมาตั้งแต่บัดนั้น
หลังจากไคลี่ได้ปล่อยซิงเกิ้ลแรก Cant get you out of my head ออกมาติดลมบนแล้ว เรียกได้ว่าเพลงนี้ ดังจริง ดังมาก และดังโคตร อันดับ 1 กว่า 40 ประเทศทั่วโลก ขนาดในอเมริกา ประเทศชาตินิยมขนาดหนัก เพลงนี้ยังไปได้ถึงอันดับ 7 เลย ซึ่งต้องถือว่าประสบความสำเร็จสุดขีด ถือว่าเป็นการดึงบัลลังก์กลับมาให้เธอในฐานะ นักร้องสาวเพลง Pop ที่ดังทั่วโลกอีกคนหนึ่ง หลังจากที่เธอดังได้แค่ใน อังกฤษ และ ออสเตรเลียบ้านเกิดเท่านั้น เพลงนี้เรียกว่าส่งรางวัลให้ทุกคนจริงๆ ทั้งตัวไคลี่เอง และโพรดิวเซอร์คนดังอย่าง เคที่ เดนิส ที่เพลงแดนซ์ได้จัดจ้านมาก ขนาดดึงบริทนี่ย์ที่ล่อแล่กลับมาสู่บัลลังก์ได้อีกในเพลง Toxic
Fever คืออัลบั้ม Pop Dance Disco ชั้นดี ที่ใช้กลิ่นอายของ Electro pop ยุค 80 เป็นหลักผสมรายละเอียดอื่นๆ ไว้อีกในปริมาณที่เหมาะสม ทั้ง Euro Dance, House และอีกหลายๆแขนง จนการเป็นงานเพลงเต้นรำที่ฟังง่าย ฟังได้เพลินๆ และคุณสามารถล่องลอยไปกับบทเพลง และอารมณ์ต่างๆ ที่ไคลี่นำเสนอ ทุกรายละเอียดดนตรีที่ไคลี่ และทีมงานช่วยกันลงในอัลบั้มนี้ ทำให้เราเห็นความตั้งใจของเธอได้ชัดเจนยิ่งขึ้น ในความคิดต่างๆ ที่ล้ำหน้า และมีแนวทางในการนำเสนอที่ชัดเจน เสียงเล็กบาดแหลม ที่หลายคนมองว่าเป็นจุดอ่อนของเธอ เธอก็นำมาปรับให้รับกับแต่ละบทเพลง เพื่อที่จะดึงอารมณ์ร่วม ระหว่างตัวเธอเองกับผู้ฟังออกมาได้อย่างเต็มที่ โดยการเน้นบีท หรือซาวด์โดยรวมให้มีเสียงที่แหลมขึ้น เพื่อรับกับน้ำเสียงของเธอ แต่มันไม่กลับทำให้คนฟังอย่างเรารู้สึกบาดหูเลยแม้แต่น้อย
More More More เพลงแรกของอัลบั้ม ที่ใช้ลูกเล่นของโพรแกรมมิ่งบีทแบบจังหวะกลาง ที่ฟังไปฟังมา มันไปละม้ายคล้ายพวก 3 ช่าได้ซะอย่างนั้น ทั้งอิจังหวะบีทกลองโป๊ะซึ่ง รวมถึงเหมือนมีเครื่องเคาะอะไรนิดหน่อย แถมแอบมีการปรบมืออีกให้จังหวะเล็กๆ ฟังแล้วก็ถือเป็นการเปิดอัลบั้มที่เพลินดี เสมือนการปลุกจังหวะในบีทกลาง ก่อนที่จะต้องเจอมรสุมเพลงแดนซ์ลูกใหญ่ถาโถมอย่างรุนแรง ถือว่าไคลี่เลือกเพลงเปิดอัลบั้มได้ถูกต้องและเหมาะสมที่สุด
Love at first sight พ๊อพ เฮาท์ และยูโรแดนซ์ชั้นดี ผสมผสานอย่างลงตัวที่สุด ทำให้เราเหมือนหลุดล่องลอยออกไปในอวกาศ ที่แสนจะสุขสบาย ดนตรีล้ำๆ ที่พอจะหาฟังได้จาก Daftpunk โพรแกรมมิ่งต่างๆ ที่ไส่เข้ามาแล้วค่อยๆเพิ่มลูกเล่นไปเรื่อยๆ ทำให้เราได้ตื่นเต้นกับ 4 นาทีของเพลงตลอดเวลา แค่ฟังครั้งแรกยังโดนใจขนาดนี้ แล้วถ้ายิ่งเปิดควบคู่กับ MV ที่อาศัยแค่โปรแกรมสวยๆของคอม ตัดต่อกับตัวน้าไคลี่ ที่ออกมาเต้นยึกยือๆ เหมือนเหมือนโดนข้าวสารเสกก็ไม่ปาน แต่ถ้าไม่ใช่ไคลี่ทำ จะออกมาเก๋มั้ยหล่ะ แล้วแดนเซอร์ข้างหลัง กินขาดมาก แต่ละชุดที่ออกมา เรียกว่า ไปหามากจากไหนไม่ทราบ ล้ำอย่างรุนแรง เพลงนี้ อีก 10 ปีข้างหน้าเอามาฟัง ยังไม่รู้สึกเก่าเลย
Cant get you out of my head เพลงเปิดตัวเพลงแรกของอัลบั้ม ที่แค่โผล่ดนตรีขึ้นต้นมา สาวก RCA ถึงกลับร้องกรี๊ด และดีดดื้นกันเหมือนกิ้งกือโดนน้ำร้อนลวก พ๊อพ แดนซ์ เทคโนจังหวะกลาง ไปทางเร็ว เสียงหลบ แหลม หนัก ไส่หมดทุกอย่าง เข้าใจแล้วว่าอารมณ์ของการกำจัดบางคนออกจากหัวไม่ได้มันเป็นยังไง ก็คือ ร้องบ้า ลัล ลา ล้า ชีวิตนี้มีความสุขหมื่นแสน แล้วไหนจะรวมไปถึง MV สุดจะล้ำหน้านั่นอีก โปรแกรมคอมล้วนๆ สุดแดนเซอร์แต่ละชุด แล้วชุดไคลี่แต่ละชุด ไหนจะชุดข้าวเรียบๆ รัดผมตึง ถ้ายังธรรมดาไป เจอชุดขาวโพลนเสื้อคอลึกแหวกถึงสะดือ โชว์อะไรไหนต่อไหน ปิดท้ายด้วย ชุดกระจก วิ้งๆ ดูแล้วล้ำหมด ไหนจะท่าเต้นเก๋ๆ นั่นอีก โอ้ย สารพัดจะบรรยาย เปิดฟังกี่ทีก็ไม่เบื่อ
Fever เป็นยูโรแดนซ์ ที่ถือว่ามีความเป็นพ๊อพมากที่สุดจังหวะง่ายๆ ฟังง่ายมาก คอรัสร้องตามได้ง่ายมาก เพลงนี้ ถ้าเทียบความล้ำ อาจจะสู้เพลงอื่นไม่ได้เลย แต่มันเปรียบเสมือนการเบรคอารมณ์ของเราที่พลันไหลไปกับ3เพลงแรกนั่นแล้ว ให้กลับมาอยู่กับสิ่งที่เราเคยได้สัมผัสกับเธอ ก่อนที่เธอจะลงรายละเอียดจัดในอัลบั้มนี้
Give it to me พ๊อพ แดนซ์ และโพรแกรมมิ่งเสียงคอมสังเคราะห์ บีทและลูกเล่นไหลตามจังหวะแต่ละครั้ง ที่ไคลี่ร้อง เรียกว่าเพลงนี้เหมือนได้ทำดนตรีไว้ส่วนหนึ่ง แล้วไคลี่มาร้องต่อ แล้วจึงอัดรายละเอียดดนตรีไปอีก จึงทำให้เกิดรายละเอียดดนตรีแพรวพราวมกมาย แต่เพลงนี้เสียนิดนึงตรงที่ไคลี่ร้องแหล่ะ มันเหมือนจะเซ็กซี่นะ แต่มันก็เหมือนคนเมาเหมือนกัน พอมาเข้ามากๆ มันก็เหมือนคนเมาเพ้อเจ้อ บ่นๆ
Fragile พ๊อพ แดนซ์ที่ถือเป็นเพลงที่ช้าที่สุดในอัลบั้ม ฟังเพลินๆ และชิวมาก และก็ฟังได้ดีมากด้วย เพราะเหมือนเป็นปูทางสู่เพลงต่อๆไปอีกครั้งแน่นอน เพราะเพลงแดนซ์ชุดใหญ่กำลังจะบุกอัลบั้มนี้ต่ออีกละลอกแล้ว เพลงนี้เสมือนการเบิกทางไปสู่อัลบั้ม Body Language ที่อาศัยแค่จังหวะกลาง แต่เน้นที่ภาคดนตรีเก๋ๆ มากกว่า
Come into my world ถ้าจะบอกว่าเพลงนี้เป็นภาคต่อของ cant get ก็คงพอจะพูดได้ เพราะลูกเล่นต่างๆ มีความคล้ายอยู่พอสมควร แต่ที่แตกต่างอย่างเห็นชัดก็คือ cant get มีความเป็นตลาดสูงกว่า แต่เพลงนี้ รายละเอียดอาจจะเบาบางกว่า แต่ถ้าถามความเก๋ แน่นอน เพลงนี้ต้องมีเยอะกว่าแน่นอน ยูโรแดนซ์ พ๊อพ รวมถึงเฮาท์ ที่อัดลงมา ทางดนตรี บวกกับเสียงร้อง แหลมๆรับมากกับเพลงนี้ ส่วน MV เราเชื่อแล้วว่า เพลงนี้ ไคลี่เวิร์ดจริงๆ เจ้เล่นเดินขวักไขว่ครบรอบก็ตัดต่อออกมา กว่าจะจบเพลงก็เดินกัน 4-5 ร่างแล้ว
In your eyes พ๊อพ ยูโรแดนซ์ บีทหนักอีกเพลงที่เราฟังแล้วพอเดาได้เลยว่าเธอหยิบมาเป็นซิงเกิ้ลที่ 2 แน่ๆ เพราะเพลงนี้มีความเป็นพ๊อพที่สูงพอควร เนื้อเพลงเองก็ร้องตามง่าย เพลงนี้คงความเป็นตลาดได้ครบถ้วน เพราะไม่ได้ปล่อยให้เพลงไหลอย่างเดียว มีหมด ทั้งดูงจังหวะ สูงต่ำ ไล่ไปเรื่อยๆ เหมาะกับการทำ MV ที่ช่งแรกไม่หวือหา แต่มาเด่นเด้งเอาช่วงท้าย ที่ไคลี่ไส่เสียงแทบทุกอย่างลงไป ทั้งปรกติ เซ็กซี่ แหลม แหลมมาก ส่วนของ MV แม้เพลงนี้อาจจะไม่มากเท่าไหร่ เพราะมีแต่ฉากดำๆ สลับไปมา แต่เรื่องชุด และสเต็ปการเต้นต่างๆ รวมถึงการเล่นกับแดนเซอร์ นั่นก็ยังเป็นสิ่งที่ไคลี่ยังคงทำได้ดีไม่เปลี่ยน
Dancefloor พ๊อพแดนซ์ เจือดิสโก้หน่อยๆ ที่มีบีทกลาง แต่ตัวเพลงกลับทำไปในทางที่เน้นความสบาย และChill มากกว่า เพราะบีทของดนตรี ไม่มีการเปลี่ยนมากนัก รวมถึงการร้องของไคลี่เอง ก็เรียกว่า ร้องเรื่อยๆ แทบจะเป็นห้องเดียวทั้งเพลง แต่ฟังโดยรวมทั้งเพลง เราก็กลับชอบเพลงนี้มากกว่าอีกหลายเพลง มันเหมือนในความสบายที่แอบแฝงด้วยอะไรหลายๆ อย่าง ถ้าให้เทียบอารมณ์ คงเป็นอาการถือแก้วคอกเทลล์ แล้วก็ไปอยู่กลางแดนซ์ฟลอร์ แล้วโยกนิดหน่อยพร้อมทั้งจิกสายตาห่านเสน่ห์อย่างสนุกสนาน ตามคอนเซ็ป สวยเลือกได้
Love affair อีกเพลงที่เน้นที่โพรแกรมมิ่งของเพลงมากกว่าจะเป็นเพลงพ๊อพ ต้องถือว่าเพลงนี้เป็น เทคโนแดนซ์ สำหรับคลับRCA แบบหรูมากกว่า บีทที่ค่อนข้างหนักเพื่อดึงอารมณ์ ดรัม เบส ทั้งชุด ลูกเล่นแพรวพราวมาก ทั้งเสียงสังเคราะห์ของคอรัสเพื่อรับกับเพลง รวมถึงเสียงขอไคลี่ ก็รับกับเพลงมาก ถ้าคิดจะหาเพลงเก๋ๆ ขอแนะนำเพลงนี้เลย
Your love พ๊อพแดนซ์ เจือเสียงกีต้าร์โปร่งอีกนิดหน่อย บีทของเพลงอยู่ที่ช้าไปถึงกลาง เหมาะจะเอาไว้ฟังตอนกำลังจะขับรถกลับบ้านหลังจากผับเลิก แล้วเปิดประทุนรถโบกผ้าปลิวว่อน มีความสุขเหลือหลาย อ่อ ต้องได้ผู้ชายกลับมาด้วยนะ ไม่งั้นมันจะไม่รับกับเนื้อเพลงเท่าไหร่ เพลงนี้เน้นฟังสบายๆมากๆ ไหลไปเรื่อยๆ ตามอารมณ์
Burning up Down to the disco everything stop walkin solo everyone drop แค่ขึ้นต้นเพลงเราก็เดาได้ว่าจะปิดอัลบั้มแล้ว แต่ทว่า ดันเดินไปเจอผู้ชายเข้า โอ้โห เบิร์นนิ่ง อัพเลย อีก 1 เพลงร่านของเรา ที่เรียกว่า แรกเริ่มอาจจะดูเป็นคนนิ่ง แต่เมื่อตามสบตา ใจประสานใจ ก็สปาร์คทันทีทุกต่อมทำงานอย่างสุดยิด รายละเอียดเพลงนี้ คือ ดิสโก้แดนซ์ เฮาท์ และโพรแกรมมิ่งเฟี้ยวฟ้าวอีกนิดหน่อย ผสมกันจนเป็นเพลงที่แรงที่สุดในอัลบั้ม เหมือนทุกอย่างได้ระเบิดออกมาเรียบร้อย ก็คิดเอานะ ว่าเพลงนี้หน่ะ ตอนแต่งเจ้แกกำลังคิดอะไรอยู่ จินตนาการภาพตามแล้ว .... ไม่เอาไม่พูด เดี๋ยวโดนแบน
เราชอบอัลบั้มนี้ ตรงที่ขณะที่ฟังอัลบั้ม ก็เหมือนเรานั่งดูคอนเสิร์ตของเธอไปพลางๆเลย เพราะแต่ละช่วง แต่ละเพลง ที่ลงไว้ มันเข้ากับคอนเซ็ปโดยรวมของอัลบั้ม มากๆ ทุกเพลงที่ได้นำมาจัดวางนั้น ลงตัวมาก การเรียงแทร็คที่มีความต่อเนื่อง เอาง่ายๆ อย่าง 2 เพลงท้าย Your love ขับรถกลับบ้านพร้อมผู้ชายที่จิกมาได้ พอเพลงต่อมา Burning up คงประมาณถึงบ้านแล้ว ก็... ทันที อีกประการคือ การที่ไคลี่กล้าที่จะเอาเพลงแดนซ์หลายๆเพลง ทั้ง 12 เพลงมาไส่ในอัลบั้มเดียวกัน ซึ่งน้อยคนนักจะกล้าทำแบบนี้ เพราะยุดนั้น เพลงพ๊อพค่อนข้างมีอิทธิพล รวมถึง ยุคของ R&B ที่เริ่มมีบทบาทมาก แต่ไคลี่กล้าที่จะทำเพลงแดนซ์แบบที่ถนัด และไส่มาแบบไม่แคร์ตลาด แต่มันกลับเป็นสิ่งที่ดึงตลาดเข้ามาหาเธอเอง อีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้อัลบั้มนี้ดังมาก เพราะมันเข้าถึงกลุ่มคนในหลายๆมุม ทั้งเด็กสาวอยากเปรี้ยว กะเทยดีดดิ้น เกย์กล้ามปูใหญ้ใหญ่ สาวใหญ่อยากแดนซ์เก๋ ทุกรสทุกอารมณ์ มีหมดในอัลบั้มนี้
เกร็ดเล็กน้อยก่อนจาก อัลบั้มนี้มียอดขายทั่วโลกกว่า 5.5ล้านก๊อปปี้ ในอังกฤษ 1.6 ล้านก๊อปปี้ และออสเตรเลียอีก 5 แสน ก๊อปปี้ ดูแล้วอาจจะไม่เยอะมาก แต่อย่าลืมแนวคนฟังเพลงแดนซ์ กลับกระแสในช่วงนั้นเพลงแดนซ์อยู่ในช่วงขาลง และที่สำคัญ ขายในอเมริกาได้ถึง 1 ล้านก๊อปปี้ ซึ่งถือว่ายากมากแต่ไคลี่ก็ทำได้ ส่วนในไทย ขายได้ประมาณ 40,000 ก๊อปปี้ ส่วนซิงเกิ้ล Cant get you out of my head เองก็ขายได้มากกว่า 6 ล้านก๊อปปี้
สำหรับอันดับเพลงก็ตามนี้เลย
Cant get you out of my head 1(UK) 4 weeks, 1(Aus), 7(USA), 1(Euro)
In your eyes 3(UK), 1(Aus), - (USA), 2(Euro)
Love at first sight - 2(UK), 2(Aus), 23(USA), 1(Euro) เข้าชิงแกรมมี่สาขาเพลงแดนซ์ยอดเยี่ยมปี 2003
Come in to my world - 8(UK), 4(Aus), 91(USA) และเพลงนี้ ยังได้รับรางวัลแกรมมี่ สาขาเพลงแดนซ์ยอดเยี่ยมของปี 2004 ด้วย
คำสั่งเสียท้ายสุด พวกรายละเอียดดนตรี ขอยอมรับเลยครับ อัลบั้มนี้ รายละเอียดเยอะมาก เราเองก็ไม่ได้เก่งเท่าไหร่ ที่จะแยกแยะออกมาเป็นขั้นได้ เพราะฉะนั้นอาจจะมีผิดพลาดได้บ้างก็ขอโทษล่วงหน้าแล้วกัร เพียงแต่ที่เขียนนี่เพราะความรักในอัลบั้มนี้มากเท่านั้น และขอบคุณที่อุส่าอ่านกันนะครับ
สวยเลือกได้
แก้ไขล่าสุดโดย นาโอ เมื่อ Mon Jan 08, 2007 12:53 pm, ทั้งหมด 2 ครั้ง
_________________
Kylie Thailand Fansite