˹���á Forward Magazine

ตอบ

ไปที่หน้า 1, 2  ถัดไป
เส้นทางดนตรีจากแอฟริกาตะวันตก สู่อเมริกาแผ่นดินใหญ่ ภาค 1
ผู้ตั้ง ข้อความ
ตอบโดยอ้างข้อความ
ตอบ เส้นทางดนตรีจากแอฟริกาตะวันตก สู่อเมริกาแผ่นดินใหญ่ ภาค 1 
ขอมอบรีวิวชิ้นนี้ให้กับบอร์ด... บ้านอันเป็นที่รัก รีวิวนี้ได้พยายามนำความรู้ที่เคยศึกษานำมาถ่ายทอดที่นี่
และขอกล่าวเลยว่าสิ่งที่จะปรากฏในรีวิวต่อไปนี้ จขกท.ไม่มีเจตนาเรื่องเหยียดสีผิว ชนชั้น และเชื้อชาติ แต่ต้องการให้ทุกคนได้เห็นภาพความเป็นไปของสังคม และพยายามจะให้ศัพท์ให้ซอฟท์ที่สุดเพื่อให้ไม่เกิดความขัดแย้ง ในบางเรื่องอาจจะมีการวกกลับมาพูดใหม่ แต่ทั้งหมดล้วนเกี่ยวข้องกัน และไม่สามารถนำมาสรุปรวบยอดจะประเภทได้เสียทีเดียว หากส่วนใดที่ทำให้ไม่พอใจ หรือไม่ดีต้องขออภัยผู้อ่านด้วยสัตย์จริง

ลองสังเกตดูรอบตัวสิ เรามีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน วิถีความเป็นอยู่เจริญขึ้น สังคมที่เคยคับแคบ มีการกีดกัน ปิดกั้นก็ถูกเปิดออกกว้างขึ้น กำแพงที่คั่นความแตกต่าง ไม่ว่าจะสีผิว เชื้อชาติ ฐานะ การศึกษา หรือแม้แต่เพศ ได้ถูกทำลายลง แต่กว่าโลก สังคมและอารยธรรม ต้องผ่านร้อนผ่านหนาว ผ่านการปฏิสังขร ต้องรอนแรมเดินทางพบพานทั้งสิ่งสวยงามและสิ่งที่ไม่น่าพิสมัยนานัปการที่โลกสั่งสมมา จนก้าวสู่โลกยุคโลกาภิวัตน์ได้ เฉกเช่นเดียวกับการเดินทางของดนตรี

รู้กันมั้ยว่าบนความแตกต่างด้านดนตรีที่ครองใจสังคมผิวไม่มีสียันสังคมผิวสีต่างก็มีเหง้าศักราช และเดินทางข้ามน้ำข้ามทะเลมาจากแห่งเดียวกัน ทวีปที่มีประชากรยากจนหิวโหย อากาศร้อนแห้งผาก มีผู้คนอดยากมากมาย ทวีปที่ผู้คนต้องดิ้นรนต่อสู้เพื่อความอยู่รอด ทวีปแอฟริกา บางคนอาจจะไม่แปลกใจ บางคนอาจจะฉงนว่ามันมีที่มาที่ไปอย่างไร ใครจะไปเชื่อว่าชาวแอฟริกันได้สร้างสิ่งสวยงามขับกล่อมหล่อหลอมจิตใจมนุษยชาติ จขกท.จะพาทุกคนร่องเรืออ้อมแหลมกู๊ดโฮปมาขุดรากเหง้าต้นกำเนิดวัฒนธรรมดนตรีอันยิ่งใหญ่ที่แอฟริกาตะวันตกกัน




จุดเริ่มต้น การก่อกำเนิด

วิถีชีวิตอันเรียบง่าย คละความแร้นแค้น เคล้าการเล่นสนุก ส่งผลให้การถ่ายทอดบทเพลงของชาวแอฟริกันออกมาในทางปลดปล่อย สบถ หรือแม้กระทั้งการยั่วล้อ เหล่านี้แหละจุดเริ่มต้น การขับร้องดั้งเดิมของชนพื้นเมืองแอฟริกันเราเรียกว่า ขนบในการใช้เพลงพูด ก่อนจะพูดถึงส่วนต่างๆของขนบในการใช้เพลงพูด ขอกล่าวถึงองค์ประกอบพื้นฐานดนตรีของชาวผิวสีเพื่อให้ทำความเข้าใจกันซะหน่อย

องค์ประกอบหลักๆดนตรีของชาวแอฟริกัน เน้นสิ่งที่อยู่คู่กับวิถีการดำรงชีพ การละเล่น และสังคมของพวกเขา
ทั้งหมดตรงนี้แหละจะถูกนำไปป็นแม่แบบดนตรีในยุคต่อไป ซึ่งได้แก่
- ร้องโต้ตอบ
- โหนเสียง
- หลากทำนอง
- ด้นสด
- ร้องร่วม
- ตบมือตีมือ กระทืบเท้า
- ทำนองหลากหลาย
- ลัดจังหวะ
- เชื่อมโน้ต แผดเสียง ตะโกน
- การเล่นซ้ำ
- การร้องและเต้น
- การมีส่วนร่วมของผู้ชม

ทำนองหลากหลาย กับ หลากทำนอง จขกท. ยังไม่รู้แน่ชัด เข้าใจว่ารายละเอียดและวิธีใช้ที่ค่อนข้างแตกต่างกัน หลายคนคงจะมองออกแล้วว่า แต่ละข้อคือแม่แบบของดนตรีแนวใดบ้างในปัจจุบัน ทีนี้มาพูดถึงขนบในการใช้เพลงพูดดีกว่า



กรีโอต์ (Griot) - เป็นวัฒนธรรมการเล่าเรื่องราวของกวีพื้นบ้านแอฟริกันตะวันตก นี่ถือเป็นต้นกำเนิดศิลปะการใช้คำพูดในอเมริกาเลยก็ว่าได้


ศิลปะการใช้คำพูด - จำแนกยิบย่อยออกเป็นอีก 4 แบบ มีชื่อเก๋ๆสั้นๆแต่ที่มาล้วนดุดันไม่แพ้กัน
- Toast การด้นกลอนสด
- Boast การโอ้อวดคุยโว
- Signifying การใช้คำพูดเจ็บแสบกระอักทรวง เพื่อยั่วยุฝ่ายตรงข้าม
- Dozen อันนี้แรงหน่อย เป็นวิธีการใช้ดูถูกดูแคลนครอบครัวฝ่ายตรงข้ามกันเลยทีเดียว

บทเทศนา - ตรงนี้จะมีส่วนความเชื่อตามวิถีชาวบ้านมาเกี่ยวข้อง เช่นเรื่องจิตวิญญาณ การดำรงชีพ

สแก็ต (Scat) - การด้นคลอจังหวะแบบไม่เป็นคำ ไม่มีความหมาย แบบที่ป้าเอลล่า ฟิทซ์เจอรัลด์ชอบใช้ในเทคนิคการร้อง

กลอนพูด - เป็นการเรียบเรียงคำพูดด้วยวาทะศิลป์ แล้วกล่าวสดต่อหน้าผู้ชม จะพูดไปเรื่อยๆ เร็วๆ คล้ายๆการแร็พแต่ไม่มีจังหวะหรือทำนอง อาจมีดนตรีประกอบหรือไม่มีก็ได้ กวีที่ปรากฏผลงานด้านกลอนพูดได้แก่ Nikki Giovanni, The Last Poets, Amiri Baraka และ Gil Scott-Heron

พูดแล้วกลัวจะไม่เห็นภาพหรือนึกไม่ออกว่ากลอนพูดมันเป็นยังไง ลองดูคลิปข้างล่างนี้เพื่อความกระจ่าง








เอ็มซี + แร็พ - แน่นอนว่าสองอย่างนี้มีเคมีและกายภาพที่สัมพันธ์กัน เป็นของกันและกันก็ว่าได้
แร็พนำเอาลักษณะกลอนพูด มาพูด ขับร้องให้ลงจังหวะ และค่อนข้างเร็ว แต่การแร็พมันก็ไม่ใช่พูดซะทีเดียว ยังมีจังหวะจะโคนเข้ามาเป็นส่วนประกอบเนื้อหาการแร็พจะคล้องจองกันและเข้ากับจังหวะดนตรี

ส่วนเอ็มซีที่บ้านเราชอบเรียกกันว่า rapper นั้น MC จะเหนือชั้นกว่าแร็พเปอร์ทั่วไป มีทักษะในด้านเล่นคำ, metaphor คำอุปมา คำเปรียบเทียบ, simile การอุปมาอุปไมย, punchlines (การใช้คำพูดโจมตีฝ่ายตรงข้ามแบบฟรีสไตล์), multis การเชื่อมหลายๆคำให้คล้องจองกัน, การลื่นไหล สลับขึ้นลง เป็นต้น


ภาค 2 -> http://www.forwardmag.com/webboard/post-830783.html#830783




แก้ไขล่าสุดโดย Stereosonic เมื่อ Sat May 22, 2010 5:34 pm, ทั้งหมด 1 ครั้ง

_________________
ดูข้อมูลส่วนตัว ส่งข้อความส่วนตัว ชมเว็บส่วนตัว
ตอบโดยอ้างข้อความ
ตอบ  
ข้อมูลแน่นมากน้องหยก

เพิ่งรู้ทักษะการร้องของนีกร้องสมัยนี้ดัดแปลงมากจากการสื่อสารผ่านทำนอง
นับว่าเป็นค.รู้ใหม่ๆเลยนะ
ตอนแรกคิดว่าการร้องเพลงของผิวสีมันวิวัฒนาการมาจากพวกกอสเปล
แต่ก็เคยได้ยินมาเหมือนกันว่าดัดแปลงมาจากการประกอบพิธีกรรมของชนเผ่าต่างๆ

อยากอ่าน MC เร็วๆ ตอนนี้ชอบเพลงแนวแร็ปมาก


Happy Happy Happy



แก้ไขล่าสุดโดย ..:: | LIL' E | ::.. เมื่อ Fri May 21, 2010 9:02 pm, ทั้งหมด 1 ครั้ง

_________________

ดูข้อมูลส่วนตัว ส่งข้อความส่วนตัว ชมเว็บส่วนตัว
ตอบโดยอ้างข้อความ
ตอบ  
ขอบอกดัง ๆ เลยว่าชอบสำนวนการเขียนมากๆ เราว่าหยกเขียนเก่งกว่าเราอีกนะแบบว่าใช้คำคล้องจอง สื่อสารรู้เรื่อง อ่านง่ายคลายสนุกมากๆ อยากให้เขียนเรื่องการต่อสู้ปากกัดตีนถีบด้วยนะจ๊ะ สำหรับรีวิวอันนี้ ขอดันแรง ๆ ซักสามรอบเลย อิอิ


_________________
ดูข้อมูลส่วนตัว ส่งข้อความส่วนตัว ชมเว็บส่วนตัว
ตอบโดยอ้างข้อความ
ตอบ  
โรซี่ เดอลองเก้ พิมพ์ว่า:
ขอบอกดัง ๆ เลยว่าชอบสำนวนการเขียนมากๆ เราว่าหยกเขียนเก่งกว่าเราอีกนะแบบว่าใช้คำคล้องจอง สื่อสารรู้เรื่อง อ่านง่ายคลายสนุกมากๆ อยากให้เขียนเรื่องการต่อสู้ปากกัดตีนถีบด้วยนะจ๊ะ สำหรับรีวิวอันนี้ ขอดันแรง ๆ ซักสามรอบเลย อิอิ


แอร๊ยยยย ไหว้สวยๆเป็นการขอบคุณจ้า


_________________
ดูข้อมูลส่วนตัว ส่งข้อความส่วนตัว ชมเว็บส่วนตัว
ตอบโดยอ้างข้อความ
ตอบ  
Stereosonic พิมพ์ว่า:
โรซี่ เดอลองเก้ พิมพ์ว่า:
ขอบอกดัง ๆ เลยว่าชอบสำนวนการเขียนมากๆ เราว่าหยกเขียนเก่งกว่าเราอีกนะแบบว่าใช้คำคล้องจอง สื่อสารรู้เรื่อง อ่านง่ายคลายสนุกมากๆ อยากให้เขียนเรื่องการต่อสู้ปากกัดตีนถีบด้วยนะจ๊ะ สำหรับรีวิวอันนี้ ขอดันแรง ๆ ซักสามรอบเลย อิอิ


แอร๊ยยยย ไหว้สวยๆเป็นการขอบคุณจ้า


Very Happy Very Happy Very Happy


_________________
ดูข้อมูลส่วนตัว ส่งข้อความส่วนตัว ชมเว็บส่วนตัว
ตอบโดยอ้างข้อความ
ตอบ  
Very Happy Very Happy Very Happy Very Happy
ก่อนอื่นขอปรบมือให้พี่หยกก่อนเลยครับ
เป็นงานเขียนที่แสดงความรู้ของวัฒนธรรมดนตรีของแอฟริกาได้ดีเลยทีเดียว
บางอย่างเป็นศัพท์สำคัญที่ไม่ควรมองข้าม น่ารู้ทีเดียว
การเขียนก็อ่านง่ายดีครับ เข้าใจแจ่มแจ้งเลยทีเดียว
ขอบคุณมากๆเลยครับ ขอเป็นกำลังใจให้เขียนเสร็จเร็วๆนะครับ
+999,999
ปล.K'naan จะเขียนถึงตาคนนี้ไหมครับพี่



_________________
Girls Aloud Thailand
บล็อกของผม+ความรู้ภาษาอังกฤษ
ดูข้อมูลส่วนตัว ส่งข้อความส่วนตัว ชมเว็บส่วนตัว MSN Messenger
ตอบโดยอ้างข้อความ
ตอบ  
bepengman พิมพ์ว่า:
Very Happy Very Happy Very Happy Very Happy
ก่อนอื่นขอปรบมือให้พี่หยกก่อนเลยครับ
เป็นงานเขียนที่แสดงความรู้ของวัฒนธรรมดนตรีของแอฟริกาได้ดีเลยทีเดียว
บางอย่างเป็นศัพท์สำคัญที่ไม่ควรมองข้าม น่ารู้ทีเดียว
การเขียนก็อ่านง่ายดีครับ เข้าใจแจ่มแจ้งเลยทีเดียว
ขอบคุณมากๆเลยครับ ขอเป็นกำลังใจให้เขียนเสร็จเร็วๆนะครับ
+999,999
ปล.K'naan จะเขียนถึงตาคนนี้ไหมครับพี่


ขอบคุณสำหรับการสนับสนุนมากๆค่ะ
ต้องขอบคุณรุ่นใหญ่ในบอร์ดหลายๆคนที่เป็นแรงบันดาลใจในการเขียน

ส่วน K'naan พี่ยังไม่ได้ฟังเพลงคนนี้เลย แต่จากที่อ่านประวัติค่อนข้างน่าสนใจเลยทีเดียว



_________________
ดูข้อมูลส่วนตัว ส่งข้อความส่วนตัว ชมเว็บส่วนตัว
ตอบโดยอ้างข้อความ
ตอบ  
เป็นความรู้ใหม่ๆ เลิศมากนะครับผม!!!


_________________

April fighting! + angel Sojin�
ดูข้อมูลส่วนตัว ส่งข้อความส่วนตัว
ตอบโดยอ้างข้อความ
ตอบ  
..:: | LIL' E | ::.. พิมพ์ว่า:
ข้อมูลแน่นมากน้องหยก

เพิ่งรู้ทักษะการร้องของนีกร้องสมัยนี้ดัดแปลงมากจากการสื่อสารผ่านทำนอง
นับว่าเป็นค.รู้ใหม่ๆเลยนะ
ตอนแรกคิดว่าการร้องเพลงของผิวสีมันวิวัฒนาการมาจากพวกกอสเปล
แต่ก็เคยได้ยินมาเหมือนกันว่าดัดแปลงมาจากการประกอบพิธีกรรมของชนเผ่าต่างๆ

อยากอ่าน MC เร็วๆ ตอนนี้ชอบเพลงแนวแร็ปมาก


Happy Happy Happy


กอสเปลหยกว่ามันจะเย็นๆกว่า เพราะมีที่มาจากศาสนาคริสต์นิกายโปเตสแตนท์แต่กำเนิดจากคนผิวสีเหมือนกัน ได้รับอิทธิพลมาจากดนตรีบลูส์ด้วย


_________________
ดูข้อมูลส่วนตัว ส่งข้อความส่วนตัว ชมเว็บส่วนตัว
แสดงเฉพาะข้อความที่ตอบในระยะเวลา:
ตอบ หน้า 1 จาก 2
ไปที่หน้า 1, 2  ถัดไป
คุณไม่สามารถสร้างหัวข้อใหม่
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
คุณไม่สามารถแก้ไขข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลบข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลงคะแนน
  


copyright : forwardmag.com - contact : forwardmag@yahoo.com, forwardmag@gmail.com