˹���á Forward Magazine

ตอบ

ชีวิต…ที่ไม่แน่นอน-วิจาร์ณหนัง-1
ผู้ตั้ง ข้อความ
ตอบโดยอ้างข้อความ
ตอบ ชีวิต…ที่ไม่แน่นอน-วิจาร์ณหนัง-1 
มาพูดเรื่องชีวิตที่ไม่แน่นอนนั้น ทุกๆคนคงรู้จักคำนี้ดี ก็เสมือนอนิจจา อนิจัง ที่อะไรก็ตามแม้เราจะครอบครองอยู่ ณ ปัจจุบัน สักวัน มันจำต้องจากเราไป

ที่กล่าวมาแนวธรรมมะอย่างนี้ อย่างเพิ่งง่วงกันนะคะ เพราะดิฉันกำลังจะผูกโยงไปกับหนังสักสองสามเรื่องที่กล่าวถึงความไม่แน่นอนในชีวิตของแต่อย่างคน และการจัดการกับชีวิตของพวกเขาในชั่วเวลานั้นๆ ซึ่ง สามเรื่อง สามคน สามรูปแบบ สามสไตล์ที่จะนำมารีวิวกันในวันกระทู้นี้ ดิฉันได้แตกมันออกมาเป็นรายละเอียดในแต่ละฉากให้ผู้อ่านได้ อ่านกันนะค่ะ แต่สำหรับกระทู้นี้มาพูดถึงหนังเรื่องนี้ก่อน

เริ่มจาก ชีวิตที่ไม่แน่นอนของชายผู้มั่งคั่ง
จะพูดถึงหนัง About schmidt (อะเบาท์ สมิธ) หนึ่งคนค้นความหมาย : ว่าด้วยชายผู้ที่เคยประสบความสำเร็จสูงสุดในชีวิต ไม่ว่าจะเป็นหน้าที่การงาน และครอบครัวที่สมบรูณ์แบบ เขาได้ ปลดเกษียณอย่างมีเกียรติด้วยวัย 66 ปี มันเป็นช่วงที่เขาได้เริ่มต้นใหม่กับชีวิตที่ไม่ต้องทำงานหนักอีกต่อไป แม้เขาจะยังคิดถึงงานและหน้าที่ของตนอยู่ก็ตาม แต่การละจากตำแหน่งด้วยความภาคภูมิใจกับหน้าที่ที่ทำมา ถือได้ว่าเป็นอะไรที่ประสบผลสำเร็จและน่ายกย่องมากๆสำหรับชาวอเมริกัน

แต่อย่างที่บอก ว่าชีวิตนั้นไม่แน่นอน ความสุขสบาย และความสมบรูณ์แบบมักไม่อยู่กับใครนานๆ และที่สำคัญ หากเราไม่รู้สึกพอใจกับสิ่งที่มีอยู่ มันก็จะจากเราไป โดยทิ้งไว้แต่ความเสียใจกับการที่เราไม่เคยเห็นคุณค่าของมัน


เขาต้องค้นพบการปรับตัวครั้งยิ่งใหญ่ และดูเหมือนทุกๆที่และทุกๆอย่างจะไม่ต้องการเขาแล้ว ไม่ว่าภรรยาที่จากเขาไป และได้ค้นพบว่าเธอเคยนอกใจเขากับเพื่อนคนสนิทที่สุดของเขา ลูกสาวที่ไม่แคร์เขาอีกต่อไป เขารู้สึกโดดเดี่ยว เหงา และเดียวดายที่สุด นี่หรือ บุคคลที่เคยมั่งคั่งที่สุดคนนึง คนที่เคยถูกยกย่องจากลูกน้องและเพื่อนๆ แต่บัดนี้ เขาเป็นเพียงตาแก่คนนึงที่ไม่มีอะไรเหลือนอกจากความว่างเปล่า และรอวันที่จะตายไป โดยไม่แคร์อะไรอีก

และวันนึงเขาจึงตัดสินใจ ขับรถบ้านอันมหึมาออกเดินทางไปค้นหาสิ่งเก่าๆที่เขาเคยจากมา เพื่อค้นดูมีที่ไหนบ้างที่ยังต้องการเขาอยู่ มีที่ไหนบ้างที่เหมาะกับตาแก่อย่างเขา เขาออกเดินทางท่องเที่ยว ไปหลายๆที่ และ ลงเอยด้วยการไปหาลูกสาวที่กำลังจะแต่งงานอีกสองสามวันโดยที่เขาเป็นพ่อเจ้าสาว

เมื่อเขาไปแล้ว ก็พบกับการปรับตัวอีกครั้งกับสังคมที่เขาไม่ค่อยรู้สึกดีด้วยเท่าไหร่ เพราะแต่ละคนในครอบครัวของลูกเขยค่อนข้างดูสกปรก เลอะเทอะและ ดูไม่เป็นผู้ดีในสายตาของคนชั้นสูงอย่างเขา เขายอมรับตรงจุดนี้ไม่ได้ และรู้สึกว่าลูกสาวที่เปรียบเหมือนนางฟ้าตัวน้อยๆ ของเขา ไม่น่าจะมาอยู่ในครอบครัวนี้เลย เขาค่อนข้างค้านอย่างหัวชนฝากับการที่จะให้ลูกสาวแต่งงานกับผู้ชายไม่ได้เรื่องคนนี้ แต่ยังไงซะ สุดท้าย ลูกสาวของเขาก็เลือกที่จะแต่งงาน และเขาก็พบความโดดเดี่ยวอย่างสมบรูณ์แบบ

สุดท้ายเขาได้กลับมายังบ้าน บ้านที่เขาไม่อยากอยู่ เพราะเขารู้สึกเบื่อ และคิดถึงภรรยาของเขาอย่างสุดซึ้ง บ้านที่ผผู้ชายวัยเกษียณอย่างเขาไม่สามารถจัดการทำความสะอาดอะไรได้ หากปราศจากแม่บ้านที่แสนดีอย่างภรรยาของเขา แต่ยังไงซะ สิ่งเล็กๆที่จู่ๆเขาได้ค้นพบจากบ้านที่เขาอยากจะจากไปหรือตายไปจากที่นี่ซะ ก็คือ คุณค่าอันมหาศาลจากสิ่งเล็กๆที่เขาทำ มันทำให้เขารู้สึกว่า เขายังคงมีความหมายมากเหลือเกินสำหรับใครบางคนที่อยู่ห่างออกไปหลายร้อยหลายพันไมล์ สิ่งเล็กๆนั้นทำให้เขาค้นพบว่า นี่แหละ ความหมายและคุณค่าที่เขาควรจะอยู่ต่อไป นี่แหละ คือคุณค่าที่แท้จริงและจีรังยั่งยืน สิ่งที่ผ่านมานั้นเป็นเพียงแค่เปลือก และมันได้ถูกถอดออกไปตั้งแต่วันที่เขาปลดเกษียณแล้ว ไม่ว่าจะเป็นคนชม หรือเยินยอ มันเป็นแค่สิ่งภายนอกที่ทุกคนเคารพเขา แต่หาได้จริงใจกับเขาไม่ แม้เขาจะเป็นผู้สร้างให้บริษัทประสบความสำเร็จมามากมายแค่ไหนก็ตาม
แต่สิ่งที่ทำให้เขารู้สึกถึงคุณค่าได้ดีที่สุด คือ สิ่งที่เด็กน้อยคนนึงได้ส่งมาให้เขา และนั่นคืออะไรนั้น ขอให้เพื่อนๆ ทุกคนลองหามาดูกันนะค่ะ

รูปแบบของหนัง
ค่อนเดินเรื่องไปเรื่อยๆ และน่าเบื่ออยู่เหมือนกัน หากคุณชอบหนังตื่นเต้นหรือชีวิตรันทดสุดขีด หนังเรื่องนี้อาจตอบโจทย์ของคุณไม่ได้ แต่หากต้องการสัมผัสถึงชีวิตของคนจริงๆ และมันสามารถเกิดขึ้นได้จริงกับคุณ หนังเรื่องนี้เหมาะมากสำหรับการดูชีวิตเรียบๆของคนๆนึงเสมือนเราได้ติดกล้องวงจรปิดดูชีวิตของคนธรรมดาคนนึงในรูปแบบของหนัง ที่มีทั้งประสบความสำเร็จและล้มเหลว และค้นพบความสุข รวมถึงอีกหลายต่อหลายอย่างที่คุณจะได้จากหนังเรื่องนี้

ปรัชญาจากหนัง “จนรักและทะนุถนอม ในสิ่งที่เรายังมีอยู่ ก่อนที่เราจะสูญเสียมันไป”
“ คุณมีค่า สำหรับคนอีกคนเสมอ” ปรัชญานี้ดิฉันตั้งเอง อาจฟังดูแปลกๆนะค่ะ แต่ที่ตั้งอย่างนี้ เพราะ ตอนจบของเรื่องทำให้เราได้เห็นแบบนั้น เด็กน้อยไร้ค่าและกำลังจะอดตายทำให้ตาแก่คนหนี่งเห็นคุณค่าในชีวิตของตนเอง และรู้ว่า เขาจะอยู่ต่อไปเพื่อใคร เศษเงินเดือนละไม่กี่ตังค์พร้อมจดหมายระบายความรู้สึกของตาแก่คนนึงก็ทำให้ชีวิตของเด็กน้อยมีอนาคตที่สดใส เขาได้มีพ่ออุปถัมภ์แม้อยู่แดนไกล แต่เขาก็รู้สึกขอบคุณคุณพ่อของเขาอย่างซาบซึ่งพร้อมทั้งเป็นกำลังใจให้แก่ชายผู้นี้ตลอดไป

เขาทั้งสองต่างมีความหมายต่อกันและกัน เขาทั้งสองต่างได้ค้นพบความหมายของกันละกัน

ปล. หากคิดจะฝึกภาษาอังกฤษ หนังเรื่องนี้ฝึกให้คุณพูดตามได้เลย เพราะพูดช้าและชัดมาก แม้ตัวหนังอาจจะน่าเบื่อสักหน่อยแต่การยิงกระสุนนัดเดียวได้นกสองตัว(คือปรัชญาชีวิตและการฝึกภาษา) ก็เป็นตัวเลือกที่ดีอยู่เหมือนกันนะค่ะ
ขอบคุณมากค่ะ สำหรับผู้ที่เยี่ยมชมกระทู้นี้ อาจยาวไปหน่อยนะค่ะ ต้องขอโทษด้วย คราวต่อไปจะนำเสนออีกสองเรื่องนะค่ะ เกี่ยวกับความไม่แน่นอนของชีวิต กระทู้พอแค่นี้ก่อน เด๋วจะอ่านกันตาลายซะก่อน สวัสดีคะ




_________________

ใจเราเห็นสิ่งใด มือเราก็จะได้สิ่งนั้น
ดูข้อมูลส่วนตัว ส่งข้อความส่วนตัว ส่ง Email MSN Messenger
แสดงเฉพาะข้อความที่ตอบในระยะเวลา:
ตอบ หน้า 1 จาก 1
คุณไม่สามารถสร้างหัวข้อใหม่
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
คุณไม่สามารถแก้ไขข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลบข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลงคะแนน
  


copyright : forwardmag.com - contact : forwardmag@yahoo.com, forwardmag@gmail.com