ตลอด 25 ปีในชีวิตการทำงานของมาดอนน่า เธอไม่เพียงแค่ทำหน้าที่ได้ดีในฐานะนักร้องเท่านั้น มาดอนน่ายังเป็นอีกหนึ่งบุคคลสำคัญที่ช่วยสร้างสรรค์สิ่งใหม่ให้กับวงการแฟชั่นโลก และนี่คือ 10 ลุคเด่น ที่ขับเคลื่อนประวัติศาสตร์แฟชั่นให้ดำเนินไปสู่สิ่งใหม่ๆ อันน่าตื่นตาตื่นใจ

เจ้าสาวหน้าไม่อาย!
ครั้งแรกกับการปรากฎตัวในฐานะนักร้องสาวหน้าใหม่บนเวที MTV Music Video Awards ในปี 1984 ในคืนนั้นมาดอนน่าสร้างความตื่นตะลึงให้กับผู้ชมทั่วโลกด้วยบทเพลง Like a Virgin ในชุดแต่งงานกึ่งชุดชั้นในแสนยั่วยวน และเข็มขัดพะยี่ห้อ Boy Toy เส้นเขื่อง








ชุดนมแหลม

โลกแฟชั่นต้องหันมามองมาดอนน่าและผลงานชิ้นสำคัญจากมันสมองของ Jean-Paul Gaultier อีกครั้ง เพราะ Cone Bra หรือชุดนมแหลมที่มาดอนน่าใส่ใน Blond Ambition Tour ปี 1990 คือ ความสด ความใหม่ และไอเดียสุดโต่งที่ทั้งคู่ร่วมกันนำเสนอให้กับโลกนี้








มาดอนอังตัวเนตต์
มาดอนน่ามีโอกาสกลับมาแสดงบนเวที MTV Music Video Awards อีกครั้งในปี 1990 และเช่น เคย มาตรฐานของมาดอนน่าสูงกว่าทุกๆคนเสมอ ครั้งนั้นเธอมาในลุคของพระนางมารีอังตัวเนตต์แบบเต็มยศ ตั้งแต่ชุดกระโปรงสุ่มสุดอลังการ แป้งขาวบนใบหน้า วิกผมสูงท่วมหัว ไปจนถึงรายละเอียดเล็กๆน้อย อย่างพัด และการแต้มไฝปลอมใต้ตา








คืนชีพคุณนายมอนโรล
ถึงเวลาสลัดคราบอีกครั้งในงาน After-Party งานออสการ์ปี 1991 กับผมแพตตินั่มบลอนด์ดัดลอน ปากสีแดงสด เครื่องเพชรตู้มต้าม และชุดราตรีหางปลาโชว์เนินอก ใช่แล้ว! ลุคของมาริลิน มอนโรล นั่นเอง และนี่ก็กลายเป็นอีกหนึ่งลุคที่เป็นสัญลักษณ์ติดตัวเธอและติดตาผู้คนไปอีกหลายปี








Bitch!
ลุคโลกตะลึงต่อมาของมาดอนน่าเกิดขึ้นในปี 1992 กับภาพลักษณ์ที่ส่อถึงเรื่องเพศอย่างชัดเจน ทั้งการแต่งตัวออกงาน คำพูดคำจา และที่สำคัญ หนังสือ SEX ที่สร้างกระแสวิพากษ์วิจารณ์ได้อย่างมหาศาล อย่างไรก็ตาม โลกแฟชั่นก็ได้เปิดรับและเล่นสนุกกับลุคสาว Bondage ที่มาดอนน่านำมาตีแผ่ให้เป็นแฟชั่นกระแสหลักไม่ใช่เป็นสิ่งที่จะพบเห็นได้แต่ในหนังเอ็กซ์อีกต่อไป









Evita Era
มาดอนน่าสร้างสรรค์สุคสวยคลาสสิกให้เราได้ชมกันอีกครั้ง ด้วยภาพของหญิงสูงศักดิ์ เรือนผมสีบลอนด์สว่าง กรีดอายไลน์หนาทว่าคมกริบ พร้อมหมวกตาข่ายบังหน้า มาดอนน่านำเสนอลุคนี้ต่อสายตาผู้คนครั้งแรกในวีดีโอเพลง Take a Bow ซึ่งออกอากาศในปี 1994 เป็นช่วงเวลาก่อนที่ หนังเรื่องเอวิต้าจะออกฉายเสียอีก









Denim Queen
มาดอนน่าทำให้ผู้หญิงทั่วโลกวิ่งหาแจ็กเกตยีนส์และดัดผมลอนสยายกันยกใหญ่ หลังจากที่วีดี
โอเพลง Ray of Light ออกอากาศในปี 1998










คาวเกิร์ลมิลเล็นเนี่ยม
ปี 2000 มาดอนน่าสร้างปรากฎการณ์ให้โลกแฟชั่นอีกครั้ง ด้วยการโมดิฟายลุคคาวบอยให้ออกมาเปรี้ยวจี๊ด ใครจะเชื่อว่าหมวกปีกเฉิ่มๆกับเสื้อเชิ้ตแสนเฉยจะถูกตีความออกมาใหม่ให้เป็นลุคเก๋ๆ อย่างในอัลบั้ม Music ได้








สตรีตสไตล์แบบมาดอนน่า
ถึงแม้จะเป็นนักร้องดังที่แต่งตัวด้วยเสื้อผ้าไฮแบรนด์เกือบตลอดเวลา แต่มาดอนน่าก็ยังมีภาพลักษณ์ของสาวสตรีตที่จับต้องได้ GAP จึงได้เชื้อเชิญเธอมาเป็นพรีเซ็นเตอร์ให้ในระหว่างที่เธอกำลังซุ่มทำอัลบั้ม Confession on a Dance Floor (ปี 2003)







สาวดิสโก้
ในอัลบั้ม Confession on a Dance Floor มาดอนน่าเนรมิตตัวเองเป็นสาวจากยุค ’80 ด้วยชุดเลโอตาดรัดรูป และคอร์เซ็ตคาดเอว ที่ลงตัวพอดิบพอดีกับทรงผมสไตล์ ฟาร่าห์ ฟอว์เซ็ต พร้อมๆ กับความโด่งของขนตาปลอมประดับคริสตัลจากของ Shu Uemura ที่เธอติดในวีดีโอ Sorry สำหรับวงการแฟชั่นแล้วมาดอนน่ายังก้าวไปอีกขั้นด้วยการเป็นดีไซนเนอร์ให้กับแบรนด์ชื่อดัง
H&M โดยใช้ชื่อคอลเล็กชั่นว่า M by Madonna










Hard Candy
ในอัลบั้มล่าสุด Hard Candy ถึงเวลาของนักมวยสาวเจ้าสังเวียนออกมาวาดลวดลายกู้โลก ด้วยบูทยาวถึงเข่า เสื้อแขนกุดโชว์ท่อนแขนสุดเฟิร์ม และผมแสกกลางโชว์ใบหน้าอ่อนกว่าวัย



แปลและเรียบเรียงจากสไลด์โชว์พิเศษประกอบบทสัมภาษณ์มาดอนน่าใน www.elle.com


_________________

ตั้งแต่ เรย์ ออฟ ไลจท์ ไล่ไปจนถึง สตรีท สไตล์ แก่มาก ไม่สวย และ ไม่น่าจดจำ

แต่เรย์ ออฟ ไลจท์ เสื้อผ้าสวยนะ


_________________

สตรีตสไตล์แบบมาดอนน่า

ลุคนี้ไม่เห็นด้วยคะ เพราะคิดว่าไม่ค่อยน่าจดจำเท่าไร

แต่ลุคนมกรวย กับชุดเจ้าสาวนี่ แบบว่าโคตรดังมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกก

และเป็นที่จดจำ กล่าวขานกันมากระทั่งทุกวันนี้

ลุคที่ชอบมากๆ ก็คือ ช่วง COADF ที่มาดอนน่าสวมวิญญาณเจ้าแม่ดิสโก้ เล่นโทนแสงสี งดงาม ดอนน่า ซัมเมอร์ ยังต้องค้อนขวับ

ลุคช่วง erotica ดูดิบ เถื่อน ตรงไปตรงมาเกินไป และเจตนาเล่นกับความรู้สึกของผู้คน ว่าไอ้เรื่อง sex ๆ ทุกคนต่างก็ชอบและต้องการกันทั้งนั้น แต่ทำไมเมื่อมีคนลุกขึ้นมาพูดถึงมันตรงๆ เป็นเรื่องสาธารณะ ทำไมถึงยอมรับเรื่องเหล่านี้ไม่ได้

อิอิอิ คิกคักๆๆๆ

ชอบลุคอัลบั้ม True Blue กับ COADF



เอ็มวี Papa don't Preach แมดสวยและน่ารักมาก ๆ ผมบลอนด์ สั้น ๆ อวบ ๆ 55 ++


_________________
I can make the bad guy good for a weekend.

2ชุดแรกนี่เป็นอะไรที่เป็นเหมือนกับโลโก้ติดตัวมาดอนน่าชนิดฝังรากลึกทีเดียวค่ะ ส่วนตัวแล้วเจ๊เป็นลุคที่เจ๊ชอบมากๆเลยนะคะเริ่ดดี รวมถึงสื่อถึงคอนเส็ปท์อะไรหลายๆอย่างได้อย่างครบถ้วนชัดเจนจนต้องคารวะ ลุคพระนางมังรีอังตัวเน็ตนี่ ต๊ายยยยยย เจีเกือ บลืมไปแล้วนะคะเนี่ย ลุ๊คส์ที่เธอไปโชว์เพลง Vogue ในงานเอ็มทีวีชิมิ เด่วคืนนี้ต้องกับไปเปิดดีวีดีดูแล้วค่ะ คิดถึงโชว์นี้เหมือนกันส่วนตัวชอบค่ะคลาสสิคดีเข้ากับคอนเส็ปท์เพลงแบบสุดๆดั๊วะ ส่วนลุคอื่นๆที่เจ๊ชอบก็มีช่วงอีโรติก้าค่ะมาดอนน่าสวมบทหญิงแสบแพศยาได้เนียนมากๆเป็นการระบายเซ็กส์ผูกติดกับตัวเพลงและภาพลักษณ์ของเธอได้อย่างเหนือชั้นโดยแท้อีเจ๊ยุคนั้นแรงมากๆจนคุณแม่เจ๊ถึงขั้นต่อต้านเลยที่เจ๊จะปวารณาตัวเป็นสาวกป้าแมดจ์น่ะค่ะ ลุคเอวิต้านี่ส่วนตัวเห็นด้วยนะคะว่าเปนลุคที่เราติดตากับเธอเหมือนกันแต่ส่วนตัวแล้วช่วงนั้นลุคนี้เจ๊ว่าไม่ค่อยมีอิทธิพลเท่าไรแต่พอมาอ่านกระทู้หนูแล้วมันเหมือนมีอะไรกระตุกขึ้นมาว่า เออ มันใช่แฮะ ตระการตาและไฮโซมากๆค่ะลุคนี้ คาวเกิลมิเลนเนี่ยมกับแดนซ์ซิ่งควีนนี่ช่วงที่อีเจ๊เปิดตัวด้วยลุคนี้นี่กระหึ่มทั่วรันเวย์แฟชั่นค่ะเปนกระแสให้ดีไซเนอร์หยิบไปเล่นกันสนุกสนานมากๆๆๆๆๆ หึหึหึหึ อย่างว่าแหละค่ะอีเจ๊มันเข้าขั้นเทนด์เซ็ตเตอรืไปแล้วแต่งอะไรออกมาเด่วคนเขาก็แต่งตามน่ะค่ะ


_________________

อ่า น่าสนใจๆๆๆ
แต่ไม่เห็นด้วยกับ สตรีท ไซต์ เพราะมันยังแบนราบ ไม่น่าจดจำ

จริงๆ แนะนำสามอันนี้เข้าไปด้วยครับ

Tom Boy / Metrosexual
มาดอนน่า สนุกที่จะ tranform เรื่องเพศ สลับไปมาระหว่าง หญิง ชาย ราวกับว่าเธอมีสองเพศ สองบุคลิกชาย หญิง ในร่างเดียวกัน เป็นศิลปินหญิงคนแรกๆที่กล้าจะออกงานในชุดสูทผู้ชาย สูบซิก้าร์
ลูบเป้าตามไมเคิล แจ๊คสัน เพราะแบบนี้ซิน่ะ เหล่าเพศที่สาม ถึงคลั่งไคล้เธอนัก เพราะเธอ
ละลายพรมแดนทางเพศออกมา แล้วใช้มันตอบโต้สังคมที่ชายเป็นใหญ่ ด้วยเรือนกายแบบหญิง

Geisha
อุตส่าห์ได้เป็นเพลงเปิดงานแกรมมี่ย์ ปี2000 ทั้งที แต่ Nothing Really Matters ก็แป้กไปที่อันดับ 92 สวนทางกับเอมวี ที่ดังโคตรๆๆๆๆๆ ใครเลยจะจำ มาดอนน่าผมบ๊อบดำเหยียดตรง ที่ดูเหมือน ต่อวงทู ออกมาระริกระรี้กในชุดกิโมโนสีแดงโครเมี่ยม ที่ออกแบบโดย ชอง ปอล โกติเย่ห์ (ไม่แน่ใจน่ะครับ) ซึ่งงานนี้ทั้งเจ๊ดอน และเจ๊ชอง ก็พากันแหกรูปแบบกิโมโนแบบเดิมๆ ด้วยการใช้ผ้าแบบมันๆ ใส่แล้วขึงขัง รวมทั้งทรงผมที่ขอฮิพเป็นบ๊อบ ไหนจะช่วงล่างที่ตัดความเวิ่นเว้อของปลายผ้าออกแล้วทำเป็นทรงกางเกงที่ทะมัดทะแมง....ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่าครั้งนึง อีเจ๊แกก็บ้าญี่ปุ่นกับเค้าเหมือนกัน

Bollywood
ไม่ใช่เพราะอีเจ๊เหรอ คนทั้งโลกถึงแห่กันทำเฮนน่า กันยกใหญ่ หลังจากเอมวี Frozen ออก
อากาศ โลกก็หมุนไปตามกระแสฮินดู และอินเดียที่อีเจ๊แกนำเทรนด์ สาหรี่ ก็กลายเป็นสินค้าขายดีที่พบเห็นได้จากแฟชั่นคนดังบนพรมแดงช่วงนั้น


_________________
[center]

ชอบลุคมารีลีน สวยดี

CTH_UN- พิมพ์ว่า:

Geisha
อุตส่าห์ได้เป็นเพลงเปิดงานแกรมมี่ย์ ปี2000 ทั้งที แต่ Nothing Really Matters ก็แป้กไปที่อันดับ 92 สวนทางกับเอมวี ที่ดังโคตรๆๆๆๆๆ

Grammy 1999 นะคับ เท่าที่จำได้ ... ++


_________________
I can make the bad guy good for a weekend.

เป็นกระทู้ที่สร้างสรรค์ดีค่ะ แต่ในลิสต์น่าจะมีลุคจากชุด True Blue เหมือนที่คุณน้องจอห์นนี่ฟีเวอร์โพสนะค่ะ ตอนนั้นคุณพี่อยู่แค่ประถม ยังจำหนังหน้ากับผมย้อมของอีเจ๊ได้ติดตา คิดดู

ลุคที่เด่นอีกอันคือ ตอนซอยผมสั้นในเอ็มวี Rain นะค่ะ สวยล้ำมาก ได้ใจกะเทยหัวโปกเรียน ร.ด.กันเป็นแถวๆ โฮะๆๆๆ




_________________


http://candyperfumegirl.bloggang.com/